15 โฮมสเตย์บรรยากาศดี สัมผัสวิถีชีวิตที่แท้จริงของผู้คนในชุมชน

โฮมสเตย์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ปัจจุบันการท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่สามารถเข้าถึงธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนได้อย่างแท้จริง บวกกับอัธยาศัยไมตรีและความเป็นมิตรที่ดี พร้อมกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองจากเจ้าบ้าน จึงทำให้การท่องเที่ยวสไตล์นี้ยิ่งมีเสน่ห์น่าไปสัมผัส วันนี้กระปุกดอทคอมเลยถือโอกาสนำโฮมสเตย์บรรยากาศดี ๆ มาฝากพี่น้องชาวแบ็คแพ็กเกอร์ผู้หลงใหลในบรรยากาศแบบบ้าน ๆ จะมีที่ไหนบ้าง แบกเป้เท่ ๆ ตามกันมาได้เลย

ภาคเหนือ

1. โฮมสเตย์บ้านเหล่าพัฒนา จังหวัดเชียงใหม่

โฮมสเตย์

โฮมสเตย์

          ตั้งอยู่ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ในหุบเขากระจายอยู่รอบป่าใหญ่พื้นที่ต้นน้ำลำธารในลุ่มน้ำปิงตอนบน บริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่แตง มีวิถีชีวิตเกี่ยวกับการทำเมี่ยง

          จุดเด่น : เป็นโฮมสเตย์ที่ได้รับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยประจำปี 2556 เป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีเกษตรผสมผสาน พร้อมตระการตากับจุดชมวิวม่อนเงาะที่มีความสูงชันสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้สวยงาม ตลอดจนศึกษาเส้นทางธรรมชาติ และได้ผจญภัยล่องแก่งในลำน้ำแม่แตงสบก๋ายที่มีความสนุกตื่นเต้นเร้าใจกว่าใคร นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านและวิถีการเกษตรภายในชุมชน โดยเฉพาะการเก็บเมี่ยงซึ่งเป็นอาชีพที่สืบทอดต่อกันมา และที่สำคัญนักท่องเที่ยวจะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น ได้รับการดูแลเอาใจใส่เสมือนเป็นคนในครอบครัว

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น เยี่ยมชมแปลงกาแฟและชิมกาแฟเมล็ดเดี่ยวสถานีวิจัยโครงการหลวงแม่หลอด, ท่องเที่ยวไปกับสายน้ำของน้ำตกหมอกฟ้า บริเวณอุทยานแห่งชาติดอยสุดเทพ-ปุยที่ 5, เดินศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนม้งบ้านม่อนเงาะ เรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการทำแคนม้งที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน พร้อมชมการเป่าแคน ชมแปลงซิมบิเดียม, ชมทัศนียภาพอันสวยงามของยอดดอยม่อนเงาะ ชมแสงสุดท้ายของวันกับพระอาทิตย์ตกที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,425 เมตร สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา

          ร่วมรับประทานอาหารเย็น พร้อมชมการแสดงวัฒนธรรมชุมชนคนเมือง และการแสดงของกลุ่มเยาวชน, ร่วมใส่บาตรทำบุญร่วมกับเจ้าของบ้าน, ร่วมทำอาหารและรับประทานอาหารเช้ากับเจ้าของบ้าน, ชมระบบการจัดการแปลงฟักทองญี่ปุ่นแบบเข้าแถวแห่งแรกของมูลนิธิโครงการหลวง, เยี่ยมชมแปลงชาพันธุ์ดีของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ อาทิ ชาพันธุ์หยวนจือ ชาพันธุ์เบอร์ 12 ซึ่งเป็นแปลงชาปลูกของเกษตรกรในพื้นที่โครงการหลวง โดยมีแปลงชาทั้งหมดประมาณ 40 ไร่ และกิจกรรมล่องแพโดยชุมชนสบก๋าย

          สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านพักพร้อมอุปกรณ์เครื่องนอน และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน, รถกระบะบริการนำเที่ยว (ค่าบริการรถนำเที่ยวขึ้นอยู่กับเส้นทาง)

          อัตราค่าบริการ : พัก 1 คืน 2 วัน ท่านละ 450 บาท (รวมอาหาร 3 มื้อ), พัก 2 คืน 3 วัน ท่านละ 800 บาท (รวมอาหาร 8 มื้อ), พักต่อจากนี้ 1 วัน อาหาร 3 มื้อ 350 บาท และบริการมัคคุเทศก์นำเที่ยว 200 บาท/วัน ส่วนค่าการแสดง ได้แก่ บายศรีสู่ขวัญ 1,000 บาท/คณะ, ระบำใบเมี่ยง 1,000 บาท/คณะ, ฟ้อนดาบ/ตีกลองสะบัดชัย 1,000 บาท/คณะ และดนตรีพื้นเมือง 1,000 บาท/คณะ

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติสวนตาด, สวนเกษตรผสมผสาน, จุดสาธิตการผลิตเมี่ยงแบบดั้งเดิม, วัดบ้านเหล่า, เจดีย์ศรีวรวิวัฒน์ และสวนส้ม

          การเดินทาง : ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) ก่อนถึงตลาดแม่มาลัยประมาณ 2-3 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายถนนเลี่ยงเมืองตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1095 แม่มาลัย-ปายประมาณ 12 กิโลเมตร จะพบวัดสบเปิงแล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนหลวงชนบททางแยกขวามือเส้นทางสบเปิง-เมืองก๋าย-บ้านเหล่าระยะทาง 7 กิโลเมตร

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โฮมสเตย์บ้านเหล่าพัฒนา ติดต่อคุณสมศรี สุทาชัย โทรศัพท์ 0 8619 3784, คุณพิจิตตา เพชรพลอยศรี โทรศัพท์ 08 7183 6415 หรือ โครงการหลวงม่อนเงาะ โทรศัพท์ 0 5331 8308

          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Home Stay Ban lao / โฮมสเตย์บ้านเหล่าพัฒนา, สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน), เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวโครงการหลวง และ มูลนิธิโครงการหลวง

2. โฮมสเตย์บ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่

โฮมสเตย์
          ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางหุบเขาและผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ชาวบ้านมีอาชีพปลูกเมี่ยงและทำสวนกาแฟ มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมความงามของป่าธรรมชาติอยู่เสมอ เป็นหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่แบบชนบทท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์

          จุดเด่น : เป็นหมู่บ้านที่ได้รับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย พร้อมมีกิจกรรมเดินป่าชมธรรมชาติ มีผลผลิตจากภูมิปัญญาพื้นบ้าน ตลอดจนมีน้ำผึ้งป่าจากสวนกาแฟรสชาติหวานปนขมอันเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านที่ไม่เหมือนใคร และการได้อยู่กับชาวบ้านใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติโดยปราศจากเทคโนโลยี ซึ่งเป็นจุดเด่นของโฮมสเตย์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น ท่องเที่ยวน้ำตกแม่กำปอง, เดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติสัมผัสความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมชมนกหลากหลายชนิด, เที่ยวดอยม่อนล้านชมวิวรอบทิศ, สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ศึกษาวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชุมชนบ้านแม่กำปอง พร้อมชมการผลิตกาแฟ การเก็บชา และชมการผลิตหมอนจากชา และทำกิจกรรมโรยตัวและโหนลวดสลิงระหว่างต้นไม้ใหญ่

          สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านพักพร้อมอุปกรณ์เครื่องนอน, ห้องน้ำสะอาด ชักโครก เครื่องทำน้ำอุ่น และไฟฟ้า

          อัตราค่าบริการ : พัก 1 คืน 2 วัน อาหาร 3 มื้อ 550 บาท/คน, พัก 2 คืน 3 วัน อาหาร 6 มื้อ 900 บาท/คน, พักต่อจากนี้ 1 วัน 1 คืน อาหาร 3 มื้อ 350 บาท, บริการมัคคุเทศก์นำเที่ยว 200 บาท/วัน, กิจกรรมบายศรีสู่ขวัญชุดใหญ่ 1,500 บาท ชุดเล็ก 1,000 บาท และกิจกรรมการแสดงอื่น ๆ 1,000 บาท

