เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สวนสัตว์ ที่น่าสนใจมีที่ไหน ลองมาทำความรู้จักกับ สวนสัตว์ในประเทศไทย 8 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมข้อมูลสวนสัตว์ เช่น เวลาทำการ ค่าบัตรผ่านประตู และสิ่งที่น่าสนใจของสวนสัตว์แต่ละแห่ง ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้นมาดูกัน
สำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายความตึงเครียดในช่วงวันหยุด ด้วยการพาครอบครัวไปเที่ยวชมสัตว์ป่านานาชนิด ในสวนสัตว์ของจังหวัดต่าง ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมนำข่าวดีมาบอกค่ะ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมมือกับองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดทำ "โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวสวนสัตว์" Amazing Zoo Amazing Thailand เพื่อประสานความร่วมมือในการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวขององค์การสวนสัตว์ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทรัพยากรสัตว์ป่าและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
ซึ่งองค์การสวนสัตว์ฯ มีสวนสัตว์ที่อยู่ในความดูแลทั่วประเทศ เช่น สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา และสวนสัตว์อุบลราชธานี เป็นต้น โดยแต่ละแห่งจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป และบางแห่งได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ รวมถึงเพิ่มกิจกรรมและการแสดงมาเอาใจนักท่องเที่ยวด้วย เพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวสวนสัตว์ในประเทศไทย ดังนั้น เราจึงรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจของสวนสัตว์แต่ละแห่งมาฝาก ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้นไปติดตามพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. สวนสัตว์ดุสิต
สวนสัตว์ดุสิต ตั้งอยู่บนถนนพระราม 5 แขวงจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ให้ลงสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ N3 (สายสุขุมวิท) จากนั้นใช้ทางออกที่ 3 เพื่อต่อรถโดยสารประจำทางสาย 18, 28, 108, 528, 515, 539 และ 542 จากหน้าโรงพยาบาลราชวิถีมุ่งหน้าไปยังสวนสัตว์ดุสิต
ภายในสวนสัตว์แห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น หลุมหลบภัยสาธารณะ ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2484 เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยของประชาชน หากเกิดเครื่องบินของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษทิ้งระเบิดลงมาในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ต่อมาเมื่อสงครามสงบลง จึงมีการปรับปรุงที่เป็นกรงเลี้ยงเลียงผา รวมถึงพัฒนาที่โดยรอบเพื่อใช้ประโยชน์ในการจัดแสดงสื่อและนิทรรศการ ว่าด้วยเรื่องราวของสงครามมหาเอเชียบูรพาและหลุมหลบภัยมาจนปัจจุบัน
นอกจากนี้ ในสวนสัตว์ดุสิตยังมีบรรดาสัตว์ป่าที่น่าสนใจ เช่น เพชร เก้งเผือกหนึ่งเดียวที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ละมั่งพันธุ์ไทย สัตว์ป่าสงวนที่สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ ค่างห้าสี เสือขาว ฮิปโปโปเตมัส เพนกวิน และกวางดาว เป็นต้น รวมถึงมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การถีบเรือจักรยานนาวา การนั่งรถพ่วงชมสวนสัตว์ การสาธิตการให้อาหารสัตว์ และการแสดงโชว์บนเวทีที่มีให้ชมกันอย่างต่อเนื่อง
เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
ค่าบริการ : ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 100 บาท, ปวส. และมหาวิทยาลัย 50 บาท, เด็กเล็ก และ ปวช. 20 บาท, ข้าราชการในเครื่องแบบ 50 บาท, ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ ภิกษุ และสามเณร เข้าชมฟรี ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 150 บาท, เด็ก 70 บาท
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2281-2000
เว็บไซต์ : dusitzoo.org และ เฟซบุ๊ก สวนสัตว์ดุสิต Dusit Zoo
รีวิว
##review by หน้าแว่น## - พาเด็กๆ ชาว Blue Planet ไปเที่ยวสวนสัตว์ดุสิต...
