ลัดเลาะรอบกรุงโตเกียว ต้องไม่พลาดที่เที่ยวต่อไปนี้


โตเกียว

          เพราะประเทศ
ญี่ปุ่น คือหนึ่งในดินแดนในฝันของเพื่อน ๆ นักเดินทางหลายคน วันนี้เราจะมาเป็นไกด์นำเที่ยวประเทศญี่ปุ่น กับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองหลวงที่ชื่อว่า "โตเกียว" เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นมหานครแห่งสีสันที่ครบครันไปด้วยสถานที่ท่อง เที่ยว และความเจริญมากมาย แต่ทว่าการเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นในครั้งนี้ไม่ใช่การมุ่งตรงไปที่เมืองหลวง เท่านั้น เพราะความงดงามสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ยังคงซ่อนตัวอยู่รอบ ๆ กรุงโตเกียวและรอคอยให้เราเดินทางไปสัมผัสกัน...ว่าแล้วเรามาออกเดินทาง เที่ยวลัดเลาะรอบ ๆกรุงโตเกียวพร้อม ๆ กันเลยค่ะ




          วันที่ 1

          
เที่ยวเกาะแห่งมังกร เกาะศักดิ์สิทธิ์ในเขต Fujisawa จังหวัด Kanagawa แวะไปทานเมนู Shirasu don ก่อนจะนั่งรถไฟสายท้องถิ่นไปไหว้ Kamakura Daibutsu นอนพักโรงแรมดังใกล้ภูเขาไฟฟูจิ mototsu view hotel onsen และตื่นเช้าไปชม Lake Motosu

 

         หลังจากที่เราลงจากเครื่องที่สนามบินนาริตะ ในช่วงเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราแวะทำธุระส่วนตัวกันที่เมือง Yokohama เมืองท่าขนาดใหญ่ที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมหนักประเภทรถชนิดต่าง ๆ

โตเกียว

          ลานจอดรถที่เพิ่งผลิตเสร็จแล้ว และเตรียมขนย้ายลงเรือส่งสินค้า

โตเกียว

โตเกียว

          สำหรับประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบันกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้น อัตราการเกิดลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะชาวญี่ปุ่นสมัยใหญ่ใหม่มักจะเป็นโสดอยู่คนเดียวส่วนใหญ่ เพื่อรองรับผู้สูงอายุที่มากขึ้นเราจึงมักจะเห็นสิ่งประดิษฐ์สำหรับรองรับผู้สูงอายุอยู่ทั่วเมือง

โตเกียว

          รถแท็กซี่ในโตเกียว ราคาเริ่มต้นประมาณ 550-800 เยน (หรือ 150-220 บาทโดยประมาณ) ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก จากนั้นอัตราค่าโดยสารจะขึ้นตามระยะทาง

โตเกียว

          รถส่วนใหญ่ที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่นจะเป็นรถขนาดเล็ก ๆ อย่างรถบรรทุกสินค้าคันนี้ก็เช่นกัน

โตเกียว

          บริเวณจุดจอดรถของญี่ปุ่น จะมีบริการห้องน้ำและร้านอาหาร รวมทั้งตู้กดน้ำที่มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือก
 
โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          จุดหมายปลายทางแรกในทริปนี้ก็คือการเดินทางไปเยือนได้แก่...

โตเกียว

          Enoshima (เกาะเอโนชิมะ) หรือที่หลายคนอาจจะรู้จักในชื่อ เกาะแห่งมังกร เกาะศักดิ์สิทธิ์ขนาดเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในเขต Fujisawa จังหวัด Kanagawa เป็นเกาะที่ตั้งอยู่บนอ่าว Sagam ตั้งอยู่ริมทะเลทางฝั่งตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น

