สัมผัสสิ่งมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติที่งดงามเหนือกาลเวลา
จังหวัดอุบลราชธานี ไม่ได้เป็นเพียงทางผ่านเพื่อข้ามไปยังประเทศลาวเท่านั้น แต่ที่นี่เป็นเมืองแห่งอารยธรรมริมฝั่งโขงที่มีเอกลักษณ์ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม มีอากาศที่บริสุทธิ์ ลองนึกดูสิว่าเมื่อตื่นเช้ามาได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ มันจะสดชื่นขนาดไหน ซึ่งที่อุบลราชธานีก็ทำให้เราได้ฟินกับบรรยากาศเหล่านี้แบบเต็มอิ่มเลยทีเดียว และมันจะยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก เมื่อได้สัมผัสกับธรรมชาติสุดมหัศจรรย์ของเมืองอุบลฯ แต่ละที่จะทำให้เราหลงใหลได้มากแค่ไหน ไปติดตามกันเลยค่ะ
1. น้ำตกสร้อยสวรรค์
น้ำตกสร้อยสวรรค์ เกิดจากลำธาร 2 สาย คือ ห้วยสร้อยและแซไผ่ ไหลมาบรรจบกันดูลักษณะคล้ายสายสร้อย บริเวณริมลำธารมีต้นพลาญหิน บริเวณริมลำธารมีพลาญหิน ซึ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีดอกไม้หลากสีสันออกดอกงดงาม เมื่อมองสายน้ำไหลลงมาตกกระทบโขดหินที่อยู่เบื้องล่างก็พาให้หัวใจชุ่มฉ่ำ นับเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำอีกช่วงหนึ่งเลยทีเดียว
2. น้ำตกห้วยหลวง
เมื่อเดินลัดเลาะผ่านเส้นทางธรรมชาติ ภายในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ปลายสุดของเส้นทางคือน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี นั่นก็คือ น้ำตกผาเมือง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าน้ำตกลอดรู สายน้ำที่ไหลลัดเลาะลำห้วยลงสู่ซอกหินผา จนเกิดเป็นสายน้ำตกที่งดงาม สร้างความอัศจรรย์ให้กับน้ำตกแห่งนี้ เป็นมนตร์เสน่ห์ที่คงอยู่ตลอดกาล
3. น้ำตกลงรู หรือน้ำตกแสงจันทร์
แหล่งท่องเที่ยว Unseen in Thailand ของจังหวัดอุบลราชธานี มีลักษณะพิเศษโดดเด่นและสวยงามไม่แพ้น้ำตกที่ไหนในเมืองไทย ด้วยเกิดจากลำห้วยเล็ก ๆ บนลานหินไหลลอดผ่านหน้าผาหินที่มีลักษณะเป็นรูลงสู่เพิงผาด้านล่าง เมื่อแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวันส่องลงยายังสายน้ำ จะเกิดประกายสีนวลตาเหมือนแสงจันทร์ สวยงามจนอยากให้เวลาหยุดนิ่ง เพื่อชมความงดงามของน้ำตกแห่งนี้ให้ได้นานที่สุด
4. ผาชะนะได
แสงแรกสีทองของดวงอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่พ้นขอบฟ้า เป็นภาพที่ถ้าใครได้เห็นด้วยตาตัวเองคงยากที่จะลืมเลือน ยิ่งมาเที่ยวอุบลฯ ด้วยแล้ว รับรองได้เลยว่าจะต้องไม่ผิดหวังกับยามเช้าของวันใหม่ที่ผาชะนะไดแน่นอน ที่นี่เป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้ก่อนใครในเมืองไทย แสงสีทองที่ทาบทาลงบนลำน้ำโขง และค่อย ๆ ไล่ฉาบทาไปทั่วป่าโดยรอบ เผยให้ความงดงามของธรรมชาติทีละน้อย พร้อมกับลมเย็น ๆ ที่พัดพามากระทบผิวกาย ความประทับใจนี้จะเก็บไปตลอดกาล
5. ผาชัน
เมื่อไปยืนบนยอดผาแล้วมองต่ำลงมาที่ความสูงกว่า 40-50 เมตร จะเห็นได้ถึงความลาดชันของหน้าผาแห่งนี้ โดยบริเวณนี้ที่มีลักษณะของหน้าผาสูงชัน ขนาบข้างสองฝั่งสูง มีระยะยาวกว่า 5 กิโลเมตร หน้าผาสีน้ำตาลแดง ต้นไม้เขียวขจี และสายน้ำโขง เป็นความสวยงามของธรรมชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว
6. หาดชมดาว
บริเวณหมู่บ้านโนนตาล ตำบลนาตาล อำเภอนาตาล แก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง ถูกกัดเซาะด้วยแรงน้ำวน ทำให้แก่งหินกลายเป็นแอ่งเล็กใหญ่จำนวนมาก เมื่อถึงฤดูน้ำลดก็จะปรากฏทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตาของแก่งหินเหล่านี้
7. สามพันโบก
