ลัดเลาะรอบสยามตามหาจุดถ่ายรูปเก๋ ๆ ผ่านมุมมองกล้อง Vivo V17 Pro สมาร์ทโฟนกล้องหน้าคู่ Pop up 2 เลนส์ตัวแรกของโลก ความละเอียดสูงถึง 32MP มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ 48MP ถ่ายวันเดียวแต่มีรูปเก็บไว้อัปลงโซเชียลได้ยาว ๆ
หลังจากที่เปิดตัวไปก็เรียกเสียงฮือฮาได้มากทีเดียวสำหรับกล้องหน้าคู่ Pop up ของ Vivo V17 Pro ตัวนี้ที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน เราลองไปดูกันว่า มีอะไรใหม่ มีจุดไหนน่าสนใจให้ได้ว้าวกันบ้าง
“Dual Front Camera” กล้องหน้าเลนส์คู่ Pop Up
เซลฟี่ครั้งแรกไม่เป็นไร
เซลฟี่ครั้งต่อไป วางไม่ลง !
กล้องหน้า Super Wide-Angle เซลฟี่มุมกว้าง 105 องศา
เรียกว่า เป็นทีเด็ดของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับเลนส์กล้องหน้าอีกหนึ่งตัว “Super Wide-Angle Selfie” กับความละเอียด 8MP สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้มุมมองที่กว้างขึ้น 105 องศา เก็บบรรยากาศด้านหลังได้ครบทุกรายละเอียดแบบทะลุทะลวง ได้ภาพที่ชัดเป๊ะ และที่สำคัญคือหมดปัญหาในกลุ่มเพื่อนที่มักจะเกี่ยงกันหาคนถือกล้องได้แน่นอน เพราะใครถือก็สวย ไม่ต้องกลัวหน้าใหญ่เต็มจอ บอกลาไม้เซลฟี่ไปเลย ตาลุกวาวเลยค่า
เทียบกันชัด ๆ ระหว่างการเซลฟี่แบบธรรมดา vs การเซลฟี่ + มุมมองกว้างพิเศษ
ถ่ายกับน้องหมูชมพู้ ชมพู ถ้าเลือกเลนส์ Wide ก็จะสามารถเห็นน้องหมูได้ครบทั้งตัวเลย
ลองครีเอตด้วยมุมมองที่แตกต่าง เก็บได้กว้างเพิ่มขึ้นมาก
ผีเสื้อสมุทรที่ว่าใหญ่ เจอเลนส์ Wide เข้าไปก็เก็บครบ
เคล็ดลับเด็ด ๆ ของการถ่ายรูปด้วยเลนส์ Super Wide-Angle คือนอกจากจะช่วยให้ได้มุมมองภาพที่กว้างขึ้นแล้ว ยังสามารถทำให้ตัวแบบดูผอมบาง ตัวเล็กลงเมื่อยืนอยู่กลางภาพ
เหมือนน้ำหนักลดไป 2 โล !
