แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวภูมิภาคคันโต ประเทศญี่ปุ่น กับแหล่งท่องเที่ยวเด่น ๆ ทั้งในโตเกียวและใกล้โตเกียว ไปเที่ยวเองได้ง่ายด้วยรถไฟฟ้า ไม่ต้องง้อทัวร์ กำลังมองหาที่เที่ยวใกล้โตเกียว ต้องไม่พลาด
- มหานครโตเกียว (Tokyo)
- จังหวัดกุมมะ (Gunma)
- จังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa)
- จังหวัดชิบะ (Chiba)
- จังหวัดไซตะมะ (Saitama)
- จังหวัดโทชิงิ (Tochigi)
- จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki)
ซึ่งนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ในโตเกียวแล้ว ก็ยังมีสถานท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยู่ในภูมิภาคนี้ด้วย และมันก็ดีต่อนักท่องเที่ยวมาก ๆ เพราะในภูมิภาคนี้เชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั้งหมด และยังมีการออกตั๋วรถไฟสำหรับการเที่ยวในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะมาเรื่อย ๆ ทำให้ลดค่าเดินทางได้เยอะเลยทีเดียว เอาล่ะ...มาดูกันดีกว่าว่าภูมิภาคนี้เขามีอะไรให้เที่ยวได้บ้าง
1. ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu Shrine) และสวนป่ากลางเมืองโตเกียว (Yoyogi Park)
แลนด์มาร์กที่สำคัญของมหานครโตเกียว ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ (Emperor Meiji) และสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง (Empress Shoken) โดยตัวของศาลเจ้าเมจินั้นมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สร้างขึ้นจากไม้ มีประตูโทริอิอยู่ด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้า
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของศาลเจ้าในลัทธิชินโต อีกทั้งยังจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของที่นี่ เพราะโดยรอบศาลเจ้านั้นเป็นป่าขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้มากมายหลากหลายชนิดกว่าแสนต้น เรียกว่า สวนสาธารณะโยโยงิ (Yoyogi Park) ซึ่งถ้าดูจากมุมสูงก็จะเห็นว่าป่าแห่งนี้มีเมืองใหญ่โอบล้อมอยู่อีกชั้น ที่นี่จึงเป็นโอโซนที่สำคัญของโตเกียวเลยทีเดียว
ภาพจาก cowardlion / Shutterstock.com
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี JR Harajuku, สถานี Yoyogi, สถานี Meiji-jingumae (Harajuku) และสถานี Sangubashi
2. ย่านฮาราจูกุ (Harajuku)
ย่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดย่านหนึ่งในญี่ปุ่น เพราะเป็นแหล่งวัยรุ่นสุดฮิป มีร้านค้าร้านอาหารมากมาย บรรยากาศคึกคักและน่าตื่นเต้น ใครอยากจะช้อปปิ้งซื้อสินค้าแบรนด์เนมดังจากทั่วโลกก็สามารถหาซื้อได้เลยในย่านนี้ และถ้าอยากจะเห็นวัยรุ่นญี่ปุ่นแต่งตัวสวยเก๋ ใส่ชุดคอสเพลย์เท่ ๆ หรือโชว์ความสามารถพิเศษแบบเจ๋ง ๆ คุณจะได้เห็นทุกอย่างในย่านนี้แน่นอน
ภาพจาก Takamex / Shutterstock.com
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี Harajuku
3. พระราชวังอิมพีเรียล (Tokyo Imperial Palace)
พระราชวังอิมพีเรียล เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งของมหานครโตเกียว ตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าเมจิและสวนสาธารณะโยโยงิ ปัจจุบันที่นี่เป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น แต่ก็มีบางส่วนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชม
ด้านในจะมีปราสาทเอโดะ (Edo Castle) ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น และมีคูน้ำรายล้อมรอบด้าน พร้อมกับสวนสวย ๆ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ ในฤดูใบไม้ผลิสวนในพระราชวังแห่งนี้ก็จะเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูหวานบานสะพรั่ง ส่วนในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีใบไม้หลากสีสันให้ได้ชมกันอย่างจุใจ มาเที่ยวโตเกียวทั้งทีถ้าพลาดที่นี่ไปบอกเลยว่าต้องเสียใจ
สถานีรถไฟ : สถานี Nijubashi-mae, สถานี Otemachi, สถานี Tokyo และสถานี Takebashi (ดูเพิ่มเติมได้ที่ sankan.kunaicho.go.jp)
4. โตเกียว ดิสนีย์แลนด์
สวนสนุกในฝันของคนทั่วโลก ตั้งอยู่ที่เมืองอุระยะซุ (Urayasu) จังหวัดชิบะ เป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย มีการเนรมิตสถานที่ต่าง ๆ จากในการ์ตูนของเครือดิสนีย์ และยังมีเครื่องเล่นสุดสนุกมากมายให้ได้มาปลดปล่อยพลังกัน ภายในโตเกียว ดิสนีย์แลนด์ จะแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ได้แก่ เวิลด์บาซาร์, แอดเวนเจอร์แลนด์, เวสเทิร์นแลนด์, คริตเตอร์คันทรี, แฟนตาซีแลนด์, ตูนทาวน์ และทูมอร์โรว์แลนด์ ซึ่งก็จะมีเครื่องเล่นและกิจกรรมให้ร่วมสนุกเพียบ นอกจากนี้ก็ยังมีโตเกียว ดิสนีย์ ซี และโรงแรมในเครือดิสนีย์ไว้รองรับด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ tokyodisneyresort.jp
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี Maihama
5. เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama)
เมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคะนะงะวะ เป็นเมืองใหญ่อีกเมืองที่น่าท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ที่นี่เป็นเมืองท่าที่สำคัญที่อยู่ใกล้โตเกียว เป็นแหล่งศูนย์กลางของอุตสาหกรรมต่าง ๆ และยังมีที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านเก่าแก่ พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ ย่านช้อปปิ้ง ที่นี่ก็ล้วนมีหมด บรรยากาศโดยรอบเมืองจะชิลกว่าโตเกียว อากาศจะเย็นสบาย เพราะอยู่ริมทะเล คนโตเกียวมักชอบมาเที่ยวพักผ่อนกันที่เมืองนี้ในช่วงวันหยุด
สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในโยโกฮาม่า อาทิ Cup Noodles Museum, Ramen Museum, Kirin Beer Factory, Hakkeijima, Yamashita Park, Osanbashi Pier, Sankeien Garden, Minato Mirai, Chinatown, Yokohama Cosmo World, Red Brick Warehouse, Yamate และ Motomachi เป็นต้น
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี Yokohama
6. เมืองนิกโก (Nikko)
เมืองนิกโก ตั้งอยู่ในจังหวัดโทะชิงิ เป็นเมืองท่องเที่ยวธรรมชาติแบบภูเขาที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น อยู่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว สามารถไปเที่ยวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับ ที่นี่เป็นแหล่งขุมทรัพย์ธรรมชาติ ทั้งภูเขา น้ำตก ป่าไม้ และน้ำพุร้อน ที่สำคัญเป็นเมืองเก่าแก่และเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายชินโตมาตั้งแต่สมัยเอโดะ จึงทำให้มีศาลเจ้าเก่าแก่และสวยงามมากมาย ซึ่งปัจจุบันก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วในนาม "ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก" (Shrines and Temples of Nikko)
สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด อาทิ ศาลเจ้าฟุตะระซัง, ทะเลสาบชูเซ็นจิ, สะพานชินเกียว, วัดรินโน, น้ำตกเคะงง, ศาลเจ้าโทโชกุ, ยูโมโตะอนเซน, ทาโมซาวะ อิมพีเรียล วิลล่า, ศาลเจ้าไทยุอินเบียว, สวนพฤกษศาสตร์นิกโก เป็นต้น
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี Tobu Nikko และ สถานี JR Nikko
7. ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt. Nokogiri)
ตั้งอยู่ที่จังหวัดชิบะ เป็นภูเขาหินที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ และยังเป็นที่ตั้งของวัดพุทธนิกายเซนด้วย ความน่าสนใจของที่นี่คือมีจุดชมวิวสูงและสวยมากอยู่บนยอดเขา ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลราว ๆ 330 เมตรเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินขึ้นไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือจะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปก็ได้ ที่บนจุดชมวิวจะสามารถมองเห็นเวิ้งทะเลอันกว้างใหญ่ มองไปได้ไกลถึงจังหวัดคะนะงะวะ รวมทั้ง Boso Peninsula ในจังหวัดชิบะ วันไหนที่ท้องฟ้าเปิดก็จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงามสุด ๆ
นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีจุดที่น่าสนใจอื่น ๆ อีก เช่น หน้าผาสุดหวาดเสียว Jigoku Nozoki และพระพุทธรูปหินแกะสลักอายุราว ๆ 1,300 ปี สูงกว่า 31 เมตร ที่วัดนิฮอนจิ (Nihonji Temple)
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี Hamakanaya แล้วเดินไม่กี่นาที
8. ฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park)
ฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค ตั้งอยู่ในเมืองฮิตาชินากะ จังหวัดอิระบะกิ มีลักษณะเป็นสวนริมทะเลขนาดใหญ่ ซึ่งมีการจัดตกแต่งให้สวยงามไปด้วยดอกไม้นานาพรรณตลอดทั้งปี มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 350 ไร่ ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมมากถึง 200 ไร่ โดยในพื้นที่นี้ก็จะมีทั้งสวนดอกไม้, สวนสนุก, อาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่, เส้นทางขี่จักรยาน, ร้านกาแฟและร้านอาหาร
ภาพจาก Piith Hant / Shutterstock.com
ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ถ้าอยากเห็นทุ่งดอกนีโมฟีล่าสีฟ้าน้ำเงินบานสะพรั่งไปทั่วทั้งหุบเขาก็ให้มาเที่ยวช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ส่วนถ้าอยากเห็นเนินเขาโคเชียสีแดงอร่ามก็ให้มาเที่ยวช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hitachikaihin.jp
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี Katsuta แล้วต่อรถโดยสารประจำทางลงป้าย Kaihin Koen Nishiguchi
9. สวนไคราคุเอน (Kairakuen Garden)
สวนไคราคุเอน ตั้งอยู่ในเมืองมิโตะ (Mito) จังหวัดอิระบะกิ ได้ชื่อว่าเป็นสวนที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น เริ่มการสร้างสวนโดย Nariaki Tokugawa และเปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมในปี ค.ศ. 1842 ความพิเศษและโดดเด่นของสวนแห่งนี้ นอกจากจะมีการจัดสวนแบบญี่ปุ่นที่งดงามแล้ว ก็ยังมีการปลูกต้นบ๊วยไว้มากกว่า 1,000 สายพันธุ์ ทั้งหมดมากกว่า 3,000 ต้น เพราะฉะนั้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อดอกบ๊วยออกดอกบานพร้อม ๆ กันทั้งสวนก็จะกลายเป็นสีชมพูหวานสลับขาวบานสะพรั่ง สวยงามไม่แพ้กับต้นซากุระเลยทีเดียว
ภาพจาก Andreas H / Shutterstock.com
พิเศษสุด ๆ ที่ในหน้าหนาวที่นี่ก็จะมีดอกซากุระให้ได้ชมกันด้วย สำหรับเทศกาลดอกบ๊วยจะจัดขึ้นช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์-ปลายเดือนมีนาคมของทุกปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ibarakiguide.jp และ koen.pref.ibaraki.jp
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี Mito แล้วต่อรถบัสหรือเดินประมาณ 30 นาที
10. เมืองคุซัทสึ (Kusatsu)
