เที่ยวเจิ้งโจว ก่อนไปเที่ยวเมืองเจิ้งโจว (Zhengzhou) มณฑลเหอหนาน (Henan) สาธารณรัฐประชาชนจีน มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเมืองเจิ้งโจว อะไรบ้างที่น่าสนใจ จะต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อให้สนุกสนานตลอดทั้งทริป เรามีเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับที่นี่มาฝากกัน
เมืองเจิ้งโจว เป็นอีกหนึ่งเมืองของประเทศจีน ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เพราะที่นี่เป็นศูนย์กลางทางด้านการเมือง อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการศึกษาที่สำคัญของมณฑลเหอหนาน อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวไปด้วยเช่นกัน ถ้าคุณกำลังวางแผนที่จะไปเที่ยวเมืองเจิ้งโจว หรือกำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ ๆ ต้องมาดูเกร็ดท่องเที่ยวเมืองเจิ้งโจวทางนี้ได้เลย เรามีคำแนะนำดี ๆ พร้อมกับข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเมืองเจิ้งโจวมาฝากกัน จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปเช็กลิสต์พร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
1. เมืองเจิ้งโจว (Zhengzhou) ตั้งอยู่ในมณฑลเหอหนาน (Henan) สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเมืองที่มีการทำอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน จึงทำให้ที่นี่เจริญรุ่งเรือง มีสิ่งที่น่าสนใจให้ได้ท่องเที่ยวมากมาย
2. เมืองเจิ้งโจว มีความสำคัญทางด้านคมนาคมในภาคกลางของจีน เพราะที่นี่มีเส้นทางหลวง 1 ใน 7 สายสำคัญของประเทศ มีเส้นทางรถไฟและสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน พร้อมทั้งยังมีทางด่วนและถนนสายสำคัญอีกหลายสาย นอกจากนี้ยังมีสนามบินมากถึง 3 แห่ง เมืองเจิ้งโจวจึงกลายเป็นศูนย์กลางแห่งการเดินทางท่องเที่ยวจีนและประเทศต่าง ๆ ในโซนเอเชียและยุโรป
3. มีแม่น้ำเหลือง (Yellow River) หรือแม่น้ำฮวงโห (Huang He) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับสองของจีนไหลผ่าน ใครชอบทริปนั่งเรือเที่ยวชมเมือง บอกเลยว่าห้ามพลาด
4. นักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวเมืองเจิ้งโจว ยังต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวของจีน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ chinaembassy.or.th แอบกระซิบว่าการขอวีซ่าท่องเที่ยวจีนไม่ได้ยุ่งยากเลยค่ะ ^^
5. ควรแลกเงินหยวนและเงินดอลลาร์ติดตัวไปด้วย เพราะบางสถานที่ไม่รับบัตรเครดิต วางแผนการใช้จ่ายให้ดี ๆ นะคะ ยิ่งถ้าใครไปเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ ก็อาจจะลำบากในการต่อรองการซื้อสินค้าและบริการได้
6. ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะพักกันในดาวน์ทาวน์ จะไม่ค่อยมีที่พักแบบเกสต์เฮ้าส์มากนัก นักท่องเที่ยวจะนิยมพักในโรงแรมมากกว่า เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หากเกิดเหตุฉุกเฉิน พนักงานสามารถที่จะสื่อสารภาษาอังกฤษและช่วยเหลือได้ดีมากกว่า
7. ประเทศจีน มีระบบไฟฟ้าเหมือนกับเมืองไทย คือแบบ AC 220 V, 50 Hz. ในโรงแรมส่วนใหญ่จะมีปลั๊กไฟที่เหมือนกับบ้านเรา แต่ก็ควรเตรียม Universal Adapter ติดตัวไปด้วยค่ะ
8. การเดินทางในเมืองเจิ้งโจวมีทั้งรถไฟ, รถไฟฟ้าใต้ดิน และรถรางไฟฟ้าประจำทาง ใครสะดวกแบบไหนก็จัดไปค่ะ แต่คนส่วนมากในเมืองเจิ้งโจวจะใช้บริการรถรางไฟฟ้า เพราะราคาถูกกว่า แต่ถ้าจะไปเที่ยวนอกเมือง หรือกลัวหลงทางก็ให้พนักงานโรงแรมเรียกใช้บริการแท็กซี่ให้ก็ได้
9. จัตุรัสอื้อฉี (Erqi Square) เป็นจุดนัดพบสำคัญของชาวเมืองเจิ้งโจว รายล้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ธนาคาร ฯลฯ โดยมีจุดเด่นที่สำคัญคือ Erqi Memorial Tower
10. สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง "วัดเส้าหลิน" ก็ตั้งอยู่ในเมืองเจิ้งโจวแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นวัดพุทธนิกายมหายาน ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาสีเขียวสวยงาม ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรม รวมทั้งพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับกังฟูเส้าหลินให้ชมอีกด้วย