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ หมู่บ้านทำกระดาษสาต้นเปา, ศูนย์หัตถกรรมร่มบ่อสร้าง, ถ้ำเมืองออน, น้ำพุร้อนสันกำแพง, ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก และอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง

          การเดินทาง : ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่โดยผ่านอำเภอสันกำแพง ระยะทาง 50 กิโลเมตร และห่างจากตัวอำเภอแม่ออน 20 กิโลเมตร และอีกเส้นทางหนึ่งผ่านอำเภอดอยสะเก็ด เลี้ยงขวาตรงสามแยกโป่งดิน ระยะทาง 51 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นถนนลาดยางและเทคอนกรีต ดังนั้นสามารถเดินทางไปมาได้สะดวกสบายทุกฤดู และสามารถใช้รถได้ทุกชนิด ทั้งนี้บ้านแม่กำปองไม่มีรถสาธารณะผ่าน หากไม่มีรถส่วนตัวอาจเช่ารถจากในตัวเมืองเชียงใหม่หรือเหมารถสองแถวท้องถิ่นได้

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โฮมสเตย์บ้านแม่กำปอง ติดต่อนายพรมมินทร์ พวงมาลา โทรศัพท์ 08 5675 4598, 08 9559 4797

          เว็บไซต์ : บ้านแม่กำปอง และ เฟซบุ๊ก หมู่บ้านโฮมสเตย์แม่กำปอง

3. ขุนช่างเคี่ยนโฮมสเตย์ จังหวัดเชียงใหม่

          ตั้งอยู่ในหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน หมู่ 4 ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านของชนเผ่าม้งที่อยู่ท่ามกลางป่าธรรมชาติบนความสูง 1,400 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีความเงียบสงบ ในช่วงค่ำคืนจะสามารถมองเห็นวิวและแสงสีเมืองเชียงใหม่ได้อย่างสวยงาม

          จุดเด่น : จุดเด่นอยู่ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติที่แท้จริง อยู่แบบสมถะ ไม่มีการใช้พลังงาน เป็นการเอาใจผู้ที่รักธรรมชาติอย่างแท้จริง และที่สำคัญเป็นแหล่งชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่สวยงามและสะดวกที่สุดด้วย

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น ชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีให้ชมเพียงปีละครั้งในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน, ชมสวนกาแฟอาราบิก้า และชมสวนบ๊วย

          สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านพักพร้อมชุดเครื่องนอนและห้องน้ำสะอาด

          อัตราค่าบริการ : สามารถสอบถามทางโฮมสเตย์ได้โดยตรง

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ ดอยปุย, วัดพระธาตุดอยสุเทพ, พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์, ดอยผากลอง และดอยแม่สาใหม่

          การเดินทาง : ใช้เส้นทางเดียวกับการไปดอยสุเทพและหมู่บ้านแม้วดอยปุย ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 8 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 32 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายเชียงใหม่-พระธาตุดอยสุเทพ ลักษณะถนนจากเมืองเชียงใหม่ ถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ลาดยางเป็นระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร จากนั้นเป็นถนนโรยกรวดขนาดเล็ก จากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ไปถึงยอดดอยปุยอีกประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นถนนดินที่มีผิวทางค่อนข้างชำรุด จากยอดดอยปุยไปทางหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยนอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ทั้งนี้หากไม่ชำนาญเส้นทางแนะนำให้จอดรถไว้ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพแล้วเหมารถสองแถวไปจะสะดวกกว่า

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ขุนช่างเคี่ยนโฮมสเตย์ โทรศัพท์ 08 3322 9732

4. ไอ้ตัวเล็กโฮมสเตย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

          ตั้งอยู่เลขที่ 20/27 หมู่ 4 ริมถนนทางหลวงหมายเลข 108 ก่อนถึงแม่สะเรียงประมาณ 19 กิโลเมตร ในระดับความสูงเกือบ 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นที่พักตัวแทนของตำบลแม่เหาะ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม รายล้อมด้วยสวนผัก สวนผลไม้ และสวนดอกไม้ ซึ่งผักที่ปลูกเองเป็นผักปลอดสารพิษนำมาใช้ในการประกอบอาหาร รวมถึงทำให้นักท่องเที่ยวได้รับประทาน นอกจากนี้ยังมีสวนกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่ปลูกและผลิตเอง อีกทั้งยังมีบริการอาหารหลากหลายชนิด อาทิ อาหารใต้ อาหารพื้นบ้าน ฯลฯ

          จุดเด่น : เปิดให้บริการบ้านพักแก่นักท่องเที่ยวทั้งหมด 4 หลัง มีทั้งบ้านแบบเอเฟรมและบ้านกะเหรี่ยง เป็นบ้านไม้ไผ่มีเตาผิงกลางบ้าน เป็นรูปแบบที่เผ่าปกาเกอะญอใช้ชีวิตอยู่จริง ๆ ไม่มีทีวีให้ดู เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้อยู่กับธรรมชาติอย่างเต็มที่

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ คือ การชมดอกบัวตองแม่เหาะที่บานสะพรั่งงดงามทั่วทั้งดอยในช่วงเดือนพฤศจิกายน

          สิ่งอำนวยความสะดวก : ที่จอดรถ, Free Wi-Fi, เครื่องทำน้ำอุ่น, ชุดเครื่องนอนและผ้านวม, ลานกางเต็นท์และมีเต็นท์ให้เช่า

          อัตราค่าบริการ : พักคืนละ 400-500 บาท (พร้อมอาหาร)

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ น้ำตกแม่สวรรค์น้อย, น้ำพุร้อนแม่อุมลอง, แม่น้ำสาละวิน, ถ้ำแก้วโกมล, สวนสนบ่อแก้ว และน้ำตกแม่สุรินทร์

          การเดินทาง : รถยนต์ส่วนตัวใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 108 ตั้งแต่หลักกิโลเมตรที่ 84-86 หากเดินทางมาจากเชียงใหม่ จะถึงก่อนเข้าอำเภอแม่สะเรียงประมาณ 19 กิโลเมตร ส่วนรถประจำทางต้องขึ้นสายเชียงใหม่-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ไอ้ตัวเล็กโฮมสเตย์ โทรศัพท์ 08 2387 3199, 08 0033 3538

5. โฮมสเตย์บ้านโป่งน้อยใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

โฮมสเตย์

          ตั้งอยู่ที่หมู่ 14 ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,280 กิโลเมตร มีลักษณะภูมิอากาศอยู่ในเขตโซนร้อน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 19.50 องศา เป็นหมู่บ้านที่มีประชากรกลุ่มน้อยอยู่อาศัยร่วมกัน หลากหลายชนเผ่า ทั้งกะเหรี่ยง ม้ง (แม้ว) ประกอบกับมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้ คุณธนากรณ์ นิเปยนิ (ผู้ใหญ่บ้านโป่งน้อยใหม่) พร้อมด้วยการสนับสนุนของโครงการเตรียมความพร้อมเพื่อการท่องเที่ยวของสถาบันวิจัยและพัฒนาบนที่สูง (องค์การมหาชน) จึงได้ริเริ่มทำการดำเนินการกลุ่มโฮมสเตย์และกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ ขึ้น

          จุดเด่น : เป็นหมู่บ้านที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด มีอากาศที่บริสุทธิ์ และมีน้ำตกธรรมชาติในชุมชน พร้อมได้สัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของชาวบ้าน

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น ชมไร่ผลไม้เมืองหนาว ทั้งลูกพลับ สตรอว์เบอร์รี เสาวรส, ชมแปลงสาธิตผลไม้และไม้ดอกเมืองหนาวอย่างดอกเบญจมาศ, ชมประเพณีและวัฒนธรรมพื้นบ้านวิถีชีวิตชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอ, เดินป่าสัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ เรียนรู้พรรณไม้และสมุนไพร, เที่ยวน้ำตกเต๊ะเละโพและมอข่อ น้ำตกเล็กท่ามกลางป่าและบ้านพักชาวเขา และชื่นชมผาแง่ม หน้าผาสูงที่มีดงกุหลาบพันปี ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
         
          สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านพักหลังใหญ่ รองรับได้ 12 ท่าน, บ้านพักริมธารน้ำตก รองรับได้ 6 ท่าน, บ้านพักแบบปกาเกอะญอ รองรับได้ 4 ท่าน พร้อมมีจุดจัดกิจกรรมรอบกองไฟ

          อัตราค่าบริการ : ค่าที่พักท่านละ 150 บาท/คืน, ค่าอาหาร 1 มื้อ และอาหารว่าง 60 บาท/คน และค่าไกด์นำเที่ยว 200 บาท (ถ้าใช้รถแขกจ่ายค่าน้ำมัน)

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง แปลงสาธิตผลผลิตทางการเกษตร, เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยผาแง่ม, แปลงผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน, น้ำตกเตะเละโพะ น้ำตกผาดำ และศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ขุนวาง ชมซากุระดอยและดอกไม้เมืองหนาว

          การเดินทาง : เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 108 สายเชียงใหม่-ฮอด ผ่านอำเภอสันป่าตอง ตรงไปเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 บ้านขุนกลาง ก่อนถึง กิโลเมตรที่ 31 ให้เลี้ยวขวาผ่านทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติอินทนนท์ ตรงไปประมาณ 15 กิโลเมตร ถึงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง รวมระยะทางจากตัวเมืองถึงศูนย์ฯ ประมาณ 106 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

          เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 108 สายเชียงใหม่-ฮอด ผ่านอำเภอหางดง เลี้ยวขวาสามแยกไปเทศบาลบ้านกาด อำเภอสันป่าตอง ทางหลวงหมายเลข 1013 ตรงไปประมาณ 47 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่บ้านห้วยเกี๋ยง ตรงไปอีกราว 16 กิโลเมตร รวมระยะทางจากตัวเมืองถึงศูนย์ฯ 86 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : โฮมสเตย์บ้านโป่งน้อยใหม่ โทรศัพท์ 08 3574 5006, 08 9262 7439 และคุณธนากรณ์ นิเปยนิ โทรศัพท์ 08 1034 7745

          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก บ้านโป่งน้อยใหม่ แม่วาง เชียงใหม่, เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวโครงการหลวง

6. กลุ่มท่องเที่ยวโฮมสเตย์คนเลี้ยงช้างบ้านห้วยผักกูด จังหวัดเชียงใหม่

โฮมสเตย์
          ตั้งอยู่เลขที่ 51 หมู่ที่ 12 ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยง เดิมชื่อหมู่บ้าน "ห้วยพระกู" เวลาคนต่างถิ่นถามชาวบ้านพูดไม่ชัดทำให้ชื่อหมู่บ้านเพี้ยนเป็น "ห้วยผักกูด" จนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนชาวบ้านมีการนับถือผี และต่อมามีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นการนับถือศาสนาพุทธ มีการดำรงชีวิตแบบวิถีกะเหรี่ยงชาวพุทธ โดยมี นายมานิต เจริญบรรพต (ผู้ใหญ่บ้าน) เป็นผู้ริเริ่มการทำการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ขึ้นมาเพื่อหารายได้เข้าสู่ชุมชน

          จุดเด่น : เป็นโฮมสเตย์ที่รับรองโดยกรมการท่องเที่ยว มีธรรมชาติที่สวยงาม นักท่องเที่ยวจะได้ทำกิจกรรมมากมาย พร้อมกับได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยง) และสัมผัสวิถีการเลี้ยงช้างในป่าแบบดั้งเดิม

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น เดินป่ากับช้าง ดูวิถีชีวิตของช้างกับป่าและการดำรงชีวิตของสัตว์, ศึกษาวิถีชีวิตชนเผ่ากะเหรี่ยงชาวพุทธ อาทิ การทำพิธีกรรมทางศาสนา ประเพณีมัดมือช้างและประเพณีมัดมือกะเหรี่ยง, เดินศึกษาธรรมชาติตามเส้นทางท่องเที่ยวของชุมชน และศึกษาดูความสวยงามของถ้ำในแต่ละพื้นที่

          สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านพักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และบริการรถนำเที่ยวพาไปดูช้าง

          อัตราค่าบริการ : ค่าที่พัก ท่านละ 300 บาท/คืน (รวมค่าอาหาร 3 มื้อ), มัคคุเทศก์นำเที่ยว ท่านละ 300 บาท/วัน, การแสดงกะเหรี่ยงกระทบไม้ 16-20 คน ชุดละ 1,000 บาท/ครึ่งชั่วโมง และการแสดงวิถีชีวิตชนเผ่าปกาเกอะญอ 250 บาท (15 นาที)

          การเดินทาง : จากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108  ผ่านอำเภอหางดง และอำเภอสันป่าตองไปทางอำเภอจอมทอง จากนั้นให้เปลี่ยนไปใช้เส้นทางหมายเลข 1009 ซึ่งเป็นทางขึ้นดอยอินทนนท์ จนกระทั่งถึงหลักกิโลเมตรที่  38 ให้เลี้ยวซ้ายเปลี่ยนไปใช้เส้นทางหมายเลข 1192 ที่มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวอำเภอแม่แจ่ม จากตัวอำเภอแม่แจ่มใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1088  ผ่านบ้านแม่นาจรจากนั้นให้แยกเข้าเส้นทางหมายเลข 1263 ผ่านหน่วยป้องกันรักษาป่า ชม. 16 (แม่นาฮ่อง) ผ่านโรงเรียนบ้านห้วยผักกูด หลังจากนั้นสังเกตป้ายบอกทางไปโฮมสเตย์

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณดวงจันทร์ ธรรมชาติมณี โทรศัพท์ 08 8431 8794, คุณสินชาย เจริญบรรพต โทรศัพท์ 08 3318 0490, 08 7301 9519

          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Homestay Huay Pakkoot โฮมสเตย์บ้านห้วยผักกูด และ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

7. โฮมเสตย์บ้านเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน

          ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาไปประมาณ 15 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 224 นครราชสีมา-โชคชัย เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีชื่อเสียงไปไกลถึงต่างแดน ซึ่งจุดประสงค์ของการจัดตั้งโฮมสเตย์นี้ขึ้นมาก็เพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเครื่องปั้นดินเผาได้เข้ามาพักผ่อน พร้อมกับร่วมทำกิจกรรมปั้นดินเผา และมาสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนที่มีความน่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

          จุดเด่น : เป็นแหล่งชุมชนที่ผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่มีคุณภาพโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยดินที่ใช้ปั้นจะมีสีแดง ทนทานไม่แตกหักง่าย จึงทำให้เป็นจุดเด่นและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเยี่ยมชม

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น ชมสาธิตการปั้นเครื่องปั้นดินเผาและฝึกปั้นเครื่องปั้นดินเผา, ชมการรำพื้นบ้าน ร้องเพลงต่อแหล่ และฟังการเล่าประวัติความเป็นมาของบ้านด่านเกวียน, ขี่จักรยานชมทัศนียภาพของหมู่บ้าน, ชมเตาเผาโบราณ แหล่งดิน และชมกังหันวิดน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน และเข้าชมพิพิธภัณฑ์ด่านเกวียนและซื้อของฝาก

          สิ่งอำนวยความสะดวก : บริการบ้านพักแบบโฮมสเตย์จำนวน 15 หลัง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 100 คน

          อัตราค่าบริการ : ค่าบริการบ้านพักโฮมสเตย์ 200 บาท/คน/คืน, ค่าอาหาร 75 บาท/คน/คืน และค่าชมกิจกรรม 100 บาท/คน

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ กังหันวิดน้ำ ระยะห่างจากโฮมสเตย์ประมาณ 15 กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลา 20 นาที, ชมเตาโบราณ ร้อยปี ระยะห่างจากโฮมสเตย์ประมาณ 4 กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลา 30 นาที, ชมวิถีชีวิตชาวบ้านปั้นดิน เดินทางโดยเดินเท้าใช้เวลา 5 นาที, ศูนย์เรียนรู้เครื่องปั้นดินเผา เดินทางโดยเดินเท้าใช้เวลา 10 นาที และพิพิธภัณฑ์เกวียน ระยะห่างจากโฮมสเตย์ประมาณ 1 กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลา 10 นาที
 
