จูงมือคนรักไปสวีทหวาน 10 สถานที่โรแมนติกในกรุงเทพฯ

กิจกรรมวันวาเลนไทน์


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คู่หูเดินทาง

         วันวาเลนไทน์กับใครบางคนอาจเป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่งเท่านั้น เพราะต้องทำงาน หรือสรรหาสถานที่สุดแสนจะโรแมนติกในเมืองกรุงไม่ค่อยจะได้ แต่เราเชื่อว่ายังมีอีกหลาย ๆ คนกลับไม่คิดเช่นนั้น แถมยังอยากทำให้วันวาเลนไทน์เป็นวันพิเศษน่าจดจำ รวมถึงอยากจะใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันคนรู้ใจซะอีก (จริงไหม) ดังนั้น กระปุกท่องเที่ยวเลยรวบรวมเอาสถานที่สุดโรแมนติกในกรุงเทพฯ ทั้งแบบบรรยากาศในช่วงกลางวันชิล ๆ และกลางคืนสุดแสนจะโรแมนติกที่น่าจะพาคนรักไปฉลองวาเลนไทน์มาบอกกัน...♥


1. สวนรถไฟ

         เริ่มกันที่สวนสาธารณะที่นับว่าเป็นปอดของคนกรุงก็ว่าได้ สำหรับ สวนวชิรเบญจทัศ หรือที่นิยมเรียกว่า สวนรถไฟ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนกำแพงเพชร 3 เขตจตุจักร เพราะที่นี่นอกจากคุณจะควงแขนกันไปเดทเบา ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ฉ่ำปอดแล้ว ยังมีกิจกรรมเจ๋ง ๆ โดนใจวัยโจ๋ให้เลือกทำมากมาย ทั้งเช่าจักรยานปั่นเล่นออกกำลังกายไปรอบ ๆ สวน พายเรือคายัค แวะชมผีเสื้อสวย ๆ ที่อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ หรือจะไปนั่งปิกนิกหาเสื่อไปปูนั่งทานอาหารภายใต้ต้นไม้ใหญ่ แหม...ช่างโรแมนติกเหมือนเมืองนอกสุด ๆ

         ทั้งนี้ สวนรถไฟ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 - 21.00 น. ส่วนการเดินทางก็สะดวกสบาย สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีหมอชิต แล้วเดินต่อเข้าไปได้เลย โดยมีสถานที่ติดกับสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ซึ่งสามารถเดินทะลุไปมากันได้ และหากนำรถยนต์ส่วนตัวมา สามารถเข้าทางด้านข้าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถนนวิภาวดีรังสิตได้ โดยเสียค่าบำรุงจอดรถคันละ 10 บาท

เอเชียทีค

2. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์

         เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน แต่ดูเหมือนว่าแหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ (ASIATIQUE, The Riverfront) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า เอเชียทีค จะทวีความแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจเพราะด้วยรูปลักษณ์ที่ตอบโจทย์ บวกกับบรรยากาศและทัศนียภาพที่แปลกใหม่ สวยงาม รวมถึงตกแต่งอย่างมีสไตล์ จึงกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ในระยะเวลาไม่นาน โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่มักควงกันไปโพสต์ท่าถ่ายรูปหวาน ๆ เพราะที่ เอเชียทีค มีมุมน่ารัก ๆ ให้เลือกถ่ายภาพเพียบ ยิ่งช่วงที่พระอาทิตย์ค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้า ยิ่งงดงามจับใจ หรือจะจูงมือกันไปเดินช้อปปิ้งกะหนุงกะหนิง เคล้ากับบรรยากาศสุดแสนจะชิล ๆ พร้อมแวดล้อมกับสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกก็เก๋ไม่หยอก และถ้าเดินจนเหนื่อยก็มีร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ รสชาติเยี่ยม ให้เลือกดินเนอร์ในมื้อพิเศษมากมาย

         ทั้งนี้ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ตั้งอยู่ตรงข้าม เจริญกรุง 93 เปิดบริการตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2108 4487 หรือเว็บไซต์ www.thaiasiatique.com