+++ วันว่าง ณ สวนสัตว์ดุสิต เขาดินวนา +++++
2. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตั้งอยู่ในตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี หากเดินทางจากถนนสายบางนา-ตราด แนะนำให้ใช้เส้นทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) จะสะดวกมากที่สุด ทั้งนี้ สัตว์เปิดเขาเขียวมีส่วนจัดแสดง “มหัศจรรย์สัตว์โลก WildLife Wonderland” โดยมีสัตว์ป่าน่ารัก ๆ ให้ชมมากมายจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งฮิปโปโปเตมัสแคระ แมวน้ำ เมียร์แคท ตัวกินมดยักษ์ แรคคูน ค่างห้าสี ละมั่ง นากเล็กเล็บสั้น จระเข้เคแมน แรดขาวแอฟริกา จิงโจ้แดงออสเตรเลีย วอลลาบี นกอีมู นกคาสโซวารี่ ลีเมอร์หางแหวน สิงโตขาว ยีราฟ สมเสร็จ และเสือโคร่งขาว เป็นต้น
ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวที่ทุกคนไม่น่าพลาด ก็คือ บริการพาทัวร์สวนสัตว์ในช่วงเวลากลางคืนเพื่อชมการใช้ชีวิตของสัตว์ป่า ซึ่งรับรองจะต้องตื่นตาตื่นใจกันอย่างแน่นอน
เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็ก 20 บาท, นักเรียนในเครื่องแบบ 20 บาท, นักเรียนอนุบาลและประถมศึกษา 20 บาท, นักเรียนมัธยมต้น มัธยมปลาย และ ปวช. 20 บาท, ปวส. และมหาวิทยาลัย 50 บาท, ทหารและตำรวจในเครื่องแบบ 50 บาท, ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ ภิกษุ และสามเณร เข้าชมฟรี
เบอร์โทรศัพท์ : 0-3831-8444
เว็บไซต์ : kkopenzoo.com และ เฟซบุ๊ก สวนสัตว์เปิดเขาเขียว Khao Kheow Open Zoo
รีวิว
(+)(+)(+)(+) REVIEW (+)(+)(+)(+) สวนสัตว์เปิดเขาเขียวในวันฟ้าสีคราม (ครึ่งแรก)
3. สวนสัตว์เชียงใหม่
สวนสัตว์เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หากใช้เส้นทางถนนห้วยแก้ว สวนสัตว์เชียงใหม่จะอยู่ด้านซ้ายมือ ห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 800 เมตร แต่สามารถใช้เส้นทางถนนสุเทพได้เช่นกัน สำหรับดาวเด่นของสวนสัตว์ในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นครอบแพนด้า ช่วงช่วง หลินฮุ่ย และหลินปิง แต่ที่นี่ยังมีสัตว์ป่าน่ารักจากต่างแดนให้เลือกชมอีกมากมาย เช่น โคอาล่า ไฮแรกซ์ และแรดอินเดีย ซึ่งนอกจากสัตว์บกแล้ว สวนสัตว์เชียงใหม่ยังมีโซนสัตว์น้ำ ที่รวบรวมสัตว์น้ำจืดและน้ำเค็มมาจัดแสดงในอาณาจักรยิ่งใหญ่ เดินสายพานเลื่อนลอดอุโมงค์ยาวที่สุดในโลก 133 เมตร เพื่อชมปลา 250 สายพันธุ์ และกว่า 20,000 ตัว แหวกหว่ายอยู่ในน้ำ
สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกย่างหนึ่งของสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้แก่ โซนหิมะตกตลอดปี ซึ่งมีอุณหภูมิ -7 องศา หากใครอยากลองสัมผัสอากาศหนาวเย็นของสุดขั้วก็ไม่ต้องลงทุนเดินทางไปต่างประเทศแล้ว และที่รับรองว่าแปลกสุด ๆ ได้แก่ โบราณสถาน “วัดกู่ดินขาว” ที่ตั้งอยู่ใจกลางสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่มาของตำนานเมืองโบราณเวียงเจ็ดลิน อายุกว่า 800 ปี เนื่องจากวัดแห่งนี้เป็นวัดแห่งเดียวที่ก่อสร้างโดยใช้อิฐที่ทำด้วยดินขาวขนาดใหญ่
เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
ค่าบริการ : ชาวไทย บัตรผู้ใหญ่ 100 บาท, บัตรเด็ก 20 บาท (สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร), นิสิต (ในเครื่องแบบ) 50 บาท ส่วนชาวต่างชาติ บัตรผู้ใหญ่ 150 บาท บัตรเล็ก 70 บาท (สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร) ขณะที่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ พระภิกษุ และสามเณร เข้าชมฟรี
