วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ตามบันทึกการเดินทางของ คุณนัท ณัฐวดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกับแวะไปเที่ยวลาวใต้ ชมความงามของน้ำตกสวย ๆ ในระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ด้วยงบประมาณเบา ๆ 3,000 บาท !!! ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวสไตล์แบ็คแพ็กเกอร์ลองเก็บเอาไว้เป็นตัวเลือกเจ๋ง ๆ กันดูนะคะ
"ทริปนี้เป็นการผจญภัยแบบที่มีการวางแผนการเดินทางน้อยมาก แต่เพราะพวกเราทั้งสองคนอยากออกไปผจญภัย ไปพบเจอความสวยงามของการเดินทาง ทริปนี้จึงเกิดขึ้นจากความตั้งใจ ที่มีแต่การเตรียมใจ ไม่ได้เตรียมข้อมูล มันคือเสน่ห์ของการแบ็คแพ็กอย่างหนึ่งจริง ๆ คะ ฮ่า ๆๆ"
เป้าหมายการเดินทางครั้งนี้ คือ สามพันโบก เสาเฉลียง ผาแต้ม โขงเจียม (จังหวัดอุบลราชธานี) และน้ำตกในลาวใต้ด้วยงบประมาณ 3,000 บาท แต่เนื่องจากเราเดินทางกันแค่ 2 คน ทำให้งบบานปลายไปนิดหนึ่ง แฮ่ ๆๆ เราเดินทางในระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคม 2558 (เย็นวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และเช้ามืดวันจันทร์กลับถึงกรุงเทพฯ)
***จำนวนผู้ร่วมเดินทาง 2 คน เป็นผู้หญิงทั้งคู่ (เด็ดเดี่ยวมาก) และไม่น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิด
กล้องถ่ายภาพที่เราใช้ส่วนใหญ่เป็น Note 3 และกล้องคอมแพคท์ Fuji เราเดินทางโดยรถทัวร์ โบกรถชาวบ้าน รถสองแถวเหมา (เหมาไปโขงเจียม) และรถตู้มินิเหมา (ตอนเข้าไปเที่ยวน้ำตกในลาว)
***การเดินทางไปลาวหากไม่มีพาสปอร์ตสามารถทำแค่ Border Pass ก็สามารถไปผจญภัยในลาวได้แล้ว (ถ้าใช้พาสปอร์ต จะเสียเงินค่าเข้า-ออกประเทศลาว 200 บาท แต่ถ้าทำ Border Pass จะเสียแค่ 130 บาทเอง***
การเข้าประเทศลาวไม่จำเป็นต้องแลกเงิน สามารถใช้เงินบาทได้เลย สบายมาก ^^
วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2558
(วันเดินทางเราจองตั๋ว (กรุงเทพฯ-โขงเจียม) ของบริษัทเชิดชัยทัวร์ทางโทรศัพท์ก่อนการเดินทาง 2 วัน โดยจองรถ ป.1 ราคา 540 บาท **จริง ๆ แล้วของบริษัทอื่นก็มีนะคะ
จุดหมายปลายทางของเรา คือ ตำบลสองคอน เพื่อไปยังสามพันโบก ตามเวลารถจะออกเวลา 19.00 น. แต่เอาเข้าจริงรถออกจากหมอชิตประมาณ 19.40 น. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 13 ชั่วโมง ถึงที่หมายประมาณ 8 โมงเช้า เราไปรับตั๋วที่เคาน์เตอร์ก่อนรถออก 1 ชั่วโมง
วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2558 (วันที่ 1)
รถทัวร์ผ่านโขงเจียม ทางเข้าผาแต้ม ทางเข้าน้ำตกสร้อยสวรรค์ และทางเข้าน้ำตกแสงจันทร์ เราตื่นเต้นกันมากอยากลงตั้งแต่ผ่านผาแต้ม แต่ !!!!!! เราตั้งใจว่าจะต้องไปสามพันโบกก่อนแล้วค่อยตีรถกลับมา ตอนแรกเราจะไปลงที่ สองคอน (สองคอนเป็นตำบลซึ่งอยู่ในอำเภอโพธิ์ไทร) เป็นจุดที่คนส่วนใหญ่ลงเพื่อเข้าไปในสามพันโบก
แต่รถทัวร์ผ่านทางเข้าสามพันโบกก่อนเราจึงลงจากรถและเดินเข้าไป เดินไปไม่นานก็มีพี่ใจดีขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมารับเราสองคนเข้าไปในสามพันโบก มิเช่นนั้นเราต้องเดินเข้าไประยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โชคดีที่พี่เขาเป็นไกด์และรู้จักที่พัก ที่เที่ยว และรถที่เราจะเหมาไปโขงเจียม
