10 ร้านหม้อไฟเกาหลี อร่อยจนต้องยอมยกธงขาว

          ร้านหม้อไฟเกาหลี (บูชิเก) เป็นหนึ่งในเมนูร้านอาหารเกาหลีที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยเมนูนี้เกิดในช่วงสมัยสงครามเกาหลี จากการนำเอาอาหารที่ได้รับแจกจ่ายจากทหารมาผสมรวมเป็นหม้อใหญ่ และบังเกิดเป็นรสชาติความอร่อยที่แสนจะบังเอิญนี้ขึ้นมา แหม...มีหรือที่พี่ไทยจะพลาด เพราะจะเห็นว่าในกรุงเทพฯ เริ่มมีร้านหม้อไฟเกาหลีเกิดขึ้นเป็นจำนวนไม่น้อย เป็นโอกาสดีที่วันนี้เราจะขอคัดเอาร้านหม้อไฟเกาหลีเด็ด ๆ มาให้เพื่อน ๆ ได้ลิ้มลองความอร่อยกัน มีร้านไหนบ้างตามมาดูกันเลย

1. TUDARI (ทูดาริ)



          ไม่ต้องบอกว่าร้านนี้ฮอตขนาดไหน สังเกตได้จากจำนวนสาขาทั้งสิ้น 16 สาขา เมนูจะแบ่งเป็นแบบเซต มีประมาณ 6 อย่าง ตรงกลางเป็นเส้นชินราเมียน ปูอัด ไข่ เต้าหู้ปลา สาหร่ายทอดไส้วุ้นเส้น และแป้งต๊อก และมีเมนูอีกแผ่นเป็นพวกเครื่องต่าง ๆ ที่เราสามารถสั่งเพิ่มเติมลงไปได้ โดยเส้นชินราเมียนในหม้อไฟที่มาเสิร์ฟนั้นจะทั้งเหนียวและนุ่ม พร้อมราดซอสมาแล้วเรียบร้อยด้านบน หลังจากนั้นตั้งน้ำให้เดือด แล้วก็คลุกเคล้าให้เข้าที่ และจัดการลงมือทานความอร่อยได้ หากไม่อิ่มไม่จุใจก็สามารถเติมหมู เนื้อ ชีส ไก่ มีให้เลือกเยอะแยะ ขอบอกก่อนว่าอย่าเพิ่งหงุดหงิดกับคิวบางสาขาที่รอนานอยู่สักหน่อย เพราะของอร่อยต้องรอนิดหนึ่ง

          ที่อยู่ : มีทั้งหมด 16 สาขา สามารถดูรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก Tudari Thailand
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 711 7160
          เว็บไซต์ :  เฟซบุ๊ก Tudari Thailand

2. The Red Sun (Thailand)

 
          ร้านหม้อไฟเกาหลีต้นตำรับที่นำเข้ามาในเมืองไทย สาขาแรกของ The Red Sun (Thailand) อยู่ที่สยามสแควร์ เรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าบรรดานักชิมอาหารเกาหลีอยู่ไม่น้อย จนต้องต่อคิวยาวเป็นหางว่าว และตอนนี้ขยายกิจการมากกว่า 7 สาขา แต่ละสาขาโดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งร้านด้วยผนังปูน ที่ดูเรียบง่าย เน้นความคลาสสิก และเพิ่มความหรูด้วยโคมไฟที่ดูทันสมัย รวมถึงหมีตัวใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของทางร้าน พลาดไม่ได้กับเมนูที่ต้องสั่งอย่าง บูเด ต๊อกโบกี กับมอสซาเรลล่าชีส ที่ลูกค้าสามารถเลือกระดับรสชาติความเผ็ดได้ นอกจากนี้ยังมีเมนูทานเล่นอย่าง Tok Carbonara, Daejikoki Jolmyun, Kimchi Chicken Shaky ให้เลือกทานอย่างจุใจ

          ที่อยู่ : มีทั้งหมด 7 สาขา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก RedSun Thailand Tokpokki
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 252 1395
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก RedSun Thailand Tokpokki

