ที่เที่ยวหน้าหนาว กับ 15 ยอดดอยสุดสวย
เป็นดอยที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงาม เต็มไปด้วยเทือกเขา ว่ากันว่ายอดเขานี้เปรียบเสมือนเส้นทางมหัศจรรย์ เนื่องด้วยความงดงามของภูเขาที่อาบแสงอาทิตย์เป็นสีทองทอดยาวไกลสุดตากลางป่าลึกของอมก๋อย กับเส้นทางเดินเลาะเลียบริมของฟ้าไปบนทุ่งหญ้าสันเขา ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่งดงามยิ่งนัก จึงทำให้นักเดินทางหลายคนหลงมนตร์เสน่ห์ของดอยม่อนจองแห่งนี้กันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถรับชมความงามของ กุหลาบพันปี (Rhododendron arboretum subsp. Delavayi) บนเส้นทางขึ้นยอดดอยหัวสิงห์ ยอดเขาที่สูงที่สุดแห่งดอยอมก๋อย จะมีกุหลาบพันปีสีแดงสดใส ซึ่งเป็นพืชหายาก อีกทั้งมีเพียงไม่กี่ที่ในประเทศเท่านั้นที่จะสามารถไปชมได้ ทำให้นักเดินทางตั้งหน้าตั้งตารอคอยยามที่มันผลิดอกในช่วงหน้าหนาว เพื่อจะได้มาสัมผัสกับดอกกุหลาบพันปีแห่งดอยม่อนจองแห่งนี้
การเดินทาง : ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย หน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ 131 หมู่ 2 ตำบลยางเปียง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ 50310 การเดินทางจากกรุงเทพ ฯ มุ่งหน้าสู่อำเภอฮอต จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นไปตามทางหลวงหมายเลข 108 และแยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1099 มุ่งหน้าสู่อำเภออมก๋อย จากนั้นเดินทางต่อไปยังหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอเพื่อแจ้งความจำนงและติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อนำรถขับเคลื่อนสีล้อไปยังจุดเดินขึ้นสู่ดอยม่อนจอง ทั้งนี้ดอยม่อนจองไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ หากต้องการพักแรมนักท่องเที่ยวต้องนำเต็นท์และอาหารไปเอง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ 131 หมู่ 2 ตำบลยางเปียง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ 50310 ติดต่อ นายสมบัติ อ่อนสะอาด โทรศัพท์ 08 5708 7441
2. ดอยแม่ตะมาน
ตั้งอยู่ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน บริเวณพื้นที่สถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะ ซึ่งเป็นหน่วยงานของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในทำเลบนดอยสูง จึงมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวจัดถึงขนาดอุณหภูมิเลขตัวเดียว ประกอบกับเป็นทำเลที่มีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม มีทะเลหมอก ดอกไม้ สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงาม อีกทั้งยังสามารถมองเห็นเทือกดอยหลวงเชียงดาวที่สูงตระหง่านอยู่เบื้องหน้าได้อย่างชัดเจนและสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงยามเช้าตรู่ในมุมทางด้านตะวันออกจะมีพระอาทิตย์ขึ้น บริเวณเชิงดอยเชียงดาวจะเห็นทะเลหมอกปกคลุมหนาตา ซึ่งหากเป็นช่วงธันวาคม-มกราคมจะมีดอกนางพญาเสือโคร่งผลิดอกบานชูช่อสวยงาม ช่วยสร้างบรรยากาศให้น่าท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีดอกไม้เมืองหนาวบางชนิดที่ปลูกไว้ให้ชม และยังมีนกอีกหลายชนิดให้ชื่นชมอีกด้วย
การเดินทาง : เริ่มต้นจากเชียงใหม่-ดอยแม่ตะมานหรือป่าเกี๊ยะ ให้ใช้เส้นทางหมายเลข 107 จากเชียงใหม่ ผ่านแม่ริม แม่มาลัย จากนั้นมุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงดาว ถึงบ้านแม่นะบริเวณ กม.67 ทางเข้าวัดพระธาตุจอมคีรี มีทางแยกซ้ายมือมีป้ายเขียนว่า "หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน" ประมาณ 21 กิโลเมตร จะพบทางแยกให้เลี้ยวขวาสภาพทางเป็นลูกรังจะค่อนข้างชัน ผ่านหมู่บ้านปางโฮ่งและปางฮ่าง ทางจะขึ้นชันมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงด่านที่จะแยกไปหน่วยพิทักษ์ป่าเด่นหญ้าขัด ตรงไปขวามือจะพบทางแยกไปโรงเรียนบ้านสันป่าเกี๊ยะ จากนั้นจะถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ตรงไปอีกสัก 500 เมตร ทางจะขึ้นสูงก็จะถึงสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว ทั้งนี้การเดินทางสู่ดอยแม่ตะมาน แนะนำให้ใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อจะสะดวกที่สุด เพราะสภาพถนนดินกลางป่าบางช่วงขึ้นดอยสูง เส้นทางคดเคี้ยว มีร่องน้ำบ้าง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0 5322 2014 , 08 1289 4139
