x close

เปิดอารยธรรมเปอร์เซีย สัมผัสอิหร่านในอีกมุมหนึ่งที่น่าหลงใหล


อิหร่าน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณหมาน้อยหน้าเขา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Chaowanan Jamroen 

          “อิหร่าน” เป็นประเทศในตะวันออกกลาง ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ถือเป็นประเทศที่มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย (ดูเพิ่มเติมได้ที่ ประเทศอิหร่าน) แต่ด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศ ทำให้หลาย ๆ คนไม่รู้ว่าที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ วิถีชีวิตที่น่ารัก รอคอยให้ไปสัมผัสมากมาย ดังนั้น เราเลยมีบันทึกการเดินทางของ คุณหมาน้อยหน้าเขา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งมีโอกาสไปเยือนประเทศอิหร่าน และท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ พร้อมกับถ่ายทอดออกมาเป็นประสบการณ์ดี ๆ ให้เราได้ชมกัน ขอบอกว่าอ่านจบแล้วคุณจะหลงรักประเทศแห่งนี้มากขึ้น ^^




          สวัสดีครับพี่ ๆ น้อง ๆ ชาวพันทิป ห่างหายไปนานเลยตั้งแต่รีวิวแคชเมียร์และอินเดียเมื่อปีที่แล้ว หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสเดินทางไปทั้งจิ่วจ้ายโกว รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า แต่เนื่องจากเห็นว่ามีท่านอื่นเคยรีวิวมากมาย (จริง ๆ แล้วขี้เกียจนั่นเอง อิอิ) ทริปนี้เป็นทริปที่มีอุปสรรคมากถึงมากที่สุดตั้งแต่ไปเที่ยวมาเลย ปัญหาความวุ่นวายมีตั้งแต่ต้น...จนท้อ แต่ทั้งหมดทั้งมวล ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี ก็เลยอยากแบ่งปันข้อมูลไม่มากก็น้อย เผื่อใครต้องการลองเดินทางไปประเทศนี้บ้าง รีวิวครั้งนี้ผมไม่ขอลงลายละเอียดมาก แต่จะพยายามใส่ข้อมูลให้มากที่สุดครับ เนื่องจากไม่มีเวลาจริงๆ  เพราะยังต้องกลับไปรับใช้ชาติอีกหลายเดือน มีเวลาพักก็เลยได้แค่เท่านี้นะครับ

          ทริปนี้ผมใช้ 600D + Canon 10-22mm + Tamron 18-270 mm PZD

          รูปสถาปัตยกรรมภายในที่แสงน้อย ๆ อาจไม่ค่อยชัดเท่าที่ควร เนื่องจากผมถอด filter CPL ที่ติดกับ Canon 10-22mm ไม่ออก งบประมาณตกคนละ 40,000 บาท ส่วนเรื่องโรมแรมที่พักแต่ละเมือง ผมได้รีวิวไว้ใน Tripadvisor.com ท่านใดสนใจลองเข้าไปอ่านได้ครับ

          ป.ล. โรงแรมอิหร่านไม่มีให้จองออนไลน์นะครับ ต้องติดต่อทาง e-mail หรือโทรไปเลยครับ (จองได้ลำบากมาก)

          คำเตือน : ผู้ที่ต้องการข้อมูลด้วยประวัติความเป็นมา ต้องทำใจครับ ผมไม่มีจริง ๆ ไม่ได้ขี้เกียจด้วย

          ทริปนี้เดินทางรวมแล้ว 9 วัน เดินทางในเมืองหลัก ๆ ของอิหร่าน TEHRAN-SHIRAZ-ESFAHAN-KASHAN-REYNEH เดินทางจากด้านตอนเหนือ มุ่งสู่เมืองด้านตอนใต้ แล้วค่อย ๆ กลับมาที่ตอนเหนืออีกที โดยทุกเมืองที่เดินทางจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว น่าค้นหา แต่ที่เหมือนกันทุกเมือง คือ ผู้คนแสนน่ารัก ซึ่งต่างกับความคิดที่ผู้คนภายนอกมองไปยังอิหร่าน ความจริงแล้วอิหร่านเป็นประเทศที่สงบ ไม่มีการก่อการร้าย แต่จะถูกมองในแง่ลบจากต่างประเทศฝั่งตะวันตก เรื่องการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์



