แม้ว่าใน 1 ปี เราจะมีวันหยุดให้ได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนกันพอสมควร แต่บางครั้งบางสิ่งบางอย่างก็ทำให้พลาดกับเทศกาลท่องเที่ยวไป สำหรับคนฝันไกลอยากจะไปท่องโลกกว้างในดินแดนอื่น ๆ บ้าง โดยเฉพาะดินแดนอาทิตย์อุทัย ก็ต้องอาศัยจังหวะในทุก ๆ ด้านให้ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเงินในกระเป๋า วันลาพักร้อน เพื่อนร่วมทาง ซึ่งมันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทุกอย่างมาบรรจบกันในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งประเทศที่เราสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็จะมีสิ่งที่น่าสนใจให้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์แตกต่างกัน และวันนี้เราก็ได้รวบรวมกิจกรรมในแต่ละเดือนตลอดทั้งปี มาเพื่อเป็นแนวทางให้ได้เตรียมตัวและศึกษาว่ากิจกรรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวของเดือนแต่ละเดือนนั้นคืออะไร อย่ารอช้าไปดูกันเลย
1. เดือนมกราคม
สกี รีสอร์ท เมือง Hakuba จังหวัดนากาโน่
เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นสถานที่เล่นสกีและสโนบอร์ดที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งทั้งประเทศมีสกี รีสอร์ทเปิดทำการมากกว่า 500 แห่ง แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คือ สกี รีสอร์ท ในเมือง Hakuba ด้วยมีหิมะจำนวนมหาศาลในฤดูหนาว และทัศนียภาพของเทือกเขา Northern Japan Alps ที่งดงามราวกับเมืองในฝัน ซึ่งที่แห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่แข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1998 มาแล้ว ปัจจุบันสกี รีสอร์ท ทุกแห่งในเมือง Hakuba จะอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเล่นกีฬาทุกประเภทในฤดูหนาว บ่อแช่ออนเซ็น ห้องพักสุดหรูหรา ไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น เดือนมกราคมเป็นเดือนที่เข้าสู่ฤดูกาลแห่งหิมะอย่างเต็มที่ จึงเหมาะที่สุดที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์สุดมันกับการเล่นสกี (ข้อมูลจาก hakubatourism.jp, japan-magazine.jnto.go.jp)
2. เดือนกุมภาพันธ์
เทศกาลบอลลูนกระดาษที่ Kamihinokinai เมือง Semboku จังหวัด Akita ภาพจาก Japan Magazine
เทศกาลแห่งการส่องแสงสว่างให้ฟากฟ้าในคืนเดือนมืดด้วยบอลลูนขนาดใหญ่ (ประมาณ 8 เมตร) หลายร้อยใบ ซึ่งถูกวาดลวดลายเป็นภาพผู้หญิงญี่ปุ่นสมัยโบราณหรือซามูไรผู้กล้าหาญอย่างงดงาม ประชาชนต่างเขียนคำขอพรลงไปบนบอลลูน ซึ่งพรส่วนใหญ่มักจะขอให้มีการเก็บเกี่ยวพืชผลดี สุขภาพแข็งแรง การเดินทางที่ปลอดภัย และไม่มีอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ประเพณีนี้มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน และจะจัดขึ้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ของทุกปีที่ Kamihinokinai เมือง Semboku จังหวัด Akita เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00-20.30 น. หากต้องการเขียนคำอวยพรลงบนบอลลูนต้องไปถึงงานก่อน 17.00 น. และในช่วงเวลาประมาณ 18.00-19.00 น. ท้องฟ้าจะสุกสว่างไปด้วยแสงไฟจากบอลลูนมากกว่าร้อยลูกที่ถูกปล่อยขึ้นบนฟากฟ้าพร้อม ๆ กันอย่างสง่างาม (ข้อมูลจาก yokosojapan.org, japan-magazine.jnto.go.jp)
3. เดือนมีนาคม
เทศกาลดอกซากุระบาน กรุงโตเกียว