          การเดินทาง : อยู่ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 15 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 224 นครราชสีมา-โชคชัย

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : กลุ่มด่านเกวียนโฮมสเตย์ โทรศัพท์ 08 7877 7544, 08 1265 4078 หรือ เทศบาลตำบลด่านเกวียน โทรศัพท์ 0 4433 8105

          เว็บไซต์ : เทศบาลตำบลด่านเกวียน

8. วังน้ำมอกโฮมสเตย์ จังหวัดหนองคาย

โฮมสเตย์
          ตั้งอยู่ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย  เมื่อกระแสการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โหมแรง "คุณติณณะภพ สุพันธะ" แกนนำชาวบ้านในการจัดตั้งป่าชุมชนภูผีปอบ จึงแปลงโฉมบ้านวังน้ำมอกให้เป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ โดยใช้ป่าชุมชนมาเป็นจุดขายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีการรวมกลุ่มกันทำสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน และร่วมกันสืบสานฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

          จุดเด่น : ชุมชนบ้านวังน้ำมอกมีศักยภาพและเอกลักลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเรียนรู้ ความสัมพันธ์ของทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม และผู้คนในชุมชนให้เกิดคุณค่าของการดำเนินวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่นนำไปสู่แนวความคิด "ชุมชนพอเพียง เผื่อแผ่ พอดี ภูมิใจในสิ่งที่ตนมี" โดยปี พ.ศ. 2543 กรมป่าไม้จึงได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ "ป่าพื้นบ้าน อาหารชุมชนดีเด่น" อีกทั้งยังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยครั้งที่ 7 ด้วยผลงาน "ป่าพื้นบ้าน อาหารชุมชนดีเด่น พร้อมกับคว้ารางวัล "องค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวดีเด่น" ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยครั้งที่ 7 ด้วยผลงาน "ป่าพื้นบ้าน อาหารชุมชน" อย่างน่าภาคภูมิใจ

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น กิจกรรมท่องเที่ยวเรียนรู้ "กินข้าวเซาเฮือน" บ้านวังน้ำมอก, เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ป่าชุมชน ภูผีปอบ, เข้าร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ-ซุมข้าวพาแลง, ศึกษาเรียนรู้หัตถกรรมพื้นบ้านและคลังสมองภูมิปัญญาท้องถิ่น, ศึกษาดูงานการดำเนินงานโครงการป่าพื้นบ้าน อาหารชุมชน บ้านวังน้ำมอก และสัมผัสวิถีชีวิตชนบทแบบ Home Stay บ้านวังน้ำมอก
         
          สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านพักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

          อัตราค่าบริการ : ค่าใช้จ่าย 990 บาท/ท่าน รวมที่พักแบบ Home Stay พร้อมอาหาร 3 มื้อ และกิจกรรมภายในชุมชน

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง : วัดหินหมากเป้ง สถานปฏิบัติธรรมของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เกจิชื่อดังรูปหนึ่งของภาคอีสาน, ตึกเก่าริมน้ำโขง นักท่องเที่ยวจะได้เห็นอดีตของเมืองศรีเชียงใหม่ มีตึกเก่าสวย ๆ หลายหลัง และวัดพระธาตุพังพวน มีองค์พระธาตุที่มีอายุเก่าแก่ร่วมยุคสมัยกับพระธาตุนครพนม

          การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 211 หนองคาย-เชียงคาน ผ่านอำเภอท่าบ่อ และศรีเชียงใหม่ เลี้ยวซ้ายตรงทางเข้าบ้านลุมพินี และน้ำตกวังน้ำมอก ระหว่างกิโลเมตรที่ 63-64 ก่อนถึงวัดหินหมากเป้ง 200 เมตร จากปากทางเข้าไปอีก 6 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตรงสถานีอนามัยห้วยไฮ วิ่งไปอีก 3 กิโลเมตร ผ่านศูนย์พัฒนาลุ่มน้ำทอน ผ่านโรงเรียนบ้านวังน้ำมอก ข้ามสะพาน ด้านซ้ายมือก็ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประสานงานท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ป่าพื้นบ้าน อาหารชุมชน บ้านวังน้ำมอก โทรศัพท์ 08 6232 5300, 08 3357 7035

          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก วังน้ำมอก wangnammok

          รีวิว : วังน้ำมอกโฮมสเตย์
         

ภาคกลาง

9. โฮมสเตย์ไทยทรงดำบ้านหัวเขาจีน จังหวัดราชบุรี

          ตั้งอยู่หมู่ 1 ตำบลห้วยยางโทน จังหวัดราชบุรี เป็นพื้นที่ของชุมชนไทยทรงดำที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยกว่า 300 ปีมาแล้ว มีลักษณะทางกายภาพเป็นสภาพแวดล้อมที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เป็นชนบท มีภูเขาสูงตระหง่านตั้งอยู่โดยรอบพื้นที่ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ให้คนทั่วไปที่สนใจวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีของชาวไทยทรงดำ สามารถเข้ามาศึกษาดูงานได้ พร้อมกับมีกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยวมากมาย ทั้งด้านที่พัก ด้านอาหารประจำถิ่น ด้านการแสดง และการเรียนรู้การทอผ้าบนฐานเศรษฐกิจพอเพียง

          จุดเด่น : ชุมชนไทยทรงดำใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่อยู่ในชนบทอันแสนเรียบง่าย กินอยู่อย่างพอเพียง และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในชุมชนให้เกิดประโยชน์แก่การดำเนินชีวิตของพวกเขา นักท่องเที่ยวจะได้เข้ามาเยี่ยมชมถึงชีวิตความเป็นอยู่ และได้สัมผัสถึงสิ่งแวดล้อมโดยรอบที่อยู่ท่ามกลางชุมชน พร้อมกับได้รับรอยยิ้มของชนบทบนวิถีแห่งชาติพันธุ์ไทยทรงดำ ทำให้เข้าถึงบรรยากาศและได้รับความรู้สึกที่แตกต่างเสมือนหลงเข้าไปอยู่ในอารยธรรมที่เป็นไทยทรงดำอย่างแท้จริง

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น ชมการแสดงอิ้นกลอน ฟ้อนแกรน ซึ่งเป็นการรำท่วงท่าทำนองของชาวไทยทรงดำที่สื่อถึงการสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมที่อ่อนช้อย, กิจกรรมพิธีเรียกขวัญ เป็นพิธีกรรมที่ชาวไทยทรงไว้ใช้เรียกขวัญผู้มาเยือน เพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัวและให้พบแต่สิ่งดีในชีวิต, กิจกรรมการเรียนรู้กับคุ้ม 5 ไห่ ไทยทรงดำ นักท่องเที่ยวจะได้เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตอย่างแท้จริงของชาวไทยทรงดำ, กิจกรรมการเรียนรู้อาชีพเสริมกลุ่มสตรีทอผ้าไทยทรงดำบ้านหัวเขาจีน และกิจกรรมด้านอาหาร โดยจะเปิดครัวไทยทรงดำให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชิมอาหารที่ทรงคุณค่าและมีประโยชน์

          สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านพักสไตล์ไทยทรงดำพร้อมชุดเครื่องนอน และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน

          อัตราค่าบริการ : ค่าที่พัก (พักในบ้านโฮมสเตย์ 1 คืน)+ค่าอาหารเย็นและอาหารเช้า 2 มื้อ (ทานร่วมกับเจ้าของบ้าน) รวมค่าใช้จ่าย 250 บาท/ท่าน

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น วัดคีรีวงก์ ห่างจากหมู่บ้านหัวเขาจีน 1 กิโลเมตรเท่านั้น, น้ำพุร้อนโป่งกระทิง (ห่างจากหมู่บ้านหัวเขาจีน 30 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น), สุนทรีแลนด์ (เมืองตุ๊กตา) (ห่างจากหมู่บ้านหัวเขาจีน 20 กว่ากิโลเมตร) และ The Scenery Vintage Farm (ห่างจากหมู่บ้านหัวเขาจีนเพียง 30 กว่ากิโลเมตร)

          การเดินทาง : ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 100 กิโลเมตร สามารถเดินทางไป 2 เส้นทาง คือ ทางถนนพระราม 2 เลี้ยวขวาที่แยกวังมะนาว เข้าสู่ถนนเพชรเกษมประมาณ 500 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสาย รบ. 1028 ประมาณ 9 กิโลเมตร เส้นทางที่ 2 ถนนเพชรเกษม เลี้ยวขวาที่แยกปากท่อ เข้าสู่ทางหลวงสาย 3206 ประมาณ 6 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายที่แยกไพรสะเดาเข้าสู่ถนน รบ. 1028 ประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาที่สามแยกบ้านมณีลอย วิ่งต่อไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โฮมสเตย์ไทยทรงดำบ้านหัวเขาจีน ติดต่อคุณอ้อย โทรศัพท์ 08 6018 9318

          เว็บไซต์ : ไทยทรงดำบ้านหัวเขาจีน, เฟซบุ๊ก ชุมชนไทยทรงดำ บ้านหัวเขาจีน ราชบุรี กรณีศึกษา

10. ภูษิตโฮมสเตย์ จังหวัดสมุทรสงคราม


          ตั้งอยู่ตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่พักพร้อมกับการนำเที่ยวครบวงจรของตำบลคลองโคน ซึ่งอยู่ติดกับปากอ่าวแม่กลองและปากอ่าวเพชรบุรี รอบ ๆ แวดล้อมไปด้วยป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย พร้อมให้บริการกระเตงที่พัก (บ้านพักในน้ำ) ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของปากอ่าว มีกุ้ง หอย ปลา ปูตัวโต ๆ สด ๆ เนื้อหวาน ๆ ให้ได้ลิ้มลอง อีกทั้งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชาวประมงพื้นบ้านอย่างใกล้ชิด ทั้งการเลี้ยงหอย การจับปลา การจับกุ้ง เคย (ใช้ทำกะปิคลองโคน หนึ่งในสุดยอดสินค้า OTOP ของที่นี่)

          จุดเด่น : มาที่นี่กล้าพูดได้ว่าไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้ปากอ่าวที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำชายฝั่งมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสและเข้าถึงกลิ่นอายธรรมชาติที่บริสุทธิ์กับการใช้ชีวิตที่แสนเรียบง่าย พร้อมกับได้สนุกและประทับใจไปกับกิจกรรมมากมาย ทั้งการหาปลา หาหอยมาเป็นอาหารมื้ออร่อยด้วยตัวของท่านเองได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเสียเงิน และการต้อนรับที่เป็นกันเอง สบาย ๆ ในสไตล์คนชนบท ไม่ต้องมีพิธีรีตองที่วุ่นวาย

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น ร่วมปลูกป่าชายเลนเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน, การนั่งเรือชมการทำประมงชายฝั่ง, สนุกกับการลงไปถีบกระดานเลนหาหอยแครง ให้อาหารลิงแสม และตักปลากระบอกตอนกลางคืนหรือจะตกปลาบนกระเตงที่พัก

          สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านพักพร้อมชุดเครื่องนอนและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน

          อัตราค่าบริการ : เที่ยว 1 รอบ (6 คนขึ้นไป) คนละ 950 บาท พร้อมอาหาร 3 มื้อ มีเรือพาเที่ยวโคลนปลูกป่า และเที่ยว 2 รอบ (6 คนขึ้นไป) คนละ 1,200 บาท พร้อมอาหาร 3 มื้อ มีเรือพาเที่ยวโคลนปลูกป่า

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น ดอนหอยหลอดหรือตลาดน้ำอัมพวา

          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรสงคราม ข้ามสะพานพระราม 2 ตรงไปเรื่อย ๆ สังเกตปั๊ม ปตท. ให้เลี้ยวซ้ายใช้เส้นทางคู่ขนานประมาณ 100 เมตรเลี้ยวซ้าย ตรงไปประมาณ 300 เมตร เลี้ยวซ้ายเลียบกำแพงวัด ตรงไปเรื่อย ๆ จะผ่าน อบต. คลองโคน จนถึงทางแยกให้เลี้ยวขวา (สังเกตป้ายไปคลองโคนรีสอร์ท) ผ่านวัดธรรมประสิทธิ์ เลยวัดไปจะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้ายข้ามสะพาน ตรงไปจนถึงทางแยกเลี้ยวขวาตรงไปอีกประมาณ 500 เมตรก็ ถึงที่จอดรถ จากนั้นลงเรือใช้เวลาประมาณ 5 นาที จะถึงภูษิตโฮมสเตย์

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ภูษิตโฮมสเตย์ โทรศัพท์ 08 0443 4866, 08 9745 6238, 0 3478 9236

          เว็บไซต์ : ภูษิตโฮมสเตย์

11. โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น

          ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีต้นจั่นขึ้นอยู่มากมาย เป็นชุมชมดั้งเดิมอพยพมาจากเมืองเหนือและเมืองลับแล ภาษาที่ใช้เป็นภาษาเหนือ ประชากรมีอยู่ประมาณ 270 ครัวเรือน ประกอบอาชีพทำนา ทำสวน ผลไม้ ปลูกกล้วย ลางสาด ทุเรียนตามฤดูกาล อาชีพเสริม คือ อาชีพทอผ้า จักสาน ทำหัตถกรรมตอไม้ ภายในชุมชนแห่งนี้อยู่กันแบบพี่แบบน้อง มีความเอื้ออาทรช่วยเหลือเกื้อกูลกัน นับถือศาสนาพุทธ มีความเชื่อเรื่องผีและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ที่บรรพบุรุษได้ก่อไว้

          จุดเด่น : โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่นอาจจะไม่หรูหราเหมือนโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่มีจุดเด่นตรงที่นักท่องเที่ยวที่มาส่วนใหญ่จะพึงพอใจกับสถานที่และการต้อนรับอย่างเป็นกันเองของชาวบ้าน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาจะมาเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ มาเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณี ไม่ได้มาสบาย จึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความหรูหราแต่เป็นกันเองและใกล้ชิดธรรมชาติ

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น ร่วมตักบาตรหน้าบ้านโฮมสเตย์และรับประทานอาหารร่วมกันกับเจ้าของบ้าน, ชมวิถีชีวิตในหมู่บ้าน, เรียนรู้การทำผ้าหมักโคลน, ชมผลิตภัณฑ์จากผ้าหมักโคลน, ชมการทำตุ๊กตาบาโหนโดย คุณตาวงษ์ ผู้ค้นคิดริเริ่ม, ชมการทำอาหารถิ่น "ข้าวเปิ๊บ" หรือ "ก๋วยเตี๋ยวพระร่วง" อันเลื่องชื่อ และชมสวนผลไม้ตามฤดูกาลที่หลากหลาย

          สิ่งอำนวยความสะดวก : ให้บริการบ้านพักแบบโฮมสเตย์จำนวน 12 หลัง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณไม่เกิน 70 คน

          อัตราค่าบริการ : ราคาเหมารวมการเข้าพักโฮมสเตย์ เช่น ที่พัก อาหาร (ต่อมื้อเช้า-เย็น) และการนำชมในหมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 600 บาท/คน ถ้ามาเป็นหมู่คณะตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป จะมีการแสดงตอนค่ำ โดยชำระเงินล่วงหน้าในอัตรา 50 เปอร์เซ็นต์ (ชาวไทยและชาวต่างชาติคิดราคาเดียวกัน)

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช, อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย และห้วยเดือนงงหรือห้วยงง เป็นสวนผลไม้ออกตามฤดูกาล อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร

          การเดินทาง : จากที่ว่าการอำเภอศรีสัชนาลัย ตามทางหลวงหมายเลข 102 สายอุตรดิตถ์-ศรีสัชนาลัยไปทางทิศตะวันออก (ไปอุตรดิตถ์) ระยะทาง 9 กิโลเมตร แยกเข้าตัวตำบลบ้านตึกถนนสายแม่ตะเพียนทอง-ห้วยตม ระยะทาง 11 กิโลเมตร จะถึงบ้านนาต้นจั่นโฮมสเตย์

