แม้ว่าสุราษฎร์ธานีจะอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 685 กิโลเมตร แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถที่จะเดินทางมาเที่ยวที่นี่ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น เพราะมีสนามบินรองรับ และมีหลายสายการบินทำเส้นทางบินจากกรุงเทพฯ มาลงที่สุราษฎร์ฯ จึงทำให้ที่นี่เป็นดั่งเมืองท่องเที่ยวที่เพียบพร้อม ไม่ว่าใครได้มาเยือนก็เป็นต้องยิ้มหน้าบานกันทั้งนั้น และที่สุราษฎร์ฯ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เราไปลุยจังหวัดนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ
เกาะสมุย
คงไม่มีใครไม่รู้จักเกาะสวรรค์แห่งนี้ เกาะสมุยตั้งอยู่ในน่านน้ำทางฝั่งทะเลอ่าวไทย ในเขตพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยความที่เกาะสมุยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาะในเมืองไทย ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 247 ตารางกิโลเมตร จึงได้ยกให้เกาะสมุยเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะสมุยอยู่ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ประมาณ 84 กิโลเมตร และห่างจากท่าเรือดอนสัก ประมาณ 35 กิโลเมตร ภายในเกาะสมุยเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี เสน่ห์ของที่นี่ ก็คือ หาดทรายขาว น้ำทะเลใส หาดที่มีชื่อเสียงและสวยงาม อาทิ หาดเฉวง หาดละไม หาดตลิ่งงาม และหาดนาเทียน นอกจากนี้บนเกาะสมุยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาทิ หินตาหินยาย, น้ำตกหน้าเมือง, วัดพระใหญ่, ถนนคนเดินบ่อผุด, พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดละไม, สวนผีเสื้อสมุย เป็นต้น สิ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเมื่อมาถึงเกาะสมุยก็คือการลิ้มรสน้ำมะพร้าวพันธุ์ดั้งเดิมของเกาะสมุย ที่มีรสชาติหวานหอมไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน
การเดินทางมายังเกาะสมุย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ที่ท่าเรือดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง บนเกาะสมุยมีทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่า หรือจะนั่งรถประจำทางท่องเที่ยวบนเกาะก็ได้ และยังเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7728 8817-9, 0 7728 2828
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 63,750 ไร่ ประกอบด้วยเกาะมากกว่า 40 เกาะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูนที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจีสวยงาม พร้อมกับโอบล้อมไปด้วยท้องทะเลสีฟ้าคราม สวยงาม บางเกาะมีหาดทรายขาว โดดเด่น บางเกาะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินเที่ยวชม ซึ่งเกาะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด คือ เกาะวัวตาหลับ เพราะเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และยังเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวที่สวยที่สุดในหมู่เกาะนี้ คือ "จุดชมวิววัวตาหลับ" นักท่องเที่ยวต้องเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และปีนป่ายไปตามภูเขาหินปูนที่แหลมคมเพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิว แต่เมื่อขึ้นไปถึงจุดชมวิวแล้วจะได้พบกับทัศนียภาพของหมู่เกาะต่าง ๆ ที่อยู่เหนือผืนน้ำสีเขียวมรกตแบบพาโนรามา พร้อมกับอากาศที่เย็นสบาย
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนได้ที่เกาะวัวตาหลับ ภายในที่พักของทางอุทยาน หรือจะเช่าเหมาเรือจากเกาะสมุยมาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับก็ได้เช่นกัน สอบถามรายละเอียดการเดินทางและที่พักได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง โทร. 0 7728 6025, 0 7728 0222, 0 7728 6025
เกาะเต่า
เกาะเต่า มีชื่อเสียงมากเกี่ยวกับสถานที่ดำน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยบริเวณเกาะเต่ามีสภาพของธรรมชาติที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปะการัง โดยเฉพาะปะการังอ่อน ซึ่งมีสีสันสดใส อีกทั้งใต้ท้องทะเลก็ยังมีสัตว์ใต้ทะเลหลากหลายชนิด เป็นพื้นที่ที่นักดำน้ำจากทั่วโลกต่างใฝ่ฝันที่จะมาเยือน นอกจากนี้บนเกาะเต่าก็ยังมีหาดทรายขาวบริสุทธิ์ ยามกลางวันเงียบสงบ ส่วนในช่วงค่ำคืนจะมีร้านอาหาร คลับบาร์ เปิดให้บริการ สร้างสีสันให้กับเกาะเต่าไม่เหงา บรรยากาศของเกาะเต่านั้นจะมีความโรแมนติก ด้วยเป็นเกาะที่มีน้ำทะเลใส หาดทรายขาว หลายคู่รักเลือกที่จะมาเยือนเกาะเต่าเพื่อถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง หรือใช้เป็นสถานที่สำคัญในการจัดงานแต่งงาน