12. ศาลไคฟง สถานที่สำคัญในตำนานของเปาบุ้นจิ้น ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดของเมืองเจิ้งโจว ภายในศาลไคฟง จะมีการจำลองอาคารต่าง ๆ ให้มีลักษณะคงเดิมทุกประการ มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณที่อยู่ในศาลสมัยก่อนให้นักท่องเที่ยวได้ชม รวมทั้งมีการแสดงวัฒนธรรมประเพณีที่สวยงามให้ได้เดินชมรอบ ๆ อีกด้วย
13. หากมาเที่ยวเมืองเจิ้งโจว ก็ควรที่จะไปชมพิพิธภัณฑ์เหอหนาน เพราะที่นี่เป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาของมณฑลเหอหนาน รวมทั้งเมืองเจิ้งโจว พร้อมทั้งจัดแสดงวัตถุโบราณที่มีอายุหลายร้อยหลายพันปีให้ได้ชมกันด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ chnmus.net
14. Statue of the Emperors Yan and Huang ถือได้ว่าเป็น The must ของเมืองเจิ้งโจวเลยทีเดียว เพราะเป็นรูปปั้นที่แกะสลักขึ้นบนหน้าผาหินสูงมากกว่า 100 เมตร โดยมีการแกะสลักเป็นรูปของ Yan Di และ Huang Di จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตของจีน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮวงโห ในเมืองเจิ้งโจวนั่นเอง
15. จากเมืองเจิ้งโจว สามารถที่จะไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจของประเทศจีนได้อีกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ Yuntaishan Global GeoPark สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศจีน ที่นี่จะมีลักษณะเป็นภูเขาลูกใหญ่รูปทรงแปลกตาสวยงาม ภายในอุทยานมีจุดท่องเที่ยวหลายจุด แต่ไฮไลท์จะอยู่ที่ลำธารสีเขียวใส ท่ามกลางหน้าผาสูงชันสองด้าน มีสะพานเชื่อมให้นักท่องเที่ยวได้เดินดูรอบ ๆ สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน ดูรายละเอียดได้ที่ ytsgeopark.org
16. ยามค่ำคืนของเมืองเจิ้งโจว ก็น่าเที่ยวไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว ด้วยที่นี่เป็นเมืองใหญ่ มีประชากรหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะวัยทำงานและวัยรุ่น ในเมืองจึงมีสถานที่ให้นักท่องราตรีได้ไปสนุกสนานมากมาย ถ้าไม่รู้จะไปที่ไหนก็ไปเดินเล่นแถว ๆ จัตุรัสอื้อฉี (Erqi Square) เพราะรอบ ๆ จะมีร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์ ให้บริการมากมาย
17. เมื่อมาถึงเมืองเจิ้งโจวก็อย่าลืมลิ้มลองเสี่ยวหลงเปา เพราะคนท้องถิ่นชอบทานเสี่ยวหลงเปาและติ่มซำมาก ๆ จึงมีร้านอร่อยหลายร้านอยู่รอบ ๆ เมือง แนะนำให้สั่งมาลองชิมก่อน เพราะหนึ่งชุดจะได้ปริมาณเยอะมาก ๆ ถ้าถูกใจก็ค่อยสั่งเพิ่ม
18. เจ้าบ้านแนะนำมาว่าอาหารพื้นเมืองอย่าง Liyu Sanchi และ Hui Mian ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน
19. ของฝากจากเมืองเจิ้งโจว ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าหัตถกรรม งานฝีมือแบบต่าง ๆ และหยก ส่วนหินแกะสลักจากแม่น้ำฮวงโหก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะจะมีการแกะสลักลวดลายอย่างสวยงาม ซื้อมาเป็นของฝากก็น่ารักกิ๊บเก๋ไม่ใช่เล่น
20. รู้กันหรือยังว่าปัจจุบันมีสายการบินบางสายการบินเปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-เจิ้งโจว แล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถที่จะไปเที่ยวเมืองแห่งนี้ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น บินต่อเดียวถึงเลย ^^
เมืองเจิ้งโจว ถือได้ว่าเป็นเมืองที่น่าสนใจไม่ใช่เลยใช่ไหมคะ มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติให้ได้เที่ยวอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ใครกำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ ๆ ก็ลองพิจารณาเมืองนี้กันดูนะคะ แล้วคุณจะเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ตกหลุมรักเมืองนี้แน่นอน :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thaibizchina.com, chinaembassy.or.th, opark.org, travelchinaguide.com