เมืองคุซัทสึ ตั้งอยู่ในจังหวัดกุมมะ เป็นเมืองที่มีรีสอร์ตออนเซ็นดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น บรรยากาศในเมืองจะเต็มไปด้วบ้านเก่าสไตล์ญี่ปุ่นสุดคลาสสิก มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่รอบ ๆ เมือง บางบ่อสามารถลงไปใช้บริการได้แบบฟรี ๆ ส่วนในรีสอร์ตนั้น แต่ละรีสอร์ตก็จะมีการดีไซน์บ่อน้ำพุร้อนในแบบของตัวเอง ที่ห้ามพลาด ก็คือ การพักโรงแรมแบบเรียวกัง เป็นสไตล์รีสอร์ตแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น บรรยากาศสบาย ๆ เป็นการพักผ่อนที่เข้าถึงวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริง
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี Naganohara-Kusatsuguchi จากนั้นต่อรถบัสไปยัง Kusatsu Onsen
11. เมืองเก่าซาวาระ (Sawara)
เมืองเก่าซาวาระ ตั้งอยู่ในเมืองคาโทริ (Katori) จังหวัดชิบะ เป็นเขตที่มีการอนุรักษ์บ้านเรือนสไตล์ญี่ปุ่นเก่าแก่สมัยเอโดะไว้มากมาย โดยเฉพาะโซนริมคลอง Ono-gawa ที่มีจะมีชุมชนเก่าแก่ให้ได้ชมกันเป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร ในสมัยก่อนเขตนี้เป็นเขตที่มีความรุ่งเรืองมาก เพราะมีคลองที่ไหลทอดยาวผ่านชุมชน การค้าทางเรือจึงเฟื่องฟูและพาให้เมืองซาวาระกลายเป็นเมืองการค้าที่สำคัญ ปัจจุบันเราจึงจะได้เห็นบรรยากาศเก่า ๆ ของร้านค้าต่าง ๆ ที่เปิดขายกันอย่างคึกคักริมคลอง Ono-gawa เหมือนได้ย้อนกลับไปอยู่ในยุคเอโดะเลยทีเดียว
ภาพจาก the peal / Shutterstock.com
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากนั่งเรือชมเมือง ที่นี่ก็มีบริการเรือนำเที่ยวด้วยเช่นกัน และห้ามพลาดไปเยี่ยมชมศาลเจ้าคาโทริ ศาลเจ้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเก่าซาวาระมากนัก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ suigo-sawara.ne.jp และ jnto.go.jp
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี JR Sawara
12. เมืองฮาโกเน่ (Hakone)
เมืองฮาโกเน่ เป็นเมืองในเขตอาชิงาระชิโมะ จังหวัดคานางาวะ เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวใกล้โตเกียวที่ห้ามพลาด ด้วยเป็นเมืองที่มีธรรมชาติป่าขาที่สวยงามมาก ๆ โดยเฉพาะใครที่ชอบแช่น้ำพุร้อน ที่นี่ก็มีชื่อเสียงเช่นกัน อีกทั้งยังมีทะเลสาบอะชิให้ได้ไปล่องเรือโจรสลัดสุดเท่ พร้อมกับชมวิวสวย ๆ ของภูเขาไฟฟูจิ และชมความงดงามของศาลเจ้าฮาโกเนะ หรือจะไปชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่หุบเขา Owakudani ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อนอันโด่งดังของญี่ปุ่นก็ดีไม่น้อยเลย
การเที่ยวในเมืองฮาโกเน่จะมีตั๋วรถไฟแบบ Hakone Free Pass ด้วย เมื่อมาถึงฮาโกเน่แล้วก็สามารถใช้ตั๋วรถไฟนี้เที่ยวทั่วฮาโกเน่ได้เลย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ japan-guide.com
สถานีรถไฟฟ้า : สถานี Hakone-Yumoto
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ที่เที่ยวส่วนหนึ่งของภูมิภาคคันโตเท่านั้นนะคะ ทั้งในโตเกียวและจังหวัดรอบ ๆ โตเกียวยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย ๆ และห้ามพลาดไว้รอต้อนรับคุณอีกเพียบเลย แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีใกล้ ๆ โตเกียว ก็ลองดูแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ไปเป็นตัวเลือกก่อนนะ :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
japan-guide.com, gotokyo.org, jnto.or.th, tokyodisneyresort.jp, yokohamajapan.com, unesco.org, mt-nokogiri.co.jp, jnto.go.jp, jnto.go.jp, hitachikaihin.jp, ibarakiguide.jp, visitgunma.jp, suigo-sawara.ne.jp