เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Nuardjim Lim, gistda.or.th
GISTDA เผยภาพถ่ายดาวเทียม พบฟิล์มน้ำมันเริ่มลดลง แต่เคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้าน จ.ระยอง สั่งปิดอ่าวพร้าว 1 เดือน เพื่อฟื้นฟู
ด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้เปิดเผยภาพถ่ายจากดาวเทียมระบบเรดาร์ COSMO-SkyMed-2 เมื่อเวลา 06.09 น. ของพื้นที่รอบเกาะเสม็ด พบว่าคราบน้ำมันที่อยู่ด้านเหนือของเกาะนั้น มีขนาดลดลงจากเมื่อวานนี้ (30 กรกฎาคม 2556) เล็กน้อย ประมาณ 10 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามมีการกระจายตัวของฟิล์มน้ำมันบางส่วนไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเสม็ดด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะมีต้นกำเนิดมาจากมวลน้ำมันสะสมมาจากทางด้านเหนือของอ่าวเสม็ด ดังนั้น เจ้าหน้าที่ต้องสำรวจภาคพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง และหาวิธีขจัดออกอย่างเหมาะสม เพื่อลดปริมาณต้นกำเนิดของคราบน้ำมันลง มิเช่นนั้นแล้วก็จะมีการแพร่ออกมาอยู่เรื่อย ๆ อีกหลายวัน
สำหรับคราบน้ำมันที่เป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ แม้ว่าจะไม่ส่งผลอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมฉับพลัน แต่สารเคมีบางอย่างก็อาจจะสะสมในสิ่งมีชีวิต ถ่ายทอดตามห่วงโซ่อาหารได้ นอกจากนี้ ยังมีการสลายตัวยาก จนทำให้มีการสะสมเป็นก้อนน้ำมันดินตามชายหาดระยะยาว
ทะเลอ่าวพร้าวดีขึ้นแล้ว - ระยอง สั่งปิด 1 เดือน เพื่อฟื้นฟู
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 นายบวร วงศ์สินอุดม กล่าวถึงความคืบหน้าการเร่งสกัดน้ำมันดิบในพื้นที่ชายหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ว่า เมื่อช่วง 05.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของ ปตท. ทำการสกัดคราบน้ำมันสีดำข้นให้เจือจางลงแล้ว พร้อมกับย้ำว่า สารเคมีที่ใช้ในการฉีดสกัดคราบน้ำมันนั้น ใช้ฉีดบนชายหาดไม่ได้ แต่ใช้ฉีดกับคราบน้ำมันที่อยู่ในทะเล เพื่อทำให้น้ำมันแตกตัวออกจากกัน และจมลงในทะเลในระดับ 1-2 เมตร จากนั้น จุลินทรีย์ก็จะมากัดกินสารเคมีดังกล่าว โดยยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อน้ำทะเลแต่อย่างใด และวันนี้ ทีมงาน ปตท. และกลุ่มจิตอาสา จะเร่งสกัดคราบน้ำมันออกจากชายหาดอ่าวพร้าวและล้างคราบน้ำมันออกจากโขดหินให้แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงสาย พบว่าคราบน้ำมันในทะเลบริเวณอ่าวพร้าวเจือจางไปมากแล้ว แต่ยังพบคลื่นซัดตะกอนน้ำมันเข้ามายังชายหาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังช่วยกันเก็บตะกอนน้ำมันอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้สามารถวางบูมป้องกันคราบน้ำมันให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว
ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จ.ระยอง ได้มีมติสั่งปิดอ่าวพร้าว เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อฟื้นฟู 4 รีสอร์ท พร้อมขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เจรจากับ ปตท. เพื่อชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้ประกอบการด้วย
ด้าน ว่าที่ร้อยตรี สุพีร์พัฒน์ จองพานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า จากรายงานล่าสุดไม่พบคราบน้ำมันลอยไปที่หาดแม่รำพึง ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเกาะเสม็ด เพราะอยู่ในทิศทางเหนือลม แต่เป็นห่วงว่าเกาะกุฎี ซึ่งอยู่ใต้ลมทะเลจะได้รับผลกระทบ จึงต้องเร่งป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันลอยไป เพราะจุดนั้นเป็นแหล่งปะการัง รวมทั้งบริเวณเกาะมันนอก เกาะมันใน เกาะมันกลาง ก็เป็นศูนย์เพาะพันธุ์เต่าทะเลด้วย
ภาพประกอบจาก NICOLAS ASFOURI / AFP
ภาพประกอบจาก NICOLAS ASFOURI / AFP
พีทีที จีซี ประกาศพร้อมจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 นายบวร วงศ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัทลูกของ ปตท. ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วที่ จ.ระยอง ว่า น้ำมันที่รั่วออกไปเป็นน้ำมันดิบที่ลำเลียงมาจากประเทศโอมาน โดยรั่วไหลประมาณ 5 หมื่นลิตร เนื่องจากท่อส่วนหัวและท้ายมีวาล์วเปิด-ปิด อยู่ ทำให้วัดปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลได้
ทั้งนี้ นายบวร กล่าวต่อว่า หลังจากที่มีการรั่วไหลก็ได้สำรวจทิศทางที่น้ำมันจะไหลไปและเข้าระงับเหตุในทันที ด้วยการฉีดสารเคมีสลายคราบน้ำมันตลอดเวลา แต่ต้องหยุดพักในตอนกลางคืนเพราะมืด โดยในตอนแรกพวกเรามั่นใจว่าเอาอยู่น้ำมันคงไม่เข้าฝั่งอย่างแน่นอน เพราะใช้เรือกว่า 10 ลำฉีดสารเคมีบำบัด อีกทั้งยังสั่งเครื่องบินจากสิงคโปร์มาโปรยสารเคมีด้วย ซึ่งตนได้ลงพื้นที่ควบคุมงานเองตลอดเวลา จนกระทั่งเวลา 20.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม ตนมั่นใจว่าเอาอยู่ จึงได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ
แต่ต่อมาเมื่อเวลา 21.30 น. ของวันเดียวกันนั้น ลูกน้องโทรบอกว่าน้ำมันได้ไหลเข้าอ่าวพร้าวแล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้ทางเราก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมน้ำมันถึงไหลเข้าฝั่ง รวมถึงสาเหตุของท่อรั่วด้วย เพราะทางเราทำงานกันเต็มที่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทางบริษัทก็พร้อมที่จะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ โดยในเบื้องต้นได้ดูดน้ำมันไปกำจัดตามกรรมวิธีที่ถูกต้อง พร้อมฉีดล้างคราบน้ำมันตามซอกหินให้สะอาดเรียบร้อย ส่วนแผนฟื้นฟูพื้นที่นั้น จะให้ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้าร่วม เพื่อฟื้นระบบนิเวศทั้งหมด รวมถึงผลกระทบต่อสัตว์ทะเลและความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นด้วย
นอกจากนี้ นายบวร ยังกล่าวยืนยันว่า ตนจะติดตามดูแลเรื่องนี้ต่ออีกเป็นปี พร้อมทั้งจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดสำหรับเหตุการณ์นี้ รวมถึงจะตรวจสอบในแผนงานบริษัทว่ามีจุดอ่อนหรือจุดบกพร่องประการใด ในส่วนของท่อลอยน้ำที่แตก ขนาด 16 นิ้ว อายุการใช้งานนั้น 8 ปี แต่เราใช้มาแค่ 6 ปีเพียงเท่านั้น อีกทั้งยังได้ทดลองหลายครั้งก่อนใช้งาน ทางเราขอยืนยันว่าเราทำทุกอย่างดีที่สุดตามมาตรฐานแล้ว แต่ก็ไม่ทราบสาเหตุที่ท่อแตกจริง ๆ ซึ่งทางบริษัทกำลังเร่งตรวจสอบอยู่
นายกฯ สั่งทำแผนรองรับในอนาคต
ขณะที่ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้เร่งรัดแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุด และเข้าไปเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งทำแผนงานว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร รวมถึงแถลงให้ประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้สั่งให้ทำแผนรองรับในอนาคตด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องแก้ไขและหาวิธีป้องกันที่สมบูรณ์ที่สุด อย่างไรก็ดี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ไปพร้อมผู้แทนจากบริษัท ปตท. เพื่อไปดำเนินการว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรในเรื่องการเยียวยา และภายในสัปดาห์นี้จะแจ้งให้ทราบว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นได้เมื่อใด และจะเยียวยาอะไรได้บ้าง รวมถึงการวางแผนการในอนาคต ซึ่งจะแถลงข่าวภายใน 1-2 วันนี้
กู้คราบน้ำมันได้แล้ว 50%
ส่วนทางด้าน นายสุเมธ สายทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กล่าวว่า จากการระดมสรรพกำลังทุกฝ่ายส่วนทั้งรัฐและเอกชน ทำให้มีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดย 2 วันที่ผ่านมา เก็บกู้คราบน้ำมันไปแล้วกว่า 50% ส่วนจะแล้วเสร็จเมื่อไรนั้นยังบอกไม่ได้ ต้องรอดูปัจจัยแทรกซ้อนอย่างอื่นด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด เพราะเกิดเหตุแค่จุดเดียว หาดอื่น ๆ ยังปกติ ยังคงมีนักท่องเที่ยวทยอยข้ามมาเกาะเสม็ดอย่างต่อเนื่อง
กรมอุทยานฯ เตรียมสำรวจใต้ทะเล อ่าวพร้าว
ด้าน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ในวันนี้ จะนำชุดประดาน้ำลงสำรวจใต้ทะเลบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ดอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้ (30 กรกฎาคม) เจ้าหน้าที่ประดาน้ำลงไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุสถานการณ์ได้ เพราะคลื่นลมแรง ทำให้น้ำขุ่นมาก ดังนั้น ในวันนี้ถ้าฝนไม่ตก คลื่นลมปกติ ทางเจ้าหน้าที่จะได้สำรวจความเสียหายใต้ท้องทะเลบริเวณอ่าวพร้าว อ่าวใกล้เคียง ว่าแนวปะการังรวมไปถึงระบบนิเวศต่าง ๆ ได้รับผลกระทบมากน้อยขนาดไหน
ก.ท่องเที่ยว เตรียมแผนโรดโชว์กู้ภาพลักษณ์
ขณะเดียวกัน นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ยังติดตามสถานการณ์น้ำมันรั่วที่ทะเล จ.ระยอง อย่างต่อเนื่อง ซึ่งค่าเสียหายนั้นยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบประเมินมาก่อน โดยติดต่อประสานงานกับทาง จ.ระยอง ที่มีฐานข้อมูลเรื่องของโรงแรม ที่พัก ในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งตรงนี้ นอกจากเงินประกันที่ทาง ปตท. มีอยู่แล้ว จะต้องมาพิจารณาในเรื่องของค่าเสียโอกาสผู้ประกอบการด้วย เช่น จากทัวร์ที่บุ๊กกิ้งแล้วไม่เดินทางมา หรือระยะเวลาที่กว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาเหมือนปกติ แต่ต้องเป็นตัวเลขที่เหมาะสม ทาง ททท. พร้อมเป็นผู้ประสานงานให้ นอกจากนี้ เพื่อสร้างให้ความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทาง ททท. พร้อมจะจัดโรดโชว์เพื่อกู้ภาพลักษณ์กลับมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