“AI Beauty” ฟังก์ชันนี้มีแต่สวยกับสวย
การเซลฟี่สวยด้วย AI เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย V17 Pro ก็ยังคงฟังก์ชัน “AI Beauty” หรือการปรับแต่งรูปหน้าก่อนถ่ายให้ออกมาสวย ดูดีได้ดังใจต้องการโดยไม่ต้องแต่งเพิ่ม มีให้เลือกถึง 13 รูปแบบด้วยกัน จะปรับโทนสีผิว ปรับรูปทรงหน้า หรือปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ บนใบหน้าก็ย่อมได้ (แต่เอาแค่พอดี ๆ น้า…)
ปรับรูปหน้านิด
ปรับตาโตหน่อย
“Pose Master” ออกแบบท่าเซลฟี่ให้ ไม่ต้องคิดเยอะ
Selfie ด้วยโหมด AI Beauty เลือกที่ “ท่าทาง”
แม้จะเป็นสายเซลฟี่ แต่หลายทีก็คิดท่าไม่ออก จะบอกว่า V17 Pro เขามีฟังก์ชันใหม่ “Pose Master” เป็นการแนะนำ “ท่าทาง” ในการเซลฟี่หลากหลายรูปแบบให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ว่าจะสาว ๆ หรือแม้แต่หนุ่ม ๆ ขี้เขิน ก็ลองกดเข้าไปดูเป็นแนวทางได้ ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่ยังไม่เคยเห็นจากสมาร์ทโฟนรุ่นไหน ๆ มาก่อนเลย
“คิดท่าไม่ออกบอก Pose Master”
ตัวอย่างการโพสท่าถ่ายเซลฟี่สำหรับหนุ่ม ๆ
“Super Night Selfie” เซลฟี่ในที่แสงน้อยก็ยังสวย
เปรียบเทียบภาพที่ถ่ายด้วย Super Night Selfie เพียงลั่นชัตเตอร์แล้วถือนิ่ง ๆ ค้างไว้
นับ 1-3 ภาพที่ได้ออกมาจะสว่างวาบขึ้นทันตาเห็น
ใช้ Nigth Mode ถ่ายในที่แสงน้อยภายในห้างฯ
เซลฟี่ละลายฉากหลังด้วยโหมด “มัว”
นอกจากนี้ V17 Pro ยังคงเอาใจคนที่ชอบแต่งสีเพื่อคุมโทนของภาพก่อนอัปลงโซเชียลด้วยฟิลเตอร์สีมากมายเช่นเคย จะคุมให้ออกโทนสวยหวาน สดใส หรือหม่น ๆ เทา ๆ ก็จัดมาให้เลือกเยอะมากถึง 16 ฟิลเตอร์ด้วยกัน
เซลฟี่พร้อมคุมโทนฟิลเตอร์ 3 สี 3 สไตล์ ให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน
ส่วนเอฟเฟกต์แสงต่าง ๆ สำหรับถ่ายเซลฟี่ก็ยังคงไว้ ทั้งแสงธรรมชาติ (Natural Light) ที่ให้ความนุ่มนวล แสงไฟสตูดิโอ (Studio Light) จะมีแสงเงาที่ชัดเจนเหมือนถ่ายในสตูฯ แสงไฟสเตอริโอ (Stereo Light) ได้แสงสีส้มนวล ๆ แสงลูปไลท์ (Loop Light) ทำให้ผิวดูขาวนวล หรือจะเติมแสงรุ้ง (Rainbow Light) ลงในภาพ และภาพพื้นหลังแบบขาว-ดำ (Monochrome Background) เพื่อแยกตัวแบบให้เด่นจากฉากหลังได้อย่างสวยงาม สามารถเลือกได้ตั้งแต่ตอนก่อนถ่าย ไม่ต้องไปแต่งรูปแต่งแสงเพิ่มเติมอีกต่อไป
เลือกใช้เป็นแสงไฟสเตอริโอ เติมแสงรุ้ง และเลือกพื้นหลังขาว-ดำ
สายเซลฟี่มักรู้ดีว่า การที่จะถือกล้องไปด้วยและกดถ่ายไปด้วยลำบากขนาดไหน Vivo เลยจบปัญหานี้ด้วยวิธีการง่าย ๆ เพียงแค่ยกฝ่ามือขึ้นมาแบบนี้ ชัตเตอร์ก็จะลั่นให้เองอัตโนมัติ
1...2...3... แชะ !!
กล้องหน้า Pop Up ทนทาน ใช้งานอย่างมั่นใจ
กล้องหน้า Pop Up เลื่อนขึ้น-ลงแบบอัตโนมัติของ V17 Pro บอกเลยว่า รวดเร็วทันใจ แค่เปิดเข้าไปที่โหมดถ่ายภาพ กล้องก็จะเด้งขึ้นมาในบัดดล เรื่องความทนทาน Vivo ก็การันตีว่า อึด เพราะ โครงสร้างของกล้องทำมาจากโลหะ มั่นใจได้ว่าแข็งแรง แถมยังมีฟังก์ชันป้องกันการตกกระแทก ทนต่อแรงกด (จากการทดสอบมากกว่า 10,000 ครั้ง) เปิด-ปิดกล้องขึ้น ๆ ลง ๆ เซลฟี่ติดกันทั้งวันก็ไม่ต้องกลัวระบบรวนหรือกล้องพังเลย
กล้องหลัง AI 4 เลนส์ ความละเอียด 48MP + 8MP + 2MP + 2MP
Vivo V17 Pro จัดกล้องหลังมาให้หนัก ๆ ถึง 4 ตัว 4 เลนส์ด้วยกัน เรียกได้ว่า กล้องเยอะ สเปกแจ่ม แถม AI แน่น การถ่ายภาพด้วยกล้องมือถือบอกเลยว่าสวยงามตามท้องเรื่องราวกับมืออาชีพมาถ่ายให้ ซึ่งกล้องหลังประกอบไปด้วย...