ภูเขาทอง

3. ภูเขาทอง

         ชวนคู่รักจูงมือกันไปไหว้พระขอพร พร้อมกับพิสูจน์ความอดทนกันที่ “ภูเขาทอง” หรือ “พระบรมบรรพต” ซึ่งตั้งอยู่ในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ที่มีความสูงประมาณ 100 เมตร โดยบนยอดสุวรรณบรรพตเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากเมืองกบิลพัสดุ์ ประเทศอินเดีย ก็แหม...กว่าเดินขึ้นบันไดที่วนรอบภูเขาทองไปถึงยอดก็เหนื่อยใช่เล่น อะ ๆ แต่ขอบอกว่าระหว่างทางคุณทั้งคู่จะพบกับวิวของเกาะรัตนโกสินทร์ ในอีกมุมหนึ่งที่งดงามจับตาและหาชมไม่ได้ง่าย ๆ เลยล่ะ รับรองว่าวาเลนไทน์ปีนี้ทั้งอิ่มใจ อิ่มบุญแน่นอนค่ะ

         อย่างไรก็ตาม พระบรมบรรพตภูเขาทอง จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ไม่เพียงแต่ในเมืองไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอีกด้วย ทั้งนี้ ภูเขาทอง เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 07.30 – 17.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2621 0576

มิวเซียมสยาม

4. มิวเซียมสยาม

         อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าชวนคู่รักเด็กแนวไปชม นั่นก็คือ มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ (Museum Siam: Discovery Museum) ที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเตียน ถนนสนามไชย เขตพระนคร ลองพากันไปเดทแบบหาความรู้รอบตัวเกี่ยวกับความเป็นมาของคนไทย ทั้งในมิติทางด้านชาติพันธุ์ ศิลปวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีจนกลายมาเป็นชนชาติไทยในทุกวันนี้ ซึ่งที่นี่มีการนำสื่อสร้างสรรค์ที่ทันสมัยเข้ามาช่วยสร้างความน่าสนใจ ความเพลิดเพลิน และรุกเร้าความใคร่รู้ให้กับผู้เข้าเยี่ยมชมอยู่ตลอดเวลา

         ทั้งนี้ มิวเซียมสยาม มีนิทรรศการที่น่าสนใจและกิจกรรมต่าง ๆ สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียน ให้ผู้สนใจเข้าร่วมอยู่ตลอดทั้งปี โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ www.ndmi.or.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2225 2777 โดยมิวเซียมสยาม เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น.

อัตราค่าเข้าชม

         เข้าฟรี : เยาวชนไทยและต่างชาติอายุต่ำกว่า 15 ปี ส่วนสูงต่ำกว่า 150 เซนติเมตร,พระภิกษุสงฆ์, ผู้พิการ และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

         เสียค่าบริการ : นักเรียน-นักศึกษา อายุ 15 ปีขึ้นไป 50 บาท, ผู้ใหญ่คนไทย 100 บาท และผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 300 บาท

         การเดินทาง : สามารถเดินทางเข้าชมมิวเซียมสยามได้โดยใช้บริการเรือ โดยลงที่ ท่าราชินี และท่าเตียน หรือทางรถโดยสารประจำทาง สาย 3, 6, 9, 12, 32, 44, 47, 53, 82, 524

เขาดิน

5. สวนสัตว์ดุสิต

         ลองชวนกันย้อนวัยเด็กด้วยการไปเที่ยวสวนสัตว์และสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย ณ สวนสัตว์ดุสิต หรือ เขาดินวนา ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ บนถนนราชวิถี เขตดุสิต ใกล้กับสนามเสือป่าและพระที่นั่งอนันตสมาคม แหล่งท่องเที่ยวในมุมมองที่คุณไม่เคยเห็น เพราะนอกจากจะไปเดินดูความน่ารักน่าชังของสัตว์นานาชนิด ที่มาอวดโฉมให้ได้ชมกันแล้ว ที่นี่ยังมีหลุมหลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นหนึ่งใน Unseen in Thailand ให้ได้ชมกันอีกด้วย ยังไม่หมดเท่านั้นค่ะ หากใครเดินเล่นจนเมื่อยแล้ว ก็มีที่นั่งพักสบาย ๆ ให้ได้พักแข้งพักขา ท่ามกลางธรรมชาติสุดร่มรื่นที่หาได้ยากเต็มที่ในเมืองป่าคอนกรีตเช่นนี้ หรือใครอยากสวีทหวานก็ควงกันไปปั่นจักรยานน้ำเรียกเหงื่อกันดูนะคะ ^^ รวมถึงสวนสนุกเล็ก ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่ดึงดูดใจไม่น้อยเลย