***เดี๋ยวเราจะให้เบอร์โทรของพี่เขาไว้ตอนท้ายนะ*** พี่เขาใจดีและมีน้ำใจมาก แต่หน้าตาอาจสวนทาง อุ๊ปส์ !!!
พอเรามาถึงสามพันโบกเราต้องนั่งรถสองแถวไป-กลับคนละ 20 บาท รถมีวิ่งตลอดเขาจะจอดรอคิวเลย
รถสองแถวที่เราพูดถึงค่ะ ^^ รถจะจอดไม่ไกลจากจุด Landmark ต่าง ๆ เช่น แอ่งรูปมิกกี้เม้าส์ รูปหัวใจ หินรูปหัวสุนัข สามารถให้ไกด์เด็กน้อยพาไปตามจุดต่าง ๆ ได้ แต่เราสองคนเลือกที่จะเดินไปกันเอง
หลังจากเราถ่ายรูปกันจนพอใจแล้วก็นั่งรถสองแถวคันเดิมกลับได้เลย คือเราจะกลับเมื่อไหร่ก็ได้เขาไม่จำกัดเวลา เราหาอะไรกินก่อนที่จะเหมารถไปโขงเจียม บริเวณนั้นจะมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำให้พร้อม เราเหมารถเพื่อเดินทางไปโขงเจียมและตกลงกับพี่คนขับรถว่าจะแวะสถานที่ต่าง ๆ ด้วยราคา 1,100 บาท ระยะทางจากสามพันโบกไปโขงเจียมประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงโขงเจียม รถที่เราเหมาก็คือรถสองแถวที่พาเข้าไปในสามพันโบกนั้นเอง ระหว่างทางพี่คนขับรถก็พาเราแวะเสาเฉลียงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
หลังจากนั้นก็แวะที่ผาแต้ม เราเดินเข้าไปประมาณ 300-400 เมตร ก็เจอภาพเขียนโบราณแล้ว เจ๋งมาก ๆ เลยค่ะ แต่ถ้าอยากเห็นความสวยงามมากกว่านี้ต้องเดินให้ครบรอบ ซึ่งเป็นระยะทางเกือบ 4 กิโลเมตร ไป-กลับแค่ 8 กิโลเมตร เอง ฮ่า ๆๆ
จริง ๆ แล้วเราอยากไปน้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู) มากแต่พี่เขาบอกช่วงนี้ไม่มีน้ำไปก็คงไม่เห็น เราก็เลยไม่ได้ไป ทั้ง ๆ ที่รถผ่านอยู่แล้ว เลยแนะนำเพื่อน ๆ อาจมาช่วงหน้าฝนก็ได้นะถ้าอยากเห็นน้ำตกลงรู น้ำตกแสงจันทร์ หลังจากนั้นพี่คนขับรถก็พาเรามาถึงอำเภอโขงเจียม พี่เขารู้จักที่พักราคาไม่แพง ชื่อแอปเปิ้ลเกสท์เฮ้าส์ ซึ่งไม่แพงจริง ๆ ห้องแอร์ 300 บาท พัดลม 200 บาท ห้องก็สะอาดดีมีโทรทัศน์ แอร์ พัดลมเพดาน เครื่องทำน้ำอุ่น แต่ไม่มี Wi-Fi (แอบเสียใจ) แต่ถือว่าคุ้มมาก แล้วก็มีรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่าด้วยในราคา 200 บาท เช่าได้ทั้งวัน
เราพักอาบน้ำให้ชื่นใจเสร็จแล้วก็ขับมอเตอร์ไซค์ที่เช่ามาไปสำรวจพื้นที่และหาของกิน จริง ๆ แล้วแถวนี้มีที่พักเยอะมาก ไม่ต้องจองล่วงหน้าด้วย ทั้ง ๆ ที่เรามาวันเสาร์-อาทิตย์ มีที่หนึ่งเหมือนเพิ่งสร้างเสร็จไม่นานน่าพักมาก ลองเสิร์ชหาราคา ห้องแอร์แค่ 350 บาทเอง ชื่อที่พัก โขงเจียมเพลส แอบเสียดายเล็ก ๆ ที่ไม่ได้พักที่นี่ ^^