โรงแรมที่พักบนเกาะเต่า มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น มีหลากหลายแบบให้ได้เลือกพัก ครบครันไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงเรียนสอนดำน้ำ บริษัททัวร์ คลับ บาร์ เป็นสวรรค์ย่อม ๆ ที่จะทำให้ประทับใจไม่รู้ลืม
เกาะเต่า อยู่ห่างจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 110 กิโลเมตร จากเกาะพะงัน ประมาณ 45 เมตร จากเกาะสมุย ประมาณ 64 กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดชุมพร ประมาณ 74 กิโลเมตร หากจะเดินทางมาจากแผ่นดินใหญ่การเดินทางจากจังหวัดชุมพรจะมีความสะดวกมากกว่า แต่ถ้ามาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็จะได้แวะเที่ยวเกาะอื่น ๆ ด้วย
เกาะพะงัน
หากพูดถึงเทศกาลฟูลมูน ปาร์ตี้ สิ่งแรกที่จะนึกถึงก็คือ "เกาะพะงัน" เพราะเกาะแห่งนี้เป็นสถานที่แรก ๆ ในเมืองไทยที่จัดเทศกาลชมจันทร์ ซึ่งมีบรรยากาศที่สุดแสนอบอุ่นและโรแมนติก ด้วยสถานที่จัดงานอยู่บริเวณหาดริ้น ในทุก ๆ ปี จะมีผู้คนมากมายจากทั่วโลกหลั่งไหลมาร่วมเทศกาลนี้ โดยภายในงานจะมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชมคอนเสิร์ต, การเพ้นท์ตัวด้วยสีสะท้อนแสง และการเล่นเกมต่าง ๆ เป็นต้น
นอกจากเทศกาลฟูลมูน ปาร์ตี้ ที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วทั้งโลกแล้ว ที่นี่ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม รอบ ๆ เกาะมีแนวปะการังมากมายให้ได้ดำดิ่งลงไปชื่นชม พร้อมทั้งน้ำทะเลที่ใสสะอาด มองเห็นใต้ท้องทะเลได้อย่างชัดเจน หาดทรายหลายแห่งขาวสะอาด น่าสัมผัส บนเกาะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีโรงแรมที่พักให้เลือกมากมาย รวมทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านสะดวกซื้อ อีกด้วย
เกาะพะงัน มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 168 ตารางกิโลเมตร มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ฯ ประมาณ 100 กิโลเมตร การเดินทางมายังเกาะพะงันสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือดอนสัก หรือจะเดินทางไปท่องเที่ยวยังเกาะสมุยก่อน แล้วไปเที่ยวยังเกาะพะงันก็ได้ เพราะมีเรือจากเกาะสมุยไปยังเกาะพะงันด้วยเช่นกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7728 8817-9
เกาะนางยวน
เกาะนางยวน เป็นอีกหนึ่งเกาะในประเทศไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ติด 1 ใน 10 เกาะที่น่าพักผ่อนมากที่สุดในโลก เกาะนางยวนตั้งอยู่ทางทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า เอกลักษณ์ของเกาะนางยวน ก็คือเกาะทั้ง 3 เกาะ ถูกเชื่อมต่อกันด้วยสันทรายสีขาวสะอาด ภูเขาทั้ง 3 ลูกเขียวขจีไปด้วยต้นไม้และล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าคราม
เกาะนางยวน มีพื้นที่ไม่มาก มีที่พักเพียงแห่งเดียวเท่านั้น จึงทำให้ที่นี่เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินเล่นบนสันทราย นอนอาบแดด อ่านหนังสือ ดำน้ำดูปะการังโดยรอบ ๆ เกาะ หรือแม้กระทั่งการพายเรือคายักชมความงดงามของเกาะนางยวนก็สนุกไม่น้อยเลยทีเดียว สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อไปถึงเกาะนางยวนก็คือการเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ขึ้นไปยังจุดชมวิวบริเวณบนยอดเขาของเกาะทางด้านซ้าย เพื่อไปชมทัศนียภาพที่สวยงามของสันทรายที่เชื่อมเกาะทั้ง 3 ไว้ ความสวยงามของวิวบนนี้จะทำให้คุณไม่อยากเดินกลับไปยังด้านล่างเลยทีเดียว
ช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการมาเที่ยวเกาะนางยวนก็คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์-ตุลาคม เพราะจะมีคลื่นลมสงบ ท้องฟ้าสดใส แต่ในช่วงอื่น ๆ ก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน และไม่วุ่นวายเท่ากับช่วงไฮซีซั่นอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์มายังเกาะเต่าหรือเกาะพะงันก่อน แล้วค่อยมาที่เกาะนางยวน หรือจะไปขึ้นเรือที่อ่าวทุ่งมะขามน้อย จังหวัดชุมพร ก็ได้ ซึ่งจะมีระยะทางที่ใกล้กว่าการเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เที่ยวป่าเขา