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น ติดต่อป้าเสงี่ยม โทรศัพท์ 08 9885 1639, คุณสาวิณี โทรศัพท์ 08 5271 5909, คุณเกตุทิพย์ โทรศัพท์ 08 5905 0961

          เว็บไซต์ : โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น, เฟซบุ๊ก โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย และ ชุมชนคนเที่ยวเหนือ

ภาคตะวันออก

12. โฮมสเตย์กระชังลุงแกละ จังหวัดระยอง


          ตั้งอยู่ในเขตตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง บริเวณหลังเขื่อนกั้นคลื่น ตรงข้ามกับท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลบ้านเพ เดิมทีเป็นกระชังเลี้ยงปลากะพงขาว แต่ด้วยเพื่อน ๆ จากหลาย ๆ แห่งที่ได้มาพักแนะนำให้เปิดรับนักท่องเที่ยวที่นิยมการหวนกลับคืนสู่ธรรมชาติ จึงค่อย ๆ เริ่มต้นเปิดให้บริการที่พักแบบโฮมสเตย์ขึ้นมา 

          จุดเด่น : เป็นแพที่พักลอยน้ำบรรยากาศวิถีชาวเลที่ให้บริการแบบบ้าน ๆ เป็นกันเอง พร้อมความสะดวกสบาย จึงแตกต่างจากที่คุณเคยพักตามโรงแรมอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีการใช้พลังงานทดแทน อาทิ โซล่าเซลล์ (พลังงานแสงอาทิตย์) กังหันลม (พลังงานลม) ผลิตไฟฟ้ามาใช้ที่กระชัง เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีไฟฟ้าใช้ตลอดทั้งคืนด้วย นอกจากนี้ยังโดดเด่นไปด้วยอาหารทะเลที่เน้นความสดใหม่โดยเฉพาะปู ลุงแกละต้องไปตระเวนหาเองจากชาวประมงที่ทำประมงอวนปู คัดปูที่เนื้อแน่น กุ้ง หอย ปลาหมึก อาหารทะเลที่นี่จะเป็นอาหารทะเลสดใหม่อย่างดี

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น พายเรือคายัก ชมวิวทิวทัศน์ รวมทั้งศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงพื้นบ้านที่อาศัยตามแพในบริเวณใกล้เคียง, ดำน้ำดูปะการังและนั่งเรือรอบเกาะเสม็ด (กิจกรรมเสริม) นั่งเรือชมธรรมชาติโดยรอบของเกาะเสม็ด แวะเล่นน้ำที่หาดทรายแก้ว, ชมปลาเลี้ยงในกระชัง นั่งชมปลาหลากหลายที่กระชัง อาทิ ปลาเก๋า ปลามง ปลาช่อนทะเล เป็นต้น และตกหมึก ตกปลา บริเวณหน้ากระชัง

          สิ่งอำนวยความสะดวก : เรือเร็วรับ-ส่งระหว่างโฮมสเตย์กระชังลุงแกละกับท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลบ้านเพเท่านั้น, ไฟฟ้า 24 ชั่วโมง (กำลังไฟฟ้า 500 w) ไม่สามารถใช้ไดร์เป่าผม กระทะความร้อน เตาความร้อน, TV 1 เครื่อง (TV นี้ใช้ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์), คอมพิวเตอร์พีซีสำหรับร้องคาราโอเกะและเปิดเพลง MP3 (สามารถนำเพลงมาเปิดได้), เรือคายัก, พัดลม, น้ำดื่ม (น้ำเปล่า), น้ำแข็งหลอด และเตาปิ้งย่าง

          อัตราค่าบริการ

          **ลักษณะแพ็กเกจ (รับลูกค้า 1 วัน ต่อ 1 กรุ๊ปเท่านั้น) โดยแพ็กเกจที่พักจะมีสองแบบ ได้แก่

          แบบที่ 1 ที่พักไม่รวมอาหาร (ไม่ต่ำกว่า 6 คน ราคา 600 บาท/คน/คืน) ต่ำกว่า 10 คน ต้องเหมาจ่ายในราคา 10 คน หรือ เหมา 10,000 บาท/คืน ท่านต้องซื้ออาหารสดและเครื่องปรุงมาทำเอง เก็บเอง ล้างเอง (ของสดต้องซื้อจากตลาดสดบ้านเพ ทางกระชังไม่มีของสดขาย) ทางแพ/กระชัง มีเครื่องครัวให้บริการ

          แบบที่ 2 ที่พัก+อาหาร 2 มื้อ (ตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ราคา 1,500 บาท/คน/คืน ) อาหาร 2 มื้อ มื้อเย็น (วันที่มา) กับมื้อเช้า (วันรุ่งขึ้น) มื้อเย็นเป็นอาหารทะเล 5 อย่าง (กุ้ง, หอย, ปู, ปลา, หมึก) พร้อมผลไม้ตามฤดูกาลของชาวระยอง 1 ชุด และมื้อเช้ามีกาแฟ โอวัลติน ข้าวต้มทะเล

          **แพ็กเกจกิจกรรมเสริม (รับตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ต่ำกว่า 10 คน ต้องเหมาในราคา 10 คน)

          - ดำน้ำดูปะการัง (ราคา 600 บาท/คน )
          - นั่งเรือเร็ว นั่งเรือรอบเกาะเสม็ด, ดำน้ำดูปะการัง, เที่ยวเล่นน้ำทะเลที่หาดทรายแก้วบนเกาะเสม็ด (เวลาตั้งแต่ 13.30-16.30 น.)
          - มีอุปกรณ์ดำน้ำให้ อาทิ เสื้อชูชีพ หน้ากากดำน้ำ ท่อสน็อกเกิลเป็นต้น
          - เล่นน้ำทะเลที่หาดทรายแก้ว ณ เกาะเสม็ด (ราคา 350 บาท/คน)
          - นั่งเรือเร็ว เล่นน้ำทะเลที่หาดทรายแก้วบนเกาะเสม็ด (เวลาตั้งแต่ 13.30-16.30 น.)

          **นั่งเรือตกหมึก

          - โดยต้องนั่งเรือโดยสารหรือเรือไดหมึก จากท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลบ้านเพออกไปตกหมึก ณ บริเวณ เกาะเสม็ด ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00-24.00 น.

          - ตกหมึก+ครอบหมึก (ราคา 700 บาท/คน)

          หมายเหตุ : การตกหมึก คือ การให้เหยื่อปลอมให้การตกหมึก (ทางเรือมีอุปกรณ์ให้) ส่วนการครอบหมึก คือ การให้อวนขนาดใหญ่ ทำการครอบหมึก (ทางเรือมีอุปกรณ์ให้และดำเนินการครอบหมึกให้) โดยหมึกที่ตกและครอบได้สามารถย่างหมึกสด ๆ บนเรือได้ โดยทางเรือจะมีน้ำจิ้มไว้บริการ

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ เกาะเสม็ด

          การเดินทาง

          รถยนต์ส่วนตัว : ใช้เส้นทางถนนบางนา-ตราด ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนบูรพาวิถีหรือ มอเตอร์เวย์ แล้วเข้าถนนบายพาสชลบุรี (เลี่ยงเมืองชลบุรี) เชื่อมต่อบายพาสระยอง (เลี่ยงเมืองระยอง) มุ่งหน้าไปบ้านเพ ไปยังท่าเรือเทศบาลตำบลบ้านเพ

          รถทัวร์ : สาย เอกมัย-บ้านเพ มาลงที่ท่ารถบ้านเพ (ท่าปลายทาง) เดินต่อไปที่ท่าเรือเทศบาลตำบลบ้านเพประมาณไม่เกิน 100 เมตร

          รถตู้ : กรุงเทพฯ-ระยอง-บ้านเพ สามารถขึ้นรถตู้ได้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ลงท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลบ้านเพ) นั่งเรือประมาณ 400-500 เมตรจากฝั่ง หรือประมาณ 1-2 นาที

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โฮมสเตย์กระชังลุงแกละ ติดต่อคุณจตุรงค์ (เอ้) โทรศัพท์ 08 9934 9425

