10 ดอยสูงในประเทศไทย ที่กำลังรอคอยนักท่องเที่ยวให้ไปพิชิตความสูง พร้อมกับชื่นชมทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงามแบบวางสายตาไม่ลง
1. ดอยอินทนนท์ ความสูงระดับ 2,565 เมตร
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยอีกด้วย พื้นที่ส่วนใหญ่ของดอยอินทนนท์ประกอบไปด้วยสภาพพื้นป่าที่หลากหลาย ทั้งป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเบญจพรรณ และมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาว ดอยอินทนนท์จะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ เพราะจะมีหมอกเข้าปกคลุม น้ำค้างกลายเป็นแม่คะนิ้งสวยงาม เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างอยากที่จะมาพิชิตยอดดอยอินทนนท์กันไม่ขาดสาย
คำแนะนำ : สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากพิชิตยอดดอยอินทนนท์ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถขึ้นไปได้เลย ทางขึ้นเขาไม่อันตราย ขับมาได้แบบสบาย ๆ ไม่เหนื่อย และยังสามารถแวะชมวิวสวย ๆ ข้างทางไปได้เรื่อย ๆ แต่ถ้าใครอยากได้ฟีลแบบผจญภัย ที่นี่ก็มี "เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน-ดอยอินทนนท์" เอาไว้เรียกเหงื่อ (สามารถติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว)
● สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 053 286 729 หรือเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ - Doi Inthanon National Park
2. ดอยผ้าห่มปก ความสูงระดับ 2,285 เมตร
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่ เป็นยอดดอยที่มีความสูงเป็นอันดับสองของประเทศ ความงดงามบนยอดดอยที่นี่ นับว่ามีวิวทิวทัศน์ที่งดงามอย่างยากจะบรรยาย ยิ่งช่วงหน้าหนาวความสวยงามยิ่งมีมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า มีจุดสำหรับชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง รวมถึงการได้ชื่นชมและทัศนาเหล่าสรรพสัตว์น้อยใหญ่หายากทั้งหลาย เช่น ผีเสื้อมรกตผ้าห่มปก และต้องไม่ลืมที่จะชื่นชมความงดงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินบนดอยผ้าห่มปกด้วยนะ
คำแนะนำ : สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพิชิตยอดดอยผ้าห่มปก สามารถขึ้นไปนอนกางเต็นท์ได้ที่จุดลานกางเต็นท์กิ่วลม โดยทำการเช่าเต็นท์ของอุทยานพร้อมเครื่องนอนหรือจะนำเต็นท์มาเองก็ได้ บนยอดกิ่วลมไม่มีร้านอาหาร นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมอาหารและน้ำดื่มมาเอง แต่มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำไว้บริการ
● สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โทรศัพท์ 084 483 4689, 052 080 801 หรือเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
3. ดอยหลวงเชียงดาว ความสูงระดับ 2,195 เมตร
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งยอดดอยสุดฮิต ที่นักท่องเที่ยวหลายคนอยากที่จะพิชิตให้ได้ อากาศบนยอดดอยหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี และเมื่อยืนอยู่บนยอดดอยจะเห็นวิวธรรมชาติโดยรอบ 360 องศา มองลงไปเบื้องล่างเห็นภูเขาสลับซับซ้อน ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการชมวิว เพราะแทบไม่มีอะไรมาบดบังสายตา อีกทั้งบริเวณยอดดอยยังมีเส้นทางให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมพรรณไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ดอกกุหลาบขาวจะบานชูช่อสวยงาม
คำแนะนำ : การขึ้นเที่ยวดอยหลวงเชียงดาวอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน และจะต้องติดต่อขออนุญาตก่อนขึ้น ที่พักบนยอดดอยหลวงเชียงดาว นักท่องเที่ยวต้องพักตรงบริเวณอ่างสลุง และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ทั้งสิ้น นักท่องเที่ยวจึงต้องเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้จำเป็นต่าง ๆ ไปเอง
● สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว โทร. 053 456 623 หรือเฟซบุ๊ก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่
4. ภูสอยดาว ความสูงระดับ 2,102 เมตร
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ นับเป็นผืนป่าธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง จุดเด่นล่อตาล่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนอยากที่จะไปพิชิตยอดภูสอยดาวสักครั้ง นั่นคือการได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงหรือดอกหงอนนาค และดอกไม้ป่าสวย ๆ มากมายหลากหลายชนิด ที่ออกดอกชูช่อบานสลับสีสันอยู่ทั่วลานสน ยิ่งถ้าได้ไปในช่วงหน้าฝนจะยิ่งประทับใจมากเป็นสองเท่า ตลอดจนเส้นทางเดินระหว่างขึ้นภูสอยดาว นักท่องเที่ยวจะได้พบเจอกับธรรมชาติสองข้างทางที่งดงามจับใจ ที่จะช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไม่มากก็น้อย
คำแนะนำ : การเดินทางพิชิตจะต้องเตรียมตัวมาให้พร้อม เพราะเส้นทางจัดได้ว่าค่อนข้างโหด ต้องผ่านเนินทั้ง 5 ได้แก่ "เนินส่งญาติ" "เนินปราบเซียน" "เนินป่าก่อ" "เนินเสือโคร่ง" และ "เนินมรณะ" โดยนักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อที่พักและลูกหาบก่อนขึ้นไปยังยอดดอยภูสอยดาว
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ นับเป็นผืนป่าธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง จุดเด่นล่อตาล่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนอยากที่จะไปพิชิตยอดภูสอยดาวสักครั้ง นั่นคือการได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงหรือดอกหงอนนาค และดอกไม้ป่าสวย ๆ มากมายหลากหลายชนิด ที่ออกดอกชูช่อบานสลับสีสันอยู่ทั่วลานสน ยิ่งถ้าได้ไปในช่วงหน้าฝนจะยิ่งประทับใจมากเป็นสองเท่า ตลอดจนเส้นทางเดินระหว่างขึ้นภูสอยดาว นักท่องเที่ยวจะได้พบเจอกับธรรมชาติสองข้างทางที่งดงามจับใจ ที่จะช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไม่มากก็น้อย
คำแนะนำ : การเดินทางพิชิตจะต้องเตรียมตัวมาให้พร้อม เพราะเส้นทางจัดได้ว่าค่อนข้างโหด ต้องผ่านเนินทั้ง 5 ได้แก่ "เนินส่งญาติ" "เนินปราบเซียน" "เนินป่าก่อ" "เนินเสือโคร่ง" และ "เนินมรณะ" โดยนักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อที่พักและลูกหาบก่อนขึ้นไปยังยอดดอยภูสอยดาว
● สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทร. 095 629 9528 หรือเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีพื้นที่ครอบคลุมจังหวัดนครสวรรค์และกำแพงเพชร นักท่องเที่ยวที่ต้องการพิชิตยอดเขาโมโกจู จำเป็นที่จะต้องติดต่อจองช่วงเวลากับเจ้าหน้าที่ก่อนให้เรียบร้อย ขณะเดียวกันก็ต้องปฏิบัติตามกฎและระเบียบต่าง ๆ โดยเคร่งครัด ที่สำคัญต้องฟิตร่างกายมาให้พร้อม เพราะทางเดินขึ้นเขาที่นี่มีความลาดชันไม่ต่ำกว่า 60 องศา และใช้เวลาเดินทางไป-กลับหลายวัน ต้องนอนค้างในป่าตามจุดที่กำหนด แต่ถ้าได้ลองขึ้นไปเห็นวิวข้างบนแล้ว รับรองว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ดังนั้นใครที่เตรียมตัวจะมาพิชิตยอดเขาโมโกจู ควรต้องศึกษาสภาพเส้นทางและอากาศไว้ให้เรียบร้อยจะดีที่สุด
คำแนะนำ : การพิชิตยอดเขาโมโจกู นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่อุทยานเสียก่อน ทั้งนี้ เพื่อฟังกฎข้อระเบียบต่าง ๆ เพราะนักท่องเที่ยวจะเดินขึ้นเขาตลอดเส้น ทั้งยังต้องใช้ระยะเวลาเดินไป-กลับอยู่หลายวัน หากแต่สิ่งเหล่านี้กลับเป็นความท้าทายที่นักเดินป่าทุกคนอย่างที่จะมาทดสอบฝีเท้าด้วยกันทั้งนั้น
● สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โทร. 09 0457 9291 หรือเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ Mae Wong National Park
6. ดอยภูแว ความสูงระดับ 1,837 เมตร
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน บนยอดดอยมีลักษณะเป็นทุ่งหญ้า ไม่มีต้นไม้ใหญ่ มียอดเขาหลายลูกเรียงตัวกันเป็นสันเขาทอดตัวยาว และเป็นเทือกเขาเดียวกับภูเขาอัลไต มีลานหิน หน้าผา และพันธุ์ไม้ที่สำคัญ เช่น ดอกกุหลาบพันปี ค้อ ทุ่งดอกไม้ ผาแอ่น ผาผึ้ง เป็นสถานที่ชมวิวทิวทัศน์และทะเลหมอกอันสวยงาม ไฮไลต์สำคัญอยู่ในช่วงบ่ายแก่ ๆ ทุ่งหญ้าสีเขียวสดยามโดนแดดส่อง จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีทองตามแสงแดด เป็นภาพความสวยงามที่คุณจะไม่มีวันลืม
คำแนะนำ : นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าขึ้นไปเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตรก่อนจะถึงดอย ช่วงเวลาที่เหมาะสำที่สุดในการเดินขึ้นไปพิชิตดอยภูแว อยู่ระหว่างช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงอากาศกำลังหนาวได้ที่ และนักท่องเที่ยวยังจะได้ชื่นชมทะเลหมอกสวย ๆ อีกด้วย
● สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 054 731 362 หรือเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยภูคา - Doi Phu Kha National Park
7. ยอดเขาหลวง ความสูงระดับ 1,835 เมตร
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ยอดเขาหลวงแห่งนี้เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารและคลองต่าง ๆ มากมาย สภาพภูมิประเทศโดยรอบเป็นป่าดงดิบชื้นและป่าดิบเขา มีเส้นทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีความหลากหลายทางธรรมชาติค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่าเฟิร์นโบราณและกล้วยไม้หายาก อีกทั้งยังเป็นดินแดนสวรรค์ของกล้วยไม้เมืองไทยที่หายากและควรค่าแก่การอนุรักษ์
คำแนะนำ : นักท่องเที่ยวที่ต้องการพิชิตยอดเขาหลวง จะต้องใช้เส้นทางเดินเท้าเป็นระยะเวลากว่า 14 ชั่วโมง จึงจะถึงยอดเขาหลวง ซึ่งอาจจะต้องทำการค้างคืนประมาณ 1-2 คืน ช่วงเดือนที่เหมาะจะเดินป่ายอดเขาหลวงคือเดือนมกราคม-มิถุนายน
● สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาหลวง โทร. 075 300 494 หรือเฟซบุ๊ก
อุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช
8. ดอยเวียงผา ความสูงระดับ 1,834 เมตร
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวในช่วงหน้าหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกกุหลาบพันปี และ ดอกกุหลาบขาว จะออกดอกบานสะพรั่ง รวมถึงยังจะได้เห็นทะเลหมอกบนสันเขา ที่ทอดยาวอย่างสวยงาม เหล่านี้ล้วนเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและน่าประทับใจไปทั่วทั้งยอดดอย นอกจากนี้ยังมี "น้ำตกห้วยทรายขาว" น้ำตกสวย 3 ชั้น ขนาดเล็กที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าเข้าไปชมได้ไม่ยาก
คำแนะนำ : นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังยอดดอยเวียงผา จำเป็นจะต้องติดต่อกับทางอุทยาน ทั้งนี้ก็เพื่อมีเจ้าหน้าที่คอยนำทาง โดยทางอุทยานจะมีบ้านพักและสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับนักท่องเที่ยวไว้เสร็จสรรพ
● สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา โทร. 087 186 2118, 053 317 535 หรือเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา
9. ภูแผงม้า ความสูงระดับ 1,775 เมตร
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก บนภูแผงม้า ถือเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน และมีเฉลียงใหญ่ไว้รองรับนักท่องเที่ยวเพื่อชมวิว และทิวเขาสลับซับซ้อน มองออกไปเบื้องหน้าเห็นหมู่บ้านน้ำเพียงดิน มองเห็นอำเภอหล่มสัก ที่สำคัญมองเห็นเส้นทางถนนคดเคี้ยวระหว่างทางขึ้นมายังภูหินร่องกล้า นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมความงามบนเทือกเขาสูงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ใครลองได้ไปแล้วไม่มีผิดหวัง
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากพิชิตภูแผงม้า สามารถนำรถขึ้นไปได้ (ควรเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ) และยังพักค้างคืนที่นั่นได้อีกด้วย บริเวณที่พักบนเขาจะมีจุดกลางเต็นท์ และห้องน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยว แนะนำว่าให้คุณเดินทางไปช่วงหน้าหนาว เพราะหน้าฝนจะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและรักษาความปลอดภัย
● สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร. 063 780 5646 หรือเฟซบุ๊ก ภูหินร่องกล้า ดินแดนประวัติศาสตร์ มหัศจรรย์ธรรมชาติ
10. ดอยมด ความสูงระดับ 1,700 เมตร
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนแจ จังหวัดเชียงราย สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามเขียวขจี บนยอดดอยมีลักษณะโล่งเตียน ไม่มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม เพราะเป็นช่องลมที่มีลมพัดผ่านตลอดเวลา ทำให้ต้นไม้ใหญ่ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ จะมีเพียงต้นไม้พุ่มแคระแกรนขึ้นอยู่บนยอดดอยเท่านั้น สำหรับดอยมดนั้นเป็นต้นน้ำของแม่น้ำลาง ลำน้ำแม่เจดีย์ ลำน้ำแม่วง และลำน้ำแม่ขอด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสายน้ำที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวบ้านในการเพราะปลูกอีกด้วย
คำแนะนำ : จากตัวอุทยานแห่งชาติขุนแจ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเดินทางไปจนถึงหมู่บ้านขุนลาว (ควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ) สภาพถนนเป็นคอนกรีตสลับกับดินแดงเป็นช่วง ๆ จากนั้นลงเดินเท้าต่อไปพิชิตดอยมด ต้องเดินเท้าขึ้นไปราว ๆ 3-4 ชั่วโมง รวมระยะทางประมาณ 6-8 กิโลเมตร
● สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติขุนแจ โทร. 084 366 5213 หรือเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติขุนแจ - Khun Chae National Park
หากใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแนวกึ่งผจญภัยอยู่แล้วละก็ ยอดดอยสูงทั้ง 10 ที่ที่เราเอามาฝากกัน น่าจะเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สำหรับการไปเที่ยวกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแม้แต่คนรู้ใจ แต่สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เมื่อเพื่อน ๆ ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติแบบนี้แล้ว ควรช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวนั้น ๆ เพื่อที่ว่าเราจะได้มียอดดอยสวย ๆ แบบนี้ให้เราได้พิชิตไปนาน ๆ ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
, 
, , , เฟซบุ๊ก เรารักดอยหลวงเชียงดาว - We love Doi Luang Chiang Dao, เฟซบุ๊ก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงราย, tatcontactcenter.com