อุทยานแห่งชาติเขาสก
อุทยานแห่งชาติเขาสก ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 645.52 ตารางกิโลเมตร มีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ และสัตว์ป่านานาชนิด บริเวณทางด้านเหนือของอุทยานเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการสร้างเขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก ด้วยภายในทะเลสาบมีภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา ตั้งตระหง่านอยู่บนผืนน้ำใสอย่างสง่างาม และบริเวณโดยรอบทะเลสาบ มีแพที่พักต่าง ๆ มากมาย ไว้บริการนักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถที่จะมาพักผ่อนบนแพ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม และอากาศบริสุทธิ์ ยามเช้าจะมีสายหมอกคลอเคลียกับผืนน้ำ มีแสงของพระอาทิตย์ส่องลงมาสะท้อนเบา ๆ เป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ บางรีสอร์ทมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานมากมาย อาทิ การพายเรือแคนู, การเที่ยวถ้ำน้ำทะลุ, การเล่นกระดานสไลเดอร์, การว่ายน้ำในทะเลสาบ เป็นต้น
น้ำตกตาดฟ้า
หากไม่อยากไปเที่ยวทะเล ที่สุราษฎร์ธานีก็มีที่เที่ยวสุราษฎร์ธานีแบบน้ำตกป่าเขาให้ได้เที่ยวชมเช่นกัน ซึ่ง "น้ำตกตาดฟ้า" เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ห้ามพลาด ด้วยเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมากที่สุดของที่นี่ ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ตำบลลำพูน อำเภอบ้านนาสาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 8 ชั้น โดยแต่ละชั้นก็มีความสูงและชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป อาทิ ริมไผ่ วังเตย หนานเตย ริมไทร ริมไทรน้อย วังเย็น วังต้นผึ้ง และดาดฟ้า ซึ่งชั้นที่สูงและสวยที่สุดคือชั้นที่ 8 ชื่อว่าชั้นตาดฟ้า มีความสูง 1,250 เมตร บริเวณโดยรอบน้ำตกเป็นป่าเขียวขจี อากาศสดชื่น เย็นสบาย มีจุดให้นั่งปิกนิกและเล่นน้ำหลายจุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น โทร. 0 7791 8611
บ่อน้ำพุร้อนท่าสะท้อน
บ่อน้ำพุร้อนท่าสะท้อน ตั้งอยู่ที่บ้านห้วย หมู่ที่ 6 ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน โดยเป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ผุดออกมาจากใต้ผืนดิน วัดอุณหภูมิได้ประมาณ 70 องศาเซลเซียส ซึ่งจะมีส่วนผสมของหินปูน หรือสารละลายแคลเซียมคาร์บอเนตอยู่ด้วย ชาวบ้านในพื้นที่และนักท่องเที่ยวมักจะไปแช่น้ำร้อนกันเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างงกาย ช่วยกระตุ้นระบบประสาท เป็นต้น โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณนี้ให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีบ่อแยกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปแช่ท่ามกลางต้นไม้มากมายโดยรอบ
น้ำตกวิภาวดี
น้ำตกวิภาวดี อยู่ห่างจากจากอำเภอเมืองประมาณ 38 กิโลเมตร อยู่ในเขตอำเภอเมืองวิภาวดี เป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่มีความสวยงาม มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาแดน มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นก็มีความสูงและความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่สวยที่สุด ได้แก่ ชั้นที่ 2 ด้วยเป็นชั้นที่มีหน้าผาสูงมากถึง 15-20 เมตร น้ำจำนวนมหาศาลจะไหลลงมาตามหน้าผาหินอย่างสวยงาม ลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะว่ายน้ำเล่นได้ในบริเวณนี้ บริเวณโดยรอบน้ำตกเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี มีอากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน ซึ่งช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการมาเที่ยวชมน้ำตกก็คือช่วงเดือนมกราคม-เมษายน เพราะมีน้ำเยอะ ทำให้เห็นความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้อย่างชัดเจน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลตะกุกใต้ โทร. 0 7731 9019
ที่เที่ยวอื่น ๆ
คลองร้อยสาย
