ถ้าจะพูดถึงสถานที่ที่นักเดินทาง ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น อยากจะไปสัมผัสให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ชื่อของ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หรือ ดอยอินทนนท์ ก็น่าจะอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ เพราะไม่ว่าจะรักการเที่ยวแบบชิลล์ ๆ หรือลุย ๆ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งนี้ ก็พร้อมต้อนรับด้วยความงดงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นความอุดมสมบูรณ์ของ ป่าใหญ่ดึกดำบรรพ์ (Old Growth Forest) สภาพอากาศที่หนาวเย็นและชุ่มฉ่ำตลอดทั้งปี ทำให้มีมอส เฟิร์นและพืชอิงอาศัย (Epiphyte) ชนิดอื่น ๆ ขึ้นปกคลุมตามลำต้นอย่างหนาแน่น ใครที่เดินทางมาเที่ยวจะต้องประทับใจกับสีสันของใบไม้ป่าผลัดใบ ที่กำลังจะผลัดใบในช่วงปลายปี
ส่วนต้นปีดอกไม้นานาชนิดก็บานสะพรั่งอดไม่ได้ที่จะกดชัตเตอร์ฝากภาพสวย ๆ ฝากเพื่อน
หรือจะเลือกชมความโล่งของป่าทุ่งหญ้าหรือไร่ร้าง หน้าผาอันสูงชัน
ทำให้มองเห็นสภาพภูมิประเทศได้กว้างไกล
เป็นแหล่งที่อยู่ที่สำคัญของกวางผาและนกชนิดต่าง ๆ ก็สนุกไม่แพ้กัน
การเดินทางไปดอยอินทนนท์
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่อยู่ในท้องที่อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม กิ่งอำเภอดอยหล่อ และอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ สามารถเข้าถึงได้โดยใช้เส้นทาง เชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ไปยังอำเภอจอมทอง 50 กม. ระยะทางประมาณ 50 กม. เลี้ยวขวาตามถนนสาย จอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) ประมาณ 8 กม. ก็จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติที่บริเวณน้ำตกแม่กลาง และตัดขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์เป็นระยะทางทั้งหมด 49.8 กม. ที่ทำการอุทยานแห่งชาติจะตั้งอยู่ที่กิโลเมตรที่ 31
การเดินทางไปดอยอินทนนท์จากเชียงใหม่
เส้นทางที่ 1 จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางโดยใช้เส้นทางถนนสายเชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอหางดงและอำเภอสันป่าตอง ไปยังอำเภอจอมทอง ก่อนถึงอำเภอจอมทองประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามถนนสายจอมทอง-อินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่กิโลเมตรที่ 8 (น้ำตกแม่กลาง) และตัดขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์เป็นระยะทางทั้งหมด 49.8 กม. ... ดูแผนที่เส้นทางที่ 1 (สีเหลือง)
เส้นทางที่
2 จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางตามเส้นทางถนนสานเชียงใหม่-ฮอด
(ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอหางดง อำเภอสันป่าตอง อำเภอจอมทองและอำเภอฮอด
จากอำเภอฮอดเดินทางต่อโดยใช้เส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง ฮอด (ทางหลวง แผ่นดินหมายเลข
108) ผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวง แล้วเลี้ยวขวาต่อไปยังอำเภอแม่แจ่ม โดยเส้นทางสายออบหลวง-แม่แจ่ม (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1088)
จากอำเภอแม่แจ่มใช้เส้นทางสายแม่แจ่ม-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1192)
ขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ที่ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009
กิโลเมตรที่ 38-39) ... ดูแผนที่เส้นทางที่ 2 (สีเขียว)
เส้นทางที่
3 ซึ่งเป็นเส้นทางสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่ค่อนข้างจะลำบาก
โดยทางจากจังหวัดเชียงใหม่ตามเส้นทางถนนสายเชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข
108) ผ่านอำเภอหางดง และอำเภอสันป่าตอง จากอำเภอสันป่าตอง เลี้ยวขวา ตามถนน
สายสันป่าตอง-บ้านกาด-แม่วิน (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1013) แล้วต่อด้วยเส้นทาง
ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1284 หรือ เส้นทาง ร.พ.ช. ผ่านบ้านขุนวาง
และขึ้นสู่ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) ที่กิโลเมตรที่
31 ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ... ดูแผนที่เส้นทางที่ 3 (สีน้ำเงิน)
สถานที่ท่องเที่ยวดอยอินทนนท์
ตามแนวเส้นทางถนนสายจอมทอง - ยอดดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009)
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ใครมาแล้วไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนก่อนดีขอให้แวะที่นี่เอาฤกษ์เอาชัยก่อน เพราะเขามีการฉายสไลด์มัลติวิชั่นของอุทยาน และเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์คอยให้บริการกับนักท่องเที่ยว ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หรืออีกชื่อว่า กม.31 ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ไว้คอยบริการรับจองบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ สำหรับบ้านพักและที่กางเต้นท์จะอยู่อีกบริเวณหนึ่ง ทางเข้าอยู่ทางด้านขวามือก่อนถึงที่ทำการอุทยาน ประมาณ 200 เมตร
น้ำตกแม่ยะ ดอยอินทนนท์
น้ำตกแม่ยะ
น้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ที่นี่เราสามารถกางเต้นท์พักแรมที่น้ำตกได้
แต่อย่าลืมติดต่อขอสถานที่กางเต็นท์กับเจ้าหน้าที่อุทยานด้วยล่ะ
น้ำตกแม่กลาง ดอยอินทนนท์
น้ำตกแม่กลาง เป็นจุดแรกของประตูเข้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
น้ำตกจากหน้าผาสูงประมาณ 100 เมตร ไหลพวยพุ่งมาสู่โกรกเขา ซึ่งเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่
มีชื่อว่า "วังน้อย" และ "วังหลวง"
ใครไปเที่ยวช่วงฤดูฝนระวังหน่อยเพราะน้ำไหลแรงและขุ่นข้นมาก
ถ้ำบริจินดา ดอยอินทนนท์
ถ้ำบริจินดา ถ้ำขนาดใหญ่ อยู่ในเทือกเขาดอยอินทนนท์
ใกล้น้ำตกแม่กลาง ภายในถ้ำมีความลึกหลายกิโลเมตร
เพดานมีหินงอกหินย้อยหรือที่ชาวเหนือเรียกว่า "นมผา"
และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นมัสการ นอกจากนั้น
ยังมีธารหิน เมื่อมีแสงสว่างมากระทบจะเกิดประกายระยิบระยับดังกากเพชรงามยิ่งนัก
ลักษณะของถ้ำเป็นถ้ำทะลุแสงสว่างลอดเข้ามาได้ สามารถมองเห็นภายในได้ถนัด
ก่อนจะถึงปากถ้ำจะมีป้ายขนาดใหญ่ตั้งอยู่, น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่
ตัวน้ำตกอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 750 เมตร ตรงข้ามมีหน้าผาสูงชัน
เรียกว่า "ผาม่อนแก้ว" หรือในภายหลังเรียกว่า "ผาแว่นแก้ว"
น้ำตกแม่สิริธาร ดอยอินทนนท์
น้ำตกสิริธาร
นอกจากความสวยงามของน้ำตกแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำหลายชนิดรวมทั้งปลาหายาก
เช่นปลาค้างคาว ป่าบริเวณนี้เป็นป่าเต็งรังผสมสนเขาและป่าดิบแล้ง
นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งสมุนไพรที่สำคัญอีกด้วย,
น้ำตกสิริภูมิและสวนหลวงสิริภูมิ เดิมเรียกว่า "เลาลึ"
ตามชื่อของหมู่บ้านม้ง ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้ ๆ น้ำตก
ภายหลังเปลี่ยนชื่อตามพระนามาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ปัจจุบัน มีการจัดภูมิทัศน์ สวนหลวงสิริภูมิ
อยู่ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงอินทนนท์ มีการจัดเก็บค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็ก คนละ 10 บาท
น้ำตกแม่ปาน ดอยอินทนนท์
น้ำตกแม่ปาน
จากธรรมชาติที่ลึกของป่าใหญ่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์
จะเห็นสายน้ำที่ไหลผ่านภูผาถึง 4 ชั้น
ล้อมรอบด้วยป่าเขียวขจีตัวน้ำตกมีความสูงมากกว่า 100 เมตร
สามารถมองเห็นได้จากจุดชมวิวระยะไกล จากบริเวณที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ฯ อุทยานแห่งชาติ
(น้ำตกแม่ปาน) หรือเดินเท้าไปตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติผาสำราญ
(น้ำตกแม่ปาน-ห้วยทรายเหลือง) ระยะทางประมาณ 400 เมตร
พระธาตุนภเมทนีดลและพระธาตุนภพลภูมิสิริ ดอยอินทนนท์
พระธาตุนภเมทนีดลและพระธาตุนภพลภูมิสิริ
เป็นพระธาตุที่ทางกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ
ร่วมใจสร้างถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา
เมื่อปีพุทธศักราช 2530 และเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2535
โดยรอบบริเวณพระมหาธาตุเจดีย์ทั้ง 2 องค์
สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์โดยรอบได้อย่างชัดเจน พระมหาธาตุทั้ง 2 องค์นี้
มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือ มีฐานเป็นรูป 12 เหลี่ยม มีระเบียงแก้วโดยรอบเป็น 2 ระดับ
เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา
กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน
เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นวงรอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร
สามารถวนรอบไปกลับในวันเดียว ตามหนทางจะผ่านไปสู่ป่าดงดิบริมธารน้ำ
ขึ้นเนินผ่านป่าที่ห้อยระย้าด้วยมอส ฝอยลม
หน้าฝนจะถูกปกคลุมด้วยหมอกขาวและอากาศที่หนาวเย็น สุดปลายทางมีทุ่งดอกไม้นานาชนิด
เรียกว่าหายเหนื่อยกันเลยทีเดียว
ยอดดอยอินทนนท์
ยอดดอยอินทนนท์ ชมป่าดิบดึกดำบรรพ์
ซึ่งน้อยคนนักจะได้สัมผัสธรรมชาติที่แท้จริงของภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศ
ที่นี่มีทั้งกล้วยไม้และพันธุ์ไม้ป่าที่สวยงามและหายาก
นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานกู่พระอัฐิของพระเจ้าอินทวิชานนท์
ผู้ครองเชียงใหม่องค์ที่ 7 และเป็นที่ตั้งของสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทย
จะมาฤดูไหนอุณหภูมิก็พร้อมเที่ยวเสมอที่ราว 5-18 องศาเซลเซียส
สถานที่ท่องเที่ยวดอยอินทนนท์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
โครงการเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์
โครงการนี้เกิดขึ้นจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ พระบรมราชินีนาถ
ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของกล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์
ที่กำลังจะหมดไปจากป่าธรรมชาติ สภาพแวดล้อมเป็นสวนหินที่สวยงาม และทางโครงการฯ
ได้จัดทำสวนกล้วยไม้ และสวนดอกไม้เมืองเหนือไว้อย่างสวยงาม
โครงการหลวงอินทนนท์
โครงการที่ถูกตั้งเพื่อส่งเสริมให้ชาวเขาเปลี่ยนอาชีพ จากการปลูกฝิ่นมาเป็นเกษตรกรรม
ภายในโครงการหลวงนั้นมีพรรณไม้ให้ชมหลากหลาย เช่น สวนเฟิน สวนกระบองเพชร
และไม้ดอกไม้ประดับเมืองเหนือ อีกทั้งยังมีร้านอาหารไว้ให้บริการอีกด้วย
จุดชมทิวทัศน์ กม.
41 จุดชมทิวทัศน์อยู่ตรงกิโลเมตรที่ 41
ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์
สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของขุนเขาสลับซับซ้อน
โดยเฉพาะยามเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมเหนือหุบเขาน่าชมมาก
จากจุดชมทิวทัศน์สามารถมองเห็นพระมหาธาตุนภเมทนีดล
และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริสูงเด่นอยู่คู่กัน
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
+ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท+ ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท
ฤดูกาลท่องเที่ยวดอยอินทนนท์
สำหรับใครที่คิดว่าอยากสัมผัสอากาศหนาวต้องเดินทางช่วงปลายปีเท่านั้น
สำหรับดอยอินทนนท์แล้วสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- ช่วงฤดูร้อน เดือนมีนาคม–พฤษภาคม แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว
แต่บนดอยยังมีอากาศสดชื่นเย็นสบาย ท้องฟ้าสดใส
- ฤดูฝนเดือน มิถุนายน–กันยายน ฝนตกชุกเพิ่มความชุ่มชื้นให้ป่า ชมสายหมอกและละอองฝน ที่เพิ่มความสวยงามผสมกลมกลืนกันอย่างน่าอัศจรรย์
- ฤดูหนาวเดือน ตุลาคม–กุมภาพันธ์ อากาศค่อนข้างหนาวและฝนเริ่มลดน้อยลงและอากาศเย็นลงบ้าง และมีอากาศหนาวจัดที่สุดในช่วงเดือนมกราคม เป็นฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวมากที่สุด เพราะสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นท้องฟ้าแจ่มใส ตัดกับสีเขียวของป่าไม้ อากาศจะเย็นมากในตอนกลางคืน อุณหภูมิจะลดต่ำกว่า 0 - 4 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วงนี้แหละที่เราจะได้เห็นน้ำคางแข็งหรือแม่คะนิ้งกันล่ะ
ที่พักดอยอินทนนท์
มีทั้งบ้านพัก เต็นท์สนามคู่ และสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กม. ที่ 31 อำเภอจอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160 โทร. (053) 268550 หรือติดต่อที่สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. (02) 57954852, 5795269 หรือคลิกเข้ามาหาข้อมูลละเอียดยิบได้ที่นี่เลย เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ - Doi Inthanon National Park