ใครที่ชื่นชอบในความโรแมนติกของดอกซากุระ ก็ต้องเคลียร์คิวเดือนมีนาคมให้ว่างไว้ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าช่วงเดือนนี้ดอกซากุระจะเบ่งบานอวดสีชมพูหวานไปทั่วทั้งญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละปีจะบานไม่พร้อมกัน บางปีอาจจะออกดอกต้นเดือน บางปีกลางเดือน และบางปีปลายเดือน แต่มักจะคาบเกี่ยวเดือนมีนาคมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะที่สวนอุเอโนะ เมืองโตเกียว ความงดงามของดอกซากุระที่เบ่งบานนับพันต้นได้ทำให้หลงลืมไปเลยว่าสวนแห่งนี้เคยเป็นสมรภูมิรบมาก่อน ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับความงดงามอลังการของดอกซากุระแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ภายในสวนแห่งนี้ได้อีกด้วย (ข้อมูลจาก japan-guide.com)
4. เดือนเมษายน
เทศกาลดอกฟุจิ (Wisteria flowers) จังหวัด Fukuoka ภาพจาก udivitelno.com
ช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่ดอกไม้แข่งกันออกดอกบานสะพรั่ง ซึ่งดอกฟุจิหรือดอก Wisteria ก็จะเผยโฉมตัวเองในช่วงนี้เช่นกัน ประมาณกลางเดือนเมษายน ดอกวิสทีเรียจะผลิดอกออกห้อยระย้าลงเป็นซุ้มอุโมงค์ที่มีสีม่วงสดใสไล่สีไปตั้งแต่ม่วงอ่อนจนถึงเข้มอยู่ภายในสวน Kawachi Fujien แห่งเมือง Kitakyushu จังหวัด Fukuoka เป็นอุโมงค์ดอกไม้ที่โรแมนติกที่สุดที่คนทั่วโลกอยากมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือนสักครั้ง สวนแห่งนี้มีการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 ปลูกต้นวิสทีเรียไว้ประมาณ 150 ต้น มากกว่า 22 สายพันธุ์ บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร และจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงที่ดอกวิสทีเรียบานเท่านั้น แต่ถ้าใครไม่สามารถมาเที่ยวชมได้ในช่วงกลางเดือนเมษายนก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะดอกวิสทีเรียจะบานสวยสง่าไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมเลยทีเดียว (ข้อมูลจาก japan-magazine.jnto.go.jp)
เส้นทางทาเทยามะ คุโรเบะ อัลไพน์ (Tateyama Kurobe Alpine Route) จังหวัดโทยามะ
เดือนเมษายนถือได้ว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดแห่งปีของประเทศไทย แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นเดือนนี้เป็นช่วงที่อากาศยังคงหนาวเย็นจับจิตจับใจ โดยเฉพาะที่จังหวัดโทยามะ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เริ่มเปิดเส้นทางเททายามะ คุโรเบะ อัลไพน์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความมหัศจรรย์ของกำแพงหิมะ หรือยูกิ โนะ โอะทะนิ (Yuki no Otani) ที่สูงตั้งแต่ 5 เมตร ไปจนถึง 20 เมตร ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี ซึ่งในปีนี้ (ปี 2015) จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 22 มิถุนายน เป็นหนึ่งในสถานที่ที่คนไทยสามารถไปหลบร้อนได้อย่างดีเยี่ยม (ข้อมูลจาก japan-guide.com, alpen-route.com)
5. เดือนพฤษภาคม
เทศกาลชมดอกชิบะซากุ จังหวัด Yamanashi