เบอร์โทรศัพท์ : 053-221179
เว็บไซต์ : chiangmaizoo.com และ เฟซบุ๊ก สวนสัตว์เชียงใหม่ Chiang Mai Zoo
รีวิว
<<<<Review>>>> กัปตันลูกชุบพาเที่ยวเมืองเชียงใหม่ แล้วแวะทักทายหลินปิงน้อย
4. สวนสัตว์นครราชสีมา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สวนสัตว์นครราชสีมา Nakhonratchasima Zoo
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สวนสัตว์นครราชสีมา Nakhonratchasima Zoo
สวนสัตว์นครราชสีมา อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 (นครราชสีมา-ปักธงชัย) ระยะทาง 18 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (ทางหลวงหมายเลข 2310) แต่ถ้าเดินทางด้วยรถโดยสารจากตัวเมืองสามารถใช้บริการรถปรับอากาศสาย 1415 (สุรนารี-สวนสัตว์) ได้เช่นกัน
ภายในสวนสัตว์แห่งนี้ประกอบด้วยอาณาจักรสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก รวมถึงสัตว์เด่นจากทุ่งแอฟริกา เช่น สิงโต เสือดำ เสือดาว ช้างแอฟริกา แรดขาว ควายป่า และนกกระเรียน เป็นต้น หากนักท่องเที่ยวอยากคลายร้อนขอเชิญพบกับสวนน้ำโคราชที่จะให้เย็นชุมฉ่ำกันอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ภายในสวนสัตว์นครราชสีมายังมีสวนไดโนเสาร์ กิจกรรมบนเวที และการแสดงอีกคับคั่ง ทั้งโชว์ให้อาหารเสือโคร่ง การแสดงคาวบอย และการแสดงของสัตว์ ที่รอให้ผู้ชมมาร่วมสนุกไปด้วย
เวลาทำการ : เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
ค่าบริการ : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็ก 20 บาท (สูงไม่เกิน 130 เซนติเมตร), นักศึกษา ปวช. มหาวิทยาลัย ครู ทหาร ตำรวจ (ในเครื่องแบบ) 50 บาท, ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป คนพิการ พระภิกษุ และสามเณร เข้าชมฟรี ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 150 บาท, เด็ก 70 บาท (สูงไม่เกิน 130 เซนติเมตร)
เบอร์โทรศัพท์ : 044-735-647, 08-3372-0404
เว็บไซต์ : koratzoo.org และ เฟซบุ๊ก สวนสัตว์นครราชสีมา Nakhonratchasima Zoo
รีวิว
[CR] รีวิวสวนสัตว์โคราช 3 วัน 2 คืน (มีที่พักในสวนสัตว์ด้วยค่ะ)
รีวิว "สวนสัตว์โคราช" กระชับพื้นที่...ขอความสุขกลับมาเหมือนเดิม
เที่ยวสวนสัตว์โคราช + สวนน้ำ แบบ 2 in 1
5. สวนสัตว์สงขลา
สวนสัตว์สงขลา ตั้งอยู่บนถนนสงขลา-นาทวี ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา หากเดินทางจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ก่อนมุ่งหน้าไปยังทางหลวงหมายเลข 41 เพื่อเข้าสู่ตัวเมือง โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมการแสดงความสามารถของแมวน้ำ การให้อาหารเสือโคร่งพันธุ์อินโดไชนีส การแสดงวิถีชีวิตสัตว์ป่าของเหยี่ยวแดง นกเงือก และนกกระทุง รวมถึงความฉลาดแสนรู้ของเจ้าจ้อนลิงชิมแปนซีที่เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ และสนุกไปกับสวนน้ำสงขลา ซึ่งเป็นสวนน้ำบนภูเขาแห่งแรกโซนภาคใต้ที่มีสระน้ำวนขนาดใหญ่ในพื้นที่กว่า 9 ไร่
นอกจากนี้ ที่สวนสัตว์สงขลายังมีวิทยากรคอยถ่ายทอดความรู้และนำชมผลงานการอนุรักษ์วิจัยสัตว์หายากใกล้สูญพันธ์ เช่น สมเสร็จ, นกเงือก แมวป่าหัวแบน กระจง ควาย เต่าหกเหลือง กบทูด รวมถึงสัตว์ป่าที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น นกเงือก สมเสร็จ เสือโคร่ง สิงโต แมวน้ำ ละมั่ง นิลกาย นาก เก้งเผือก ชิมแปนซี และมาคอร์ เป็นต้น
เวลาทำการ : เปิดทำการทุกวันเวลา 08.00-16.30 น.