         ทั้งนี้ สวนสัตว์ดุสิต เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา 08.00 - 21.00 น. อัตราค่าเข้าชมชาวไทยผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท เด็กชาวต่างชาติ 50 บาท  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2281 2000, 0 2281 9027-8

ปีใหม่ 2011


6. เดินเล่นสยาม – เซ็นทรัลเวิลด์

         เชื่อว่าในวันวาเวนไทน์ อีกหนึ่งกิจกรรมที่คู่รักชื่นชอบ คือ การไปเดินเล่นชิล ๆ หาของกินอร่อย ๆ หรือช้อปปิ้งกะหนุงกะหนิง ซึ่งสถานที่ที่จะตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการคงหนีมาพ้น "สยามสแควร์" หรือเรียกสั้น ๆ กันว่า "สยาม" เพราะนับได้ว่าเป็นแหล่งรวมความต้องการของทุกเพศและทุกวัย ทั้งแหล่งรวมร้านค้าหลากประเภท ร้านอาหาร โรงเรียนกวดวิชา โดยเฉพาะกับโลกแฟชั่นของสังคมเด็กแนว แถมในบริเวณใกล้ ๆ ยังมี ศูนย์การค้ามาบุญครอง สยามดิสคัฟเวอร์รี่ สยามเซ็นเตอร์ และสยามพารากอนให้เลือกเดินตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคู่ด้วย

         อะ ๆ ยังไม่หมดเท่านั้น หากคุณทั้งคู่เดินสยามจนเบื่อแล้วก็ลองเดินเลยไปสักนิด ตรงดิ่งไปแถว ๆ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งก็มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ทั้งดูหนัง โยนโบว์ลิ่ง รับประทานอาหารมื้ออร่อยในร้านเก๋ ๆ หรือไปนั่งเล่นกันที่อุทยานการเรียนรู้ (ทีเคพาร์ค) ห้องสมุดทันสมัยแห่งแรกในประเทศไทย

ตรุษจีนเยาวราช

7. เยาวราช

         กิจกรรมนี้เหมาะในช่วงเวลากลางคืน ที่คุณจะพาคนรู้ใจไปเดินหาอะไรหม่ำให้อิ่มท้องกัน ณ เยาวราช หรือ Chinatown in Bangkok ที่ได้รับการกล่าวขานและขนานนามว่าเป็น "ถนนมังกร" โดยจุดเริ่มต้นของหัวมังกรที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา บริเวณวงเวียนโอเดียน ท้องมังกรอยู่ที่บริเวณตลาดเก่าเยาวราช และสิ้นสุดปลายหางมังกรที่บริเวณปลายสุดของถนน

         ซึ่งนอกจากสีสันยามค่ำคืนของเยาวราช ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของผู้คนที่ออกมาเดินเล่นแล้ว สองฟากฝั่งยังจะคลาคล่ำด้วยร้านอาหารริมทางที่เลิศรสเทียบชั้น ภัตตาคารนับร้อยร้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าของกินยามค่ำคืนช่างอร่อยล้ำ มีร้านเด็ด ร้านดังให้เลือกเพียบ ตั้งแต่ราคาเบา ๆ สบายกระเป๋าอย่าง ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่กระทะทองเหลือง, กระเพาะปลาเจ๊คิ้ม สูตรแต้จิ๋ว, ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนา (หน้าโรงหนัง), ข้าวต้มแปลงนาม, บะหมี่มังกรขาว, น้ำปลาหวาน ขวัญใจ, หอยทอดนายหมง และขนมปังปิ้งเยาวราช ฯลฯ ไปจนถึงราคาหลักพันแต่คุณภาพเยี่ยมอย่างหูฉลาม แพะตุ๋นยาจีน และซุปรังนก

สะพานพระราม 8

8. สะพานพระราม 8 – ถนนพระอาทิตย์

         ในตอนเย็นที่แดดร่มลมตก การจราจรไม่หนาแน่นเหมือนช่วงกลางวัน หากได้ไปเดินเล่นบนสะพานที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกับดูแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเอื่อย ๆ ช้า ๆ ด้านล่าง และถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกในวันวาเลนไทน์ก็คงจะดี ซึ่งอีกหนึ่งที่สถานที่ที่น่าชวนคนรู้ใจขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกดินเป็นที่สุด นั่นคือ สะพานพระราม 8 ซึ่งอยู่ตรงทางเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี บรรจบกับถนนวิสุทธิกษัตริย์ เพราะเป็นสะพานที่มีบรรยากาศและทัศนียภาพงดงาม อะ ๆ แม้ว่าระยะทางสะพานจะยาวหน่อย แต่ก็ไม่น่าพลาดสำหรับคู่รักที่อยากแนบชิดแอบอิงโรแมนติก พร้อมกับดูแม่น้ำเจ้าพระยาสะท้อนแสงไฟในยามค่ำคืน หรือถ้าเดินจนเหนื่อยบริเวณใต้สะพานก็มีสวนสาธารณะบรรยากาศดี ๆ ร่มรื่นให้นั่งพักผ่อนด้วยจ้า