คลองร้อยสาย เป็นบริเวณที่แม่น้ำตาปีแยกออกมาเป็นคลองมากมายกว่าร้อยสาย ตั้งอยู่ในตำบลบางใบไม้ ตัวเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมชนบริเวณนี้เรียกว่า "ชุมชนในบาง" ชาวบ้านจะปลูกบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งคลอง ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีการสัญจรทางน้ำ ซึ่งตลอดทั้งสองฝั่งเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ยังคงมีต้นจากให้เห็นแน่นขนัด ชาวบ้านในชุมชนยังคงรักษาประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมบรรยากาศริมฝั่งคลองแล้ว ก็ยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชนด้วย อาทิ ชมสาธิตการจักสานงานหัตถกรรม, ชมฟาร์มหอยนางรม, เที่ยวชมวัดใบไม้, ชิมน้ำมะพร้าวน้ำหอม และผลไม้มากมาย, เยี่ยมชมศูนย์สาธิตการฝึกลิงเพื่อการเกษตร, เรียนรู้วิถีชีวิตของประมงพื้นบ้าน และชมป่าชายเลน เป็นต้น
ไฮไลท์ของที่นี่คือการนั่งเรือชมหิ่งห้อยนับพันตัวในคลอง ซึ่งหิ่งห้อยจะเกาะอยู่บริเวณต้นไม้ริมคลองมากมาย ส่องแสงสีเหลืองทองระยิบระยับให้เห็นตลอดทั้งฝั่งคลอง เมื่อเรือเข้าไปใกล้กับต้นไม้ก็จะเห็นว่ามีหิ่งห้อยเกาะอยู่ตามใบไม้มากมาย เป็นภาพที่หาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน ทั้งนี้ในชุมชนชาวบ้านบางหลังเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้พัก หรือจะไปพักในตัวเมืองก็ได้เช่นกัน เพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7728 8817-9
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ที่ 50 หมู่ 3 ตำบลเวียง อำเภอไชยา เป็นศาสนสถานที่สำคัญของศาสนาพุทธ เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีลักษณะสถาปัตยกรรมของพระบรมธาตุแบบศรีวิชัย ประดับประดาโดยรอบ พร้อมกับการตกแต่งลวดลายอย่างสวยงาม ฐานกว้าง 4 วา 2 ศอก ยาว 5 วา มีหน้ามุข หน้าบัน และบราลีทุกชั้น องค์พระบรมธาตุฯ มีสีขาวสว่างสวยงาม บริเวณวัดเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้มากมาย มีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา, พระวิหารหลวง, พระวิหารคด ให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 7743 1090, 0 7743 1402
หมู่บ้านพุมเรียงและแหลมโพธิ์
หมู่บ้านพุมเรียงและแหลมโพธิ์ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในอำเภอ ไชยา โดยอยู่ห่างจากตัวอำเภอไปประมาณ 7 กิโลเมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม หมู่บ้านพุมเรียงโดดเด่นในเรื่องการทอผ้าไหม ซึ่งเป็นผ้าไหมยกดิ้นเงินหรือดิ้นทอง จึงทำให้งานทอผ้าไหมที่นี่สวยงามไม่เหมือนกับที่ไหน เป็นงานทอที่มีความละเอียด จึงมีคุณภาพดี มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ อาทิ ลายราชวัตร ลายดอกโคม ลายดอกพิกุล ลายนพเก้า และลายยกเบ็ด ส่วนหมู่บ้านแหลมโพธิ์อยู่ห่างจากหมู่บ้านพุมเรียงไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับทะเล มีชายทะเลที่งดงาม มีอาหารทะเลอันขึ้นชื่อคือ "หอยขาว" จะมีเพียงแค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
พิพิธเมืองคนดี
พิพิธเมืองคนดี ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการ พร้อมวีดิทัศน์จอมัลติมีเดีย ในเรื่องราวความเป็นมาและเหตุการณ์ต่าง ๆ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยแบ่งเป็นโซนใหญ่ได้ 4 โซน ได้แก่ โซน 1 ภาพบอกเล่าเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, โซน 2 ภาพเหตุการณ์สำคัญในอดีตของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เช่น การพระราชทานนามของ "จังหวัดสุราษฎร์ธานี" โดยรัชกาลที่ 6 หรือภาพในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2, โซน 3 แสดงวิถีชีวิตของชาวท่าข้าม และโซน 4 แสดงโบราณสถานสำคัญและหลักฐานต่าง ๆ
พิพิธเมืองคนดี เปิดให้นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษาประชาชนทั่วไปเข้าเที่ยวชม โดยเปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. เข้าชมฟรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 08 1891 8599, 0 7731 1833
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกมากมายรอให้คุณได้ไปสัมผัส รวมทั้งความเป็นมิตรไมตรีของคนท้องถิ่น หากอยากรู้ว่าคนเมืองสุราษฎร์ฯ จะน่ารักมากมายแค่ไหน ก็ต้องไปสัมผัสกันด้วยตัวเองสักครั้ง :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, toursurat.com, amperphunphin.go.th, rakbankerd.com, suratthani.go.th และ 7greens.tourismthailand.org