พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินทำอย่างไร ? แนะขั้นตอนและข้อกำหนดที่ควรรู้

          สัตว์เลี้ยงสามารถเดินทางไปพร้อมกับเจ้าของในห้องโดยสารได้ แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสายการบิน เช่น

• น้ำหนักรวมสัตว์เลี้ยงและกรงต้องไม่เกิน 5-8 กิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน)
• ต้องอยู่ในกระเป๋าหรือกรงที่สามารถวางใต้ที่นั่งด้านหน้าได้
• ส่วนใหญ่อนุญาตเฉพาะสุนัขและแมว สัตว์อื่นอาจต้องตรวจสอบเพิ่มเติม

• เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะอยู่ในห้องโดยสาร โดยมีเงื่อนไข เช่น
• ต้องใช้กรงที่ได้รับมาตรฐาน IATA (International Air Transport Association)

          *** กรงที่ได้รับมาตรฐาน IATA (International Air Transport Association) คือ กรงที่ได้รับการออกแบบและผลิตตามข้อกำหนดของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าสัตว์เลี้ยงจะได้รับการขนส่งทางอากาศอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย โดยมีข้อกำหนดหลัก ๆ คือ วัสดุต้องแข็งแรง ทนทาน เช่น พลาสติกแข็ง และมีโครงสร้างที่มั่นคง ประตูต้องมีกลไกการล็อกที่ปลอดภัย มีช่องระบายอากาศเพียงพอ และขนาดต้องเหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงให้สามารถยืน หมุนตัว และนอนลงได้อย่างสบาย นอกจากนี้ควรมีภาชนะใส่น้ำและอาหาร และไม่มีล้อเพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ระหว่างการขนส่ง (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ iata.org)

• มีข้อกำหนดด้านอุณหภูมิและความปลอดภัย เช่น ห้ามเดินทางในช่วงที่อากาศร้อนจัดหรือหนาวจัด
• ต้องแจ้งสายการบินล่วงหน้า และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

• ต้องใช้บริการขนส่งสัตว์เลี้ยงพิเศษของสายการบิน
• มีการควบคุมอุณหภูมิและการระบายอากาศที่เหมาะสม
• ต้องทำเอกสารต่าง ๆ เช่น ใบรับรองสุขภาพ, วัคซีน และใบอนุญาตนำเข้า/ส่งออก

          หมายเหตุ: บางสายการบินอาจมีประเภทพิเศษ เช่น บริการสำหรับสัตว์ช่วยเหลือ (Service Animals) ที่สามารถอยู่ในห้องโดยสารได้แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ แต่ต้องมีใบรับรองที่ถูกต้อง

          แต่ละสายการบินมีนโยบายแตกต่างกันเกี่ยวกับการอนุญาตให้สัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน โดยทั่วไปสัตว์เลี้ยงที่สามารถเดินทางได้มีดังนี้

1. สัตว์เลี้ยงที่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ทั่วไป

• สุนัข ได้รับอนุญาตมากที่สุด ทั้งในห้องโดยสาร (In-Cabin) และช่องเก็บสัมภาระ (Checked Baggage/Cargo)
• แมว ได้รับอนุญาตเช่นเดียวกับสุนัข สามารถเดินทางในห้องโดยสารหรือช่องเก็บสัมภาระได้
• กระต่าย บางสายการบินอนุญาต เช่น Lufthansa และ KLM แต่ต้องอยู่ในกรงตลอดเวลา
• หนูแกสบี้ แฮมสเตอร์ ชินชิล่า สายการบินบางแห่งอนุญาต เช่น Lufthansa
• นก ต้องตรวจสอบเป็นกรณีไป เพราะบางสายการบินอนุญาตให้เดินทางเฉพาะในช่องสัมภาระหรือ Cargo

2. สัตว์เลี้ยงพิเศษที่บางสายการบินอนุญาต

• เต่า บางสายการบินอนุญาตให้เดินทางในกระเป๋าพกพา
• ปลา สามารถนำขึ้นเครื่องได้หากอยู่ในถุงพลาสติกที่มีน้ำและออกซิเจนเพียงพอ
• สัตว์ช่วยเหลือ เช่น สุนัขนำทางสำหรับผู้พิการ มักได้รับอนุญาตให้เดินทางในห้องโดยสารฟรี

         *** สัตว์ที่มีลักษณะพิเศษ เช่น งู กิ้งก่า หรือแมลง มักไม่อนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินในห้องโดยสาร