1. กล้องหลัก ความละเอียด 48MP เซ็นเซอร์ Sony IMX582 + AI Quad Camera
2. กล้อง Depth Camera ความละเอียด 2MP ถ่าย Portrait หน้าชัดหลังเบลอ
3. กล้อง Super Wide-Angle เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 8MP
4. กล้อง Super Macro Camera เลนส์มาโคร ความละเอียด 2MP
กล้องหลักตัวแรกใช้เซ็นเซอร์ความละเอียดสูงของ Sony IMX582 ขนาด 1/2″ ขนาดพิกเซล 0.8μm และมีรูรับแสงกว้างสุดถึง F/1.8 สามารถเก็บแสงได้มาก ภาพที่ถ่ายก็จะชัดยิ่งขึ้น บวกกับเทคโนโลยี “Quad-Bayer” ช่วยเพิ่มแสงและความคมชัดให้ภาพถ่ายมีสีสันและสวยงามมากขึ้นนั่นเอง
ถ่ายภาพด้วยโหมด “48MP” ความละเอียดสูง
ทำให้ภาพที่ได้จะมีสีสันที่สดใส สวยงาม และคุณภาพของภาพคมชัดมาก
Super Wide-Angle มุมภาพกว้างขึ้น 105 องศา
ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดปกติ vs เลือกโหมด “มุมมองกว้างพิเศษ”
เมื่อถ่ายด้วยมุม Wide ก็สามารถเก็บภาพได้ทั้ง 2 ตึกในเฟรมเดียว
เลนส์กว้างขึ้นก็สามารถเก็บภาพบรรยากาศด้านหลังได้มากขึ้น
มุมปกติว่าสวยแล้ว
ลองถ่ายด้วยโหมด Wide ก็เก๋ไปอีกแบบ
“Super Macro Camera” เก็บความสวยงามได้ทุกอณู
หนามกระบองเพชรแหลม ๆ หรือจะทิ่มแทงได้เจ็บปวดเท่าคำพูดคน ฮิ้ว !
“AI Beauty” ฟังก์ชันของคน (อยาก) สวย
ฟังก์ชันแห่งความสวยไม่ได้มีเฉพาะกล้องหน้าเท่านั้น ทางด้านกล้องหลังก็ไม่น้อยหน้า เราสามารถปรับแต่งความสวยได้ตั้งแต่ก่อนถ่าย โดยมีให้เลือกถึง 3 โหมดด้วยกัน คือ แต่งใบหน้าให้สวย, ปรับรูปร่างให้ผอมสูงเพรียว และยังมี Pose Master ช่วยออกแบบท่าทางการโพสให้อีกด้วย เรียกว่าสวยตั้งแต่หัวจรดเท้ากันไปเลย
ปรับรูปร่างให้บางลงสักนิด
เพิ่มความสูงอีกสักหน่อย
โอเค เป๊ะ !