          เว็บไซต์ : โฮมสเตย์กระชังลุงแกละ และ เฟซบุ๊ก Floating Hut

ภาคใต้

13. รักษ์บางพัฒน์โฮมสเตย์ จังหวัดพังงา

          ตั้งอยู่ในหมู่บ้านบางพัฒน์ หมู่ที่ 8 ตำบลบางเตย อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เป็นโฮมสเตย์แบบพื้นบ้านของชาวประมง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสและเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมง ตลอดจนได้พักผ่อนในบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติทางทะเล พร้อมกับการต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรีที่ดีของเจ้าบ้าน อบอุ่นเสมือนอยู่บ้านของตัวเอง นอกจากนี้ยังได้ลิ้มรสอาหารทะเลรสชาติอร่อย และร่วมทำกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ให้สมบูรณ์

          จุดเด่น : นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสและเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมง พร้อมกับพักผ่อนในบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งลิ้มรสอาหารทะเลสด ๆ และร่วมทำกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ ตลอดจนนั่งเรือชมทัศนียภาพของอ่าวพังงาที่สวยงาม

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น เรียนรู้วิถีชีวิตการทำอาชีพประมงกับชาวบ้าน, ร่วมโครงการคืนไข่ปูสู่ธรรมชาติ (ธนาคารปู) และปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ให้สมบูรณ์

          สิ่งอำนวยความสะดวก : บริการห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน, บริการอาหารซีฟู้ด และบริการเรือนำเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสและชมทัศนียภาพของอ่าวพังงา 

          อัตราค่าบริการ : ค่าบริการที่พักคืนละ 1,000 บาท/ท่าน พร้อมอาหาร 3 มื้อ ประกอบด้วยอาหารเช้า 1 มื้อ (ชา กาแฟ ข้าวต้ม ข้าวผัด) และอาหารซีฟู้ด 2 มื้อ และบริการอาหารทะเลสด ๆ และอาหารพื้นบ้านมากมาย สำหรับท่านที่ไม่ต้องการจะพักค้างคืน ค่าบริการท่านละ 300 บาท พิเศษเพียงโทรศัพท์มาสั่งจองล่วงหน้า สำหรับ 10 ท่านขึ้นไป ลดราคาเหลือ 250 บาท

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ เขาตะปู, เขาพิงกัน (สามารถมองเห็นได้จากบ้านบางพัฒน์) และเกาะปันหยี แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในจังหวัดพังงา

          การเดินทาง : การเดินทางมาที่นี่เริ่มต้นจากตัวเมืองพังงาให้ใช้เส้นทางหมายเลข 415 สายพังงา-ทับปูด ประมาณ 10 กิโลเมตร จนเจอวัดเขาเฒ่าเลี้ยวขวาเข้าแยกบ้านเขาเฒ่า-บางพัฒน์ อีก 10 กิโลเมตร จึงถึงทางเข้าชุมชน จากนั้นเดินข้ามสะพานคอนกรีตมาอีก 100 เมตร ก็จะถึงบ้านบางพัฒน์

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : รักษ์บางพัฒน์โฮมสเตย์ ติดต่อคุณสุภา วาหะรักษ์ (ม๊ะฉ๊ะ) โทรศัพท์ 08 7626 0070 , 08 7629 6339, 08 7280 7473

          เว็บไซต์ : รักษ์บางพัฒน์โฮมสเตย์ และ เฟซบุ๊ก บางพัฒน์ มะฉ๊ะ รักษ์บางพัฒน์โฮมสเต


14. โฮมสเตย์ท้องตมใหญ่ จังหวัดชุมพร


          ตั้งอยู่หมู่ 1 ตำบลด่านสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เป็นชุมชนเล็ก ๆ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายเป็นกันเอง อาชีพหลักคือการทำประมง จุดเริ่มต้นของโฮมสเตย์เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มกันของคนในชุมชน ที่ต้องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องทะเลให้คงอยู่เพื่อลูกหลาน จึงรวมตัวกันเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์ และนำทุนทางสังคมของชุมชนที่มีอยู่อย่างมากมายจัดขึ้นเป็นกิจกรรมเชิงท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจ

          จุดเด่น : เป็นชุมชนอนุรักษ์ดีเด่นที่ได้รับตรามาตรฐานโฮมสเตย์ไทย โดยสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้พักผ่อนแบบธรรมชาติในบรรยากาศที่เงียบสงบ พร้อมกับได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชุมชนชาวประมงชายฝั่งที่มีอัธยาศัยดี มีความเป็นมิตร รวมถึงได้เห็นการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ นอกจากนี้ยังได้ชื่นชมวิวทะเล ทิวเขา และเวิ้งอ่าวรูปโค้งสวยงามใกล้ ๆ บ้าน และอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสด ๆ ของที่นี่
 
          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น ตกหมึก (หมึกที่ตกได้เอง หรือกุ้ง หอย ปู ปลา สามารถปิ้งย่างเองได้หลังบ้าน), คล้องกุ้ง, ดำน้ำดูปลาทะเลท้องตม, วางอวน, พายเรือคายัก, พ่อ-แม่ อุปถัมภ์ม้าน้ำ "หนึ่งเดียวในสยาม ม้าน้ำยังอยู่ร่วมกับชุมชน", ปลูกป่าชายเลนอ่าวท้องตม, ตกปลาเล่น ๆ บ้านลุงน้อย, สร้างบ้านปลา, เล่นน้ำหาดลกกำ, ชมผีเสื้อแสนสวย, กิจกรรมชายหาด และกิจกรรมตกปลาในแหล่งตกปลาตามธรรมชาติ หมายตกปลากลางท้องทะเลชุมพร

          สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านพักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และบริการเรือตกหมึก

          อัตราค่าบริการ : พักแบบโฮมสเตย์ 2 วัน 1 คืน พร้อมอาหารสด ๆ ไม่เกิน 4 มื้อ ท่านละ 900 บาท, พักแบบโฮมสเตย์ 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหารสด ๆ ไม่เกิน 8 มื้อ ท่านละ 1,700 บาท, เข้าพัก 10 คน ขึ้นไป แถมเรือตกหมึก หรือเรือดำน้ำดูปะการังให้ฟรี และไม่ถึง 10 คน ค่าเรือเที่ยวละ 2,000 บาท (พิเศษไม่คิดค่าอุปกรณ์และเสื้อชูชีพ)

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ พระบรมสารีริกธาตุขวัญเมือง, พระบรมธาตุสวี (วัดพระธาตุสวี), หัวเขาถ่านอำเภอสวี, สักการะกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์, หาดทรายรี และหาดทุ่งวัวแล่น

          การเดินทาง

          รถยนต์ส่วนตัว : ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 41) จากกรุงเทพฯ (หรือสุราษฎร์ฯ) ใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 41 ถึงสามแยกอำเภอสวี ถึงกิโลเมตรที่ 35 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 4003 ขับต่อไปตามทางหลวง 4003 ประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงสามแยกให้เลี้ยวขวา เข้าหมู่บ้านท้องตมใหญ่ ตามทางหลวง 4011 อีก 6 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้าน

          รถโดยสารธรรมดา-ปรับอากาศหรือรถทัวร์ : กรุงเทพฯ-หลังสวน จากสถานีขนส่งสายใต้แห่งใหม่ ลงที่ป้อมตำรวจสามแยกอำเภอสวี นั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปที่ตลาดสวี ซึ่งห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วต่อรถประจำทางสายสวี-บ่อคา ไปบ้านท้องตมใหญ่ สามารถให้รถเข้าไปส่งถึงในหมู่บ้านได้เลย (อาจคิดค่าโดยสารเพิ่ม) หรือจะติดต่อให้ที่บ้านพักจัดรถมารับที่จุดจอดรถทัวร์ก็ได้

          รถไฟ : (ประมาณ 521 กิโลเมตร) จากสถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) และสถานีธนบุรี (บางกอกน้อย) ลงที่สถานีสวี จังหวัดชุมพร เห็นถนนที่อยู่ตรงหน้า เดินขึ้นไปประมาณ 300 เมตร ถึงตลาดแล้วต่อรถประจำทางสายสวี-บ่อคา ไปบ้านท้องตมใหญ่ สามารถให้รถเข้าไปส่งถึงในหมู่บ้านได้เลย (อาจคิดค่าโดยสารเพิ่ม) หรือจะติดต่อให้ที่บ้านพักจัดรถมารับที่สถานีรถไฟเลยก็ได้

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โฮมสเตย์ท้องตมใหญ่ โทรศัพท์ 08 1345 6743

          เว็บไซต์ : โฮมสเตย์ท้องตมใหญ่ และ เฟซบุ๊ก โฮมสเตย์ท้องตมใหญ่ จังหวัดชุมพร

15. บ้านเกาะกลางโฮมสเตย์ จังหวัดกระบี่


          ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านเกาะกลาง ตำบลคลองประสงค์ จังหวัดกระบี่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวิถีชุมชน มีป่าโกงกางและลำคลองสายต่าง ๆ ที่เป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ค่อนข้างสูงจึงเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว และทำให้เกิดอาชีพมัคคุเทศก์และการบริการเรือรับจ้าง ซึ่งนับว่าเป็นรายได้เสริมที่สำคัญแหล่งหนึ่ง อีกทั้งยังมีการแปรรูปสัตว์น้ำและหัตถกรรมพื้นบ้านเป็นกิจกรรมของกลุ่มแม่บ้านและกลุ่มผู้สูงอายุที่ทำรายได้ให้กับหมู่บ้านด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ด้วยความเหมาะสมและสมบูรณ์ทางด้านทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมชุมชน และวิถีการดำเนินชีวิต จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวเป็นประจำ ชาวบ้านจึงมีแนวคิดในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ท้องถิ่นและวัฒนธรรมประเพณีขึ้นมา

          จุดเด่น : เป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่สนใจแลกเปลี่ยนความรู้ ตลอดจนต้องการเรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ อาหารท้องถิ่น ภาษาท้องถิ่นและวิถีชีวิตชุมชน

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ

          โปรแกรมที่ 1 ท่องเที่ยวศึกษาวิถีชีวิตชุมชน เกาะกลาง ชมกลุ่มผลิตเรือหัวโทงจำลอง กลุ่มแปรรูปอาหารทะเลปลอดสารพิษ ข้าวสังข์หยดซ้อมมือ การทำนา โดยรถสามล้อนำเที่ยวรอบเกาะกลาง อัตราค่าโดยสารรถสามล้อราคา 200 บาท

          โปรแกรมที่ 2 ท่องเที่ยวศึกษาวิถีชุมชนบ้านคลองประสงค์ กลุ่มทำผ้าปาเต๊ะ (ผ้าปาเต๊ะและสามารถทำเองได้ และซื้อเป็นของฝากส่วนตัว เครื่องแกงวิธีการแกะเนื้อปูม้า ชมวิวที่คลองทะลุ ชมหอดูนก ชายหาดคลองกำ หาดหอยโป๊ะน้ำตื้น (โดยสารรถสามล้อนำเที่ยวรอบเกาะกลาง หาดคลองประสงค์) อัตราค่าโดยสารราคา 400 บาท คันละไม่เกิน 4 คน

          โปรแกรมที่ 3 ล่องเรือหัวโทงศึกษานิเวศวิทยา ป่าชายเลน ล่องปากแม่น้ำกระบี่ ดูนกถ้ำประวัติศาสตร์เขาขนาบน้ำ (สัญลักษณ์จังหวัดกระบี่) ชมปลาสวยงามที่กระชังปลา อัตราค่าโดยสารเรือหัวโทงท่องเที่ยวชั่วโมงละ 400 บาท 5-8 คน ชั่วโมงละ 500 บาท เรือรับผู้โดยสารได้ไม่เกิน 8 ต่อ 1 ลำ (ให้อาหารปลาในกระชัง ถ่ายรูปกับปลาปักเป้า และทานอาหารบนกระชัง)

          โปรแกรมที่ 4 ชมการทำประมงพื้นบ้าน อาทิ การดักปูดำ หาหอยหวาน อวนปลา อวนกุ้งโปรแกรมที่ 5 นำเที่ยวทะเลแหวก ดำน้ำดูปลาสวยงามและปะการัง สัมผัสน้ำทะเลสวยใส และหาดทรายที่ขาวละเอียดที่เกาะ ไก่, เกาะปอดะ, หาดไร่เลย์, สุสานหอย 75 ล้านปี โดยเรือหางยาวท่องเที่ยว อัตราค่าโดยสารราคา 2,500 บาท ไม่เกิน 8 คน ต่อ 1 ลำ (ไม่รวมค่าอาหาร, สน็อกเกิล)

          โปรแกรมที่ 6 ดำน้ำดูปลาสวยงามและปะการัง สัมผัสน้ำทะเลสวยใสและหาดทรายที่ขาวละเอียดที่เกาะห้อง น้ำทะเลเขียวเหมือนมรกต โดยเรือหัวโทงท่องเที่ยวราคา 4,000 บาท ต่อ 1 ลำ ลำละไม่เกิน 8 คน (ไม่รวมค่าอาหาร, สน็อกเกิล)

          นอกจากนี้ยังสามารถนั่งเรือไปเกาะพีพี 6 คน ไป-กลับ 6,000 บาท, นั่งเรือไปเกาะจำ 6 คน ไป-กลับ 4,000 บาท, ไปไร่เลย์เที่ยวละ 150 บาท/คน และไร่เลย์เหมาลำ 2,000 บาท

          สิ่งอำนวยความสะดวก : บ้านพักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

          อัตราค่าบริการ : ค่าที่พัก 200 บาท/คน/คืน พร้อมอาหารเช้า (น้ำชา กาแฟ ข้าวเหนียวปิ้ง ข้าวเหนียวสังขยา ปาท่องโก๋) (ขนมจีน ข้าวยำ ข้าวมัน ข้าวต้ม อาหารหลักอย่างใดอย่างหนึ่ง) (ผลไม้ น้ำดื่ม), ค่าอาหาร 200 บาท/คน/มื้อ/เที่ยง+เย็น, ค่าที่พักพร้อมอาหาร 3 มื้อ/คน/คืน 400 บาท, เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป คิดราคาเท่าผู้ใหญ่ และเด็กต่ำกว่า 12 ปี คิดค่าบริการครึ่งราคา

          สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ ศูนย์ OTOP บ้านเกาะกลาง แหล่งเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของการต่อเรือหัวโทงจำลอง, กลุ่ม OTOP ผลิตผ้าปาเต๊ะ และเขาขนาบน้ำ สัญลักษณ์ประจำเมืองกระบี่ 

          การเดินทาง : จากตัวเมืองกระบี่สามารถข้ามเรือไปเที่ยวเกาะกลางได้ 2 ท่า คือ ท่าเรือสวนสาธารณะธารา-ท่าเล (ราคานักท่องเที่ยวคนละ 10 บาท) และท่าเรือเจ้าฟ้า-ท่าหิน (ราคานักท่องเที่ยวคนละ 30 บาท) บนเกาะมีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสามล้อพ่วงข้างให้บริการ สามารถติดตามเหมาทั้งวันโดยตกลงราคากับเจ้าของรถได้

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวิถีชุมชน (โฮมสเตย์ บ้านเกาะกลาง) ติดต่อคุณอิสรินทร์ ไร่ใหญ่ โทรศัพท์ 08 5788 4546, 08 9647 7086

          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก บ้านเกาะกลาง (โฮมสเตย์) ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวิถีชุมชน

          เพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่เคยท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ อยากแนะนำให้ลองมาสัมผัสกันดู มาเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน กินอยู่อย่างชาวบ้าน แล้วจะรู้ว่า "โฮมสเตย์" มีความหมายมากกว่าการเป็นที่พัก !


หมายเหตุ : ราคาและข้อมูลต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบกับทางโฮมสเตย์อีกครั้งก่อนตัดสินใจ







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
15 โฮมสเตย์บรรยากาศดี สัมผัสวิถีชีวิตที่แท้จริงของผู้คนในชุมชน อัปเดตล่าสุด 2 เมษายน 2567 เวลา 15:04:25 176,053 อ่าน
TOP
x close