***สรุปที่พักแถวนี้ราคาไม่แพงเลย
เราขี่รถไปรอบ ๆ โขงเจียม ไปไหว้พระที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์
หลังจากนั้นก็ไปที่จุดแม่น้ำ 2 สี ขออภัยนะคะที่ถ่ายรูปออกมาจะไม่ค่อยชัดว่าแบ่งออกเป็น 2 สี ^^
การเดินทางรอบ ๆ โขงเจียมส่วนใหญ่จะถามชาวบ้านค่ะ ชาวบ้านก็ใจดีมาก โขงเจียมเป็นอำเภอ ๆ หนึ่งที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง เป็นอำเภอขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างศิวิไลซ์ มีทั้งเซเว่นฯ โลตัสเอ็กซ์เพลส เราขับรถลงมาเส้นเรียบแม่น้ำโขงแล้วไปนั่งเล่นกันที่โขดหินที่ยื่นไปที่แม่น้ำโขง ฟินสุด ๆ บรรยากาศยามเย็นแบบนี้ มีเรือแล่นผ่านไป-มา เด็ก ๆ มากระโดดน้ำเล่นกัน ^^ ฟินนนนนนนน
แนะนำเพิ่มเติม ^^
1. เมื่อมาถึงสามพันโบกก่อนที่จะขึ้นรถสองแถวไปยังจุดถ่ายรูปต่าง ๆ ควรหาอะไรรองท้องก่อน เพื่อจะได้ถ่ายรูปยาว ๆ ไม่หน้ามืดแบบพวกเรา
2. เมื่อมาถึงทางเข้าสามพันโบก (จะมีป้ายใหญ่มากบอกไว้ว่าทางเข้าสามพันโบก) คือจุดที่รถทัวร์ปล่อยเราลง ถ้าไม่โบกรถชาวบ้านเข้ามาก็โทรหาพี่ไกด์ที่เราบอกว่าใจดีให้มารับได้นะ พี่เขาชื่อ พี่โต เบอร์ 061-0789097
3. สัญญาณโทรศัพท์มีตลอดเลย มิต้องกังวลกันนะคะ ^^
4. ถ้าเพื่อน ๆ อยากถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่สามพันโบกก็สามารถพักที่นี่ได้ แล้วค่อยไปต่อวันพรุ่งนี้
5. แนะนำสำหรับผู้ที่อยากชมความงามที่อื่น ๆ ของสามพันโบกสามารถนั่งเรือไปชมได้โดยมีทั่วแบบระยะทางสั้น ราคา 500 บาท ใช้เวลาในการแล่นเรือ 1.30 ชั่วโมง และระยะยาวราคา 1,000 บาท ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง
6. ถ้าเราไปลงที่สองคอนเราต้องเสียเงินค่านั่งเรือประมาณ 1,000 บาท (ไม่แน่ใจ) เพื่อมายังจุด Landmark เช่น แอ่งรูปมิกกี้เม้าส์ รูปหัวใจ หินรูปหัวสุนัข แต่ถ้าลงที่ทางเข้าสามพันโบกเข้ามาเพียง 3 กิโลเมตร ก็ถึงแล้ว
**ด้วยความที่เรามีเวลาจำกัดและอยากเที่ยวให้ครบทุกสถานที่ เราจึงใช้เวลาไม่มากในการแวะซึมซับกับบรรยากาศและถ่ายรูป ประมาณว่าเอาแค่พอรู้ว่าเรามาถึงแล้วนะ
***เราไม่ได้แวะเที่ยวน้ำตกลงรู (น้ำตกแสงจันทร์) หรือน้ำตกอื่น ๆ เลยเพราะพี่ไกด์บอกว่าช่วงนี้แล้งไม่มีน้ำ เสียดายมาก
วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2558 (วันที่ 2)
