
นาขั้นบันได เวียดนาม มนตร์เสน่ห์แห่งขุนเขาในฤดูฝน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณจันจิรา อินทรศักดิ์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Jira Traveler
หากใครบอกกับคุณว่าฤดูฝนไม่เหมาะจะออกไปเที่ยว เพราะไหนจะสายฝนที่มักโปรยปรายลงมาไม่เป็นเวลา คาดเดาไม่ได้ ไหนจะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนด้วยละก็ นั่นเพราะเขาไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันมีความงามซุกซ่อนอยู่ ใช่แล้วค่ะ...เรากำลังพูดถึงภาพความงามของ "นาขั้นบันได" ที่ลดหลั่นไปตามไหล่เขา มีเสน่ห์ดึงดูดให้นักเดินทางไปสัมผัสเสมอ ซึ่งวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปพักสายตา ชื่นชมความงามของนาขั้นบันไดกันอีกครั้ง กับบันทึกการเดินทางของ คุณจันจิรา อินทรศักดิ์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้เดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศความประทับใจของนาขั้นบันไดไกลถึงประเทศเวียดนาม ณ Sapa, Mu Cang Chai, La Pan Tan และ Tu Le แล้วนำมาให้เราได้ชมกันค่ะ
+++++++++++++++++++++++
สวัสดีจ้า...มีภาพนาขั้นบันไดจากเวียดนามมาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ ไปตามล่านาขั้นบันไดมาหลายที่ค่ะ Sapa, Mu Cang Chai, La Pan Tan และ Tu Le แต่ละที่ก็ไม่ใกล้กันเลย แต่อยากได้รูปสวยก็ต้องไปผจญภัยกันสักหน่อย เรามาเริ่มต้นกันที่ Sapa กันค่ะ เดินทางง่ายไม่ลำบาก เริ่มต้นจากนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน Noi Bai แล้วก็นั่งรถต่อไปที่ Hanoi เพื่อจะไปขึ้นรถไฟไปเมือง Lao cai เราจองที่พักของ Sapa Summit ไว้โดยผ่านเอเจนซีค่ะ เขาก็จัดการจองให้หมด ไม่ว่าจะเป็นรถรับ-ส่งสนามบิน ตั๋วรถไฟ โรงแรม เรียกได้ว่าเดินทางกันสะดวกสุด ๆ จากสถานีรถไฟ Lao cai ไปถึงก็มีรถมารอรับไปโรงแรม Sapa Summit มาชมวิวจากที่พักกันก่อนแล้วกันนะคะ ช่วงที่ไปอากาศแปรปรวนค่ะ เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก เรียกได้ว่าลุ้นสภาพอากาศกันวันต่อวันเลย
เช้าวันแรกที่ Sapa ค่ะ ฝนตกเมฆครึ้มมาเชียว

เช้าวันที่สองอากาศค่อยดีขึ้นมาหน่อย มีแสงเช้ามาให้เห็น

วิวจากด้านหลังโรงแรมค่ะ จะเห็นโบสถ์เก่าและร้านกาแฟ

หลังฝนซาฟ้ามักจะสดใส แถมหมอกมาให้ด้วยอีกต่างหาก


มาดูวิวสวย ๆ จากร้าน Coffee View & Bar กันค่ะ ร้านกาแฟนี้จะเห็นวิวมุมสูงของหมู่บ้าน Cat Cat ซึ่งปกติเขาจะไปเดิน Trekking กัน แต่เราไม่เดินค่ะ แบบว่าขี้เกียจ แนะนำให้มาช่วงบ่ายค่ะ แสงจะสวยกว่าตอนเช้านะคะ

ถ่ายเจาะ ๆ กันบ้าง สะพานข้ามน้ำตกกับทุ่งนาสีเหลือง...สวยจัง

มีนารูปหัวใจด้วย

บรรยากาศที่ร้านนี้โรแมนติกมากเลยค่ะ ถ้ามีคนไปนั่งชิลด้วยก็คงจะดีไม่น้อยเลย

แสงแบบนี้เห็นแล้วใจเต้นรัว ๆๆ เลยค่ะ


ถ้ามาเที่ยว Sapa แนะนำให้เช่ามอเตอร์ไซค์ขับเที่ยวนะคะ เราจะได้ไปหลาย ๆ ที่ แวะข้างทางได้สะดวกกว่าใช้รถยนต์ค่ะ มีคนถามว่าไป Sapa ช่วงไหนดี แนะนำเลยค่ะว่าให้ไปช่วงต้นเดือนกันยายน นาขั้นบันไดจะเป็นช่วงที่สวยที่สุด อาจจะต้องลุ้นกับสภาพอากาศบ้างเพราะเป็นช่วงฤดูฝนค่ะ ถ้าโชคดีจะได้เจอทั้งทุ่งนาสีทองและหมอกค่ะ เมื่อปีก่อนไปช่วงกลางเดือนกำลังเริ่มเกี่ยว ปีนี้ไปเร็วขึ้นอีกนิดก็ยังไม่ทัน เขาเกี่ยวเกือบหมดแล้ว เซตนี้เลยขอเอาภาพปีก่อนมาโพสต์ให้ชมด้วยเลยแล้วกันนะคะ แบบว่าปีนี้แห้ว...เสียใจมาไม่ทัน