อัศจรรย์แกรนด์แคนยอนเมืองไทย กลุ่มหินทรายบนแนวเทือกเขาภูพานตอนปลายที่ทอดตัวยาวริมฝั่งโขงไทยและลาว มีพื้นที่กว่า 30 ตารางกิโลเมตร สายน้ำที่ไหลมากระทบผาหิน ก่อเกิดประติมากรรมธรรมชาติที่งดงาม "โบก" หรือ "หลุมหรือบ่อน้ำ" มากกว่า 3,000 แห่ง มีรูปร่างแปลกตาแตกต่างกันไป เป็นความอัศจรรย์ที่มีเพียงที่นี่ที่เดียวเท่านั้นในเมืองไทย ยามเย็นที่แสงพระอาทิตย์ค่อย ๆ ส่องสะท้อนหินสีแดงเหล่านี้ จะทำให้ทั่วทั้งสามพันโบกมีบรรยากาศสวยงาม อบอุ่นไปถึงหัวใจเลยทีเดียว
8. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มหัศจรรย์แห่งศิลปะที่ธรรมชาติรังสรรค์ ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ได้ซ่อนสิ่งมหัศจรรย์เอาไว้มากมาย "เสาเฉลียง" ที่ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นภายในอุทยาน อันเกิดจากการกัดเซาะของแรงลม สายฝน และแสงแดด ทำให้เกิดเสาหินรูปร่างคล้ายดอกเห็ดอันเป็นเอกลักษณ์
ห่างออกไปไม่ไกลคือ "ลานหินแตก" สถานที่ซึ่งบ่งบอกลักษณะทางธรณีวิทยาของบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี และภายใต้ชะง่อนผาปรากฏภาพวาดสีโบราณ อันเป็นหลักฐานสำคัญในการชี้ว่าบริเวณนี้เคยมีมนุษย์อยู่อาศัย ที่นี่จึงไม่ใช่เพียงป่าเขาที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย
ยลความงามของทุ่งดอกไม้ป่าที่สวยงาม
ใครจะไปคิดว่าในจังหวัดอุบลราชธานีจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ป่ามากมาย ซึ่งทำให้อุบลราชธานีมีความอ่อนหวานและงดงามมากยิ่งขึ้น คล้ายกับหญิงสาวที่บดบังความสวยงามของตัวเองไว้ภายใน แต่ถ้าหากใครได้เข้ามาทำความรู้จักก็จะพบว่าที่แห่งนี้สวยงามเกินคำบรรยาย เส้นทางการชมดอกไม้จะมีที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ
1. ทุ่งดอกไม้ป่าบนผา ชมแสงแรกแห่งสยาม
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว ภาพของท้องฟ้าสีครามตัดกับแนวทิวเขาที่ราบสูงและภูหินทราย บนลานกว้างที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ถูกแซมด้วยมวลหมู่ดอกไม้ป่านานาชนิด เด่นที่สุดคือ สร้อยสุวรรณา ทิพเกสร มณีเทวดา และสรัสจันทร ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชนามให้ เมื่อถึงฤดูกาลที่ดอกไม้เบ่งบาน ดอกไม้ป่าจะปรากฏอยู่ตามแหล่งน้ำและภูผา อาทิ ทุ่งดอกไม้น้ำตกห้วยพอก ทุ่งดอกไม้ป่าดงนาทาม บริเวณเสาเฉลียงคู่ ลานภูจ้อมก้อมเป็นต้น
2. ทุ่งดอกกระดุมเงิน สวรรค์ของคนรักดอกไม้
พื้นที่อันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ณ ทุ่งหนองหญ้าม้า อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว ดอกกระดุมเงิน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าหญ้าหัวหงอก จะค่อย ๆ พากันออกดอกบานสะพรั่ง สีขาวนวลดูละลานตา ยามที่สายลมพัดผ่าน ดอกกระดุมเงินจะไหวพลิ้วไปตามสายลม เป็นความงดงามที่ไม่ได้ปรุงแต่งเลยสักนิด และในบริเวณเดียวกันยังมีดอกสร้อยสุวรรณนา สีเหลืองอร่าม สร้างสีสันให้กับที่นี่อีกด้วย
3. ทุ่งดอกไม้บนภูสมุย
ลานหินโล่งกว้าง สลับกับก้อนหินและเสาหิน ถูกแซมด้วยดอกไม้มากมาย อาทิ ดอกกระดุมเงิน ดุสิตา จอกบ่วาย หญ้าหมู่ดาว สร้อยสุวรรณา ทิพเกสร และกล้วยไม้แดงอุบล สร้างความมีชีวิตชีวาให้กับลานหินแห่งนี้ในช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกปี
4. ทุ่งดอกไม้รับเสด็จ น้ำตกสร้อยสวรรค์
ห่างจากตัวน้ำตกสร้อยสวรรค์ออกไปทางเหนือประมาณ 800 เมตร - 2 กิโลเมตร บนลานกว้างสลับกับป่าเบญจพรรณ ริมสองฝั่งของริมห้วย เต็มไปด้วยดอกไม้ป่านานาชนิด อาทิ ดอกกระดุมเงิน ดุสิตา จอกบ่วาย หญ้าหมู่ดาว สร้อยสุวรรณนา ทิพเกสร และกล้วยไม้แดงอุบล ประกอบกับความเย็นสบายของอากาศ ทำให้ร่างกายได้รับความสดชื่นอย่างเต็มที่