“Pose Master” ออกแบบท่าโพสระดับนางแบบมืออาชีพ
ฟังก์ชัน Pose Master ไม่ได้มีแค่เฉพาะออกแบบท่าเซลฟี่เท่านั้น ในกล้องหลังก็มีเช่นเดียวกัน ช่วยคิดท่าโพสแบบเก๋ ๆ ให้ ไม่ว่าจะนั่ง จะยืน จะเอามือไม้ไปไว้ที่ไหน ก็ไม่ดูเก้ ๆ กัง ๆ แถมยังช่วยจัดให้องค์ประกอบภาพดูสวยงาม มีรูปแบบให้เลือกเยอะมาก จะถ่ายเต็มตัว ครึ่งตัว ถ่ายรูปคู่ ถ่ายกับเพื่อน ถ่ายแนวสตรีต ถ่ายกับวิว ไปจนถึงการถ่ายแบบก็มี และยังสามารถวิเคราะห์ฉากและปรับแต่งให้โดยอัตโนมัติ เรียกได้ว่าเหมือนมีพี่เกดมาออกแบบท่าโพสให้เลย
ถ่าย Portrait ยิ่งสวยด้วย "ฟิลเตอร์" และ "เอฟเฟกต์แสง"
นอกจากกล้องหน้า V17 Pro ที่มีฟิลเตอร์สีเพื่อคุมโทนของภาพแล้ว กล้องหลังก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน สามารถกดเลือกฟิลเตอร์ก่อนถ่ายได้เลย อยากได้ฟีลไหนก็จัดไปเลยจ้า
โทนชมพูใส ๆ
เติมความเข้มสไตล์สตรีตอาร์ต
ใส่ฟิลเตอร์เทา ๆ ดูชิค ๆ คูล ๆ แบบอินสตาแกรมเมอร์
ส่วนเอฟเฟกต์แสงต่าง ๆ ก็มีให้เลือกถึง 6 แบบเช่นเดียวกันกับกล้องหน้า ได้แก่ แสงธรรมชาติ แสงไฟสเตอริโอ แสงไฟสตูดิโอ แสงลูปไลท์ แสงรุ้ง และแสงพื้นหลังขาว-ดำ
แสงไฟสเตอริโอ เติมแสงรุ้ง และเลือกพื้นหลังขาว-ดำ
เลือกฟังก์ชัน “มัว” เพื่อเพิ่มความ “ชัด”
ความพิเศษที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างของกล้องหลัง V17 Pro คือฟังก์ชัน “มัว” (Bokeh) ที่ช่วยให้การถ่ายภาพ Portrait หน้าชัดหลังเบลอได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกปรับ Bokeh ด้วยตัวเอง ปรับรูรับแสงได้ถึง F0.95 เมื่อฉากหลังเบลอตัวเราจะเด่นชัดขึ้นมาทันที เอื้อต่อการถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีคนเยอะ หรือเวลาที่ไม่ต้องการให้เห็นฉากหลังที่รกเลอะเทอะนั่นเอง
เลือกจุดโฟกัสที่อยากให้ชัดหรือเบลอได้ตามต้องการ เลือกปรับที่ Bokeh ได้เลย
ยิ่งปรับให้ค่า F ต่ำมาก ฉากหลังก็จะเบลอมาก
กล้องหลัง Super Night Mode ภาพคมชัดแม้แสงน้อย
กล้องหลังที่มีความละเอียดถึง 48 ล้านพิกเซล และมีรูรับแสงกว้างถึง F/1.8 จึงทำให้มีความไวต่อแสงค่อนข้างสูง ที่สำคัญ V17 Pro ได้อัปเกรดโหมดถ่ายภาพกลางคืนใหม่ เพิ่มความคมชัดของภาพได้มากขึ้น จับโฟกัสได้เร็วขึ้น ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือถ่ายภาพตอนกลางคืนออกมาสวยงาม สว่างมากขึ้น ลองไปดูภาพตัวอย่างกัน
ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดปกติ vs ภาพที่ถ่ายด้วย Super Night Mode
ภาพก็ยังสวย คมชัด ไม่มี Noise มากวนตากวนใจ
สว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในมุมที่มีแสงน้อย แต่ก็ไม่มี Noise มารบกวน
“Super AMOLED” จอรุ่นใหม่ ความละเอียดสูง
หน้าจอของ V17 Pro เป็น Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ใช้วัสดุ E3 แบบใหม่ แสดงสีสันที่สวยเหมือนจริง มองสบายตา สามารถกรองแสงสีฟ้าได้ถึง 42% (เมื่อเทียบกับจอ E2 ทั่วไป) ผ่านการรับรองจากสถาบันรับรองความปลอดภัยจากเยอรมนี (TÜV) และยังมีเทคโนโลยี Eye Care ระบบถนอมสายตารุ่นใหม่ที่จะช่วยปรับความสมดุลสีของหน้าจอ สำหรับการใช้งานในสภาวะแสงน้อย หรือในขณะที่เล่นเกมได้ทันที
