เที่ยวญี่ปุ่น ณ เมืองโทยามะ สัมผัสดินแดนมนตร์เสน่ห์ท่ามกลางธรรมชาติ

          พาไปทำความรู้จักกับที่เที่ยวโทยามะ (Toyama) ประเทศญี่ปุ่น จังหวัดแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล

           ถ้าได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น ใครหลายคนคงยังสับสนว่าควรจะเลือกเที่ยวเมืองไหนดี วันนี้เราขอแนะนำจังหวัดแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรม "โทยามะ" (Toyama) ที่จะทำให้คุณมีประสบการณ์เยือนประเทศญี่ปุ่นแบบไม่รู้ลืม ด้วยเป็นเมืองที่มีภูเขาสูงใหญ่ อันเป็นเส้นทางที่คนทั่วโลกใฝ่ฝันกับการเดินตามเส้นทางอัลไพน์หรือเส้นทางธรรมชาติแห่งเจแปนแอลป์ ที่ได้รับฉายาว่า "หลังคาของญี่ปุ่น" แถมอีกด้านของเมืองติดกับทะเลน้ำลึก จึงทำให้การกินอาหารทะเลจากเมืองนี้สดและสะอาด นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านเก่าแก่ที่เป็นมรดกโลกซุกซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ด้วย นี่เป็นเพียงฉากเปิดของเมืองนี้เท่านั้น เพราะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย...ไปดูกันเลย

1. สวนสาธารณะ Takaoka Otogi-no-mori

           แม้จะเป็นเพียงสวนเล็ก ๆ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ ความน่าสนใจของสวนแห่งนี้ ก็คือการจัดแสดงรูปปั้นของโดราเอมอนและผองเพื่อน เพราะจังหวัดโทยามะ คือ บ้านเกิดของ Fujiko F. Fujio ผู้แต่งเรื่องโดราเอมอน การ์ตูนอันโด่งดังระดับโลก ที่นี่จึงเป็นจุดที่คุณไม่ควรพลาด

2. ถนนโยะคะมาจิ (Yokamachi dori)

          ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของคนญี่ปุ่น ถนนโยะคะมาจิก็สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี อาคารไม้เก่าแก่สไตล์โบราณเรียงรายเป็นแนวยาวไปเกือบจรดภูเขาด้านหลัง มีอายุยาวนานมากกว่า 600 ปี กลิ่นไม้ที่อบอวลทั่วทั้งหมู่บ้าน แสดงถึงอาชีพที่ชาวบ้านทำกันมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือการแกะสลักไม้ ที่ทั้งประณีตและวิจิตรบรรจง ซึ่งเสียงตอกไม้ก็ได้รับรางวัล "100 ทิวทัศน์ด้านเสียงของญี่ปุ่นที่อยากให้คงเหลือไว้" มาแล้ว ลองจินตนาการดูสิว่าในฤดูหนาวที่มีหิมะขาวทั่วหมู่บ้าน ยามค่ำคืนที่ไฟสีส้ม ๆ ส่องแสงออกมาจากโคมโบราณมันจะสวยงามแค่ไหน


3. เส้นทางเทือกเขาเจแปนแอลป์ ทาเทยามะ คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route)

          สนุกไปกับการเดินทางข้ามเขาเจแปนแอลป์ ที่ครอบคลุมระยะทางกว่า 3,000 เมตร ชมความหลากหลายและงดงามของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่แตกต่างกันออกไปทั้ง 4 ฤดู ผ่านเส้นทางของยานพาหนะทั้งกระเช้าไฟฟ้า เคเบิลคาร์ รสบัสไฟฟ้า ฯลฯ ถ้าอยากผจญภัยให้มากขึ้นก็สามารถร่วมคอร์สปีนเขาตั้งแต่ระดับง่ายไปจนถึงยากที่สุดได้ นั่นจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมที่นี่ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะกลางเดือนเมษายนจนถึงพฤศจิกายน เพราะเป็นช่วงที่ดอกไม้เบ่งบานในหน้าร้อน และใบไม้จะเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง


4. น้ำตกโชเมียว

           พลาดไปแล้วจะเสียใจ เพราะน้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในประเทญี่ปุ่น ด้วยความสูงกว่า 350 เมตร มวลน้ำอันมหาศาลที่ไหลทอดยาวตกลงมากระทบพื้นด้านล่าง ก่อให้เกิดเสียงอันดังสนั่นกึกก้องไปทั่วหุบเขา เมื่อมีลมพัดผ่านละอองน้ำจะกระเซ็นไปทั่วสารทิศ สร้างความสดชื่นได้ไม่น้อย และเมื่อหิมะเริ่มละลายทางด้านขวาของน้ำตกจะเกิดน้ำตกฮันโนะคิที่มีความสูงกว่า 500 เมตร กลายเป็นน้ำตก 2 สายไหลมาบรรจบกัน ยิ่งไปกว่านั้นถ้ามีน้ำมาก น้ำตกโซเมนก็จะเยื้องกายออกมาจากหุบเขาทางด้านขวาของน้ำตกฮันโนะคิ ไหลผ่านซอกหินและแมกไม้ กลายเป็นน้ำตก 3 สาย ที่มีชีวิตชีวาอยู่เบื้องหน้าของท้องฟ้าสีครามสดใส หากใครพกดวงไปด้วยก็อาจจะได้เห็นสายรุ้งทอดผ่านตัวน้ำตกอย่างสวยงาม


5. เขื่อนคุโรเบะ

          จากเส้นทางอัลไพน์สามารถเชื่อมต่อมายังเขื่อนแห่งนี้ได้ ซึ่งเป็นเขื่อนแนวโค้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีความสูง 1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1963 หากต้องการชมความงดงามของการปล่อยน้ำมากกว่า 10 ตัน ในทุก ๆ วินาทีกับความสูง 180 เมตรของตัวเขื่อน ก็ต้องอดทนเดินขึ้นบันได 220 ขั้น เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิว นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการล่องเรือในทะเลสาบคุโรเบะและการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในพิพิธภัณฑ์ของเขื่อนได้อีกด้วย


6. กำแพงหิมะ (Yuki-no-Otani)

           ถือเป็นไฮไลต์ที่ใคร ๆ ต้องไปให้ได้ เพราะเป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้น บนเส้นทางเทือกเขาเจแปนแอลป์ ทาเทยามะ คุโรเบะ หิมะจำนวนมหาศาลตกสะสมกันมาตั้งแต่ฤดูหนาวจนถึงฤดูใบไม้ผลิ ทับถมอยู่บนเส้นทางการจราจร เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นจึงต้องทำการละลายหิมะในส่วนของถนนออก จึงเกิดเป็นกำแพงหิมะสูงท่วมหัว ซึ่งจุดที่สูงที่สุดจะเริ่มตั้งแต่ 5-20 เมตร ขึ้นอยู่กับปริมาณหิมะในแต่ละปี ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าได้ยืนอยู่ตรงนั้นจะตื่นเต้นมากแค่ไหน


7. หมู่บ้านมรดกโลก Ainokura และ Suganuma

           เมืองโทยามะอยู่ในพื้นที่มีหิมะตกหนัก ในสมัยก่อนชาวบ้านจึงต้องสร้างบ้านให้มีหลังคาลาดเอียงลงมาทั้ง 2 ด้าน คล้ายมือที่ประกบกัน มุงด้วยวัสดุจากธรรมชาติ ไม่ใช้ตะปูในการยึดติด มีการดูแลรักษาจากรุ่นสู่รุ่น จนตอนนี้มีอายุเกือบ 200 ปี นอกจากลักษณะบ้านที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว พื้นที่ของการตั้งหมู่บ้านยังล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม ในกลิ่นอายของวัฒนธรรมดั้งเดิม ขับกล่อมชีวิตของคนท้องถิ่นด้วยบทเพลงพื้นเมือง สำหรับหมู่บ้าน Ainokura Gasshoutsukuri ปัจจุบันหลงเหลืออยู่ประมาณ 20 หลัง และหมู่บ้าน Suganuma Gasshoutsukuri มีทั้งหมด 9 หลัง

8. สถานที่เล่นสกีบนเทือกเขาทาเตยามะ (Tateyama Mountain Ski Resort)