          ขอเล่าความเห็นส่วนตัวนิดนึงนะครับ ผมเดินทางทริปนี้กับครอบครัว 3 คน พ่อ แม่ และลูก ตอนแรกผมก็ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปไหนดี ทั้งตุรกี จีน จอร์เจีย อิหร่าน แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งได้อ่านกระทู้ในพันทิป รวมถึง TKT ซึ่งมีข้อมูลพอสมควร ทำให้ผมชอบ จนอยากไปขึ้นมา เหตุผลหลัก ๆ คือ ผู้คนที่มีอัธยาศัยดี เข้ามาช่วยเหลือ พูดคุย อ่านแล้วยิ่งอยากไป จนกระทั่ง Qatar Airway ออกโปรฯ มา ราคาดีมาก เลยตัดสินใจตัวเองว่าจะไป แต่ ๆ พ่อแม่ต่างพูดในทางว่าอันตรายหรือเปล่า ปลอดภัยไหม มีอะไรไปทำไม มีใครเค้าไปเที่ยวกัน ทั้งหมดทั้งมวลผมเลยต้องเกลี่ยกล่อมหารีวิวให้ดูจนท่านยอมไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ทำให้ภาระความคาดหวังตกมาอยู่กับผม ว่าจะเป็นตามที่ได้อ่านมาไหม ดีไม่ดี ยังไงผมก็ได้สอยโปรฯ มาแล้ว จะกลับลำไม่ได้แล้ว



          เริ่มต้นได้ตั๋วแล้ว เราก็ต้องมีวีซ่าใช่ไหมครับ ??? ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตช่างน้อยนิด แต่ก็พอมีครับ ใช่ว่าไม่มีเลย อ้างอิงจากบอร์ด TKT เข้าใจได้ว่าต้องขอวีซ่าก่อนเข้าประเทศ แต่ก็มีข้อมูลที่บอกว่าสามารถขอ VISA ON ARRIVAL ได้ รวมทั้งการขอวีซ่าก็ยุ่งยากด้วย แค่เริ่มก็ยากแล้ว ^^ แต่สำหรับผมนั้น ผมได้วีซ่าทั้งสองแบบเลย ยังไงเหรอ ??? ฮาๆ ๆๆๆ เกิดจากความสะเพร่าของผมเอง ผมได้ติดต่อทำวีซ่าจากทางสถานทูตเรียบร้อยจนวีซ่าอนุมัติ แต่จากความเร่งรีบจึงทำให้อายุวีซ่าหมดก่อนวันเข้าประเทศ จึงต้องทำวีซ่าใหม่ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ต้องเสี่ยงดวงไปขอ VISA ON ARRIVAL ซึ่งให้ลายละเอียดด้านล่างครับ