5. ทุ่งดอกไม้ป่าวนอุทยานน้ำตกผาหลวง
บนลานหินภายในวนอุทยานน้ำตกผาหลวง มวลหมู่ดอกไม้หลากหลายชนิดพากันชู่ช่อเบ่งบาน และพลิ้วไหวไปตามแรงลม ส่งสีสันของดอกไม้ที่ขึ้นแซมกันนั้นโดดเด่นสลับกันไปมา นำโดยพรรณไม้พระราชทาน อาทิ สร้อยสุวรรณา ดุสิตา ทิกเกสร มณีเทวดา เป็นต้น
6. ทุ่งดอกไม้ป่าอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย
สายลมหนาวเริ่มพัดผ่านมา มีสายฝนตกปรอย ๆ อากาศที่เย็นสบาย ส่งผลให้ดอกไม้นานาพรรณเริ่มผลิบาน บนลานหินถูกแต่งแต้มด้วยสีสันต่าง ๆ ของดอกไม้ป่ามากมาย ทั้งกระดุมเงิน ดุสิตา จอกบ่วาย หญ้าหมู่ดาว สร้อยสุวรรณา ทิพเกสร เป็นต้นอีกทั้งยังมีมวลหมู่ผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ให้ได้ยลโฉมอีกด้วย
อิ่มบุญ เพลินใจในเมืองอุบลฯ
ชมมนตร์เสน่ห์ที่น่าหลงใหลของดินแดนแห่งความเกษมสุขริมลุ่มแม่น้ำโขง ด้วยวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม พร้อมทั้งวัดวาอารามต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อคนท้องถิ่น อีกทั้งยังมีความสวยงาม อิ่มทั้งบุญและเป็นขวัญตาให้กับผู้มาเยือน วัดในเมืองอุบลฯ ที่ไม่ควรพลาด อาทิ
1. วัดศรีประดู่
วัดศรีประดู่เปรียบเสมือนศูนย์กลางความงดงามตระการตาของต้นเทียนพรรษาจากทุกมุมเมืองในจังหวัด สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2511มีกิจกรรมให้คนในชุมชนและประชาชนที่สนใจได้เข้ามาศึกษาและเรียนรู้เรื่องการทำเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ ในช่วงเทศกาลงานเทียนเข้าพรรษาจะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในการทำต้นเทียน และมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับขั้นตอนการทำเทียนเครื่องมือที่ใช้วาดลวดลายเทียนที่ทำก่อนติดลงบนต้นเทียน ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความรู้ศิลปะและวัฒนธรรมของการทำต้นเทียนในงานเข้าพรรษา ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีทางศาสนาที่สำคัญเทศกาลหนึ่ง
2. วัดทุ่งศรีเมือง
วัดเก่าแก่ของจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และได้นำรอยพระพุทธบาทจำลองมาจากวัดสระเกศฯ ประดิษฐานไว้ให้เป็นที่กราบไหว้แก่พุทธศาสนิกชน พร้อมทั้งสร้างหอพระพุทธบาทขึ้น ซึ่งภายในหอพระพุทธบาทหรือพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่องค์เงินซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเก่าแก่ประจำเมืองอุบลราชธานี และยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันทรงคุณค่าเกี่ยวกับพุทธประวัติและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสมัยก่อนด้วย นอกจากนี้วัดทุ่งศรีเมืองยังมีหอไตรกลาง น้ำ ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงเป็นศิลปะผสม 3 สกุลช่าง คือ ไทย พม่า และลาว ตัวอาคารเป็นแบบไทยภาคกลาง หลังคาซ้อนกันลดหลั่นแบบไทยผสมพม่า สร้างด้วยไม้เนื้อแข็งทั้งหลัง แกะสลักลวดลายบนหน้าบันเป็นศิลปะแบบลาว
3. วัดถ้ำคูหาสวรรค์
แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี จะได้ชมความงามที่มากกว่าการหักเหของแสงที่ตกกระทบบนผืนน้ำ ชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงและแม่น้ำสองสี ซึ่งเกิดจากแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลไหลรวมกัน ตลอดจนได้ชมทิวทัศน์ของฝั่งประเทศตรงข้ามได้อย่างชัดเจน ภายในบริเวณวัดถ้ำคูหาสวรรค์มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น พระอุโบสถหลังงามสีขาวแกะสลักลวดลายสวยงามวิจิตรบรรจง พระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิที่สวยงาม อีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ "ถ้ำคูหาสวรรค์" ที่อยู่บริเวณด้านหลังวัด ซึ่งเป็นถ้ำที่เดินไปได้สะดวก ไม่ลึก ภายในถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยมากมายหลายองค์ ด้านในถ้ำเป็นที่ตั้งของโลงแก้วที่บรรจุสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ให้ผู้คนได้เข้าชมและกราบไหว้กัน
4. วัดพระธาตุหนองบัว หรือวัดพระธาตุศรีมหาโพธิ์
เป็นวัดราษฎร์ นิกายธรรมยุต เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจคือ พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปี พ.ศ. 2500 นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์นั้นได้จำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รอบองค์พระธาตุเป็นกำแพงแก้ว ซึ่งทั้ง 4 มุมของกำแพงแก้วได้ประดิษฐานพระเจดีย์ขนาดเล็กอีก 4 องค์ ภายในองค์พระธาตุมีประตูทางเข้าทั้ง 4 ด้าน หากเข้ามาชมในช่วงเวลากลางคืนจะประทับใจไปอีกแบบ
5. วัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่
วัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่ ตั้งอยู่ที่ถนนสรรพสิทธิ์ อำเภอเมืองอุบลราชธานี เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนี้ สิ่งที่สำคัญของวัดนี้ คือ พระใหญ่อินแปลง พระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทองอย่างงดงาม มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว หน้าตักกว้าง 3 เมตร ชาวอุบลฯ มักจะมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางในศึกษาพระธรรมทั้งฆราวาสและพระสงฆ์ เป็นศูนย์รวมจิตใจทางพระพุทธศาสนาของเมืองอุบลฯ อย่างแท้จริง
6. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว
เมื่อความสว่างจากท้องฟ้าเริ่มลาลับสู่พลบค่ำ กลับปรากฏแสงเรืองรองขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าวเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ระหว่างทางจากอุบลราชธานีถึงด่านชายแดนช่องเม็ก เป็นวัดเก่าของ หลวงปู่บุญมาก ฐิติปัญโญ เป็นสถานที่สำคัญที่บูรพาจารย์หลายท่านได้มาพำนักจำพรรษาบำเพ็ญสมณธรรม นำพระภิกษุ สามเณร อุบาสก และอุบาสิกา มาอบรมสมาธิภาวนา ที่สำคัญบริเวณด้านหลังอุโบสถของวัดมีความพิเศษและงดงามอย่างยิ่งก็คือ "ศิลปกรรมต้นไม้เรืองแสง" ที่จะค่อย ๆ เปล่งแสงสว่างขึ้นสวนทางกับท้องฟ้าที่ค่อย ๆ มืดลงยามพลบค่ำ เป็นความประทับใจที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจได้ไม่ยาก นอกจากนี้ที่วัดสิรินธรวรารามภูพร้าวยังเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกและชมดาวที่สวยงามมากจุดหนึ่ง
เส้นทางการท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานี สามารถตามรอยได้ง่าย ๆ ด้วยแผนที่ท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานีตามด้านล่างนี้ และสามารถคลิกขยายหรือเซฟแผนที่ที่เที่ยวอุบลราชธานีได้เลย
สำหรับการเดินทางสู่จังหวัดอุบลราชธานีที่แสนสะดวกสบายและง่ายที่สุด ต้องมาฟังทางนี้ ด้วยสายการบินนกแอร์ได้ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานีมากถึง 7 เที่ยววันต่อวัน
และบริการเสริมที่ให้คุณเที่ยวได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
- นกแอร์มีบริการ เที่ยวบินต่อรถรับส่ง (Fly’n’Ride Service) เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร จากสนามบินอุบลราชธานีไปยังจังหวัดใกล้เคียง
อำนาจเจริญ ดูรายละเอียดตารางการบินได้ที่นี่
มุกดาหาร ดูรายละเอียดตารางการบินได้ที่นี่
- NOK CAR บริการรถเช่า คลิกเพื่อดูรายละเอียด