3. Kin jjigae



          ร้านหม้อไฟเกาหลีที่ส่งตรงจากกรุงโซล ความพิเศษของที่นี่อยู่ที่ราคาเบา ๆ แต่อัดแน่นไปด้วยเครื่องทั้งผักชนิดต่าง ๆ เช่น ผักกาดหอม ผักโขม ถั่วงอก ต้นหอมญี่ปุ่น และซอสรสชาติเข้มข้น ที่ให้รสชาติเผ็ดร้อนนิด ๆ หลังจากรอให้น้ำซุปเดือด และใส่อาหารที่สั่งลงไป มีทั้งอุด้ง, จับแช, ไส้กรอกหมู, หมูสามชั้น, หมูสับ, เนื้อไก่ หรือเนื้อหมูสันนอก เรียกได้ว่ากินอิ่มจุใจแบบสบาย ๆ เลยทีเดียว หรือถ้าใครไม่อยากกินหม้อไฟเกาหลี ก็มีของทานเล่นให้เลือกหลากหลาย ซึ่งเป็นสูตรเกาหลีแท้ ๆ ที่ได้รับการปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทย รับรองว่าอิ่มท้องแบบกระเป๋าสตางค์ไม่แฟบแน่นอน

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.
          ที่อยู่ : 242 อาคารศูนย์การค้าเพลินนารี่มอลล์ ชั้น 2 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 094 928 8787
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Kin jjigae หม้อไฟเกาหลี บูแดจิเก

4. Korean Ma Thailand



          ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ในโครงการ ลา วิลล่า อารีย์ (La Villa Aree) มาที่นี่พลาดไม่ได้กับเมนูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลีที่สั่งกันแทบทุกโต๊ะ บรรยากาศร้านขนาดกำลังดี ตกแต่งได้น่ารัก มีเมนูชุดหม้อไฟและแบบซีฟู้ดให้เลือก หรือถ้าใครต้องการเพิ่มชีสก็สามารถสั่งเพิ่มในเมนูได้ ส่วนใหญ่แล้วเครื่องหลัก ๆ ในชุดหม้อไฟ ได้แก่ ผัก ไส้กรอก เนื้อหมู ไข่ต้ม และลูกชิ้นต่าง ๆ ยิ่งได้ทานร้อน ๆ ยิ่งฟินสุด ๆ ทางที่ดีต้องทานคู่กับกิมจิ พร้อมด้วยเมนูทานเล่นอื่น ๆ มากมาย เช่น ต๊อกโบกีซีฟู้ดราดซอส กระดูกหมูคลุกซอสบาร์บีคิว หรือจะปิดท้ายด้วยของหวานอย่างไอศกรีมก็ไม่ว่ากัน

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
          ที่อยู่ : โครงการลา วิลล่า อารีย์ ชั้น 3 (Phahon Yothin) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 093 623 5050, 092 840 2882
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Korean Ma Thailand และ koreanmathailand.com

5. KimJu Korean Royal Cuisine


          ร้านอาหารเกาหลีแสนอร่อย ในปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 28 สาขา ให้บริการอาหารเกาหลีรสชาติชั้นเลิศ ที่ไม่ว่าคุณจะมาสังสรรค์กับเพื่อน ๆ หรือสนุกสนานกันตามประสาครอบครัว ก็อิ่มอร่อยลงตัวได้ทุกมื้อ นอกจากเมนูปิ้งย่างแล้ว เมนูหม้อไฟเกาหลีจัดได้ว่าอร่อยไม่แพ้กัน ส่วนมากเป็นประเภทเนื้อสัตว์ และอาหารทะเล รวมถึงพวกผักที่มีให้เลือกอยู่มากทีเดียว น้ำจิ้มเลือกปรุงกันได้ตามใจชอบ โดดเด่นด้วยซุปที่มาในหม้อไฟ ที่รสชาติออกเปรี้ยวหน่อย ๆ แต่รวมแล้วเป็นรสชาติอีกแบบหนึ่งที่จัดได้ว่าอร่อย และราคาไม่แพงจนเกินไป

          ที่อยู่ : มีทั้งหมด 28 สาขา สามารถดูรายละเอียดได้ที่ kimjufood.com
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 520 3588
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก KimJu Korean Royal Cuisine อาหารราชวงค์เกาหลี และ kimjufood.com

6. Mashitang Korean Cuisine
            ร้านอาหารที่ส่งต่อความอร่อยจากแดนกิมจิสูตรดั้งเดิม รสชาติถูกปาก ด้วยเครื่องปรุงสดใหม่ ภายในร้านตกแต่งในบรรยากาศสบาย ๆ เหมาะสำหรับมื้ออร่อยกับก๊วนเพื่อนและครอบครัว ที่อร่อยจริงจังกับเซตเมนูอาหารเกาหลี อย่างกิมจิกับเต้าหู้เกาหลีหม้อไฟ จาจังเมียน พร้อมเครื่องเคียงเรียกน้ำย่อย ที่เติมให้คุณแบบไม่อั้น ตามแบบฉบับเกาหลี เมื่อตักเข้าปากจะรับรู้ได้ถึงความแน่นของเนื้อ และชุดผักที่จัดหนักและจัดเต็ม เรียกได้ว่าวัตถุดิบแต่ละอย่างยังคงความสดและสะอาด หน้าตาและสีสันชวนให้รับประทานเป็นอย่างยิ่ง

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
          ที่อยู่ : ยูเนี่ยนมอลล์ ชั้น F4 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 513 3811
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Mashitang Korean Cuisine มะชิตัง ร้านอาหารเกาหลีสูตรต้นตำรับ

7. ลองยัง (LONGYONG)



          ร้านหม้อไฟเกาหลีที่ตลาดนัดเจเจกรีน ว่ากันว่าเป็นร้านที่ต้องเสี่ยงดวง เพราะคนแน่นมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงประมาณ 2-3 ทุ่ม ที่ร้านมีทั้งโซนห้องแอร์และโซนด้านนอกให้ลูกค้าเลือกนั่งได้ตามสะดวก เมนูหม้อไฟเกาหลีของทางร้านแบ่งออกเป็น 2 ชุด ได้แก่ ชุดหม้อไฟต้มยำ ประกอบด้วยซีฟู้ด ท็อปปิ้งต่าง ๆ และเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี รสชาติจัดจ้านถึงใจ และชุดหม้อไฟซุปเครื่องแกงเกาหลี บูเดจิเก ประกอบด้วยท็อปปิ้งต่าง ๆ เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี และเครื่องแกงเกาหลีรสชาติกลมกล่อม ใครที่คิดว่าไม่อิ่ม ทางร้านก็มีเมนูท็อปปิ้งให้เลือกอีกเพียบ หรือใครที่อยากทานชีส ทางร้านมีเตาแยกไว้ต่างหาก หลังจากที่ชีสละลายก็นำพวกเนื้อต่าง ๆ ลงไปจิ้มทานได้เลย

          เวลาเปิด-ปิด : วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 17.30-23.30 น. (อาจเปิดวันพฤหัสบดีในเร็ววันนี้)
          ที่อยู่ : ถนนกำแพงเพชร 3 (jj green market) แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 086 364 2995
          เว็บไซต์ :  เฟซบุ๊ก LongYoung

8. Dae Bak

 
          ตั้งอยู่ที่ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา จัดได้ว่าเป็นร้านหม้อไฟที่ฮิตอีกร้านหนึ่ง เต็มอิ่มกับเครื่องและเหล่าบรรดาท็อปปิ้งที่ถูกเสิร์ฟในหม้อไฟ ได้แก่ ผักชนิดต่าง ๆ เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี แฮม ไข่ต้ม ปูอัด เป็นต้น พร้อมราดด้วยซอสเข้มข้นสไตล์เกาหลี มีให้เลือก 2 แบบคือ Original Set และแดบัก Premium Set ลูกค้ายังสามารถสั่งเพิ่มได้อีกหลากหลายเมนูท็อปปิ้งมากกว่า 20 ชนิด รอจนได้ยินเสียงน้ำเดือดได้ที่ หลังจากนั้นก็จัดหนักได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังมีของทานเล่นเอาไว้ยั่วให้น้ำลายไหล อย่างยำสาหร่าย ที่ไม่ว่าใครได้ลองมาทานที่ร้านนี้ ต้องยอมยกธงขาวให้กับความอร่อยด้วยกันทั้งนั้น

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเวลา 18.00-01.00 น. (ปิดเดือนละ 2 ครั้ง วันอังคารต้นเดือนและปลายเดือน)
          ที่อยู่ : ตลาดนัดเลียบทางด่วนรามอินทรา ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 080 043 0949
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก แดบัก มาม่าหม้อไฟเกาหลี

