มาเตรียมตัวให้พร้อมในการไปชมเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี ณ ประเทศญี่ปุ่น
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Paksabuy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Paksabuy
เรียกได้ว่า "เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี" ของประเทศญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่หลาย ๆ คนอยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง ซึ่งใบไม้ส่วนใหญ่จะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีเหลืองส้มหรือแดง ก่อนที่จะร่วงหล่นไปจนหมดต้น ทำให้ธรรมชาติในยามนั้นงดงามด้วยสีที่สดใสตระการตา ^__^ และตามปกติใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากทางภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ของญี่ปุ่น ราวต้นเดือนตุลาคมจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี แต่ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีอาจจะคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไปในแต่ละปี เพราะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอุณหภูมิในปีนั้น ๆ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.yokosojapan.org) และสำหรับคนที่อยากไปชมใบไม้เปลี่ยนสีแต่ไม่รู้ว่าควรจะวางแผนหรือเริ่มต้นเตรียมตัวอย่างไร ก็ตามบันทึกการเดินทางของ คุณ Paksabuy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่หยิบเอาประสบการณ์ดี ๆ เกี่ยวกับการเตรียมตัวไปเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นมาฝากกันค่ะ
ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโดกำลังจะร่วงโรยไป ญี่ปุ่นกำลังจะเข้าสู่ฤดูร้อน งานเทศกาลดอกไม้ไฟกำลังจะเริ่มต้นขึ้น แต่ว่า...ใครจะไปกันล่ะ ผมไม่ไปหรอกนะ ได้ข่าวร้อนตับแลบ บายยยยยยยยย ผมขอข้ามไปเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีเลยละกันนะ มาครับวันนี้เรามาเตรียมตัวเดินทางไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นกันเถอะ เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่เขาว่างามหนักงามหนา ถ้าจะไปเราจะเตรียมตัวอะไรกันบ้าง
เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงประมาณต้นเดือน 10 เป็นต้นไปครับ โดยจะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่สุดเขตทางเหนือก่อน นั่นคือ เกาะฮอกไกโด ไล่เปลี่ยนสีลงมาเรื่อยจนถึงเกาะคิวชู ใบไม้แดงจะเริ่มร่วงในช่วงเดือนต้นธันวาคม ว่าแต่เพื่อน ๆ อยากจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนดีล่ะ ? เอาจริง ๆ แล้วใบไม้เปลี่ยนสี ผมว่ามันก็สวยเกือบทุกทีเลยครับ ดูจากตารางที่มีมาให้จะบอกรายละเอียดเป็นอย่างดี ว่าช่วงเดือนไหนไหนใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหน ใครอยากไปช่วงไหนที่ไหนก็เลือกกันเอา แต่ที่เขาลำลือกันหนาหูว่าใบไม้เปลี่ยนสีสวยนักสวยหนา สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นนั้นอยู่ที่เมืองเกียวโตครับ และช่วงเวลาที่ดีที่สุดจะไปเยือนดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เกียวโต คือ กลางเดือน 11