นอกจากนี้ยังมี “Dark Mode” ฟังก์ชันที่เปลี่ยนหน้าจอพื้นหลังให้เป็นโหมดมืด เพื่อปรับให้ามารถใช้งานในที่แสงน้อยได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ถือเป็นการประหยัดพลังงาน และถนอมสายตาไปในตัวอีกด้วย
“View Beyond Limits” เต็มจอไร้รอยบาก
V17 Pro ออกแบบให้ดูหรูหรา ทันสมัย ในสไตล์ Deluxe Fashion แต่คงไว้ซึ่งความคลาสสิก วัสดุตัวเครื่องเป็นกระจกโปร่งใสคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทาน ด้านหลังเครื่องมีความโค้งแบบหลังเต่ารับกับรูปทรงมือในขณะจับถือ หยิบมาใช้ตอนไหนก็ง่าย และสะดวกสบาย แอบกระซิบว่า Vivo ได้ติดฟิล์มกันรอยทั้งด้านหน้า-หลังมาให้แล้วด้วย (ดีจัง)
Vivo V17 Pro สีมี 2 แบบให้เลือกคือ โทนดำ “Knight Black” และโทนขาวใส “Crystal White” มีการออกแบบให้ช่องเสียบหูฟังอยู่ด้านบนเครื่องไม่เกะกะขณะใช้งาน
V17 Pro ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675 RAM 8GB และ ROM 128GB รองรับการใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด มีระบบปฏิบัติการ Android 9.0 เวอร์ชั่นล่าสุด พร้อม Funtouch OS 9.1 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น สมคอนเซ็ปต์ที่ว่า “Performance Beyond Limits จัดเต็มประสิทธิภาพทรงพลัง”
Multi-Turbo Speed เร็ว แรง เฟรมเรตไม่ตก
Cooling Turbo จัดการความร้อนให้ดียิ่งขึ้น
แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้ยาว ๆ และชาร์จไว
แบตเตอรี่ของ V17 Pro มีความจุ 4100mAh มาพร้อมกับระบบชาร์จไว Dual-Engine Fast Charging ที่ทดลองใช้เวลาชาร์จเพียง 30 นาที แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเกินครึ่ง และยังมีระบบป้องกันความปลอดภัยแบตเตอรี่ถึง 9 ชั้น
Game Turbo เล่น PUBG ไหลลื่น
อยู่ดี ๆ ก็หาย ไลน์ไม่ตอบ… ปัญหานี้จะหมดไป เพราะสามารถรับสาย กดตัดสายทิ้ง หรือตอบ Line ไปพร้อมกับการเล่นเกมได้ อะ...สบายใจกันทุกฝ่าย
Voice Changer เปลี่ยนเสียงในเกม
ฟังก์ชันเปลี่ยนเสียงในเกมนี้มาพร้อมเอฟเฟกต์เสียงตัวละครที่หลากหลายเพื่อสับเปลี่ยนในระหว่างเล่นเกมกับเพื่อนร่วมทีม จะเปลี่ยนเป็นเสียงต่ำ หรือเสียงตลกขบขัน ช่วยเพิ่มสีสันในการสนทนาระหว่างเกมได้สนุกสนาน และมีสีสันมากขึ้น
ใครจะไปเชื่อว่า สมาร์ทโฟนระดับเรือธง Vivo V17 Pro ราคาล่าสุดเปิดตัวอยู่ที่ 12,999 บาทเท่านั้น ราคาเบา ๆ แต่ได้สเปกระดับคุณภาพจัดขนาดนี้ ยอดเงินในบัญชีสั่นคลอนเลยไหมนะ ใครที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vivo.com/th
ยังไม่จบเท่านี้นะคะ เรายังมีภาพสวย ๆ ที่ถ่ายด้วยมือถือ Vivo V17 Pro แบบเก๋ ๆ อีกเพียบใน Gallery ด้านล่างนี้ คลิกเข้าไปดูไปชมต่อกันได้เลย