9. Neambi Ramyeon



          ร้านหม้อไฟเกาหลีที่มีลูกค้าแวะมาอุดหนุนไม่ขาดสาย จนบางครั้งก็ต้องรอต่อคิวกันไป เร็วบ้าง ช้าบ้าง แต่รับรองว่าได้ลิ้มรสความอร่อยกันทุกคน ความพิเศษของที่นี่อยู่ที่ "หม้อไฟดั้งเดิม" ที่คงรสชาติความเป็นเกาหลีแท้ ๆ ที่ทางร้านได้คิดค้นสูตร จนอร่อยถูกปากคนไทย ใครที่ไม่ทานเผ็ด สามารถสั่งแยกพริกได้ หรือใครที่ชอบทานเผ็ดมาก ก็สามารถสั่งได้เช่นกัน บอกแล้วว่าร้านนี้ตามใจลูกค้ากันสุดฤทธิ์ ส่วนใครที่ชอบรสชาติไทยแบบแซ่บ ๆ ต้องนี่เลย "หม้อไฟต้มยำมันกุ้ง" พริกเผาสูตรเด็ด ที่มาพร้อมน้ำต้มยำที่เข้มข้นถึงเครื่องต้มยำ ท็อปปิ้งแน่น ๆ บวกกับเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเหนียวนุ่มของเกาหลี เป็นความอร่อยที่ลงตัวหาไม่ได้จากร้านไหนเลยทีเดียว

          เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา  17.30-23.45 น.
          ที่อยู่ : ตลาดหัวมุม Market & More (ตลาดนัดรถโบราณ) ถนนเกษตร-นวมินทร์ เขตลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 088 501 4554
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Neambi Ramyeon 냄비 라면 หม้อไฟเกาหลี

10. YUU JUNG


          ร้านอาหารสไตล์หม้อไฟเกาหลีที่แสนจะน่ากินเป็นที่สุด ความโดดเด่นของหม้อไฟเกาหลีร้านนี้อยู่ที่การคัดเลือกวัตถุดิบของทางร้าน ที่เน้นวัตถุดิบซีฟู้ดเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีเนื้อ หมู ผักสด และเครื่องเคียงสไตล์เกาหลี โดยที่นี่บริการหม้อไฟเกาหลี 2 ขนาด แถมยังเลือกระดับความเผ็ดได้อีกด้วย (ใครชอบทานเผ็ดมากเผ็ดน้อยก็บอกได้เลย) นอกจากหม้อไฟเกาหลีรสชาติเข้มข้นถึงใจแล้ว ที่นี่ยังมีของทานเล่นเอาไว้สั่งกินเพลิน ๆ อีกด้วย เช่น ไก่เมียงดง ไก่ฮันนี่ จับแช และเส้นเกาหลีผัดโกจิจูจัง ที่ผัดกับซอสพิเศษของทางร้าน ลองใครได้เอาเข้าปากไปสักคำ รับรองว่าจะต้องติดใจ และกลับมาทานที่นี่เป็นรอบสองอย่างแน่นอน

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น.
          ที่อยู่ : Int-Intersect พระราม 3 982 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 682 6210
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก YUU JUNG

          โอ้โห ! แต่ละร้านนี่เรียกได้ว่าเด็ดและไม่ธรรมดาจริง ๆ น่าจะถูกใจเหล่าบรรดาสาวกที่ชอบทานอาหารเกาหลีแน่ ๆ งานนี้ไม่ต้องบินไปไกลถึงเกาหลี ก็ลิ้มรสความอร่อยได้แบบอิ่มท้อง ไม่รู้ว่ามีเพื่อน ๆ คนไหนมีร้านหม้อไฟเกาหลีในดวงใจแล้วหรือยัง ถ้ายัง…ลองพิจารณาร้านที่เราบอกไปดูก็ได้นะคะ หรือถ้าใครมีร้านไหนเด็ด ๆ อยากจะแชร์ก็บอกเรามาได้เหมือนกัน จะได้แบ่งปันความอร่อยไปด้วยกันเลย ^ ^

          หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 4 มีนาคม 2559

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊ก Tudari Thailand, tudarithailand.com, เฟซบุ๊ก RedSun Thailand Tokpokki, เฟซบุ๊ก Kin jjigae หม้อไฟเกาหลี บูแดจิเก, koreanmathailand.com, เฟซบุ๊ก Korean Ma Thailand, kimjufood.com, เฟซบุ๊ก KimJu Korean Royal Cuisine อาหารราชวงค์เกาหลี, เฟซบุ๊ก Mashitang Korean Cuisine มะชิตัง ร้านอาหารเกาหลีสูตรต้นตำรับ, เฟซบุ๊ก LongYoung, เฟซบุ๊ก แดบัก มาม่าหม้อไฟเกาหลี, เฟซบุ๊ก Neambi Ramyeon 냄비 라면 หม้อไฟเกาหลี, เฟซบุ๊ก YUU JUNG