โตเกียว

โตเกียว

          ก่อนถึงตัวเกาะสองริมฝั่งถนนก็จะเต็มไปด้วยทัศนียภาพสวยงาม ฝั่งซ้ายจะเป็นชายทะเลที่มีชายหาดสีดำ เนื่องจากภูมิประเทศของญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นภูเขาไฟ เม็ดทรายบนชายหาดจึงเกิดจากลาวาของภูเขาไฟจึงทำให้ทรายบนชายหาดที่ญี่ปุ่นกลายเป็นสีดำ

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          ในช่วงฤดูร้อนชาวญี่ปุ่นจะเดินทางมาอาบแดดกันที่นี่เป็นประจำ และในช่วงฤดูอื่น ๆ ที่ไม่มีมรสุมนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเอง และชาวต่างชาติก็มักจะเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามรับบรรยากาศริมทะเลอยู่เสมอเช่นกัน

โตเกียว

          บริเวณริมทะเลในบางช่วงจะมีการทำแนวกันคลื่นจากชายฝั่งทะเลซึ่งมีความรุนแรงในช่วงมรสุม เพราะตั้งอยู่ในฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนฝั่งขวาจะเต็มไปด้วยบ้านเรือนหลังเล็ก ๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่น รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหาร และห้องพักตากอากาศ สำหรับนั่งชมวิวสวย ๆ ของทะเลได้เป็นอย่างดี

โตเกียว


          สำหรับ Enoshima (เกาะเอโนชิมะ) ไม่ได้เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กับแผ่นดินใหญ่เท่านั้น เพราะเกาะแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับขอพรเรื่องความรักด้วยการเดินทางขึ้นไปสักการะศาลเจ้าเอโนะ ซึ่งในอดีตการเดินทางข้ามไปยังเกาะนี้ ชาวบ้านจะต้องรอให้น้ำลดก่อนจึงจะปรากฏทางเดินขึ้นไปยังเกาะได้ ปัจจุบันมีการสร้างสะพานเชื่อมไปยังเกาะ ชื่อสะพานว่า Subana Douri ซึ่งมีความยาวกว่า 680 เมตร ทำให้การเดินทางข้ามเกาะสะดวกสบายมากขึ้น จนมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเอง และชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนในบ้านพักตากอากาศริมทะเล และไม่ลืมที่จะแวะขึ้นไปเที่ยว Enoshima (เกาะเอโนชิมะ) นี้เสมอ

โตเกียว

          เปิดทริปมื้อเที่ยงด้วยเมนูขึ้นชื่อของเอโนชิมะ กับเมนู Shirasu don (ข้าวหน้าปลาข้าวสาร) ที่มีให้เลือกทั้งแบบสุก และแบบดิบ พร้อมทั้งเมนูหอยย่างแบบสด ๆ ที่มีให้เลือกทั้ง หอยสังข์ หอยตลับ และอาหารทะเลอย่าง หมึก และกุ้ง เป็นต้น










          หลังจากอิ่มท้องเรียบร้อยแล้ว เราเดินทางขึ้นไปสักการะ Enoshima Shrine (ศาลเจ้าเอโนชิมะ) ตลอดเส้นทางเริ่มตั้งแต่ Torii (ซุ้มประตูทางเข้าที่มีสีเขียว)



         เดินไปเรื่อย ๆ ก็สังเกตได้ว่าสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก อาหาร และของทานเล่นมากมาย











โตเกียว

          ไม่นานนักเราก็มาจนสุดเส้นทางเจอ Torii  (ซุ้มประตูทางเข้าที่มีสีส้ม) ขนาดใหญ่พร้อมบันไดทางขึ้นที่เลี้ยวตามความชันของไหล่เขา

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

           และก่อนเข้าวัดหรือศาลเจ้าตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นแล้ว จะต้องชำระล้างตัวเองให้สะอาดด้วยการล้างมือ เริ่มจากใช้กระบวยตักน้ำ ล้างมือซ้าย ล้างมือขวา และก็บ้วนปาก เสร็จแล้วเอียงกระบวยตั้งขึ้นเพื่อให้น้ำไหลล้างด้ามของกระบวย