ค่าบริการ : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท,เด็ก 20 บาท, นักเรียนประถม และ ปวช. (ในเครื่องแบบ) 20 บาท, ปวส. และมหาวิทยาลัย (ในเครื่องแบบ) 50 บาท, ครู ทหาร และตำรวจ (ในเครื่องแบบ) 50 บาท, ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป คนพิการ พระภิกษุ และสามเณร เข้าชมฟรี ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 150 บาท, เด็ก 70 บาท
เบอร์โทรศัพท์ : 0-7459-8555
เว็บไซต์ : songkhlazoo.com และ เฟซบุ๊ก สวนสัตว์สงขลา Songkhla zoo
รีวิว
(Review) มามะ.. ไปเที่ยวสวนสัตว์สงขลากัน :)
6. สวนสัตว์ขอนแก่น
สวนสัตว์ขอนแก่น ตั้งอยู่ในตำบลคำม่วง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวให้ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ แต่ถ้าเดินทางโดยรถไฟให้ลงสถานีรถไฟเขาสวนกวาง เมื่อมาถึงที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สนุกสนานไปกับสวนน้ำบนภูและการเดินชมสัตว์บน Sky Walk พร้อมสัมผัสความน่ารักของสัตว์ป่านานาชนิดจากเกาะมาดากัสการ์ เช่น นกฟลามิงโก้ ลีเมอร์ หมีขอ และนกกาบบัว
นอกจากนี้ ยังมีสัตว์ป่าให้ชมอีกมากมาย ที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่โซน ทุ่งแสนกวาง ที่เราสามารถให้อาหารกวางจำนวนมากได้ อีกทั้งยังมีสัตว์ป่าอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งวอลลาบี้ แรด เสือ และสิงโต รวมถึงโซนสัตว์ปีกหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงยังมีการแสดงของสัตว์ป่าบนเวทีกิจกรรมและการแสดงคาวบอยชุดพิเศษอีกด้วย
เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็ก 20 บาท (สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร), นักศึกษาและข้าราชการ 50 บาท, ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป คนพิการ พระภิกษุ และสามเณร เข้าชมฟรี
เบอร์โทรศัพท์ : 08-6455-6341, 08-6459-4192
เว็บไซต์ : khonkaenzoo.com และ เฟซบุ๊ก สวนสัตว์ขอนแก่น khonkaen zoo
รีวิว
[CR]รีวิวเที่ยวสวนสัตว์ขอนแก่นครับ
ทุ่งแสนกวาง - สวนสัตว์ขอนแก่น, จ.ขอนแก่น
7. สวนสัตว์อุบลราชธานี
สวนสัตว์อุบลราชธานี ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงฟ้าห่วน ในพื้นที่บ้านหนองมะเขือ ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ให้ใช้เส้นทางถนนแจ้งสนิท มุ่งหน้าไปยังสี่แยกดงอู่ผึ้ง ก่อนเลี้ยวเข้าถนนคลังอาวุธ สวนสัตว์แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น คือ ความสมบูรณ์แบบป่าโปร่งธรรมชาติ กินพื้นที่กว่า 1,217 ไร่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งอนุรักษ์ต้นยางนาซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ประจำ จังหวัดอุบลราชธานี กว่า 1,000 ต้น
โดยในส่วนจัดแสดงสัตว์ป่าได้ออกแบบให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถชมสัตว์ป่าได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งที่นี่มีสัตว์ป่ามากกว่า 200 ชนิด เช่น เสือขาว ม้าลาย สิงโต กระทิง แรด ม้าลาย นกกระจอกเทศ ยีราฟ เก้ง กวางดาว จระเข้ ช้าง และไนอาร่าโธเทป เป็นต้น
เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30-16.30น.