3. ดอยม่อนล้าน
ตั้งอยู่ในตำบลป่าตุ้ม อำเภอพร้าว เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งัด ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา จังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นดอยที่มีความสูงเหนือน้ำทะเลประมาณ 1,696 เมตร และเป็นต้นกำเนิดของน้ำแม่สะลวม น้ำห้วยโก๋น ไหลลงสู่น้ำแม่งัด มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ทั้งนี้หากวันไหนที่ท้องฟ้าแจ่ม ๆ จะสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาว เขื่อนแม่งัด และตัวอำเภอพร้าวได้ทั้งอำเภอ สวยงดงามตระการตาราวกับ "ดาวบนดิน" เลยทีเดียว ซึ่งที่มาของความสวยงามเหล่านั้น ก็คือ แสงไฟจากเมืองพร้าวที่ส่องระยิบระยับอยู่เบื้องล่างนั่นเอง ส่วนในช่วงเช้าและช่วงเย็นนักท่องเที่ยวจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม นอกจากจะได้เห็นความงามของธรรมชาติกันไปแล้ว ยังได้ลิ้มรสผลิตภัณฑ์และผลิตผลทางการเกษตรกันแบบสด ๆ ซึ่งเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวไทยภูเขาได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกด้วย ทุกวันนี้ดอยม่อนล้านกำลังเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นทุกปี ถึงแม้การเดินทางอาจจะลำบากไปบ้าง แต่เพื่อให้ได้ชมทะเลหมอกที่สวยงาม พร้อมกับสัมผัสอากาศหนาว ๆ นับว่าคุ้มค่าแล้วที่ได้ขึ้นมาบนยอดดอยแห่งนี้
การเดินทาง : มีทางเลือกให้มาได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นแรกจากจังหวัดเชียงใหม่-พร้าว ทางหลวงหมายเลข 1001 ระยะทาง 94 กิโลเมตร แล้วมาเลี้ยวแยกขวาพร้าว-เวียงป่าเป้าทางหลวงหมายเลข 1150 ระยะทาง 53 กิโลเมตร มาแยกซ้ายที่บ้านต้นคอก ระหว่างกิโลเมตรที่ 32-33 ถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะลวม แล้วไปต่อจนถึงพื้นที่รับเสด็จ (ถนนดิน) รวมระยะทางทั้งหมด 124.5 กิโลเมตร เส้นทางที่สอง หากมาทางบ้านขุนแจ่ ผ่านโครงการหลวงแม่ปูนหลวงหน่วยจัดการต้นน้ำพร้าว บ้านแม่ปูนหลวง ไปจรดหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะลวมได้เหมือนกัน แต่ระยะทางรวมแล้วไกลกว่าเส้นแรก แต่ไม่ว่าจะมาเส้นไหนก็ตามอาจจะลำบากในบางช่วงที่ยังเป็นถนนดิน ยิ่งโดยเฉพาะยามฝนพรำถนนจะลื่นเฉอะแฉะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) 78 ทำเนียบรัฐบาล ถนนราชดำเนินนอก เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์ 0 2280 6193-99 หรือเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงฯ โทรศัพท์ 08 9554 1025
4. ดอยม่อนเงาะ
ภาพจาก thairoyalprojecttour.com
ตั้งอยู่ในพื้นที่ของบ้านม่อนเงาะ หมู่ที่ 5 ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านชาวม้ง ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถมองเห็นยอดดอยที่สลับและลดหลั่นกันไปไกลสุดลูกหูลูกตา โดยทางด้านทิศตะวันตกจะมองเห็นดอยอินทนนท์ ส่วนถัดมาทางด้านทิศเหนือจะเป็นดอยฟ้าห่มปก และถัดมาประมาณด้านตะวันออกจะเป็นดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งในช่วงฤดูหนาวจะสามารถขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ชมทะเลหมอก และรับลมหนาวบรรยากาศดีสุด ๆ ส่วนในตอนเย็นจะรอดูพระอาทิตย์ตกดินก็ได้อารมณ์ไม่แพ้กัน ทั้งนี้การเดินทางขึ้นไปเที่ยวดอยม่อนเงาะจะมีการเสียค่าธรรมเนียมเพื่อใช้สำหรับการดูแลสถานที่ราคา 20 บาทต่อคน ค้างแรม 50 บาท เช่าเต็นท์ 100 บาท ค่าก่อกองฟืน 300-500 บาท
ภาพจาก thairoyalprojecttour.com
นอกจากนี้ภายในบริเวณนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งได้ปลูกพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน โดยมีการส่งเสริมอาชีพให้แก่ชาวบ้านเช่น ไร่ชา สวนส้ม ฟักทองญี่ปุ่น เมี่ยง ซึ่งหากต้องการเข้าชมก็สามารถติดต่อสอบถามภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะได้เลย ซึ่งบริเวณโดยรอบศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะเป็นชุมชนขนาดไม่ใหญ่มากนัก สามารถเดินเที่ยวชมความเป็นอยู่ของชาวบ้าน แวะถ่ายรูปได้สบาย ๆ อย่างไรก็ตามสิ่งอำนวยความสะดวกที่บนดอยม่อนเงาะไม่ค่อยมีเท่าไร แต่มีห้องน้ำเป็นเพิงไว้คอยให้บริการ ร้านค้าจะเปิดเฉพาะในช่วงเทศกาล แนะนำให้เตรียมของก่อนออกเดินทางจะสะดวกมากกว่า หรือซื้อตามหมู่บ้านข้างทางก่อนขึ้นดอยม่อนเงาะ ส่วนถ้าจะพักค้างแรมควรเตรียมอาหารการกินให้พร้อมก่อนออกเดินทางไว้ด้วยนะจ๊ะ
การเดินทาง : เริ่มต้นเดินทางจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางโดยใช้เส้นทางหมายเลข 107 มุ่งหน้าไปทางอำเภอแม่ริม เข้าสู่อำเภอแม่แตง จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 1095 (เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางไปสู่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระยะทาง 100 กิโลเมตรกว่า ๆ) เข้าไประยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร จะเห็นป้ายบอกทางเข้าสู่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ และตำบลเมืองก๋าย อยู่ทางด้านขวามือ (ทางเข้าอยู่ก่อนถึงโรงเรียน) เข้าไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร จะเจอทางแยกมีป้ายบอกทางให้เลี้ยวซ้ายไปบ้านม่อนเงาะ (จุดชมวิว บ้านอยู่ด้านบนสุด) เข้าไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร ช่วงนี้ถนนจะเริ่มแคบเป็นทางขึ้นเขา รถวิ่งสวนทางกันเกือบจะไม่ได้เป็น และช่วงถัดไปจะเป็นถนนคอนกรีตและถนนลูกรังสลับกันไปจนถึงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ ขับเลยไปอีกนิดจะเห็นทางเข้าอยู่ทางด้านขวามือ เข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงที่หมาย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ บ้านม่อนเงาะ หมู่ 5 ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 50150 โทรศัพท์ 053-318-308 หรือเว็บไซต์ royalprojectthailand.com
5. ดอยเสมอดาว
การเดินทาง : ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ไปถึงอำเภอเวียงสา เลี้ยวขวาไปตามถนนเจ้าฟ้า ทางหลวงจังหวัดหมายเลย 1026 จากอำเภอเวียงสาไปอำเภอนาน้อย ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายเข้าไปดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ (มีป้ายบอกชัดเจน) ขับเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงลานจอดรถดอยเสมอดาว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมป่าไม้ กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2562 0760 หรืออุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ ปณ.14 อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150 บ้านพักอุทยานฯ ที่ผาชู้ โทรศัพท์ 0 5470 1160 หรือเว็บไซต์ www.dnp.go.th
6. ดอยกาดผี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วนอุทยานดอยกาดผี
หรือวนอุทยานดอยกาดผี ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ลาวฝั่งซ้ายและแม่กกฝั่งขวา ตำบลห้วยชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มีเนื้อที่ประมาณ 6,250 ไร่ เป็นชะง่อนผาที่อยู่ในระดับความสูงประมาณ 1,500 เมตร เป็นดอยย่อยของดอยช้างอีกทีหนึ่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว ตลอดจนเทศกาลและประเพณีต่าง ๆ โดดเด่นด้วยทิวทัศน์ที่มีความสวยงาม เป็นจุดชมวิว ชมพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอกชั้นเลิศแบบ 360 องศา ถัดไปใกล้ ๆ กันมีแหล่งท่องเที่ยวให้ไปเยี่ยมเยือนอีกมาก อาทิ "ดอยวาวี" แหล่งปลูกชา และ "ดอยช้าง" ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟรสชาติอร่อยขึ้นชื่อของเมืองไทย อีกทั้งยังสามารถชมดอกนางพญาเสือโคร่ง (ซากุระเมืองไทย) อันสวยสดงดงามได้ที่นี่ ทั้งนี้แนะนำว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางมาชมทะเลหมอก คือ เวลา 05.30-06.30 น. และควรมาในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม ซึ่งจุดชมวิวที่ดีที่สุด คือ จุดชมวิวด้านล่างและบริเวณสันเนินขึ้นดอยด้านบน
การเดินทาง : เดินทางไปจังหวัดเชียงราย ตามถนนพหลโยธิน (ถนนหมายเลข 1) จากนั้นเลี้ยวซ้าย (หลักกิโลเมตรที่ 806-807 ถนนหมายเลข 1) เข้าถนนหมายเลข 118 ไปอำเภอแม่สรวย ขับตรงไป 24.8 กิโลเมตร ไปอำเภอแม่สรวย เลี้ยวขวา (หลักกิโลเมตรที่ 134-135 ถนนหมายเลข 118) ไปบ้านวาวี จากนั้นขับตรงไป 47.7 กิโลเมตร ถึงทางเข้าบ้านวาวี ขับตรงไป 5.1 กิโลเมตร ก็จะถึงเลาลี รีสอร์ท ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือ หลังจากนั้นขับตรงไป 2.9 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปดอยกาดผี ขับไปตามป้ายบอกทาง 5.3 กิโลเมตร ก็จะถึงวนอุทยานดอยกาดผี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย โทรศัพท์ 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 และ เฟซบุ๊ก วนอุทยานดอยกาดผี
รีวิวดอยกาดผี
7. ดอยหลวงเชียงดาว
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว เป็นภูเขาหินปูนที่สูงเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศไทย มีความสูง 2,225 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง รองจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก ภูเขาหินปูนของดอยหลวงเชียงดาวมีอายุระหว่าง 230-250 ล้านปี เกิดจากการทับถมของตะกอนทะเลซากสัตว์ที่มีหินปูนเป็นโครงสร้าง คาดว่าในอดีตเคยเป็นทะเลน้ำตื้นมาก่อน ถ้ามองจากภาพทางอากาศจะเห็นแนวยอดของดอยหลวงเชียงดาวเป็นสันคมแนวยาวต่อเนื่องเป็นรูปเกือกม้าคล้ายวงล้อม ตรงกลางเป็นหุบเขาแคบ ๆ ตามสันดอยจะเป็นหินแหลมคม มีรอยแยก และรอยแตกเป็นตะปุ่มตะป่ำ เกิดจากการทำปฏิกิริยาของน้ำฝนกับหินปูน บางแห่งเป็นหลุมหุบที่เรียกว่า "อ่างสลุง" เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามของดอยหลวงเชียงดาว บนยอดดอยมีอากาศที่หนาวเย็น ลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา นับเป็นจุดที่เหมาะแก่การชมทะเลหมอกและแสงแรกในยามรุ่งเช้ามากที่สุด อีกทั้งยั้งสามารถชมวิวได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา โดยด้านตะวันออกเป็นสันกิ่วลมเหนือ ทิศตะวันตกเห็นดอยสามพี่น้อง ทิศใต้เป็นสันกิ่วลมใต้ ส่วนทิศเหนือจะเห็นดอยพีระมิดและยอดเขาเล็ก ๆ เรียงสลับซับซ้อน บริเวณยอดดอยยังมีเส้นทางให้เดินชมพรรณไม้ โดยในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน กุหลาบขาวจะบานเต็มที่บนยอดดอยสวยงามสบายตามาก ๆ ตลอดจนมีนกนานาชนิดให้คนรักนกได้แบกกล้องมาส่องกันด้วย
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมทั้งในพื้นที่อุทยานฯ และพื้นที่ใกล้เคียงให้ได้ท่องเที่ยว พร้อมดื่มด่ำไปกับความงามของธรรมชาติแบบใกล้ชิด อาทิ ถ้ำเชียงดาว โดยมีเส้นทางให้เดินชม 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางถ้ำพระนอน เส้นทางถ้ำแก้ว และเส้นถ้ำมืดและถ้ำม้า ซึ่งทั้งสามมีหินงอก หินย้อยสวยงามรูปร่างแปลกตา นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกคือ น้ำตกศรีสังวาลและบ่อน้ำร้อนโป่งอ่าง
การเดินทาง : ดอยหลวงเชียงดาวอยู่ในเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว ห่างจากตัวอำเภอเชียงดาวไปทางทิศตะวันตก 5 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 75 กิโลเมตร จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) ผ่านอำเภอแม่ริม ตลาดแม่มาลัย ขับรถต่อไปอีกประมาน 30 กิโลเมตร บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 72 จะเจอทางแยกซ้ายมือไปตามเส้นทางอำเภอเชียงดาว เมืองคอง ไปทางบ้านถ้ำเชียงดาว 5 กิโลเมตร แยกซ้ายมืออีกครั้งตามเส้นทางเข้าวัดถ้ำผาปล่องประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว โทรศัพท์ 0 5345 5802, 08 9955 1417, 0 2561 4832 หรือสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่ากรมอุทยานแห่งชาติ และพันธุ์พืช เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2561 4832
8. ดอยผ้าห่มปก
ตอนนี้ได้รับการเปลี่ยนเป็น "อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก" ตามชื่อของดอยสูงแห่งหนึ่งในเทือกเขาแดนลาว ดอยผ้าห่มปกเป็นยอดเขาสูงสุดของอุทยานฯ มีความสูงประมาณ 2,285 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ข้างบนยอดสูงสุดจะเป็นทุ่งโล่ง มีเมฆหมอกปกคลุมยอดดอยและมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งในช่วงฤดูหนาวจากยอดดอยจะมองเห็นทิวทัศน์ทะเลหมอก และถนนบนสันเขาขนานกับชายแดนไทย-พม่า นับได้ว่ามีความพิเศษอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีหมู่นกอพยพมากมายมาให้ได้สัมผัส อาทิ นกเดินดงคอแดง นกเดินดงดำปีกเทา นกเดินดงสีน้ำตาลแดง มีกล้วยไม้หายากนานาชนิดให้ได้ศึกษา ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยเท่านั้นที่จะได้เจอกับกล้วยไม้เหล่านี้ ความพิเศษอีกอย่างหนึ่ง คือ บนดอยผ้าห่มปกมีนกและผีเสื้อที่น่าสนใจ อาทิ นกปีกแพรสีม่วง นกปรอดหัวโขนก้นเหลือง ผีเสื้อมรกตผ้าห่มปก ซึ่งในประเทศไทยสามารถพบได้เฉพาะที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น ผีเสื้อหางติ่งแววเลือน ผีเสื้อหางดาบตาลไหม้ เป็นต้น และยังมีจุดเด่นอีกอย่าง คือ บ่อน้ำร้อนธรรมชาติที่เกิดจากความร้อนใต้ดิน ในพื้นที่ประมาณ 10ไร่ ซึ่งในอดีตบริเวณยอดดอยเล็ก ๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยนั่งร้านที่ชาวบ้านในพื้นที่มาสร้างไว้เพื่อจับผีเสื้อไกเซอร์ที่สนนราคากันตัวละหลายพันหรือใกล้ ๆ หมื่นบาทเลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันผีเสื้อสีเขียวมรกตชนิดดังกล่าวแทบจะกลายเป็นตำนานของเมืองไทยเหมือนกับผีเสื้อสมิงเชียงดาวไปเสียแล้ว แต่ยังมีรายงานการพบอยู่บ้างแม้จะน้อยเต็มที
การเดินทาง : ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกอยู่ในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ จากตัวเมืองเชียงใหม่ ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) ถึงอำเภอฝาง แล้วไปตามถนนฝาง-ม่อนปิ่น ประมาณ 3 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปตามถนน รพช. 4054 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร จะถึงบริเวณบ่อน้ำร้อนฝางซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก สำหรับเส้นทางไปดอยผ้าห่มปกนั้น ควรเดินทางด้วนรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ตามถนนสายฝาง-บ้านห้วยบอน ไปจนถึงบ้านห้วยบอน แล้วตรงไปตามถนนลูกรังอีก 5 กิโลเมตร หลังจากนั้นแยกขวาอีกประมาณ 17 กิโลเมตร จะถึงหน่วยจัดการต้นน้ำดอยผาหลวง และแยกซ้ายไปอีก 5 กิโลเมตร จะถึงที่ตั้งแคมป์พักแรมกิ่วลม การเดินทางขึ้นสู่ยอดดอยเป็นการเดินเท้าระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ในการเดินขึ้นและลง อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกอนุญาตให้นำรถขึ้นดอยผ้าห่มปกได้แล้ว โดยต้องขึ้นดอยก่อน 15.30 น. และต้องใช้รถกระบะเท่านั้น ห้ามนำรถเก๋ง รถตู้ รถบัส ขึ้นดอย เพราะถนนยังเป็นทางลูกรัง ถ้าไม่มีรถขึ้นดอยสามารถติดต่อรถให้บริการได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อีกทั้งที่นี่ห้ามก่อกองไฟบนสนามหญ้า โดยทางอุทยานฯ มีเตาถ่านให้เช่า
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เลขที่ 224 หมู่ 6 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 50110 โทรศัพท์ 08 6430 9748 , 0 5345 3517-8 และ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
9. ดอยทูเล
ตั้งอยู่ที่บ้านแม่จวาง ตำบลท่าสองยาง จังหวัดตาก เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเขตพื้นที่ของตำบลท่าสองยาง มีความสูง 1,330 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ทอดตัวขนานกับแม่น้ำเมย ในภาษาปากะญอ "ทูเลโค๊ะ" มีความหมายว่า "ภูเขาทอง" ซึ่งที่มาของชื่อดังกล่าวจากคำบอกเล่าของชาวปากะญอเล่าว่า ในห้วงฤดูแล้งพญาแห่งขุนเขาแห่งนี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองตามสีทุ่งหญ้าที่ปกคลุมอยู่ ซึ่งในยามเช้าของช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกสีขาวโพลนที่ทอดตัวยาวสวยงามสุดสายตา อีกทั้งยังสามารถชื่นชมกับความงดงามของทิวเขาอันสลับซับซ้อนที่เรียงรายอยู่เบื้องหน้าได้แบบพาโนรามา พร้อมรับชมแสงสีทองอร่ามของพระอาทิตย์ที่กำลังจะโผล่พ้นขึ้นมาจากปลายขอบฟ้า นับว่าเป็นทัศนียภาพที่ตราตรึงใจยิ่งนัก จึงทำให้ขุนเขาแห่งนี้เหมาะแก่การแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนในยามที่ลมหนาวพัดโชยมาเป็นอย่างยิ่ง
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน ขึ้นมาทางทิศเหนือ อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร มาจนถึงสามแยกแม่สอด-ตาก เลี้ยวซ้ายมาตามทางหลวงหมายเลข 12 AH 1 มาจนถึงอำเภอแม่สอด เลี้ยวขวาสี่แยกไฟแดงหน้าโรงแรมเซ็นทารา หรือสามแยกไฟแดงหน้าเทศบาลนครแม่สอด มาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 105 (แม่สอด-แม่สะเรียง) ผ่านอำเภอแม่ระมาด จนถึงอำเภอท่าสองยาง จากนั้นให้ขับต่อไปอีกประมาณ 60 กิโลเมตร เพื่อไปยัง อบต.ท่าสองยาง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อบต.ท่าสองยาง โทรศัพท์ 0 5557 7437, 089-2680-116, 08 4566 4859 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตาก โทรศัพท์ 0 5551 4341-3 และ เฟซบุ๊ก ดอยทูเล
รีวิวดอยทูเล
10. ดอยผาตั้ง
ดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ใกล้ทางหลวงหมายเลข 1093 กิโลเมตรที่ 89 เป็นจุดชมวิวไทย-ลาว ที่มีความสูงประมาณ 1,635 เมตร ดอยผาตั้งนับเป็นอีกหนึ่งความงดงามมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ไว้ มีเทือกเขาสูงสลับสลับซับซ้อนเรียงรายสวยงามตระการตา โดยปรากฏเป็นภูมิลักษณ์ด้วยรูปทรงของหินแท่งขนาดใหญ่ ซึ่งมีหน้าผาสูงชัน ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนความสูงกว่า 2,000 เมตร ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากความงดงามของหินผาที่รายล้อมด้วยพรรณไม้พุ่มเขียวชอุ่มชุ่มชื่นแล้ว ดอยผาตั้งยังมีเสน่ห์ในเรื่องของสภาพอากาศที่หนาวเย็น สามารถเที่ยวชมม่านหมอกสีขาวได้ตลอดทั้งปี และในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคมจะมีดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยสดบานชูช่อ และในเดือนกุมภาพันธ์จะมีดอกเสี้ยวบานสะพรั่งงดงาม อีกทั้งยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย ซึ่งนับว่าคุ้มค่ายิ่งนักสำหรับการเดินทางไปเยือน ณ ดอยผาตั้งแห่งนี้
การเดินทาง : จากจังหวัดเชียงราย ใช้เส้นทางเชียงราย-เวียงชัย-พญาเม็งราย-บ้านต้า ทางหลวงหมายเลข 1233, 1173 และ 1152 ระยะทาง 50 กิโลเมตร บ้านต้า-บ้านท่าเจริญ ทางหลวงหมายเลข 1020 ระยะทาง 45 กิโลเมตร บ้านท่าเจริญ-เวียงแก่น-ปางหัด ทางหลวงหมายเลข 1155 ระยะทาง 17 กิโลเมตร และปางหัด-ดอยผาตั้ง อีก 15 กิโลเมตร จุดชมวิวช่องผาบ่อง สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงทอดตัวคดเคี้ยวในฝั่งลาว หากเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดชมวิว 10 สภาพเส้นทางบางช่วงสูงชัน บนดอยผาตั้งมีบริการมัคคุเทศก์น้อยจากโรงเรียนบรรพตวิทยา สามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 08 1287 5325, 08 4363 4170
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160 โทรศัพท์ 053-286728-9 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0 5324 8604-7 หรือจุดบริการนักท่องเที่ยวดอยผาตั้ง โทรศัพท์ 0 5391 8301 และ www.doiinthanon.com
11. ดอยวาว
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาตินันทบุรี อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,674 เมตร อยู่ในการดูแลของหน่วยจัดการต้นน้ำน้ำค้าง ถือเป็นจุดสูงที่สุดของอุทยานแห่งชาตินันทบุรีเลยก็ว่าได้ เป็นจุดชมทะเลหมอก ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวของจังหวัดน่านได้อย่างชัดเจน จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากการเดินทางสะดวกสบาย สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ไปถึงหน่วยจัดการต้นน้ำฯ แล้วสามารถเดินเท้าขึ้นสู่ยอดดอยได้เลย โดยตลอดเส้นทางเป็นป่าดิบเขาที่อุดมสมบูรณ์ เป็นถิ่นอาศัยของนกบนที่สูงนานาชนิด อาทิ นกมุ่นรกตาแดง นกหางรำหางยาว นกติ๊ดแก้มเหลือง นกเสือแมลงปีกแดง นกระวังไพรปากแดงยาว ฯลฯ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะมีนกย้ายถิ่นเข้ามาเป็นจำนวนมาก หลายชนิดเป็นนกหายาก ทั้งนี้ระหว่างเดินขึ้นก็สามารถเดินชมนก ศึกษาธรรมชาติตลอดข้างทางได้ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมทางช้างเผือกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งด้วย เนื่องจากบนดอยไม่มีแสงไฟจากเมืองมารบกวน ฉะนั้น ดวงดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนจะยิ่งแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น เหมาะแก่การนอนกินลมชมดาวเป็นอย่างมาก ช่างเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกเสียจริง นอกเหนือจากนี้ในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นักท่องเที่ยวจะได้พบกับดอกสีชมพูของต้นนางพญาเสือโคร่ง ที่ออกดอกเบ่งบานให้ได้ชมสวยงามไปทั่วทั้งดอยเลยทีเดียว
การเดินทาง : จากอำเภอท่าวังผาใช้ทางหลวงหมายเลข 1082 สายท่าวังผา-สบขุ่น ไปประมาณ 27 กิโลเมตร มีทางแยกขวามือเข้าไปประมาณ 500 เมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ หรืออีกเส้นทางหนึ่ง คือ จากตัวเมืองน่าน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 ไปท่าวังผาจากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 1148 สายท่าวังผา-สองแคว ประมาณ 1.5 กิโลเมตร แยกไปตามถนนสายยายหนุน-สบขุ่น ถึงหลักกิโลเมตรที่ 27 แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 500 เมตร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาตินันทบุรี ตู้ ปณ.3 อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน 55140 โทรศัพท์ 08 1706 8506, 08 1042 8893 (จนท.)
12. ดอยผาจิ
ตั้งอยู่บนสันดอยติ้ว ภายในอุทยานแห่งชาตินันทบุรี เป็นดอยที่มีความสวยงาม มีธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ทั้งน้ำตก รวมถึงต้นไม้นานาพันธุ์ ซึ่งในอดีตดอยผาจิแห่งนี้เคยเป็นพื้นที่ตั้งฐานกำลังของฝ่าย ผกค (ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์) มีการต่อสู้กันอย่างเข้มข้นระหว่างทหารกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ มีการบาดเจ็บล้มตาย เสียหายมากมายกันทั้งสองฝ่าย เรียกกันว่า “ยุทธภูมิดอยผาจิ” เมื่อเหตุการณ์สงบ จึงนำเสนอให้มีการสำรวจและจัดตั้งเป็นป่าอนุรักษ์ในรูปของอุทยานแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งและเย้าตั้งอยู่ด้วย โดยบริเวณด้านบนของดอยผาจิหากนักท่องเที่ยวเดินขึ้นมาชมในยามเช้าก็จะได้พบกับทะเลหมอกสีขาวนุ่มนวลปกคลุมไปทั่ว ส่วนในช่วงเย็นจะได้ชมพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกลับเหลี่ยมเขาท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเย็นจับใจ มีทัศนียภาพที่สวยงดงามมากจนแทบไม่เชื่อเลยว่าในอดีตเคยเป็นพื้นที่สีแดงมาก่อน
การเดินทาง : จากตัวเมืองน่านใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 (น่าน-ทุ่งช้าง) ไปยังอำเภอท่าวังผา ไปตามทางหลวงหมายเลข 1148 ประมาณ 1.5 กิโลเมตร แยกไปตามทางหลวงหมายเลข 1082 ถึงหลัก กม.ที่ 27 แยกขวามือเข้าไปอีกประมาณ 500 เมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาตินันทบุรี ตู้ ปณ.3 อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน 55140 โทรศัพท์ 08 1706 8506, 08 1042 8893 (จนท.)
13. ดอยเปเปอร์
ภาพจาก หน่วยจัดการต้นน้ำดอยเปเปอร์
ดอยเปเปอร์ หรือ หน่วยจัดการต้นน้ำดอยเปเปอร์ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอท่าสองยาง และอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก รวมทั้งพื้นที่บางส่วนของอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเส้นทางผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยง ป่าเขา และภูเขาสูงชัน อีกทั้งยังคดเคี้ยว บางโค้งต้องถอยรถตั้งมุมใหม่จึงจะพ้นไปได้ จนเป็นที่มาของชื่อดอยเปเปอร์ คือ เหมือนกระดาษที่พับไปมา หรือบางคนก็เรียก "ดอยพับผ้า" นับเป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับการเดินทางไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากอากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งปี สามารถนอนชมดาวที่สุกสว่างบนท้องฟ้า พร้อมกับสัมผัสอากาศที่เย็นแบบสุดขั้ว และชมทะเลหมอกยามเช้าที่งดงามและบริสุทธิ์ นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักเดินทางที่ต้องการแสวงหาความสำราญจากธรรมชาติอันงดงามในช่วงปลายฝนต้นหนาวและฤดูหนาว
การเดินทาง : จากอำเภออมก๋อย มุ่งหน้าเข้าอำเภอแม่ตื่นประมาณ 70 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยตรงอนามัยแม่ตื่นวิ่งตามทางไปเรื่อย ๆ ประมาณ 47 กิโลเมตร ก่อนถึงหน่วยจัดการต้นน้ำดอยเปเปอร์ต้องผ่านวัดพะโค๊ะโด้หรือวัดพระบรมธาตุโลกะวิทู ส่วนขากลับออกใช้เส้นทางที่ใกล้และสะดวกที่สุด คือ แม่สอด-ท่าสองยางช่วงกิโลเมตรที่ 81 (ก่อนถึงอำเภอท่าสองยาง 3 กิโลเมตร) หรือจะใช้ทางเข้ากิโลเมตรที่ 71 จากแยกแม่สอดเห็นป้ายทางเข้าหมู่บ้านเลเคาะ 8 กิโลเมตร ที่นั่นจะมีน้ำตกที่สวยงามให้ได้ชมอีกแห่งหนึ่งแต่ต้องเลยหมู่บ้านไปอีกประมาณ 1.7 กิโลเมตร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : หน่วยจัดการต้นน้ำดอยเปเปอร์ โทรศัพท์ 08 1951 2812, หน่วยจัดการต้นน้ำดอยเปเปอร์
14. ดอยภูแว
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ในพื้นที่ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,837 เมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้า และมีลานหินกระจายอยู่หลายแห่ง อาทิ ผาแอ่น ผาผึ้ง ผาขี้นก มีพรรณไม้ที่จัดว่าเป็นกึ่งอัลไพน์ (Subalpine Zone) มีการค้นพบพรรณไม้ที่หายาก อาทิ กุหลาบขาวเชียงดาว ปาล์มรักเมฆหรือค้อเชียงดาว จึงเป็นที่นิยมของนักแบกเป้ท่องป่าเป็นอย่างมาก ทั้งนี้การเดินทางขึ้นไปบนยอดดอยภูแวจำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการนำทาง และใช้เวลาในการเดินทางไป-กลับ 3 วัน 2 คืน ถึงจะเพียงพอต่อการขึ้นไปศึกษาธรรมชาติบนดอยสูงแห่งนี้ โดยมีจุดเริ่มต้นการเดินเท้าที่บ้านด่าน อำเภอบ่อเกลือ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 50 กิโลเมตร ทั้งนี้นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจแบกเป้ขึ้นไปสัมผัสมีทัศนียภาพอันงดงาม ดูนก ชมทะเลหมอก หรือชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ช่วยนำทาง ณ ที่ทำการอุทยานฯ ได้โดยตรงเลยจ้า
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน 55120 โทรศัพท์ 0 5470 1000, 0 5473 1362 หรือ 08 9554 1231
15. ดอยผาโง้ม
หรือ "ดอยแม่โถ" ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติขุนแจ อุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 62 กิโลเมตร ดอยผาโง้มเป็นเทือกเขาตอนกลางของพื้นที่ มีรูปร่างทอดตัวยาวในแนวตะวันตก-ตะวันออก โดยมีหน้าผาหินตัดโง้มลาดลงในทิศตะวันตก สภาพป่าเป็นป่าดิบเขาปนป่าเบญจพรรณ และป่าสนเขาสามใบที่ขึ้นอยู่ตามไหล่เขาอย่างเป็นระเบียบสวยงาม เป็นจุดที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของดอยลังกาหลวง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ไกล เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจแบบไต่เขา หรือเดินป่าชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม หนาวนี้หากใครสนใจมาปีนป่ายแบบเอามันบนดอยผาโง้มแห่งนี้ก็ได้ไม่ว่ากัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ดอยผาโง้ม อุทยานแห่งชาติขุนแจ ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย 57260 โทรศัพท์ 0 5316 3364, 08 4366 5213, 08 4489 2173 หรือ เฟซบุ๊ก ดอยผาโง้ม บ้านห้วยไคร้
ทุกจังหวัดล้วนมียอดดอยอันสวยงามซ่อนตัวอยู่มากมาย หากคุณกำลังเพรียกหาความเขียวชอุ่มของขุนเขา ต้นไม้ใบหญ้าที่พลิ้วไหว และความหนาวเย็นแบบสุดขั้วหัวใจ หนาวนี้อย่ารอช้า ! ขึ้นมาให้ธรรมชาติโอบกอด พร้อมชาร์จแบตให้กับชีวิตตัวเองกันให้ได้นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
, chiangrai.net, จังหวัดน่าน, chiangmai.go.th, จังหวัดตาก, dnp.go.th, สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่, โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่, doiinthanon.com, หน่วยจัดการต้นน้ำดอยเปเปอร์, เฟซบุ๊ก ดอยผาโง้ม บ้านห้วยไคร้, เฟซบุ๊ก ดอยทูเล, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก, เฟซบุ๊ก วนอุทยานดอยกาดผี