3. สัตว์ที่ไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้

• สุนัขสายพันธุ์หน้าสั้น เช่น ปั๊ก บูลด็อก แมวเปอร์เซีย บางสายการบินไม่อนุญาตให้เดินทางในช่องสัมภาระ เนื่องจากอาจมีปัญหาด้านระบบหายใจ
• สัตว์ป่า หรือสัตว์มีพิษ เช่น งู แมงป่อง หรือสัตว์สงวน ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้
• สัตว์ที่มีกลิ่นแรงหรืออาจเป็นอันตรายต่อผู้โดยสาร

          สำหรับสายการบินในประเทศไทยที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินได้ เช่น การบินไทย (Thai Airways), นกแอร์ (Nok Air) และบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) จะมีข้อกำหนดที่คล้ายกัน โดยให้สัตว์เลี้ยงเดินทางในกรงที่ได้มาตรฐาน ซึ่งมักจะมีการจำกัดขนาดกรงและน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง

• การบินไทย : Check-in ได้ที่ Passenger Terminals จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาสัตว์เลี้ยงไปโหลดไว้ที่ห้องบรรทุกสัมภาระพิเศษใต้ท้องเครื่องบิน ที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยง และมีระบบรักษาความปลอดภัยพิเศษ 

          สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ thaiairways.com

          *** ไม่ให้บริการการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแบบ Check Baggage (AVIH) สำหรับเที่ยวบินดังต่อไปนี้ 1. เที่ยวบินไปโอ๊กแลนด์ เดนปาซาร์ ดูไบ ฮ่องกง และลอนดอน 2. เที่ยวบินไป/กลับจากออสเตรเลีย (บริสเบน เมลเบิร์น เพิร์ท ซิดนีย์) 3. เที่ยวบินที่ให้บริการด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส A320

• นกแอร์ : รับพิจารณาขนส่งเฉพาะสุนัข แมว และกระต่าย โดยที่สัตว์ดังกล่าวต้องมีอายุ 2 เดือนขึ้นไป

• บางกอกแอร์เวย์ส : อนุญาตเฉพาะสุนัขและแมวเท่านั้น โดยสัตว์เลี้ยงจะถูกโหลดใต้ท้องเครื่องบินในห้องบรรทุกสัมภาระที่มีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมและปลอดภัย

          ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ bangkokair.com

          *** ปัจจุบันไม่มีสายการบินในประเทศที่พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแบบเดินทางในห้องโดยสาร (In-Cabin Pet Travel) แล้ว

          การพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินกับสายการบินต่างประเทศนั้นซับซ้อนกว่าการเดินทางภายในประเทศ เนื่องจากมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปในแต่ละสายการบินและแต่ละประเทศปลายทาง เช่น

• สายการบิน Lufthansa : อนุญาตให้นำสุนัขและแมวขนาดเล็กขึ้นห้องโดยสารได้ หากน้ำหนักรวมกรงไม่เกิน 8 กิโลกรัม สัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่กว่านั้นต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง 

          สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ lufthansa.com

• สายการบิน Air France : อนุญาตให้นำสุนัข แมว และนก ขึ้นห้องโดยสารได้ หากน้ำหนักรวมกรงไม่เกิน 8 กิโลกรัม สัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง

          สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ airfrance.co.th

• สายการบิน Emirates : โดยปกติแล้วสัตว์เลี้ยงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางในห้องโดยสารของเที่ยวบินเอมิเรตส์ แต่จะรับเป็นสินค้าขนส่งเท่านั้น และสัตว์เลี้ยงจะต้องเดินทางในห้องสินค้าตามข้อกำหนดของ IATA (International Air Transport Association)

          สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ skycargo.com

• สายการบิน EVA Air : อนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงโดยสารไปกับเครื่องได้เฉพาะกับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ดำเนินการโดย EVA/UNI Air เท่านั้น และสัตว์เลี้ยงที่นำไปด้วยมีเพียงสุนัข แมว และกระต่ายเท่านั้น ที่ขนส่งไปกับเที่ยวบินของ EVA Air โดยโหลดเป็นกระเป๋าสัมภาระใต้ท้องเครื่องในห้องเก็บสินค้าได้ และไม่อนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงเข้ามาในห้องโดยสาร ยกเว้นสุนัขนำทางที่โดยสารพร้อมผู้โดยสารทุพพลภาพ

          สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ evaair.com

*** ข้อควรระวัง

• ข้อกำหนดของสายการบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากสายการบินโดยตรง
• บางประเทศมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับการนำเข้าสัตว์เลี้ยง ควรตรวจสอบข้อมูลจากสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศปลายทาง
• ควรเตรียมเอกสารและอุปกรณ์ให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลสัตว์เลี้ยงระหว่างการเดินทาง

          สิ่งสำคัญที่สุด ผู้โดยสารที่ต้องการพาสัตว์เลี้ยงเข้าหรือออกนอกประเทศ ต้องมีเอกสารประกอบ คือ สำเนาพาสปอร์ตของเจ้าของสัตว์, สำเนาบัตรประจำตัวผู้ดำเนินการนำออก, ใบอนุญาตส่งสัตว์ออก (ออกโดยด่านกักกันสัตว์), เอกสารรับรองสุขภาพสัตว์ที่ผ่านการตรวจไม่เกิน 3 วัน ก่อนเดินทาง, ใบรับรองการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า ในกรณีที่เป็นนกหรือสัตว์อื่น ต้องมีเอกสารรับรองการส่งออกจากกรมป่าไม้ หรือคำยินยอมให้ส่งออกได้จากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานฯ และ/หรือมีเอกสาร CITES กำกับ

          การพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินในประเทศไทยนั้นมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสายการบินและน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงรวมกับกรง เช่น

สายการบินการบินไทย

• คิดค่าธรรมเนียมตามน้ำหนักสัมภาระเกินกำหนด (Excess Baggage) โดยคำนวณจากน้ำหนักสัตว์เลี้ยงรวมกับน้ำหนักกรง
• เส้นทางในประเทศ คิดอัตรากิโลกรัมละ 180 บาทต่อเที่ยวบิน
• สุนัขผู้ช่วย (สำหรับผู้โดยสารตาบอดหรือหูหนวก) สามารถเดินทางได้บนเที่ยวบินของการบินไทยทุกเที่ยวบินโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส

• คิดค่าธรรมเนียมตามน้ำหนักสัมภาระเกินกำหนด (Excess Baggage) โดยคำนวณจากน้ำหนักสัตว์เลี้ยงรวมกับน้ำหนักกรง
• เส้นทางในประเทศ คิดอัตรากิโลกรัมละ 180 บาทต่อเที่ยวบิน

สายการบินนกแอร์

• คิดค่าธรรมเนียมสำหรับสัตว์เลี้ยงมีชีวิต (AVI) ตามน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงรวมกับกรง
• สุนัข แมว หรือกระต่าย ที่มีน้ำหนักรวมบรรจุภัณฑ์ 1-15 กิโลกรัม ต้องเสียค่าธรรมเนียม 1,500 บาท
• สุนัข แมว หรือกระต่าย ที่มีน้ำหนักรวมบรรจุภัณฑ์ 16-30 กิโลกรัม ต้องเสียค่าธรรมเนียม 2,000 บาท

          *** ควรตรวจสอบข้อมูลและค่าธรรมเนียมล่าสุดจากสายการบินโดยตรงก่อนทำการจอง เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

          การพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินกับสายการบินต่างประเทศนั้นมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้

• สายการบิน : แต่ละสายการบินมีนโยบายและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน
• เส้นทางการบิน : ระยะทางและประเทศปลายทางมีผลต่อค่าธรรมเนียม
• ขนาดและน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงและกรง : สัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่และกรงขนาดใหญ่จะมีค่าธรรมเนียมสูงกว่า
• ประเภทของสัตว์เลี้ยง : สัตว์เลี้ยงบางประเภทอาจมีข้อจำกัดหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
• เอกสารที่เกี่ยวข้อง : บางสายการบินอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบรับรองสุขภาพสัตว์ ใบอนุญาตนำเข้า/ส่งออกสัตว์

          *** แนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดควรติดต่อสายการบินโดยตรง สอบถามข้อมูลและค่าธรรมเนียมล่าสุดจากสายการบินที่คุณจะใช้บริการ

          การพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินต้องมีการวางแผนล่วงหน้าและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ที่สำคัญควรตรวจสอบข้อกำหนดของประเทศปลายทางและสายการบินที่ใช้เดินทาง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงเดินทางได้อย่างปลอดภัยและราบรื่น ^ ^
 

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

     +++ วิธีส่งสัตว์เลี้ยงทางเครื่องบิน รู้ไว้ก่อนพาเจ้าสี่ขาออกเดินทาง

     +++ ข้อควรรู้ก่อนนำของเหลวขึ้นเครื่องบิน ทำอย่างไรให้ถูกต้อง

     +++ ไขข้อข้องใจ ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม เอาขึ้นเครื่องบินได้ไหม ?

     +++ คำพูดหรือพฤติกรรมต้องห้ามแบบไหน ห้ามทำในสนามบินและบนเครื่องบิน