เราตื่นกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า รีบอาบน้ำแต่งตัวไปกินข้าวที่ตลาด เราเดินออกจากที่พักประมาณ 200-300 เมตร ก็ถึงตลาดแล้ว ที่ตลาดเวลานี้คึกคักมากมีทั้งอาหารคาวหวาน ผักพื้นบ้าน แต่จุดมุ่งหมายของเรา คือ ไข่กระทะและกวยจั๊บญวน
เมื่ออิ่มท้องก็นั่งรอรถตู้ไปช่องเม็กเพื่อข้ามไปยังลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตลาดที่เราทานอาหารเช้า เมื่อวานเรามาดูและสอบถามตารางรถเรียบร้อยแล้ว เราได้นั่งรถรอบ 8 โมง รถจะออกทุก ๆ ชั่วโมงเลยค่ะ และจะหมดประมาณ 6 โมงเย็น เป็นรถตู้ใหม่มากแอร์เย็นเฉียบ เราใช้เวลาในการเดินทางไปด่านพรมแดนช่องเม็ก ประมาณ 30 นาที ก็ถึงที่หมาย สำหรับค่ารถก็คนละ 40 บาท รถจะส่งเราที่ท่ารถ บขส. ช่องเม็ก จะมีพี่ ๆ วินมอเตอร์ไซค์มาดักรอเราเพื่อรับ-ส่งไปยังด่านที่จะข้ามไปยังลาว ซึ่งอยู่ไม่ไกล
แต่เราต้องไปจองรถเพื่อกลับกรุงเทพฯ ก่อนเผื่อไม่มีรถกลับ เราจองรถกลับกรุงเทพฯ รอบ 5 โมงเย็น เป็นที่นั่ง VIP ราคา 609 บาท ซึ่งมีแต่ของบริษัทพิบูลทัวร์ เราสามารถขึ้นรถจากท่ารถที่ช่องเม็กได้เลยค่ะ
ส่วนตารางรถรอบอื่น ๆ จะเป็นแบบนี้นะคะ
รถทัวร์จากช่องเม็ก-กรุงเทพฯ
08.30 น. ป.1 ราคา 522 บาท
12.00 น. ป.1 ราคา 522 บาท
17.00 น. VIP ราคา 609 บาท (recommend)
18.00 น. ป.1 ราคา 522 บาท
หลังจากนั้นเราก็เดินออกจากท่ารถไปยังหน่วยบริการทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว เพื่อทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว (Border Pass) ระยะทางประมาณ 200 เมตร อยู่ฝั่งตรงข้ามกับท่ารถที่เราลง สังเกตง่าย ๆ คือ ด้านหน้าจะมีร้านถ่ายเอกสารเยอะ ๆ
เราต้องถ่ายเอกสารสำเนาบัตรประชาชนและติดบาร์โค้ด เลือกร้านไหนก็ได้ การติดบาร์โค้ดจะติดหลังจากเรายื่นสำเนาบัตรประชาชนให้กับหน่วยบริการทำบัตรผ่านแดน
**เราถ่ายสำเนาบัตรร้านไหนก็กลับมาติดบาร์โค้ดร้านนั้น ราคา 8 บาท รวมทั้งถ่ายสำเนาบัตรประชาชนและติดบาร์โค้ด หลังจากทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวเสร็จสามารถเข้าไปเที่ยวในลาวได้ 2 วัน 2 คืน ค่าทำแค่ 30 บาท หลังจากนั้นเราก็เดินไปยังด่านพรมแดนช่องเม็ก ผ่านการข้ามพรมแดนไทย-ลาว ถ้าเป็น Border Pass จะมีพิธีการน้อยกว่าพาสปอร์ตและเสียเงินน้อยกว่า คือถ้าเป็นพาสปอร์ตจะเสียเงินค่าเข้า-ออกรวม 200 บาท
ส่วน Boarding Pass จะเสียเงินค่าทำที่บัตร 30 บาท และเสียค่าเข้าประเทศอย่างเดียว 100 บาท รวมเป็น 130 บาท เมื่อเราข้ามแดนไปเราก็พบไกด์ลาวคนหนึ่งมาตกลงราคาการเข้าไปเที่ยวในลาว