           เมืองไทยไม่มีหิมะทำให้เล่นสกีไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อดั้นด้นไปถึงที่แล้วก็ควรจะต้องลองใช่ไหม ที่แห่งนี้จึงเป็นอีกที่ที่ต้องไม่พลาด ซึ่งเป็นสถานที่เล่นสกีที่ใหญ่ที่สุดในเขตโฮะคุริคุ นอกจากจะสนุกสนานไปกับการเล่นสกีแล้ว ยังได้ชื่นชมกับธรรมชาติอันงดงามของสิ่งรอบข้าง เช่น ที่ราบโทยามะ อ่าวโทยามะ คาบสมุทรโนโตะที่อยู่ห่างไกลออกไปได้อีกด้วย

9. แม่น้ำมัตซึคาวะ (Matsukawa River)

          การล่องเรือในแม่น้ำมัตซึคาวะ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจของเมืองโทยามะ ตลอดแม่น้ำทั้งสองฝั่งเต็มไปด้วยต้นไม้อันเขียวขจี ดูร่มรื่น ทำให้รู้สึกสดชื่น ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระสีชมพูจะเบ่งบานสะพรั่ง พริ้วไหวไปตามสายลมตลอดทั้งแนวแม่น้ำ เหมือนเป็นหนึ่งฉากในภาพยนตร์โรแมนติก ส่วนฤดูใบไม้ผลิก็จะมีความหลากหลายจากสีสันของใบไม้ สวยงามไม่แพ้กัน

10. หมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนฮิมิ

          คลายความเหนื่อยเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อด้วยการนอนแช่น้ำพุร้อนเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย อีกทั้งทัศนียภาพจากการนอนแช่น้ำร้อนในหมู่บ้านแห่งนี้ยังงดงามเหนือคำบรรยายกับภาพของ เทือกเขาทาเตยามะ เบื้องหลังของอ่าวโทยามะ มีความเชื่อกันว่าบ่อน้ำแร่ธรรมชาติแห่งนี้มีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผลต่าง ๆ อาการป่วยบางชนิดได้อีกด้วย

11. นั่งรถไฟในหุบเขาคุโรเบะ

          เปิดประสบการณ์เดินทางแบบใหม่ ด้วยการนั่งรถไฟ Torokko เพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติที่ทั้งหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ มีความงดงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู เพลิดเพลินไปกับสถานที่มากมายทั้งสะพานอะโตะบิคิ (Atobiki) ที่มีความสูง 60 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำคุโรนางิ (Kuronagi-Gawa) บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งคาเน็ซซึริ (Kanetsuri) และคินชูคัง (Kinshukan) โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที


12. ทะเลสาบมิคุริงะ (Mikurigaike)

          ทะเลสาบที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,405 เมตร เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาไฟทาเตยามะ น้ำใสในทะเลสาบสีฟ้าครามจะส่องสะท้อนยอดเขาทาเตยามะอย่างงดงามในเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี มีเนื้อที่ประมาณ 30,000 ตารางเมตร ลึก 15 เมตร และยาวรอบทะเลสาบ 631 เมตร ต้นสนที่อยู่รายล้อมรอบจะเปลี่ยนสีสันสวยงาม สร้างทัศนียภาพตระการตาให้กับทะเลสาบแห่งนี้ เป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้คนมากมายให้มาเยือน


          จังหวัดโทยามะ...เป็นอีกหนึ่งที่สำหรับชาวไทยที่ซัมเมอร์นี้ควรหลบร้อนไปสัมผัส เพราะหิมะกำลังละลาย และใบไม้ดอกไม้กำลังผลิบาน จึงเป็นช่วงฤดูกาลที่เหมาะที่สุดในการท่องเที่ยวโทยามะ ทิ้งชีวิตที่ศิวิไลซ์ในเมืองแห่งความวุ่นวาย แล้วไปเสพกลิ่นอายของธรรมชาติและวัฒนธรรมกันเถอะ


หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
foreign.info-toyama.com, jnto.go.jp, marumura.com, tiewyeepoon.com, alpen-route.com