          การขอวีซ่าอิหร่าน มี 2 วิธี ได้แก่

          1. ขอที่ประเทศไทย ผ่านสถานทูตอิหร่านประจำประเทศไทย

          2. VISA ON ARRIVAL สนามบินอิหม่ามโคเมนิ

          อ่านละเอียด ๆ นะครับ

          1. ขอผ่านสถานทูตอิหร่านประจำประเทศไทย

          การที่จะได้วีซ่าอิหร่าน ไม่ใช่จะเดินเข้าไปขอได้เลยนะครับ ก่อนจะขอที่สถานทูตได้เราต้องได้ Approve Code จากทางกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านก่อน แล้วจะได้มายังไงล่ะ คำตอบ คือ ขอได้จากเอเจนซี่ในอิหร่านครับ ซึ่งมีเว็บไซต์อยู่ครับ แต่ที่ผมใช้บริการ คือ touranzamin.com ซึ่งให้บริการดีมาก ตอบอีเมลแทบจะทันทีหรือเร็วที่สุด โดยเราต้องไปส่งทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ หลังจากนั้นรอการยืนยันผ่านอีเมล หลังจากได้รับการยืนยันก็ไปโอนเงินตามที่แจ้งมา คนละ 35 EURO รวมค่าโอนพันกว่าบาท แจ้งยืนยันการโอนเงิน หลังจากนั้น 3-4 วัน ก็จะได้รับโค้ดมาครับ อาจช้าหน่อยถ้าตรงวันศุกร์ครับ จากนั้นก็พริ้นท์โค้ดที่ได้มาไปยื่น พร้อมใบคำร้อง กับรูปถ่าย 2 นิ้ว บวกเงิน 1,750 บาท เป็นอันจบ โดยวีซ่ามีอายุ 3 เดือน นับจากวันที่ออกวีซ่า

          สถานทูตอิหร่าน : BTS ทองหล่อ สุขุมวิท 49 นั่งมอเตอร์ไซค์อีก 20 บาท

          2. VISA ON ARRIVAL

          หลังจากได้วีซ่ามาเปิดดูก็ตกใจครับ เพราะผมรีบทำวีซ่าเร็วเกินไปจึงทำให้อายุวีซ่าหมดก่อน วันเดินทาง ผมจึงรอทำวีซ่าอีกรอบ ช่วงเดือนต้นเดือนมีนาคม แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นอีก คือ ติดช่วงวันขึ้นปีใหม่อิหร่าน หรือ Nowrus โดยจะหยุดกันประมาณ 20 วัน ซึ่งจะทำให้ผมเสี่ยงต่อการที่จะไม่ได้วีซ่า ผมจึงใช้บริการแบบด่วน 70 EURO ในการขอโค้ดกับทางกระทรวงต่างประเทศ สุดท้ายก็ได้โค้ดมาครอบครอง แต่ยังไม่จบ ตัวโค้ดจะมีบอกสถานที่ที่จะรับวีซ่า จากปกติ คือ Bangkok แต่ในโค้ดคือ IKA Airport ผมเลยงง !!! หลังจากตรวจสอบทั้งทางเอเจนซี่รวมถึงทางสถานทูตก็ได้รับคำยืนยันว่า สามารถขอ VISA ON ARRIVAL ได้ แต่การขอ VISA ON ARRIVALนั้น ต้องมี Approve Code ก่อนนะครับ (ไม่สามารถขอวีซ่าโดยไม่มีโค้ด)

          เหลือปัญหาอีกอย่าง คือ เรามีอะไรอ้างอิงต่อสายการบินที่จะยอมให้เราขึ้นเครื่องได้ โดยเราสามารถค้นข้อมูลได้จากทาง Passport and Visa Requirement จากเว็บสายการบินครับ หรือทาง iatatravelcentre.com ใส่ข้อมูลต่าง ๆ ไปจะแสดงให้เห็นว่าประเทศที่เราต้องขอวีซ่าหรือไม่มีประโยชน์มากครับ กรณีเว็บสายการบินไม่มีให้ตรวจสอบ เว็บนี้เป็นของ IATA ครับเชื่อถือได้

          สิ่งที่ต้องเตรียม : Passport , Approve Code แล้วก็เงิน 50 USD เท่านั้นครับ อีกอย่าง คือ เตรียมยืนรอประมาณชั่วโมงกว่า ๆ เพราะคิวยาวมาก โดยวีซ่ามีอายุ 15 วัน