เรทราคาจะมีดังนี้
- ถ้าเข้าไปในปากเซ เที่ยวตามวัด ปราสาท ระยะทางไม่ไกลจากด่านพรมแดนมาก ราคา 1,500 บาท รวมน้ำมันจะกลับมาถึงด่านช่องเม็กประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ (ออกจากด่านช่องเม็กประมาณ 10 โมงเช้า)
- ถ้าเข้าไปในจำปาสัก เที่ยวน้ำตก 3 น้ำตก คือ น้ำตกตาดฟาน น้ำตกตาดเยือง และน้ำตกผาส้วม ระยะทางไป-กลับประมาณ 180 กิโลเมตร ราคา 2,300-2,500 บาท รวมน้ำมันและจะกลับมาถึงช่องเม็กประมาณบ่ายสามโมง
*** ทั้ง 2 ตัวเลือกนี้จะมีพี่คนขับรถให้ซึ่งเป็นรถตู้ขนาดเล็กของ Hyundai นั่งได้ประมาณ 7-8 คน แอร์เย็นสบาย แต่เราว่าราคานี้มันแพงไป เพื่อน ๆ ลองเดินเข้าไปหารถคันอื่นดูก่อนก็ได้ แต่ด้วยความที่เรามากัน 2 คน ไม่อยากไปเดินหารถก็เลยตกลง ถ้ามากันเยอะ ๆ ก็คุ้มนะคะ พี่คนขับก็โอเคนะคะ รถที่พาเขาไปเที่ยวในลาวมีค่อนข้างเยอะนะคะ ลองเดินไปหาดูได้
รถที่เราพูดถึงคือคันนี้คะ
แต่ละน้ำตกเมื่อเราไปถึงจะเสียค่าเข้าที่ละประมาณ 20- 40 บาท/คน และค่าจอดรถคันละประมาณ 20-40 บาท ราคาจะแตกต่างกันในแต่ละที่ เมื่อถึงแล้วเราจะเดินเข้าไปประมาณ 200-300 เมตร ก็จะถึงน้ำตก แต่จะมีทางขึ้น-ลงบันไดที่ค่อนข้างชัน (บางน้ำตก)
น้ำตกแรกที่เราไปถึง คือ น้ำตกตาดฟาน เป็นน้ำตกที่สูงถึง 120 เมตร ^^
น้ำตกที่สอง คือ น้ำตกตาดเยือง สวยมาก บรรยากาศรอบ ๆ บริสุทธิ์มาก ๆๆ ชอบบบบบบบบ
และที่สุดท้ายของทริปนี้ คือ น้ำตกผาส้วม
ร้านอาหารที่น้ำตกผาส้วมธรรมชาติสุด ๆ 5555555
การไปเข้าไปเที่ยวในลาวครั้งนี้คุ้มค่ามาก ๆ กับเงินที่เสียไป เพราะแต่ละน้ำตกเด็ดมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ ขนาดหน้านี้เป็นหน้าแล้งแต่น้ำตกยังสวยมีน้ำไหลเยอะ และมีความอุดมสมบูรณ์มาก
สรุปค่าใช้จ่าย 4 วัน 3 คืน/คน
ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่อ่านจนจบ ^___^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณนัท ณัฐวดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม