เยือนเมืองกำแพงเพชร เมืองมรดกโลก นั่งรถรางชมเมืองเที่ยวชม
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ยลโฉมส้วมโบราณ มีอายุเกือบ 700 ปี พร้อมชื่นชมดอกบัวดินที่กำลังบานสะพรั่งช่วงหน้าฝน ปิดท้ายด้วยความอิ่มอร่อยจากบะหมี่ชากังราว
ถ้ามาเยือนเมืองกำแพงเพชร มีเวลาแค่ 1 วัน หรือแค่ครึ่งวัน ควรจะไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้เรามีโปรแกรม
เที่ยวกำแพงเพชร เมืองมรดกโลกแบบสั้น ๆ มาฝากกันค่ะ ซึ่งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย ก็ได้จัดทริปแบบง่าย ๆ แต่ประทับใจขั้นสุดมาให้ เราจึงอยากนำมาบอกต่อให้กับใครที่กำลังจะไปเที่ยวกำแพงเพชร แต่มีเวลาน้อย
การเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรในครั้งนี้ เราได้ไกด์นำเที่ยวกิตติมศักดิ์อย่าง อาจารย์ต๋อง-อมรศักดิ์ กุลสุ มาพาเที่ยวชมค่ะ
จุดเริ่มแรกรถนำเที่ยวมารับเราที่โรงแรมริมแม่น้ำปิง จากนั้นก็มาเรื่อย ๆ บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ผ่านซุ้มน้ำพุและวงเวียนต้นโพธิ์ เข้าสู่เขตเมืองเก่า บรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบมาก ๆ
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จะแบ่งออกเป็น 2 โซน ใหญ่ ๆ คือโซนเมืองชั้นในและโซนนอกกำแพงเมือง (เขตอรัญญิก) ซึ่งแต่ละโซนนักท่องเที่ยวชาวไทยจะต้องซื้อบัตรเข้าเที่ยวชมโซนละ 20 บาท/คน ถ้าเที่ยวชมทั้ง 2 โซนก็ 30 บาท ค่ะ
ภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรค่อนข้างกว้างขวาง สามารถขับรถเที่ยวชมได้เลย โดยจะจ่ายค่ารถยนต์คันละ 50 บาท แต่ถ้าอยากนั่งชมวิวเพลิน ๆ พร้อมกับได้ความรู้จากไกด์ท้องถิ่น แนะนำให้นั่งรถรางชมเมืองค่ะ คนละ 20 เท่านั้น
ใครจะเช่าจักรยานปั่นชมเมืองก็ได้นะคะ :)
รถรางพาเรานั่ง
ชมวิวมาเรื่อย ๆ ก็เข้าสู่เมืองชั้นใน สิ่งที่บ่งบอกได้อย่างดีว่าส่วนนี้คือเมืองชั้นในสุด ก็คือ กำแพงเมืองโบราณ เป็นหินศิลาแลงทั้งหมด มีความสวยงามและน่ามาถ่ายรูปแบบชิค ๆ
กำแพงเมืองชั้นใน
โบราณสถานที่สำคัญภายในเมืองชั้นใน ได้แก่ วัดพระแก้ว พระอารามหลวงขนาดใหญ่, วัดพระธาตุ, ศาลหลักเมือง, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์เรือนไทย และศาลพระอิศวร ใครที่มีเวลามากหน่อยสามารถแวะลงไปเที่ยวชมถ่ายรูป และไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันได้ตามอัธยาศัย อ๊ะ ๆ แต่อย่าลืมเรื่องการแต่งกายด้วยนะคะ เพราะเขตอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรเป็นเขตพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ ควรแต่งกายสุภาพมาเดินเที่ยวชม
โซนทางด้านนอกกำแพงเมือง เป็นโซนที่มีโบราณสถานสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้เขตเมืองชั้นในเลยค่ะ เรายังคงนั่งรถรางชมเมืองมาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ออกจากกำแพงเมืองมาเรื่อย ๆ จะเห็นป้ายทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และจุดจำหน่ายบัตร
จากจุดจำหน่ายบัตรเราแวะที่แรกคือ
วัดอาวาสใหญ่ เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองกำแพงเพชร ภายในวัดมีเจดีย์และวิหารต่าง ๆ โดยสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นหลักฐานยืนยันว่าวัดแห่งนี้มีความสำคัญ ก็คือ
เวจกุฎี ซึ่งเป็นส้วมโบราณที่จะมีการใช้เฉพาะในวัดเท่านั้น