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าเราจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นกัน มาครับเรามาเริ่มจากการหาตั๋วกันก่อน
ตั๋วเครื่องบิน
มาพูดถึงเรื่องตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกันก่อนนะ ถ้าเป็นเมื่อปีที่แล้วขอบอกเลยอาจมีตัวเลือกให้น้อยมาก แต่ปีนี้มากันแบบสารพัดโปรฯ เลยละครับ จะไปกี่วันจัดสรรกันตามสะดวก
Nokscoot ใครยังไม่ได้จองโปรฯ ไปญี่ปุ่นช่วงใบไม้แดง นี่คือความหวังที่คุณต้องรอ เตรียมตัวไว้เลยครับ โปรฯ มาแน่เร็ว ๆ นี้
เจ้าหางแดงแสนโสพี ( X ) ที่เปิดโปรฯ บินตรงญี่ปุ่นไปกลับเริ่มต้นที่ 6,000 บาท (ยังไม่รวมค่าโหลดเป๋าและอาหาร) บินลง 2 เมือง คือ โตเกียวกับโอซาก้า ถ้าจะไปดูใบไม้แดงลงโอซาก้าเถอะครับ (ตลาดวายไปละ)
เจ็ทเอเชีย อันนี้เปิดโปรฯ บินตรงญี่ปุ่นไปกลับเริ่มต้นที่ 5,500 บาท (ยังไม่รวมค่าโหลดกระเป๋าและอาหาร) บินลงเมืองเดียว คือ ฟูกูโอกะ (ตลาดวายไปละเช่นกัน)
ส่วน Expedia ก็ชอบออกโปรฯ พร้อมที่พักบ่อย ๆ เห็นมีเริ่มต้นไป-กลับ 4-5 วัน ประมาณ 15,000 บาท (ราคาแบบนี้ที่พักก็ทำใจไว้สักนิด) ราคานี้ต้องไปต่อเครื่องที่มาเลเซียครับ หนึ่งตุ๊บ ไม่รวมอะไรเลย ทั้งอาหาร ทั้งโหลดกระเป๋า
ส่วนใครไม่ได้อยากบินโลว์คอสต์แนะนำเช็กราคาตัวกับ CheapTicket.co.th เช็กดี ๆ อาจได้ราคาฟูลบอร์ด (รวมอาหารสองมื้อและโหลดกระเป๋า) ไป-กลับเริ่มต้นที่ไม่เกิน 12,000 บาท ปีที่แล้วผมจองกับเว็บนี้แหละครับ ไปโปรฯ ของแอร์มาเก๊า 11,500 บาท ไป-กลับ กรุงเทพฯ-นาริตะ (แต่ต้องไปต่อเครื่องที่มาเก๊าหนึ่งตุ๊บ)
ป.ล. สารพัดโปรฯ สายการบินที่ไปญี่ปุ่นที่กล่าวมา เอาจริง ๆ ก็ตามดูเอาจาก Ar-ape.com กันเอาจะสะดวกสุด เพราะรวมสารพัดโปรฯ สายการบินมาโพสต์ทุกวัน ลองดูละกันผมก็ตามโปรฯ จากเพจนี้บ่อย ๆ
ขอลงโปรที่ตลาดยังไม่วายบ้าง โปรฯ ป้าม่วงก็แอบแซ่บผมตกไปได้ยังไงน้อ บินเป็นคู่กับราคาสุดพิเศษ ราคายังไม่รวมภาษีใด ๆ นะจ๊ะ ใครไปกับแฟนราคานี้สอยได้นะครับ จ่ายเพิ่มอีกหน่อยสบายผิดกัน
ทำการบ้าน ทำตารางท่องเที่ยว
เมื่อมีตั๋วเรือบิน เรือเหาะกันแล้ว คราวนี้เรามาจัดตารางเที่ยวกันครับ ถ้าไปเที่ยวใบไม้แดงผมขอแนะนำให้ไปเที่ยวภาคคันไซ (โตเกียวจะอยู่ภาคคันโต) ภาคนี้จะมีเมืองเด็ดให้เที่ยวหลายเมือง แต่ไฮไลท์ของใบไม้แดงจะอยู่ที่เกียวโตครับ เพราะเกียวโตถือเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องใบไม้แดงที่สุดในญี่ปุ่น คราวนี้ขึ้นอยู่กับว่าแต่ล่ะคนจองมาญี่ปุ่นกันกี่วัน สามวัน ห้าวัน อาทิตย์หนึ่ง สิบวัน เอาเป็นว่าจากประสบการณ์ตรงที่ไปพบเจอมาผมขอสรุปทริปให้เพื่อน ๆ ตามนี้
เที่ยวเกียวโตใช้เวลา 2 วัน เป็นอย่างน้อย
โอซาก้า 1 วัน เป็นอย่างน้อย
นารา ครึ่งวันเป็นอย่างน้อย
โกเบ ครึ่งวันเป็นอย่างน้อย
ชิราคาวาโกะ ทาคายาม่า วันครึ่งเป็นอย่างน้อย
ฮิโรชิม่า วันหนึ่งเป็นอย่างน้อย
คราวนี้ใครไปกี่วันก็ลองจัดสรรกันดูครับ มิกซ์ แอนด์ แมตช์ให้สะดวก จากนั้นเราก็มาดูว่าที่ไหนไปเที่ยวเส้นทางเดียวกันได้ แนะนำเลยว่าวันหนึ่งไม่ควรเที่ยวเกินสามที่ เพราะการเที่ยวเองมันใช้เวลาเที่ยวดื่มด่ำพอสมควร ไม่ใช่ทัวร์หย่อนแชะนะจ๊ะ ไว้คราวหน้าจะมาเจาะเรื่องที่เที่ยว ไปยังไง ที่ไหนไปเส้นทางเดียวกัน ให้นะครับ ช่วงใบไม้แดงพระอาทิตย์จะตกเร็วมาก สี่โมงก็ตกละครับ ห้าโมงก็มืดแล้วครับ ส่วนใครที่ขี้เกียจทำการบ้านก็คงต้องลอกเขาเอาครับ เสิร์ชทริปเอาจากใน Pantip นี่แหละ 555555
ป.ล. ขอร้องว่าการเที่ยวข้ามภาคแบบไป-กลับนั้นเหนื่อยมาก อย่าคิดว่าฉันจะไปเหนือจรดใต้ด้วย Jr pass ในเจ็ดวัน เออ...ไปเที่ยวนะไม่ใช่ไปแข่งไตรกีฬาข้ามชาติ (บอกด้วยประสบการณ์ตรงที่ทำมากับตัว)
ภาพจากวัดคิโยมิซึ (วัดน้ำใส) เกียวโต
เช็กสภาพอากาศ
ช่วงเวลาใกล้ ๆ วันที่จะไปเช็กสภาพอากาศกันนิดนึงนะครับ พยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นค่อนข้างแม่นมาก ว่าแต่จะเช็กทำมั้ย ? เช็กเพื่อ ? ก็เช็กเพื่อที่เราจะสลับตารางเที่ยวได้ทันครับ เราควรเลือกวันที่ไปไฮไลท์ไว้ในวันที่อากาศดี ๆ แล้วแต่ใครจะไฮไลท์ที่ไหนไว้ เพราะช่วงใบไม้แดงเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูมีโอกาสที่จะเจอฝนฟ้าคะนองกันค่อนข้างมาก แนะนำให้พกร่มพับเล็ก ๆ ไปกันด้วยจะสะดวกมาก เจอฝนขึ้นมาจะวิ่งหาซื้อร่มตอนฝนตกก็คงไม่ใช่เรื่องนะ ผมเจอมาแล้ว ทั้งฝนตก ทั้งหนาว นรกมากกกกกกกกก T__T อีกทั้งเราต้องเช็กเพื่อที่จะได้เตรียมเสื้อผ้าและพร็อพไปให้ถูกกาลเทศะ ใครอยากจะแต่งครบสูตรเป็นหมีซูโม่ก็ตามใจนะ ช่วงที่ผมไปมาปีที่แล้ววันที่ 28 พ.ย.-5 ธ.ค. อุณหภูมิอยู่ที่ 2-10 องศา มีฝนบ้างในบางวัน มีครึมฟ้าครึมฝน อยู่บ้าง แต่บางวันก็ฟ้าใส
ภาพจากภูเขาสีลูกกวาด อาราชิยาม่า เกียวโต
JR Pass นั้นสำคัญไหม
ต้องซื้อไหม คำตอบ คือ ถ้าคุณต้องนั่งชินคันเซ็นไปไกล ๆ สองเที่ยวขึ้นไปซื้อเถอะครับไม่ต้องคิดมาก เพราะอย่างผมคราวที่แล้วนั่งชินคันเซ็นไป-กลับ โอซาก้า-โตเกียว 1 รอบ ถ้าไม่ซื้อก็จะตกเที่ยวละ 15,000 เยน (เที่ยวละประมาณ 5,000 บาท) ค่าตั๋ว JR คราวที่แล้วซื้อที่ 8,700 บาท ไป-กลับก็เกินแล้วครับ แต่ถ้าคุณมาแค่โอซาก้าแล้ววนอยู่แถบคันไซ ไม่ต้องซื้อครับ ไม่คุ้มเลย ซื้อแค่คันไซพาสก็พอครับ จะมีระบุ 3, 5, 7 วัน แล้วแต่เลือกแต่ราคาถูกกว่ามาก (ถ้าเราไม่ได้เดินทางข้ามภูมิภาคแนะนำไม่ต้องซื้อครับ)
ป.ล. ถ้าต้องเดินทางข้ามภูมิภาคอาจลองหาตั๋วโปรฯ จาก Vanilla air หรือ peach airline http://pantip.com/topic/30125058 (ไปเรียนรู้พีชแอร์ไลน์จากกระทู้นี้นะครับ) ก็ได้ครับ มีบ่อย ๆ ตั๋วโปรฯ ถูกมาก ประมาณ 1,000-3,000 เยน (ใครไม่รู้จะตามโปรฯ ยังไงก็ไปหาเพจ Ar-ape.com อีกเช่นเดิม)
ภาพจากวัดโทไดจิ นารา
จองโรงแรม
จะจองที่ไหน...อะไรก็จองกันเถอะครับ แต่ละคนงบไม่เท่ากัน การใช้ชีวิตไม่เหมือนกันด้วย แต่จะจองที่ไหนก็ขอให้ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเข้าว่านะครับ ขอให้ใกล้สถานีไว้ดีที่สุด คราวที่แล้วผมจองจากสามเว็บ Expedia, agoda และ Hotelclub ลองเปรียบเทียบราคากันดูครับ อันนี้คือโรงแรมที่ผมจองไปนอนที่โอซาก้าปีที่แล้ว ชื่อ kishibe staion Hotel โรงแรมนี้เหมาะกับผู้มีบัตร JR Pass ผมไปเกียวโต โอซาก้า (ญี่ปุ่น) เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมนอนที่นี่ละครับ ง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่จำเป็นต้องหรูหรา แต่ขอส่วนตัวเถอะ ออกแต่เช้า (ตอนทำงานออฟฟิศไม่เคยตื่นเช้าขนาดนี้เลย) กลับก็มืดค่ำ (ซูเปอร์ลดราคาพอดี) แล้วกระผมจะจ่ายแพงไปทำซากอะไรมิทราบ ราคาห้องพักที่นี่ก็ประมาณ 1,500 บาท รวมอาหารเช้า จองกับ agoda
kishibe staion Hotel ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า แต่ผมชอบที่นี่มากกกกกกกก เพราะอยู่ห่างชินโอซาก้าไปทางเกียวโต 2 สถานีเอง (เช้ามาออกไปเที่ยวเกียวโตสะดวกมาก ออก 07.30 น. แปดโมงตรงเคารพธงชาติไทยที่สถานีเกียวโตทุกวัน 55555) ตัวโรงแรมรั้วนี่ติดกับสถานีรถไฟ JR เลยครับ อยากจะบอกว่าสามนาทีจากสถานี JR แต่รางรถไฟมันแทบจะพุ่งทะลุโรงแรมอยู่แล้ว แถมใกล้กับซูเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่อีก (ตกเย็นนายพักสบายสวมหัวใจแม่บ้านญี่ปุ่นอารมณ์เปลี่ยว ช้อปของลดราคาสนั่นมาก แม่บ้านญี่ปุ่นนอกจากสมองไวแล้วผมว่ามือยังไวมากอีกต่างหาก) สำหรับผมแล้วผมค่อนข้างปลื้มกับที่นี่มาก ๆๆๆๆๆ ไปคราวหน้าก็คงพักที่นี่อีก และที่สำคัญข้าวเช้าอร่อยมาก ไม่แพ้ข้าวเช้าที่โอคุระกรุงเทพเลยครับขอบอก ส่วนปีนี้ที่ไปฟูกูโอกะผมจองจาก Expedia ใช้โค้ดลดราคาของ KTC และแคนเซิลฟรีเมื่อต้องการยกเลิกครับ
ภาพจาก kishibe staion Hotel โอซาก้า
Google Map HyperDia เรียนรู้ไว้ซะนะ
ไอ้นี่แหละครับ คือ สิ่งจำเป็นอย่างที่สุด จะไปไหนไม่หลงทางก็เพราะเจ้าสองตัวนี้แหละครับ ใครถนัดแบบไหนก็ลุยเลยครับ ส่วนผมถนัด Google Map แค่ใส่ชื่อสถานีที่ต้นทางและปลายทาง (ถ้าต้นทางไม่รู้ในกรณีที่หลงทางให้ใส่จุดที่ยืนขณะนี้) จากนั้นมันจะขึ้นเส้นทางมาให้ครับ พร้อมให้เราเลือกเลยครับว่าจะไปทางรถ ทางรถไฟ หรือเดินไป บอกหมดว่าต้องนั่งสายอะไร ต่ออะไร และที่ผมชอบที่สุด มีจุดที่ตัวเรายืนอยู่ด้วยครับ จะเคลื่อนที่จริงตามที่เราเดินทางไปถ้าเราผิดเส้นทางปุ๊บจะรู้ได้ทันที แซ่บมากกกกกกก ทริปนี้ขอบอกรัก Google Map ที่สุด (เพราะทำให้ผมหลงทางน้อยมาก)
ภาพจากศาลเจ้าจิ้งจอก (ฟูชิมิ อินาริ) เกียวโต
จัดสรรงบประมาณ ค่าใช้จ่ายที่ญี่ปุ่น
หลังจากเตรียมทุกอย่างไว้แล้วก็ถึงขั้นจัดสรรงบประมาณไปใช้ที่โน่น จะต้องเตรียมเงินสดไปเท่าไหร่ ถ้าไม่ได้ใช้เงินอู้ฟู่มากมายปกติวันหนึ่ง 3,500 เยน/คนน่าจะเอาอยู่ ตีเป็น 1,500 เยน เรื่องกิน ค่าเดินทาง 1,000 เยน ค่าเข้าวัด สถานที่ท่องเที่ยวที่มีค่าธรรมเนียม 1,000 เยน จะไปกี่วันคูณเข้าไปครับ (อาจมีเหลือ ๆ ขาด ๆ บ้าง) นอกจากนั้นก็บวกค่า Shopping กันเอาเองนะครับ อัตราแลกเปลี่ยนเช็กได้จากที่นี่ www.superrichthailand.com หรือเว็บธนาคารต่าง ๆ
ภาพจากวัดโทฟุคุจิ เกียวโต
อินเทอร์เน็ต
การติดต่อสื่อสารทางโลกโซเชียลในญี่ปุ่น ถึงแม้หลาย ๆ ที่ในญี่ปุ่นจะมี Wi-Fi ฟรีกันแล้ว แต่ผมขอบอกเลยว่ายังไงโปรดพกอุปกรณ์ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตส่วนตัวไปด้วยเถอะ ใครคิดว่าฉันใช้ของฟรีก็ได้...ได้โปรดเถอะครับ คิดผิดคิดใหม่เดี๋ยวนี้ บางที่ก็มีเหตุการณ์ให้เราต้องติดต่อถามกลับมาหาใครหรือขอความช่วยเหลือใครสักคน ขอบอกเลยว่าพกไปเถอะ (จากประสบการณ์ตรงมีไว้อุ่นใจมาก)
อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตมีกันหลายแบบทั้งแบบ Pocket Wi-Fi ทั้งแบบ Sim วันนี้มาพูดถึงเรื่อง Sim กันก่อน (เพราะเรื่อง Pocket ยังเขียนไม่ทัน) So-Net เหมาะสำหรับคนที่อยากควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตหรือใช้เมื่อยามจำเป็น (ที่เหลือใช้ของฟรีเอาตามสถานีรถไฟ สถานที่สำคัญ ๆ ร้านกาแฟ ฯลฯ) เพราะมีขนาด Data เริ่มให้เลือกตั้งแต่ 100, 500 MB ราคา 3,000/5,000 Yen (จ่ายทีเดียวใช้ทั้งทริปคุมเอาเอง เหลือกลับมาเอาซิมให้เพื่อนไปใช้ได้อีก) และถ้าไม่พอสามารถเติมออนไลน์แบบ 200/500/1GB ราคา 1,500/2,000/2,838 Yen มีขนาดทั้งซิมปกติ micro และนาโน สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นเลย ใครสนใจสามารถหาซื้อได้จากที่สนามบินที่ญี่ปุ่นเลยครับจะมีตู้ขายอยู่
ส่วน Pocket WiFi คือ การเหมาอุปกรณ์ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตมาใช้ส่วนตัว เหมาเป็นวัน ๆ ไปกี่วันก็คิดราคาไป หนึ่งตัวสามารถแชร์ใช้กันได้หลายคนเลยครับ ข้อดี คือ เร็วปื้ด ๆๆ ใช้ไม่จำกัด โทรไลน์หาใครสบายเลยครับ สัญญาณโอเคเลย แต่ถ้าไปหลายวันค่าใช้จ่ายก็หลายตังค์อยู่ คราวที่แล้วไป 11 วัน จ่ายไป 2,000 กว่า ๆ (ควรเตรียมที่ชาร์จ Power Bank ไปด้วย)
เอาล่ะเรามีเรื่องให้เตรียมตัวกันหลายข้อเลย มีใครเตรียมไปถึงขั้นไหนกันบ้างแล้วเอ่ย คราวหน้าผมจะมาบอกจุดสวย ๆ ที่น่าไปเยือนน่าไปเที่ยวของเมืองแถบคันไซกันนะครับ
ป.ล. ฝากเทคนิคการถ่ายใบไม้แดงกันสักนิด ถ้าจะถ่ายใบไม้แดงให้สวยผมแนะนำว่าต้องถ่ายวันที่มีแดดครับ จะแดดน้อยแดดมากได้หมด แล้วใช้วิธีการถ่ายย้อนแสงใต้ใบไม้ขึ้นไปแบบภาพนี้ครับ แนะนำเลยครับวิธีนี้ รับรองได้ภาพสวย ๆ กลับมาเพียบแน่นอน