x close

5 พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ สนุกไม่อั้น แถมฟรีความรู้กลับบ้าน

          พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ หนึ่งในที่เที่ยวกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจ แถมได้ความรู้พกติดตัวกลับบ้านไปเพียบ ใครก็ตามที่ไม่อยากเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า ลองเปลี่ยนมาพิพิธภัณฑ์เล่นก็ดีไม่น้อย

          มีคนกรุงเทพฯ ไม่น้อยที่ชอบบ่นว่านอกจากเดินห้างแล้ว ก็ไม่เห็นมีที่ไหนน่าเที่ยวอีกเลย ดูเหมือนว่าความคิดนี้จะไม่เป็นจริงเสียแล้ว เพราะที่เที่ยวกรุงเทพฯ ที่น่าเที่ยวไม่น้อยกว่าห้างก็มีถมเถ อย่างน้อย ๆ พิพิธภัณฑ์ก็ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งในเรื่องรูปแบบการนำเสนอและข้อมูลประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษา เหมือนครั้งก่อนที่เราได้นำเสนอ "ตะลอนทัวร์ 9 พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ แหล่งเรียนรู้ชั้นดี" ไปแล้ว มาวันนี้เราขอนำเสนอพิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ ที่น่าเดินอีก 5 ที่ มาดูสิว่าแต่ละที่เป็นยังไง มีทีเด็ดตรงไหน เผลอ ๆ อาจลืมการเดินเที่ยวห้างไปเลยก็ได้ ใครจะไปรู้

1. พิพิธบางลำพู

พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ

          พิพิธภัณฑ์ที่จัดขึ้นโดยกรมธนารักษ์ อยู่ตรงบริเวณถนนพระสุเมรุ สังเกตง่าย ๆ อยู่ใกล้ ๆ กับป้อมพระสุเมรุนั่นเอง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จะพาพวกเราทั้งหลายนั่งเครื่องย้อนเวลา ไปรำลึกเสน่ห์วิถีชีวิตชุมชนคนบางลำพูกันแบบไม่หมกเม็ด จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ อยู่ที่การออกแบบอาคารที่รองรับคนได้ทั้งผู้สูงอายุ คนพิการ และเด็ก รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอข้อมูลได้อย่างน่าสนใจ เพื่อทำให้ผู้ชมรู้สึกมีอารมณ์ร่วม ความสนุกสนาน และเกิดจิตสำนึกให้รู้สึกรักและหวงแหนพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้


          ในส่วนของห้องจัดแสดงนิทรรศการ ประกอบไปด้วยในส่วนนิทรรศการทิดพระเกียรติ และการทำงานของกรมธนารักษ์เป็นหลัก และในส่วนของนิทรรศการชุมชนบางลำพู ที่จะนำพาทุกคนย้อนกลับไปยังอดีตแบบเต็มตัว ทั้งในเรื่องของรูปแบบดีไซน์ การนำเสนอที่อิงบรรยากาศได้แบบสมจริง ตลอดจนการจำลองวิถีชีวิตชุมชน ย่านการค้าต่าง ๆ ผ่านห้องจัดแสดง ได้แก่ "สีสันบางลำพู" "เบาะแสจากริมคลอง" "พระนครเซ็นเตอร์" "ย่ำตรอกบอกเรื่องเก่า" "ที่นี่บางลำพู" "ถอดรหัสลับ ขุมทรัพย์บางลำพู" และ "บางรำพูรำลึก" รับรองว่าถ้าใครได้เดินดูจนหมดแล้ว จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

          ค่าเข้าชม : ฟรี
          เวลาเปิด-ปิด : ด้านบนเวลา 10.00-16.00 น. และด้านล่างเวลา 10.00-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
          ที่อยู่ : ถนนพระสุเมรุ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 281 9828
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก พิพิธบางลำพู


2. พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้

พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ

          ก่อตั้งขึ้นจากความตั้งใจของคุณสกุล อินทกุล ด้วยหวังว่าอยากให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมดอกไม้ ทั้งในไทยและทวีปเอเชีย โดดเด่นด้วยตัวตึกอาคารบ้านไม้สักรูปทรงโคโลเนียล ซึ่งยังคงความสวยงามอยู่ในทุกรายละเอียด ความน่าสนใจของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ที่ การจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการจัดดอกไม้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมทางชนชาติกับการจัดดอกไม้ น่าจะถูกใจสำหรับคนที่ชอบดอกไม้เป็นอย่างยิ่ง


          ในส่วนของห้องจัดแสดงนิทรรศการ แบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ ประกอบด้วย "หอภาพดุสิต" "โลกแห่งวัฒนธรรมดอกไม้" "อุโบสถแห่งดอกไม้" "หอมรดกวัฒนธรรมดอกไม้" "ปากกา ดินสอ ความเป็นไปได้" และ "ห้องนิทรรศการหมุนเวียน" แต่ละห้องนิทรรศการ คุณจะได้ดื่มด่ำเป็นกับความสวยงามของดอกไม้ ที่จะช่วยสร้างความรื่นรมย์ทั้งทางอารมณ์และจิตใจ กลีบดอก สีสัน เกสรในดอกไม้แต่ละดอกที่จัดแสดง จะช่วยขัดเกลาให้คุณรู้สึกถึงความอ่อนโยน ตลอดช่วงเวลาที่คุณเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

          ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 150 บาท และ เด็ก (อายุต่ำกว่า 17 ปี) เข้าชมฟรี
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
          ที่อยู่ : 315 ถนนสามเสน ซอย 28 (แยกองครักษ์ 13) เขตดุสิต กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 669 3633
          เว็บไซต์ :
floralmuseum.com และ
เฟซบุ๊ก The Museum of Floral Culture

3. พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต

พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ

          บ้านไม้โบราณชุมชนป้อมมหากาฬ เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่เกิดจากผลพวงจาก "Mahakan Model" ซึ่งเป็นโมเดลการพัฒนาพื้นที่บริเวณชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อเป็นตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงเมืองที่เป็นมิตรกับทั้งภูมิทัศน์และผู้คน พิพิธภัณฑ์มีชีวิตจึงเป็นเหมือนผลลัพธ์ที่คนในชุมชม โบราณสถานและสวนสาธารณะสามารถอยู่ร่วมกันได้ ใครที่มีโอกาสได้เข้าชมสถานที่แห่งนี้ จะรู้เลยว่า ที่นี่ยังคงพยายามรักษาไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมโบราณและวิถีชีวิตชุมชน ตั้งแต่ทางเดินอิฐมอญ เสาไฟฟ้าเนื้อแข็ง เป็นต้น


          ภายในพื้นที่พิพิธภัณฑ์มีชีวิตแห่งนี้ ใช้พื้นที่ 3 ส่วนในการนำเสนอภาพเสมือนจริง แต่ละพื้นที่มีน่าสนใจที่แตกต่างกันตามไปด้วย ได้แก่ "พื้นที่สวนข้างป้อมมหากาฬ" พื้นที่สวนโล่งเหมาะกับการทำกิจกรรมเวทีจัดแสดงต่าง ๆ การแข่งฟังเสียงร้องนกเขา "พื้นที่ริมคลองโอ่งอ่าง" ชมวิถีชีวิตริมน้ำที่มีเสน่ห์ของชาวบ้าน "พื้นที่ปลูกผักสวนครัว" พื้นที่แหล่งเรียนรู้การปลูกผักสวนครัว สร้างเวลาว่างของเด็กให้เกิดประโยชน์ และฟื้นฟูวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านให้กลับมาอีกครั้ง

          ค่าเข้าชม : ฟรี
          เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.00-16.00 น.
          ที่อยู่ : ชุมชนป้อมมหากาฬ แขวงสำราษราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 085 810 0710
          เว็บไซต์ : mahakanmodel.com และ เฟซบุ๊ก Mahakan MODEL


4. บ้านหมอหวาน

พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ

          เด็กรุ่นใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกับยาหอม จะเห็นก็แต่คนรุ่นตารุ่นยายใช้ชงกินกับน้ำ รู้หรือเปล่าว่านี่เป็นยาสมุนไพรชั้นดี ที่ช่วยบำรุงร่างกาย และถ้าอยากจะรู้จักยาหอมให้มากขึ้น เราแนะนำให้คุณเดินทางมาที่ "บ้านหมอหวาน" ตึกสไตล์โคดลเนียลสวยงาม ซึ่งเป็นผลผลิตจากความตั้งใจที่จะ "บำรุงชาติสาสนายาไทย" ของนายหวาน รอดม่วง แพทย์แผนโบราณซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5-8 และมีความมุ่นมั่นที่จะสืบทอดแพทย์แผนไทยเอาไว้ ท่ามกลางกระแสการเติบโตแพทย์แผนตะวันตกในยุคสมัยนั้น

พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ
พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ

          ภายในอาคารได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวยาแผนโบราณของหมอหวาน ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งกรรมวิธีและกระบวนการผลิต ซึ่งนอกจากจะเปิดต้อนรับผู้ที่มาซื้อยาหอมแล้ว ที่นี่ยังเปิดในส่วนของการนำชมอุปกรณ์การปรุงยาและขวดยาเก่า ๆ และขวดยาเก่า ๆ ซึ่งได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี หรือไปแล้วสนใจจะซื้อยาหอมติดมือกลับไปฝากผู้ใหญ่ที่บ้านก็ไม่ว่ากัน

          ค่าเข้าชม : ฟรี
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเวลา 09.00-17.00 น. (การนำชม/ผู้บรรยายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และในกรณีมาเป็นหมู่คณะเกิน 5 คนขึ้นไป กรุณานัดหมายล่วงหน้า)
          ที่อยู่ : 9 ซอยเทศา ถนนบำรุงเมือง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 221 8070
          เว็บไซต์ :  เฟซบุ๊ก หมอหวาน และ mowaan.com


5. พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย

          พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ทางศิลปะไทยที่น่าสนใจ ที่เกิดจากรากฐานวัฒนธรามที่ยาวนานและองค์ความรู้ทางศิลปะแบบสากลโดย ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ประติมากรชาวเมืองฟลอเรนช์ ประเทศอิตาลี โดดเด่นตั้งแต่รูปแบบอาคารแบบร่วมสมัย ที่ได้แนวคิดจากการนำหินทั้งก้อน มาแกะสลักอย่างบรรจงเป็นลายก้านมะลิ ที่สื่อให้เห็นถึงความเป็นไทย ที่เมื่อแสงตกกระทบลงมาที่ตัวตึก เกิดเป็นความสวยงามตามแต่ละช่วงเวลาและฤดูกาลที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป และจัดแสดงผลงานทัศนศิลป์จากศิลปินหลากหลายรุ่น เพื่อมุ่งส่งเสริมศิลปินไทยในการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อย่างเหนียวแน่น

          ภายในแบ่งพื้นที่การจัดแสดงออกเป็น 5 ชั้น ประกอบด้วยนิทรรศการหมุนเวียน ห้องแสดงผลงานศิลปินแห่งชาติ และศิลปินชั้นนำมากมาย ห้องแสดงผลงานแนวศิลปะไทยประยุกต์ ผลงานศิลปินรุ่นใหม่ ตลอดจนนิทรรศการศิลปะนานาชาติร่วมสมัยจากหลากหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงผลงานศิลปะหายาก ซึ่งจัดแสดงไว้ที่นี่ที่เดียว

          ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ราคา 250 บาท และนักเรียน/นักศึกษา (ระดับชั้นม. 1 เป็นต้นไป) ราคา 100 บาท
          เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-วันศุกร์ เวลา 10.00-17.00 น. และวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
          ที่อยู่ : 499 ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 016 5666-7
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก MOCA Museum of Contemporary Art และ
mocabangkok.com

            คราวนี้คนกรุงเทพฯ ทั้งหลายต้องเลิกบ่นได้แล้วนะว่า นอกจากห้างแล้วกรุงเทพฯ ก็ไม่มีที่ให้เที่ยวที่ไหนอีก อย่างน้อยพิพิธภัณฑ์ที่เรายกให้มาดูนี้ น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่เที่ยวกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เผลอ ๆ ใช้เงินน้อยกว่าไปเดินเที่ยวห้าง แถมยังได้ความรู้ติดตัวกลับบ้านไปอีกเพียบ พลาดแล้วจะเสียใจไม่น้อยเลยทีเดียว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊ก พิพิธบางลำพู, เฟซบุ๊ก The Museum of Floral Culture, floralmuseum.com, เฟซบุ๊ก Mahakan MODEL, mahakanmodel.com, เฟซบุ๊ก หมอหวาน, mowaan.com


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
5 พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ สนุกไม่อั้น แถมฟรีความรู้กลับบ้าน อัปเดตล่าสุด 14 มิถุนายน 2565 เวลา 14:32:19 40,911 อ่าน
TOP