          ทริปนี้ได้ตั๋วโปรฯ ของ Qatar Airways ตกประมาณ 22,000 บาท ซึ่งถือว่าราคารับได้ครับ แวะไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา โดยรวมน่าพอใจครับ แต่สนามบินเล็กครับ ไม่มีงวงด้วย ต้องนั่งรถบัสอย่างเดียว แต่เห็นว่ากำลังจะเปลี่ยนไปใช้สนามบินใหม่





          ผมสูง 186 เซนติเมตร นั่งสบายครับ ไม่อึดอัด มี PTV ทุกที่นั่งครับ





          สนามบิน Imam Khomeini ก็เล็ก ๆ ครับ



          Niavaran Palace, Tehran มีหลายอาคารมากครับ ซึ่งต้องจ่ายหลายที่ด้วยรวมแล้วประมาณพันกว่าบาท แต่ก็คุ้มค่าครับ เป็นวังที่ประทับเก่าสมัยก่อนการปฏิวัติ











          ผู้คนใจดี ลุงคนนี้เข้ามานั่งคุยด้วยระหว่างรอวังเปิด



          ผมมีเวลาเที่ยวในเตหรานน้อยครับ ตอนแรกจะไปวัง Saad abad Palace แต่ปิด กะว่าจะกลับมาเก็บวันสุดท้ายแต่ไม่ทัน



          วันแรกไม่ได้เที่ยวไหนมาก เลยลองขึ้น metro เห็นเค้าว่ามีแยกหญิง-ชาย ก็เจอนะครับ แต่ที่ผมนั่งก็รวมชาย-หญิงนะ ไม่ได้แยก แต่ก็มีโบกี้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะครับ



          ใครเป็นผู้หญิงจะไปอิหร่านต้องคุมผมครับ แต่ไม่ต้องปิดอะไรหมดนะครับ ตามสาว ๆ ที่นั่งเลยครับ จริง ๆ เค้าเริ่มไม่เคร่งครัดแล้วครับ เห็นชาย-หญิงกอดกันบนรถไฟใต้ดินก็มี ผู้หญิงก็แต่งตามแฟชั่นครับ แค่มีผ้าคลุมผม



          คืนแรกในเตหราน อากาศเย็นครับ 20 องศาต้น ๆ เลยเดินออกไปแถว Shahr Park ตั้งอยู่แถวใจกลางเมือง บริเวณ Hassan Abad metro



          ขนาดกลางคืนแล้วยังคึกคักอยู่เลย ผู้คนมานั่งเล่น ดูน้ำพุ แสงไฟ



          เช้าวันต่อมาก็ไปเดินเล่น ๆ ที่สวน Shahr Park ลุงคนนี้ชวนผมดื่มชาด้วย



          ใครว่าอิหร่านเป็นประเทศทะเลทราย ไม่ใช่เลย



          Golestan Palace เดินออกจากสวน Shahr Park ก็ถึงพระราชวังกุหลาบ จ่ายพันกว่าบาทเหมือนเดิม ใกล้ ๆ พระราชวังยังมี Tehran Bazaar ผู้คนเยอะมากครับ มองจากพระราชวังก็เห็นแล้ว







          จบจากพระราชวัง ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีอีกหลายที่ให้ชม แต่ยังไม่ทิ้งความแวววาวไปต่อกันเลย Iranian Jewelry Museum Tehran (The Treasury of National Jewels) Central Bank of the Islamic Republic of Iran แต่เนื่องจากไม่สามารถถ่ายรูปภายในได้ เลยนำภาพจากหนังสือมาให้ชมครับ







          หลังจากชมวังชมเพชรกันจนอิ่มแล้ว ผมจะต้องเดินทางลงใต้ไปเมือง Shiraz ระหว่างทางไปสนามบิน เลยมีโอกาสได้แวะ Azadi Tower สร้างจากหินอ่อนจากเมือง Esfahan

          Azadi Tower





          SHIRAZ นั่งเครื่องบิน มาประมาณ 1.30 ชั่วโมง ก็ถึงเมือง Shiraz เป็นเมืองที่มีอารยธรรมสำคัญของเปอร์เซีย