ค่าบริการ : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็ก 20 บาท (สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร) ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 150 บาท, เด็ก 70 บาท (สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร)
เบอร์โทรศัพท์ : 045-252-761-2
เว็บไซต์ : ubon-zoo.com และ เฟซบุ๊ก สวนสัตว์อุบลราชธานี Ubon Zoo
รีวิว
[CR] คู่หูแม่ลูกตะลุยอุบล ตอน 2 : สวนสัตว์อุบลฯ ตลาดซืนวาน หาดคูเดื่อ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอุบลฯ
[CR]มาเเวะเที่ยวสวนผลไม้+สวนสัตว์ อุบลราชธานี
8. โครงการคชอาณาจักร ศูนย์คชศึกษา จังหวัดสุรินทร์
โครงการคชอาณาจักรเกิดขึ้นจากความต้องการช่วยเหลือช้างเร่ร่อนที่ถูกควาญช้างนำช้างมาเดินเร่ขายอาหารในเมืองหลวง จนทำให้ช้างเกิดความเครียด รวมถึงการบาดเจ็บและล้มตายจากอุบัติเหตุ ทั้งนี้ โครงการคชอาณาจักรอยู่ภายใต้ความดูแลของศูนย์คชศึกษา ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เดินทางโดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 214 (สุรินทร์-ร้อยเอ็ด)
ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมการดูแลช้างที่เป็นเหมือนสมาชิกส่วนหนึ่งของครอบครัว โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การป้อนอาหารช้าง นั่งช้างชมบริเวณรอบศูนย์ ถ่ายรูปร่วมกับช้าง และชมช้างเล่นน้ำที่วังทะลุ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับเลี้ยงช้างของหมู่บ้านช้าง จังหวัดสุรินทร์ นอกจากนี้ ภายในศูนย์คชศึกษายังมีพิพิธภัณฑ์ช้าง ซึ่งเปิดทำการตั้งแต่เวลา 08.00-14.60 น. และมีการจัดการแสดงช้างวันละ 2 รอบ คือ รอบเช้า เวลา 10.00-11.00 น. และรอบบ่าย เวลา 14.00-15.00 น.
เวลาทำการ : เวลา 08.00-14.30 น.
ค่าบริการ : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท, เด็กโต 20 บาท, เด็กเล็ก 10 บาท (สูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร) ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็กโต 20 บาท, เด็กเล็ก 10 บาท (สูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร)
เบอร์โทรศัพท์ : 044-145-070-1
เว็บไซต์ : surinelephant.com/th และ เฟซบุ๊ก โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์
รีวิว
พาเที่ยวคชศึกษา อาณาจักรช้างสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยจร้า :)
สำหรับผู้ที่สนใจหากต้องการทราบความเคลื่อนไหวการจัดข่าวคราวกิจกรรม หรือโปรโมชั่นของสวนสัตว์ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์องค์การสวนสัตว์ หรือ เฟซบุ๊ก องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ Zoological Park Organization of Thailand หากมีเวลาว่างในช่วงวันหยุดนี้ก็อย่าลืมพาครอบครัวไปเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่านานาชนิดได้ที่สวนสัตว์ของแต่ละจังหวัดกันนะคะ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