         แต่ถ้าเดินเลยมาหน่อยใกล้ ๆ กับสะพานพระราม 8 คุณทั้งคู่ก็จะได้เพลิดเพลินกับวิวสวย ๆ บริเวณ ถนนพระอาทิตย์ พร้อมกับไปนั่งกินลมชมวิวสะพานพระราม 8 แบบชิล ๆ พร้อมกับหาซื้ออะไรมากันเล่นก็เก๋นะจ๊ะ นอกจากนี้ ความคลาสสิกของสถาปัตยกรรมตามอาคารบ้านเรือนบริเวณนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดให้คู่รักที่หลงใหลการถ่ายภาพ ไปแชะภาพเก็บเกี่ยวความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน แหม...มันช่างโรแมนติกจริงเชียว

9. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพมหานคร

         เมื่อถึงวันวาเลนไทน์ หากใครอยากดูดาวกับแฟนแต่ว่าท้องฟ้าในกรุงเทพฯ ไม่เป็นใจ การไป "ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพมหานคร" น่าจะตอบโจทย์ความโรแมนติกได้ดีที่สุด เพราะแม้ว่าที่นี่จะเป็นท้องฟ้าที่จำลองมาจากของจริง แต่ความรู้สึกเมื่อได้ดูดาวด้วยกันแล้วนั้น ไม่จำลองเลย เพราะที่นี่จะฉายภาพดาวฤกษ์กว่า 9,000 ดวง และฉายภาพกาแล็กซี ทางช้างเผือก ดาวหาง ดาวตก ชนิดที่ว่า ไม่ต้องไปไหนไกล แค่มาที่ท้องฟ้าจำลองก็ได้สัมผัสบรรยากาศโรแมนติก เหมือนมีผ้าห่มเป็นท้องฟ้าขนาดใหญ่มหาศาล ห่มคู่รักด้วยหมู่ดาวเลยทีเดียว

         สำหรับ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการตั้งแต่วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.30 น. ปิดให้บริการวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2391-0544, 0-2392-0508, 0-2392-1773 และเว็บไซต์ sci-educ.nfe.go.th

 บางขุนเทียน
 

10. บางขุนเทียน


         สำหรับคู่รักที่มีเวลาน้อย แต่อยากยลโฉมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ากลางทะเล เราขอแนะนำอีกมุมหนึ่งของกรุงเทพฯ อย่าง "บางขุนเทียน" เพราะที่นี่เป็นเขตเดียวของกรุงเทพฯ ที่มีพื้นที่ติดกับอ่าวไทย และยังมีป่าชายเลนหลงเหลืออยู่ ซึ่งที่บางขุนเทียนแสงสุดท้ายจะลาลับขอบฟ้าท่ามกลางท้องทะเลอันเงียบสงบ สายลมที่พัดฉ่ำเย็น รอคอยผู้คนแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน และนั่งดูแสงสุดท้ายนี้ด้วยกัน อีกทั้งหากอิ่มเอมใจกับบรรยากาศสุดงดงามตรงหน้าแล้ว แต่ท้องกลับไม่อิ่มตามไปด้วย ที่บางขุนเทียนก็มีร้านอาหารรสเยี่ยมบริการมากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลน้ำจิ้มเด็ดราคาไม่แพง…ฟันธง!

         และนี่คือ 10 สถานที่โรแมนติกในกรุงเทพฯ ที่เราหยิบมาแนะนำกัน ใครพอจะสะดวกเกี่ยวก้อยคนรักไปสวีทหวานในวันวาเลนไทน์ก็ลองดูนะคะ ^^






ขอขอบคุณข้อมูลจาก
      และ bangkokgoguide.com



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จูงมือคนรักไปสวีทหวาน 10 สถานที่โรแมนติกในกรุงเทพฯ อัปเดตล่าสุด 10 มิถุนายน 2565 เวลา 10:29:37 61,022 อ่าน
TOP
x close