          Eram Garden เป็นสวนที่ชาวเมืองใช้มาพักผ่อนหย่อนใจครับ ไม่ใหญ่มากครับ





          นั่งทานไอศกรีมกัน ผมต้องนั่งแถวนั้นอยู่นานเนื่องจากชาวอิหร่านเนียนเข้ามาคุยด้วย ทุกคนต่างอยากพูดคุยกับเราครับ ถามว่ามาจากไหน ทำไมมาอิหร่าน ไปพักบ้านเค้าไหม จะเป็นบทสนทนาที่จะเจอบ่อยมาก ๆ ที่นี่ครับ



          Arg of Karim Khan ป้อมนี้เคยเป็นที่ประทับของข่านสมัยก่อน



          Vakil Bazaar and Mosque เดินออกจากป้อม Karim Khan นิดเดียวก็จะเป็นส่วนของตลาด Vakil จากรูปด้านซ้ายจะเป็น Bazaar ส่วนตรงกลางจะเป็น Mosque ครับ



          แต่ผมไปถึงก็เย็นมากแล้ว ตลาดวายแล้ว



          Vakil Mosque







          CITY OF PERSIANS

          Pasargad Capital of Cyrus the Great , UNESCO World Heritage Sites

          Pasargad ห่างจาก Shiraz ค่อนข้างมาก ร้อยกว่ากิโลเมตร ตอนแรกไม่คิดว่าจะไป แต่คนขับรถบอกว่าสวยเลยไป ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่มีอะไรเลย นอกจากหลุมฝังศพของพระเจ้าไซรัส นอกนั้นเป็นแค่เสาต้นสองต้นครับ ถ้าใครจะไปไม่แนะนำครับ



          Naghshe Rostan สุสานกษัตริย์โบราณ มีอยู่ด้วยกัน 3 สุสาน แต่ชมได้เฉพาะภายนอก



          Persepolis อดีตเมืองหลวง อาณาจักรเปอร์เซียโบราณ









          Nasir al Molk Mosque (Pink Mosque) มัสยิดนี้ผมชอบมากที่สุดครับ ผมใช้เวลานั่งเล่นที่นี่อยู่นานเลย เคยเห็นรูปในเว็บแล้วสวยมาก ๆ ยิ่งถ้าไปตอนเช้า แต่ผมไปช่วงบ่ายแล้ว แสงเลยไม่สวยเท่าไหร่ ที่เรียกว่า มัสยิดสีชมพู ก็เพราะกระเบื้องตกแต่งภายนอกเป็นลายสีชมพูเป็นส่วนใหญ่ ต่างจากที่อื่นที่จะเป็นสีน้ำเงิน



          ลวดลายภายนอกยังสมบูรณ์อยู่มากครับ สวยทุกที่ แต่ผมไม่ถนัดถ่ายแบบเจาะลึกอ่ะครับ ฮา ๆๆๆๆ แต่สวยจริง ๆ





          หลังจากชมมัสยิด ก็เดินไปต่อที่บ้านขุนนางสมัยก่อน หลังเกิดการปฏิวัติรัฐจึงยึดแล้วเปิดให้คนภายนอกเข้าชม Naranjestan Qhavam (Qhavam House)







          Shah Cheragh Holy Shrine สุสานศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองชีราซ มีความงดงามมาก ซึ่งผู้หญิงทุกคนต้องคุมตัว คือ คลุมตั้งแต่ผมยันขา ที่สำคัญภายในประดับด้วยกระจก แวววาว งดงาม แต่เสียดายไม่อนุญาตให้นำกล้องเข้าไป เลยได้ภาพภายนอกจากกล้องมือถือเท่านั้น (ไม่ได้แอบถ่ายนะครับ) ส่วนภายในผมเอาภาพจากอินเทอร์เน็ตมาให้ชม