โตเกียว

โตเกียว



         สำหรับใบเซียมซีที่ทำนายไม่ดีหลายคนจะนำมาผูกไว้ที่วัดเหมือนเดิม

         จากนั้นเดินขึ้นไปชมความสวยงามของศาลเจ้าแห่งนี้ซึ่งบริเวณศาลเจ้าก็จะเต็มไปด้วยโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ญี่ปุ่นอยู่หลายหลัง โดยแบ่งการใช้สอยออกเป็นสำหรับประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ และเป็นสถานที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับกราบไหว้ขอพร

โตเกียว

โตเกียว

          สำหรับ Enoshima Shrine (ศาลเจ้าเอโนชิมะ) ประกอบด้วยศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่รอบเกาะโดยมีอาคารทรงแปดเหลี่ยมเป็นที่ประดิษฐานของเทพผู้คุ้มคองเอโนชิมะ

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          เนื่องจากศาลเจ้าแห่งนี้เชื่อว่าใครที่ได้มากราบไหว้ขอพรเรื่องความรักก็จะสุขสมหวัง จึงมีคู่รักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมากราบไหว้เป็นจำนวนมากเสมอ

โตเกียว

โตเกียว

          ซุ้มประตูสำหรับเดินลอดพร้อมอธิษฐาน เป็นให้สมหวังในความรัก

โตเกียว

         เขียนแผ่นป้ายสีชมพูสำหรับอธิษฐานเรื่องความรักของคู่รัก

โตเกียว

โตเกียว

         วิวสะพานจากมุมสูงบนศาลเจ้า



โตเกียว

          หมายเหตุ 1 : ศาลเจ้า Enoshima เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30-17.00 น. (คลิกชมข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเพิ่มเติมได้ที่นี่ japan-guide.com/Enoshima)

          หมายเหตุ 2 : การเดินทางไปเที่ยวที่ Enoshima สามารถเดินทางได้สะดวกหลากหลายเส้นทางทั้ง รถยนต์ รถเมล์ และรถไฟสายท้องถิ่นลงที่สถานี Enoshima

โตเกียว

โตเกียว

          จากนั้นเราเดินทางไปขึ้นรถไฟสายท้องถิ่นกันที่สถานี Enoshima





          บริเวณสถานีรถไฟไม่ใหญ่มากนัก และมักจะมีกลุ่มเด็กเดินทางมาเที่ยวทัศนศึกษาในวันหยุด



          สังเกตได้ว่านักเรียนของญี่ปุ่นมักจะสวมหมวกสีเหลืองเสมอ ซึ่งชาวญี่ปุ่นมักจะให้ความสำคัญกับเด็ก ๆ โดยเปรียบเทียบเด็ก ๆ ให้เหมือนลูกไก่ที่ต้องเฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดูจนกว่าจะเจริญเติบโตขึ้นไปเป็นวัยรุ่นต่อไป







          เราเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งรถไฟสายท้องถิ่นจากสถานี Enoshima ถึงสถานี Kamakura ซึ่งเส้นทางรถไฟสายนี้จะผ่านหมู่บ้านและวิวริมทะเล ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 23 นาที









          หลังจากที่รถไฟถึงสถานี Kamakura เรียบร้อยแล้วเราเดินเท้าไปยัง Kamakura Daibutsu (วัดพระใหญ่)







          สำหรับ Kamakura Daibutsu ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนมักจะเดินทางไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลจำนวนมากทุกปี







          จุดเด่นของพระองค์ใหญ่แห่งนี้ คือ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างด้วยสำริด (เมื่อสำริดทำปฏิกิริยากับออกซิเจนทำให้องค์พระกลายเป็นสนิมสีเขียว) เป็นพระอมิตตาพุทธเนียวไร สูง 13.35 เมตร ซึ่งเดิมในอดีตองค์พระไม่ได้อยู่กลางแจ้งอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ แต่เพราะด้วยภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่พัดพาเอาโบสถ์และสิ่งก่อสร้างบริเวณโดยรอบหายไปหมดแต่ยังคงเหลือไว้เพียงองค์พระเหมือนดังที่เห็นในปัจจุบันเท่านั้น







          สามารถเดินเข้าไปชมภายในองค์พระได้อีกด้วยโดยเสียค่าเข้าคนละ 20 เยน



          นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่า Kamakura Daibutsu เป็นผู้ปกป้องแผ่นดินญี่ปุ่นไว้ จากการรุกรานของศัตรูอีกด้วย (อ่านข้อมูลเพิ่มได้จากที่นี่ japan-guide.com/Kamakura Daibutsu)


ภาพจาก mototsu view hotel onsen


ภาพจาก mototsu view hotel onsen

          ส่วนในช่วงเย็นเราพักผ่อน พร้อมทานอาหารเย็นที่โรงแรม mototsu view hotel onsen, เฟซบุ๊ก 本栖びゅーほてる


ภาพจาก mototsu view hotel onsen


ภาพจาก mototsu view hotel onsen

          เมนูอาหารเย็นที่ไม่ควรพลาดของที่นี่ก็คือ ขาปูยักษ์ทาระบะที่อร่อยสด ๆ พร้อมด้วยเมนูอาหารคาวที่เป็นของขึ้นชื่อของโรงแรม และของหวานอร่อย ๆ ที่มีให้ทานอย่างครบครันแบบฟินสุด ๆ เลยก็ว่าได้


ภาพจาก mototsu view hotel onsen


ภาพจาก mototsu view hotel onsen

          จุดเด่นของโรงแรมแห่งนี้คือตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาของภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งในช่วงฟ้าใสเราสามารถมองเห็นภูเขาไฟจากระยะไกลได้ นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการแบบฟรี ๆ แล้วในช่วงเช้าและเย็น และยังสามารถเดินทางไปชมความสวยงามของ Lake Motosu ได้อีกด้วย


ภาพจาก Instagram.com / artfully79
 
          Lake Motosu (ทะเลสาบโมะโตะซุ) เป็นทะเลสาบที่อยู่ทางทิศตะวันตกมากที่สุดในบรรรดาทะเลสาบฟูจิทั้งห้า ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดยะมะนะชิ ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบโมะโตะซุถือเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสามและมีความลึกที่สุดในบรรดาทะเลสาบฟูจิทั้งห้า ส่วนที่ลึกที่สุดลึกกว่า 121.6 เมตร ซึ่งทำให้ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่ลึกเป็นอันดับเก้าของประเทศญี่ปุ่น (ข้อมูลจาก th.wikipedia.org/wiki/ทะเลสาบโมะโตะซุ)


ภาพจาก Instagram.com / artfully79


  ภาพจาก Instagram.com / artfully79

          วิวทะเลสาบยามเช้า


          วันที่ 2

          นมัสการ Fujiyoshida Sengen Shrine ขึ้นกระเช้า Kachi Kachi Ropeway ไปยังจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดอีกหนึ่งแห่ง พร้อมชมวิว Lake Kawaguchiko ทานเมนูราเม็งสไตล์ญี่ปุ่น  Houtou nabe ปิดท้ายด้วยเมนู Rokkasen (ปิ้งย่างแบบญี่ปุ่น) สุดยอดอาหารย่านดัง SHINJUKU นอนชิล ๆ ที่โรงแรมย่าน chiba
 

          เข้าสู่ช่วงเช้าวันที่สอง เราออกเดินทางจากที่พักพร้อมการโบกมือลาของโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น ที่ทุกคนที่ทำงานภายในโรงแรมจะต้องมาเรียงแถวส่งด้านหน้าโรงแรม พร้อมโบกมือลาอย่างเป็นมิตร ^^







          เช้าวันนี้เราเดินทางมากันที่  Fujiyoshida Sengen Shrine (ศาลเจ้าฟูจิเซ็นเก็น) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยตัวศาลเจ้าตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของภูเขาไฟฟูจิ มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเคโคะ สร้างขึ้นเมื่อปี 802 และได้มีการบูรณะซ่อมแซมใหม่อีกครั้งในปี 1615 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ japan-guide.com/Fujiyoshida Sengen Shrine)

โตเกียว

โตเกียว
         
            บริเวณด้านหน้าของ Fujiyoshida Sengen Shrine

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          ภายในศาลเจ้าเต็มไปด้วยความร่มรื่นของต้นสนขนาดใหญ่เริ่มตั้งแต่ต้นสนจากบริเวณทางเข้าจำนวนมาก มีความสูงไม่ต่ำกว่า 18 เมตร รวมทั้งต้นสนที่บริเวณหน้าศาลเจ้า 2 ต้น อายุมากกว่าพันปีแถมบริเวณด้านบนของประตูยังมีคำจารึกถึงศาลเจ้าแห่งนี้เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่ามีอายุมากกว่า 1,000 ปีมาแล้วอีกด้วย



          ต้นสนอายุกว่าพันปีหน้า Fujiyoshida Sengen Shrine

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          นอกจากนี้บริเวณด้านหลังของศาลเจ้ายังเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางสำหรับเดินขึ้นไปยัง "ภูเขาไฟฟูจิ" สถานีที่ 9 อีกด้วย ซึ่งในอดีตจะต้องเดินทางผ่านไปด้านหลังของศาลเจ้า แต่ปัจจุบันมีการปรับปรุงเส้นทางให้สะดวกขึ้นทำให้สามารถนำรถขึ้นไปจอดยังสถานีที่ 5 เพื่อเดินเท้าขึ้นไปยังภูเขาไฟฟูจิได้

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          จากนั้นเราเดินทางไปยัง Lake Kawaguchiko (ทะเลสาบคาวาคูจิโกะ) เพื่อขึ้น Kachi Kachi Ropeway (กระเช้าไฟฟ้า คาชิ คาชิ) (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ japan-guide.com/Kachi Kachi Ropeway) ขึ้นยอดเขาเท็นโจซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลสาบกับความสูง 400 เมตร พร้อมชมวิวทะเลสาบคาวาคูจิโกะในมุมสูง

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          สำหรับ Lake Kawaguchiko (ทะเลสาบคาวาคูจิโกะ) และเพื่อน ๆ สามารถดูรายละเอียดและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้จากที่นี่ japan-guide.com

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          เราใช้เวลาไต่กระเช้าขึ้นไปประมาณ 10-15 นาที ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินทางมาเที่ยวนั่นก็คือช่วงใบไม้เปลี่ยนสีช่วงเดือน พฤศจิกายน ธันวาคม และมกราคม ซึ่งจะมองเห็นสีน้ำเงินของทะเลสาบตัดกับสีแดงของใบไม้อย่างสวยแปลกมาก ๆ เลยทีเดียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          เมื่อเดินทางขึ้นไปถึงยอดเขาแล้ว เดินขึ้นไปอีกสักพักจะถึงจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิอีกหนึ่งที่สวย ๆ ที่หลายคนไม่อยากพลาดกับการถ่ายคู่รูปคู่กับตัวกระต่าย และตัวแรคคูน (หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่าตัวทานูกิ) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครที่มาจากนิทานเรื่อง kachi kachi yama กับเรื่องราวของกระต่ายที่จับตัวทานูกิขี้ขโมยได้แล้วนำมาลงโทษด้วยการจับเผาไฟแล้วโยนลงน้ำ จากนั้นก็มีการสร้างตัวกระต่ายและทานูกิไว้เป็นสัญลักษณ์ไว้ด้านบนนี้



โตเกียว

          นอกจากนี้ยังมีบริการถ่ายภาพคู่กับภูเขาไฟฟูจิ และระเบียงร้านขนมไว้บริการด้านบนอีกด้วย แถมบริเวณระเบียงด้านบนของร้าน และบริเวณด้านล่างสุดยังมีซุ้มกระดิ่งรูปหัวใจ (the bell of tenjo) ให้คู่รักได้ถ่ายรูปอีกด้วย

โตเกียว

โตเกียว

          ในช่วงเช้าภูเขาไฟฟูจิ (หรือหลายคนอาจเรียกว่าฟูจิซังขี้อาย) ยังมองไม่เห็นเพราะยังมีเมฆบดบัง





          ส่วนในช่วงเย็นเรายังคงเที่ยวอยู่รอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิจึงสามารถมองเห็นความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิสวย ๆ ในระยะไกลจากบริเวณสถานที่ช้อปปิ้ง Gotemba Premium Outlet

โตเกียว

          ส่วนในช่วงเที่ยงของวันที่สองเราก็เดินทางไปอิ่มอร่อยกับเมนูอาหาร Houtou nabe เป็นชุดราเม็งสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับ Lake Kawaguchiko (ทะเลสาบคาวาคูจิโกะ) นั่นเอง

          ทีเด็ดอยู่ที่หมูและผักที่เสิร์ฟมาด้วยจานร้อน ๆ พร้อมด้วยปลาทอด

โตเกียว

          บริเวณด้านล่างของร้านอาหารเปิดเป็นร้านขายของที่ระลึกหลากหลาย ซึ่งสิ่งของที่โดดเด่นของที่นี่ก็ต้องเป็น Mr.Fuji แน่นอน

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          ปิดท้ายความอร่อยด้วยซอฟต์ครีมรสนุ่มลิ้น ที่มีให้เลือกหลากรสชาติ ทั้งลาเวนเดอร์ พีช ครีม และองุ่น

โตเกียว

โตเกียว

          ปิดท้ายความฟินของวันที่สองด้วยเมนู Rokkasen (ปิ้งย่างแบบญี่ปุ่น) สุดยอดอาหารย่านดัง SHINJUKU กับเมนูเนื้อวากิวแสนอร่อยย่างบนเตาร้อน ๆ แบบสั่งได้ไม่อั้นบุฟเฟ่ต์ ซึ่งใครที่จะมาทานที่ร้านต้องสั่งจองก่อนล่วงหน้าเพราะร้านมักจะเต็มตลอดทั้งวันค่ะ

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

โตเกียว

          เนื้อวากิวแทรกมันสุดฟิน !!!

โตเกียว

โตเกียว

          สำหรับเพื่อนที่สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้ผ่านเว็บไซต์ rokkasen.co.jp ซึ่งมีหน้าเว็บเป็นภาษาไทยให้ได้อ่านง่าย ๆ อีกด้วย


          และที่พักของเราในคืนนี้นั้นก็คือ Wishton Hotel Yukari, เฟซบุ๊ก ウィシュトンホテル・ユーカリ โรงแรมใน chiba ที่เดินทางสะดวกสบายเพราะตั้งอยู่เชื่อมเส้นทางรถไฟและยังมีร้านค้ามากมายตั้งอยู่รอบ ๆ โรงแรม สามารถเดินเที่ยวเล่นได้อย่างสะดวกอีกด้วย

          เรียกได้ว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อเลยสักทีเลยก็ว่าได้ แอบพักความฟินไว้ก่อนดีกว่า...แล้วจะมาเที่ยวโตเกียวให้เต็มอิ่มในครั้งต่อไปค่ะ ><

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
cpall.co.th, japan-guide.com, m-view.jp, wishton.co.jp

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลัดเลาะรอบกรุงโตเกียว ต้องไม่พลาดที่เที่ยวต่อไปนี้ อัปเดตล่าสุด 16 พฤศจิกายน 2558 เวลา 15:10:00 15,685 อ่าน
TOP
x close