สัมผัสความงดงามของทุ่งดอกชิบะซากุหรือพิงค์มอสมากกว่า 800,000 ต้นที่พร้อมใจกันเบ่งบานอวดโฉมสีชมพูสวยสดในสวนแห่งจังหวัด Yamanashi ซึ่งสีของมันจะตัดกับท้องฟ้าสีครามอย่างสวยงาม ยิ่งไปกว่านั้นยังมีภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังที่อลังการสุด ๆ โดยในปี 2015 สวนจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมกันเลยทีเดียว เปิดตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่สวยงามอย่างเต็มที่
6. เดือนมิถุนายน
เทศกาลซันโน (The Sanno Matsuri festival) ศาลเจ้าฮิเอะ กรุงโตเกียว
หนึ่งใน 3 เทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดกันมาอย่างยาวนาน ชาวบ้านมากกว่า 300 คน จะสวมใส่ชุดแบบโบราณเข้าร่วมขบวนแห่ศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ มีกิจกรรมรื่นเริงให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน เพลิดเพลินไปกับการลิ้มรสอาหารท้องถิ่นและการเลือกซื้อของที่ระลึกอันหลากหลาย ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่แท้จริงผ่านพิธีกรรมชิมชา การแสดงร่ายรำ และเล่นดนตรีพื้นเมืองสุดยิ่งใหญ่ เป็นเทศกาลที่จะช่วยให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้อย่างครบถ้วน ซึ่งในปีนี้จะจัดงานขึ้นในวันที่ 6-17 มิถุนายน (ข้อมูลจาก event-carnival.com, usnery.com)
7. เดือนกรกฎาคม
เทศกาลพลุ Sumidagawa Fireworks Festival เมืองโตเกียว
ทำงานกันมาก็ครึ่งปีแล้ว ถ้าอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนนี้เราก็ขอแนะนำเทศกาลพลุริมแม่น้ำ Sumida เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งเทศกาลของชาวโตเกียว เริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1733 พลุหลากสีสัน หลายรูปแบบมากกว่าพันลูกจะถูกจุดขึ้นบนฟากฟ้า ส่องแสงสว่างเป็นประกายไปทั่วนภาอันกว้างใหญ่ของกรุงโตเกียว ชาวญี่ปุ่นนับหมื่นจะแต่งตัวพื้นเมืองด้วยชุดยูกาตะ (Yukata) อย่างสวยงามมาร่วมงาน ร้านค้า ร้านอาหารท้องถิ่นอีกกว่าร้อยร้านตั้งเรียงรายขายของอย่างน่ารักในบรรยากาศสุดโรแมนติก ซึ่งเทศกาล Sumidagawa Fireworks Festival จะจัดขึ้นในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคมของทุกปี และสำหรับปี 2015 นี้จะจัดขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม ใครมีตั๋วเครื่องบินอยู่ในมือแล้วก็เตรียมตัวไปใส่ชุดยูกาตะที่สวยงามตามแบบฉบับคนญี่ปุ่นกันในเทศกาลนี้ได้เลย (ข้อมูลจาก japan-magazine.jnto.go.jp, elitetraveler.com)
8. เดือนสิงหาคม
ในวันที่ 5-7 สิงหาคมของทุกปี ชาวเมืองมากกว่า 10,000 คน จะร่วมขบวนฟ้อนรำในชุดยูคะตะสีสันสดใส ถือเป็น 1 ใน 4 เทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในเขต Tohoku สามารถดึงดูดผู้ชมมากกว่าหนึ่งล้านคนต่อปี ฮะนะงะซะคือหมวกที่ตกแต่งด้วยดอกไม้ประดิษฐ์ โดยผู้เต้นรำจะสวมใส่และถือมันไว้ระหว่างการฟ้อนรำซึ่งมีไม่ซ้ำกันตลอด 3 วัน ไปพร้อม ๆ กับจังหวะดนตรีพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างสีสันให้กับจังหวัด Yamagata ได้เป็นอย่างดี (ข้อมูลจาก jnto.go.jp)
9. เดือนกันยายน
การแข่งขันซูโม่ รอบที่ 5 ณ สนามกีฬาแห่งชาติเรียวโงะกุ กรุงโตเกียว ภาพจาก J. Henning Buchholz / Shutterstock.com
กีฬาซูโม่หรือมวยปล้ำญี่ปุ่นเป็นกีฬาเก่าแก่ที่มีการสืบทอดมานานมากกว่า 8 ศตวรรษ เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเพณีและวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด ในเดือนกันยายนจะมีการแข่งขันซูโม่แห่งชาติในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับกีฬาอันเก่าแก่นี้อย่างใกล้ชิดภายในสนามกีฬาแห่งชาติเรียวโงะกุ กรุงโตเกียว โดยจะมีการจัดการแข่งขันทั้งหมด 15 วัน บัตรมีราคาแตกต่างกันไปตามแต่ละโซนของที่นั่ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ sumo.or.jp
10. เดือนตุลาคม
ชมทุ่ง Kochia ที่ Hitachi Seaside Park จังหวัด Ibaraki
ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี เตรียมการผลัดใบในฤดูหนาวที่กำลังจะตามมา ต้นไม้ในอุทยานและสวนต่าง ๆ ในญี่ปุ่นจึงเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวขจีเป็นวีเหลือง สีส้ม และสีแดงตามช่วงอายุ โดยเฉพาะที่สวน Hitachi Seaside Park ที่มีต้น Kochia นับพันตั้งพุ่มอย่างสวยงาม เรียงแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยค่อย ๆ พากันผลัดสีจากเขียวเป็นแดงสดใส อวดโฉมตัดกับสีของท้องฟ้า เหมาะสำหรับการพาครอบครัว ลูกหลาน และเพื่อนไปเที่ยวในช่วงปิดเทอมแรกของปี โดยเสียค่าเข้าชมเพียงคนละ 400 เยน เท่านั้น (ข้อมูลจาก english.ibarakiguide.jp)
11. เดือนพฤศจิกายน
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เมืองเกียวโต ภาพจาก MC_Noppadol / Shutterstock.com
การเฝ้ารอคอยชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม่ร่วงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่แตกต่างจากเทศกาลดอกซากุระบาน การเปลี่ยนสีของใบไม้จะเริ่มมาจากทางด้านเหนือของประเทศญี่ปุ่นลงไปทางใต้ ซึ่งสลับกับการบานของดอกซากุระที่มักจะบานจากทางใต้ขึ้นไปด้านบน สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าสามารถชมการเปลี่ยนสีของใบไม้ได้สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ก็คือ ที่เมืองเกียวโต โดยเฉพาะที่อาราชิยาม่า (Arashiyama) ผู้เข้าชมจะได้ดื่มด่ำไปกับภาพของใบไม้สีสดใส ไล่ไปตั้งแต่สีเหลืองอ่อน สีส้ม จนสีแดงสดทั่วทั้งหุบเขา เพลินเพลินไปการเดินเล่นบนสะพานไม้เก่าแก่ สะพาน Togetsukyo ในบรรยากาศเย็นสบายและเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น เป็นความงดงามของที่มีให้ชมกันเพียงครั้งเดียวในหนึ่งปีเท่านั้น (ข้อมูลจาก neutron.rmutphysics.com)12. เดือนธันวาคม
กิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น
ประเพณีปีใหม่ในญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นประเพณีที่มีเสน่ห์มาก ๆ ด้วยคนญี่ปุ่นจะดำเนินตามประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมของบรรพบุรุษ ยิ่งในช่วงวันคริสต์มาสจนถึงปีใหม่กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นจะเริ่มเด่นชัด ทุกคนจะทยอยส่งการ์ดอวยพรปีใหม่ให้แก่กัน ทำความสะอาดบ้านเรือน ไปวัดเพื่อทำบุญ เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต และในวันสิ้นปีภายในเมืองใหญ่อย่างกรุงโตเกียวจะมีกิจกรรมการนับถอยหลังเพื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง การละเล่นต่าง ๆ ร้านค้าทั้งขายอาหารและของที่ระลึกมากมาย การเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ด้วยการจุดพลุสุดอลังการ เป็นต้น
จริง ๆ แล้วในแต่ละในแต่ละเดือนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหรือเทศกาลต่าง ๆ อีกมากมาย เอาเป็นว่าใครว่างกันเดือนไหนก็เตรียมตัวกันให้พร้อม เพื่อจะได้ไม่มีคำว่าพลาดในการเดินทางนะคะ