          แนะนำให้ไปชมให้ได้ครับ
          credit by panoramio.com







          Hafez Tomb สุสานกวีดังของเมืองชีราซ





          Ali-e-bne Hamzeh Holy Shrine เมืองชีราซยังมีสุสานศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งแต่เล็กกว่ามาก แต่ภายในสวยไม่แพ้กัน





          ปิดท้ายชีราซด้วยขนมปังนาน ที่ทุกเช้าต้องมีทานกับแยมแล้วก็ไข่ต้ม กินจนเบื่อไปข้างหนึ่ง



          Esfahan , Half of the World

          จาก Shiraz มา Esfahan ใช้เวลานั่งรถบัสกลางคืนกว่า 7 ชั่วโมง เพื่อมาสัมผัสครึ่งโลกที่อิสฟาฮาน

          Sareban Minaret : เริ่มต้นเที่ยวกันที่หอมินาเร็ตซาเรบัน ที่มีอายุกว่า 500 ปี ผ่านการเดินแผ่นดินไหวมาได้ มีความสูงกว่า 40 เมตร



          ตรอกซอกซอยในอิสฟาฮาน



          Jameh Mosque เป็นมัสยิดที่เก่าแกมาก สถาปัตยกรรมแตกต่างอย่างสิ้นเชิง อยู่ล้อมรอบด้วย Bazaar











          Naqsh-e Jahan Square (Imam Square) จัตุรัสใจกลางอีสฟาฮาน ก่อสร้างสมัยราชวงศ์ซาฟาวิด โดยมีสถานที่หลัก 3 ที่คือ IMAM MOSQUE-ALI QAPU PALACE-LOTFOLLAH MOSQUE



          Imam Mosque











          ALI QAPU PALACE พระราชวังนี้เห็นซ่อมมานานแล้วแน่ไม่เสร็จสักที ช่วงไปก็ยังซ่อมอยู่ แต่ยังสามารถขึ้นไปชมได้ครับ


          ห้องดนตรี บริเวณผนังจะแกะเป็นช่องอย่างสวยงาม



          มัสยิดอิหม่ามมองจากมุมด้านบนของพระราชวัง



          LOTFOLLAH MOSQUE เป็นมัสยิดส่วนตัวของสมาชิกในราชวงศ์ ด้านในสวยงามมากถึงมากที่สุด อยู่ฝั่งตรงข้ามพระราชวัง



          ด้านในลวดลายยังสมบูรณ์อยู่มาก โดยจะมีแสงส่องลงมาจากกลางโดมเหลืองทองอร่าม



          Bazaar รอบ ๆ จัตุรัสมีของที่ระลึกให้เลือกซื้อ โดยเฉพาะจานสีน้ำเงิน สวยมาก แพงด้วย



          Chehelsotoon Palace ไม่ไกลจากจัตุรัสอิหม่ามก็ยังมีอีกแห่งหนึ่งในอิสฟาฮาน





          หลังจากเดินเล่นอยู่นาน ได้เจอเด็ก ๆ นักเรียนมาเที่ยว เจ้านี่ถ่ายรูปอยู่นาน เพื่อนถ่ายไม่ได้ดั่งใจสักที ฮา ๆๆๆๆๆ



          เรื่องอาหารทริปนี้ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ครับ แต่ที่กินบ่อยเลยก็เจ้านี่ครับ เนื้อส่วนต่าง ๆ ย่าง กินพร้อมกับแผ่นแป้งบาง ๆ บีบมะนาว ใส่หอมใหญ่ กับใบบางอย่าง แค่นี้รับรองสวดยอด



          ที่แปลกจากชาวบ้านชาวเมือง คือ เค้าจะต้องกินคู่กับ Coca Cola ไม่ใช่น้ำเปล่าครับ



          Soffeh Mountain เป็นสถานที่ตากอากาศบนเขา มีบริการเคเบิลคาร์ ด้านล่างมีคอมเพล็ก โยนโบว์ลิ่ง สวนอาหาร แต่วันที่ผมไปฝนตก เมฆหมอกเยอะมาก อากาศไม่มีทั้งวัน เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูป ตรงนี้สามารถมองเห็นเมืองอิสฟาฮานในมุมสูงได้ครับ



          Vank Cathedral โบสถ์แวงค์ เป็นโบสถ์ของชาวอาร์เมเนีย ที่อาศัยอยู่ในอิสฟาฮาน โดยจะมีประวัติการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในอาคารอีกด้วย



          ด้านในเป็นภาพสี บ่งบอกเรื่องราวตามศาสนาคริสต์





          การมาเที่ยวที่อิหร่านขอให้เผื่อเวลาไว้เยอะ ๆ นะครับ เพราะเวลาไปไหนมาไหน เราอาจต้องให้เวลาแก่เจ้าบ้านด้วย อย่างเด็กกลุ่มนี้เข้ามาชวนผมคุยกว่าครึ่งชั่วโมง ยืนคุยกันไปกันมา รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกแบบหนึ่ง หลายคนในประเทศนี้ต่างอยากรู้ความเป็นไปเป็นมาของเรา ที่สำคัญเค้าจะชวนเราไปพักที่บ้านเค้าครับ เป็นมารยาทที่พบได้ทั่วอิหร่านครับ แต่อาจใช้คำผิดไปหน่อย เช่น Do you want to sleep with us ? ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าคงไม่พลาดแน่ ๆ





          Siosepol Bridge ออกจากโบสถ์ก็เดินไปเรื่อยประมาณ 10 อึดใจ คือ เดินจนปวดขา เพราะโดนแผนที่หลอกลวง สะพานแปลเป็นภาษาไทยว่า สะพาน 33 โค้ง สร้างในราชวงศ์ Safavid



          ปกติช่วงที่ไปน่าจะมีน้ำเต็มแม่น้ำ แต่ปรากฏแม่ย้ำกลายเป็นดินทรายไปหมด ไม่มีน้ำสักหยด ทำให้ความสวยสะพานลดลงไป 70% เลยไม่ได้อยู่ถึงตอนเปิดไฟ ทราบความได้ว่าเกิดจากปีนี้น้ำน้อย รวมถึงต้องผันน้ำไปเมืองอื่นเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เลยไม่มีน้ำในแม่น้ำ



          แต่ใช่ว่าเสน่ห์จะหมดลงไปอย่างสิ้นเชิง แต่เสน่ห์ของคนที่นี่ยังคงอยู่



          Abeyaneh Village หมู่บ้านกลางหุบเขา บ้านเรือนสีแดง ออกเดินทางจากอิสฟาฮาน ขึ้นเหนือมาเรื่อย ๆ ผ่านภูเขาและทะเลทรายบางช่วง ระหว่างทางมีฝูงแกะฝูงใหญ่ ชีวิตชนบทกลางหุบเขา



          บ้านส่วนใหญ่ทำจากดินแดงผสมฟาง



          ภายในหมู่บ้านก็มีชาวบ้านออกมาขายของ จำพวกลูกแอปริคอตตากแห้ง กวน รวมถึงน้ำแอปเปิล





          สุดท้ายเดินขึ้นเนินเขาเล็กน้อยพอเหนื่อย จะได้เห็นมุมที่เห็นหมู่บ้านทั้งหมด



          KASHAN เดินทางอีกไม่นานก็ถึงเมืองคาชาน เมืองเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์

          Agha Bozorg Mosque



          Abbasian House บ้านขุนนางสมัยก่อน เด่นด้านความใหญ่โต รวมถึงกระจกสีสวย ๆ







          เดินตามทาง ถึงแม้จะเป็นข้างทางธรรมดาแต่ทำไม ??? ถึงได้มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล





          Sultan Amir Ahmad Hammam or Bathhouse ฮัมมัม ตามภาษาฟาร์ซี แปลว่า โรงอาบน้ำ โรงอาบน้ำนี้มีของดีอยู่บนดาดฟ้าครับ เป็นโดมย่อม ๆ หลายโดม สามารถมองวิวเมืองคาชานจากมุมสูงได้ด้วย









          ผมมีเวลาที่เมืองคาชานแค่ครึ่งวันในการเที่ยว เลยไม่ได้ชมทั้งหมด แต่ก็มีอีกไม่กี่ที่ครับ ตื่นมาแต่เช้าขึ้นไปดาดฟ้าโรงแรมถ่ายเมืองคาชาน เป็นการอำลา



          วันรองสุดท้ายในอิหร่าน ผมเบื่อที่จะไปดูสถาปัตยกรรมแล้ว หัวใจเรียกหาธรรมชาติ แต่ ๆ แต่ว่าจะไปไหน คำถามดังขึ้นมา ผมเคยได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับ Damavand Mountain ซึ่งเป็นภูเขาหิมะในอิหร่าน เมื่อลองข้อมูลแล้ว ไม่มีข้อมูลภาษาไทยเลย เว็บต่างประเทศก็ไม่มีมากเท่าที่ควร แต่ความโชคดีได้เจอกับวิศวกร คนหนึ่งที่อิสฟาฮาน บอกข้อมูลเกี่ยวกับแถบนี้ เลยได้โอกาสเดินทางนอกเหนือจากที่ ข้อมูลจากประเทศไทยมีครับ

          Reyneh, Mazandaran ห่างจากเตหราน ประมาณ 80 กิโลเมตร เป็นแนวเทือกเขา หมู่บ้านริมไหล่เขา



          Damavand Mountain เป็นภูเขาไฟในอิหร่าน อยู่ทางตอนเหนือ สูงกว่า 5,671 meters มีวิวของภูเขา ทิวเขาที่สวยงาม รวมถึงหมู่บ้านกลางหุบเขาอีกมากมาย ได้แก่ Polour, Reyneh และ Larijan ซึ่งสามารถนั่งรถถึงกันได้ครับ





          หมู่บ้าน Reyneh ก็เป็นจุดหมายสุดท้ายในการเดินทางในอิหร่านครั้งนี้

          การเดินทางมาที่นี่ : นั่งรถสาย Amol จากสถานีรถบัสตะวันออก (East Terminal) แล้วลงระหว่างทางที่หมู่บ้านเรย์เนย์ ส่วนที่พักผมจะใส่ไว้ด้านล่างเป็นโมเทลเล็ก ๆ ทานอาหารกับเจ้าของบ้าน เค้าบอกว่าเป็นคนไทยกลุ่มแรกที่มาแถบนี้ครับ หรือใครสนใจเดินพิชิตยอดเขาดามาวาน ก็ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดนะครับ damavand-mountain.com





          จบแล้วครับ ลากันด้วยดอกแอปเปิลที่ออกบานสะพรั่งไปทั่วหมู่บ้าน ก็หวังว่าคงจะได้รับข้อมูลประเทศอิหร่านเพิ่มเติมแต่ไม่ละเอียด เอาเป็นว่าใครมีข้อสงสัยยังไงถามได้เลยครับ อิหร่านยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างให้ค้นหา ต่างคนต่างมุมมอง มุมมองของผมก็เป็นอย่างที่ผมได้รีวิวไป ใครมีโอกาสไปก็อยากจะอ่านในมุมมองของท่านบ้าง

          สุดท้ายต้องขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่เข้ามาอ่าน แค่อ่านก็ดีใจมากแล้วครับ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าถ้ามีโอกาสได้มารีวิวครับ...อิหร่านรอให้ไปค้นหาอยู่








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดอารยธรรมเปอร์เซีย สัมผัสอิหร่านในอีกมุมหนึ่งที่น่าหลงใหล อัปเดตล่าสุด 16 มิถุนายน 2557 เวลา 18:51:33 9,655 อ่าน
TOP