นาแหว่ง ๆ แต่ก็สวยอยู่นะคะ


ที่นี่แบบว่าเกี่ยวเสร็จแล้วแทบจะเผาในทันที เผาแล้วแทบไม่เหลือตอให้เห็น หมอกควันเต็มเมืองไปหมดเลยค่ะ

เห็นเมฆกับแสงลอดแบบนี้เมื่อไหร่ กดชัตเตอร์กันรัว ๆๆๆ เลยทีเดียว

หมอกจาง ๆ และควันคล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้ แอบร้องเพลงเบา ๆ ถ่ายรูปไปสำลักควันไฟไป ฮ่า ๆๆๆ


นี่ละมั้งที่เขาเรียกกันว่าแสงเทพ

ภาพนี้ถ่ายเสร็จโดนไปซะ 2 Dollars

ก่อนแสงสุดท้ายจะหมดไปพร้อมกับหมอกและควัน

ของแถมจาก Sapa ค่ะ ขึ้นไปชมวิวบน Ham Rong Mt. เดินขึ้นไปประมาณ 30 นาที เหนื่อยใช้ได้เลย หลงทางอีกต่างหาก แต่พอไปถึงแล้วก็หายเหนื่อยเลยค่ะ วิวสวยมากกกกกกก เห็น Sapa ทั้งเมือง ยืนอยู่ที่เดิมแสงก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ถ่ายรูปเพลินเลยล่ะ








มาตามหานาขั้นบันไดที่ Mu Cang Chai กันต่อ เราเช่ารถตู้มาจาก Sapa ค่ะ แบบเหมา ๆ กันมาเลย ที่นี่นาขั้นบันไดสวยกว่าที่ Sapa มาก ๆ แต่นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ การเดินทางก็ไม่ลำบากมาก มีแค่สองโค้ง โค้งซ้ายกับโค้งขวา กว่าจะถึงที่หมายก็เวียนหัวตลอดทาง ปัญหาหลัก ๆ ของที่นี่ คือ คุยกันไม่ค่อยเข้าใจ เนื่องจากไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวการสื่อสารค่อนข้างลำบาก อยากกินอะไรก็ชี้เอา ไม่ก็ถ่ายรูปไว้แล้วก็เอาให้เขาดู ถ้าไม่อยากอดท่องสองคำนี้ไว้ให้ขึ้นใจเลยนะคะ เฝอ กับ เกิม (ก๋วยเตี๋ยวกับข้าว) รับรองไม่อดแน่ ๆ
ที่นี่หามุมถ่ายรูปไม่ยากค่ะ วิวสวย ๆ จะอยู่ข้างทางซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีบ้างที่ต้องปีนขึ้นเขาไป ได้ออกกำลังกายกันสักเล็กน้อย สิ่งสำคัญคือดวงล้วน ๆ ค่ะ ไปอยู่สี่วัน อากาศดีซะสองวัน อยากได้รูปสวยต้องอดทน
เอาละค่ะมาดูรูปกันดีกว่า ไม่เน้นคำบรรยาย ชมภาพกันแบบยาว ๆ เลยนะคะ




















ที่นี่แสงสวยทั้งเช้าและเย็น ผู้คนเป็นมิตรมาก ๆ ค่ะ แม้ว่าสื่อสารกันไม่ค่อยจะเข้าใจ แต่ยิ้มเข้าไว้ค่ะแล้วทุกอย่างจะราบรื่นเอง













เมืองนี้เป็นทางผ่านจาก Mu cang chai เพื่อจะไป Hanoi ค่ะ ทางก็ไม่โหดเท่าไรแค่โค้งซ้ายขวาแบบเหวี่ยง ๆ พอมึน ๆ แค่นั้นเอง จากเมืองนี้ไป Hanoi ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงค่ะ บอกแล้วว่าอยากได้รูปสวย ๆ ต้องอดทนและรอคอยค่ะ










ขอบคุณที่ติดตามมาชมภาพกันนะคะ ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวจะเก็บภาพมาฝากกันอีกนะคะ