โดยส้วมโบราณที่อยู่ในวัดอาวาสใหญ่ จะมีลักษณะเป็นฐานสี่เหลี่ยม ก่อขึ้นจากหินศิลาแลง มีบันไดทางขึ้น ส่วนตรงกลางส้วมจะมีรางท่อน้ำ และส่วนหลุมรองของเสีย เป็นการแยกกากแยกน้ำ อันเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณ ถ้าเป็นกุฏิของพระสงฆ์ที่มียศสูง ก็จะมีส้วมอยู่ภายในกุฏิด้วย
กุฏิของพระสงฆ์ที่มียศสูง จะมีส้วมอยู่ด้านใน
ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงขึ้นไปด้านบน
หลุมส้วมค่อนข้างลึก
สถานที่ต่อไปที่ห้ามพลาดก็คือ
วัดช้างรอบ ตัววัดตั้งอยู่บนเนิน อันเป็นจุดสูงสุดของเขตอรัญญิก มีเจดีย์ประธานทรงระฆังขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ปัจจุบันยอดหักแล้ว เหลือฐานสี่เหลี่ยมสูงใหญ่ ประดับด้วยช้างปูนปั้นครึ่งตัว จำนวน 68 เชือก มีบันไดอยู่ทั้งสี่ด้าน สามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมด้านบนได้ แต่ต้องระมัดระวัง เพราะบันไดชันมาก
สถานที่ต่อมาอยู่ไม่ไกลกันค่ะ นั่นก็คือ
วัดพระสี่อิริยาบถ สิ่งสำคัญของวัดนี้ที่สามารถมองเห็นได้เด่นชัดที่สุดก็คือวิหารสูงใหญ่ ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปใน 4 อิริยาบถ คือเดิน นั่ง ยืน นอน ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงแค่พระยืนทางด้านทิศใต้ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่อยู่ในละแวกเดียวกันนี้ก็คือ ส้วมโบราณ ซึ่งจะแตกต่างกับส้วมที่วัดอาวาสใหญ่ เพราะไม่มีฐาน ส้วมจะอยู่ติดกับดิน หลุมลึกเช่นกัน
ห่างกันไม่ไกลจะเป็น
วัดพระนอน สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจบริเวณนี้ในยามหน้าฝน ก็คือ ดอกบัวดิน ที่กำลังบานสะพรั่ง สีขาวบริสุทธิ์ไปทั่วลานวัด มีให้ชมปีละครั้งเท่านั้นค่ะ
ดอกบัวดินกำลังบานสะพรั่งทั่วลานวัดพระนอน
ในโซนวัดพระนอน ตัววัดจะมีขนาดใหญ่ ใช้ศิลาแลงในการก่อสร้างเกือบทั้งหมด สิ่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ก็คือส่วนของวิหาร เราจะเห็นเสาศิลาแลงแท่งเดียวขนาดใหญ่ ปักเรียงกันอยู่ในอาคาร ด้านหน้าวิหารจะมีแท่นประดิษฐานพระนอน ปัจจุบันไม่มีแล้ว ส่วนทางด้านหลังวัดจะเป็นเจดีย์ประธานทรงระฆังฐานแปดเหลี่ยม
นอกจากนี้ในโซนอรัญญิกยังมีวัดที่สวยงามให้ชมอีกกว่า 20 แห่ง ใครมีเวลามากหน่อย ก็สามารถลงแวะเที่ยวชมกันได้เลยค่ะ ส่วนถ้าใครหิวหน่อย ๆ ตามเราไปกินของอร่อยแห่งเมืองกำแพงเพชรกันต่อได้เลย
ปิดท้ายทริปนี้ด้วยของกินอร่อย ๆ ของเมืองกำแพงเพชรค่ะ
\'บะหมี่ชากังราว\' ซึ่งมีความอร่อยแตกต่างจากร้านบะหมี่เกี๊ยวทั่วไป
เพราะเขาจะทำเส้นเอง เส้นบะหมี่จะนุ่มนอกกรอบใน กัดเข้าไปจะรู้ว่ามันหนึบ ๆ
อร่อยไม่เหมือนที่ไหนเลยค่ะ มีทั้งแบบน้ำและแห้ง ราคาเริ่มต้นเพียงแค่ชามละ
30 บาท ดีเริดมาก ! ^^
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรได้ที่ อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
โทรศัพท์ 0 5585 4736 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย
โทรศัพท์ 0 5561 6228
ทริปนี้เราได้ทั้งความรู้และความอิ่มอร่อย
เห็นไหมล่ะ...มีเวลานิดเดียวก็เลี้ยวก็แวะมาเที่ยวกันได้
ใครเดินทางผ่านไปยังเมืองกำแพงเพชร
แต่มีเวลาเล็กน้อยก็ลองเที่ยวตามรอยเราได้นะคะ
รับรองสนุกสนานเพลิดเพลินแน่นอน :)ขอขอบคุณข้อมูลจาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย,
travel.kpppao.go.th,
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร