เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณเป้ใบ รองเท้าคู่ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
จังหวัดนครพนม ตั้งอยู่ในเขตภาคอีสานตอนบน เป็นเมืองชายแดนที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ มีทิวทัศน์สวยงาม มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีความหลากหลายของวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจอยู่มาก ซึ่งถึงแม้ว่าจังหวัดนครพนมจะเป็นจุดผ่านแดนไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แต่ความเรียบง่าย เงียบสงบ ก็ยังมีให้พบเจออยู่ทั่วไป ดังจะเห็นได้จากวิถีชีวิตของชาวบ้าน (จังหวัดนครพนม) อ๊ะ ๆ เพื่อเป็นการการันตีความน่ารักและน่าอยู่ของจังหวัดนครพนม เราจึงนำเอาบันทึกการเดินทางของ คุณเป้ใบ รองเท้าคู่ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่หยิบบรรยากาศของ "ถนนคนเดินนครพนม" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง พร้อมแล้วไปชมเลยจ้า
ถนนคนเดินในเมืองเล็ก ๆ อย่างนครพนม มีความอบอุ่น เรียบง่าย เป็นกันเอง เหมือนกับเป็นสโมสรที่คนในชุมชนได้มาพบปะสังสรรค์กัน คนแปลกหน้าอย่างผมมีไม่มากนัก พอเดินหิ้วกล้อง ถ่ายรูปเจาะแจ๊ะไปเรื่อย หลาย ๆ คนเลยให้ความเอ็นดูเป็นพิเศษ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเลยครับ
ก่อนหน้าที่จะเดินบน...ถนนคนเดิน ซึ่งเป็นช่วงหัวค่ำ ผมได้ออกจาก The River แต่เช้า ตะลอนขี่จักรยานไปทั่ว ตั้งแต่ตลาดเช้า จวนผู้ว่าฯ (หลังเก่า) วัดนักบุญที่หนองแสง แล้วย้อนไปบ้านลุงโฮ ที่อยู่นอกเมืองอีกฟากฝั่งของเมือง พอตะวันเริ่มลับฟ้าก็ปั่นมาที่นี่เลย
เพื่อน ๆ ตามไปดูกันเลยดีกว่าว่า ถนนคนเดินที่นี่เหมือนหรือต่างกับที่อื่นอย่างไร ช่วงท้ายอาจจะห้วน ๆ นิดนึง ด้วยสาเหตุ 2 ประการ คือ ผมปวดปัสสาวะ และเริ่มหิวข้าว 5555
ถนนคนเดินที่นครพนม คือ ถนนสายเลียบฝั่งโขง โดยเริ่มตั้งแต่ท่าเรือท่องเที่ยว ไปสิ้นสุดที่หอนาฬิกาประวัติศาสตร์ เป็นระยะทางไม่ยาวนัก เหมาะกับเมืองเล็ก ๆ ผู้คนไม่มากนัก
ผมจอดจักรยานล่ามโซ่ไว้เป็นอย่างดี ติดกับเสาไฟ หน้าท่าเรือท่องเที่ยว แม้ว่าคนที่นี่ยืนยันเรื่องความปลอดภัย แต่ด้วยความเป็นเมืองผ่าน ดังนั้น ของเล็ก ๆ ที่เคลื่อนย้ายง่ายอย่างจักรยาน ก็อาจจะผ่านไปต่างประเทศได้ 5555
และทันทีที่เดินเข้าสู่ถนนคนเดิน ก็เจอของกินเยอะพอสมควร อยากจะเรียกเป็น "ถนนคนกิน" น่าจะได้
มันเผากับอากาศหนาวดูจะเป็นของคู่กัน ผมอยากกินแต่กลัวมือจะเลอะ เพราะต้องถ่ายรูป นี่เป็นอุปสรรคใหญ่มาก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายรูป และเดินทางคนเดียวอย่างผม หุหุ
ร้านขายน้ำ ปกติก็ขายตรงนี้อยู่แล้ว เลยเป็นผลพลอยได้ เมื่อมีการเปิดเป็นถนนคนเดิน
ข้าวจี่ อินเทรนด์มากครับ ขายดีกว่าร้านอื่น ๆ เพียงเพราะเป็นรูปหัวใจ
เสื้อกันหนาวราคาถูกมาก มีทั้งมือใหม่หัดขับ มือสองช่ำชอง มือสาม มือสี่ มือห้า 55555
ร้านนี้ปูเสื่อขายกับถนนเลยครับ ลายสวย ๆ แต่คงไม่ใช่ทอมือเป็นแน่ ลืมถามไปว่าไม่มีผ้าขาวม้าลาวบ้างหรือ อิอิ
น้อง ๆ กลุ่มนี้เดินมาหาทุนทำโครงการอะไรสักอย่าง น่ารักดีครับ
น้องหน้าใส ดู ๆ แล้วน้องเขาคงไม่ซื้อผ้าถุงไปนุ่งเอง คงจะซื้อไปฝากคุณแม่ที่บ้านมากกว่า หรือเพื่อน ๆ ว่ายังไงครับ
ผมว่าข้าวจี่น่าจะเป็นอาหารประจำจังหวัดนครพนมแน่ ๆ เลยครับ เดินไปทางไหนมีไปทั่ว แถมประยุกต์กันหลากหลายมาก มีรสทูน่า รสปลาหมึก รสข้าวโพด รสสาหร่าย แต่ผมชอบรสชาติดั้งเดิมมากกว่า เพื่อน ๆ ล่ะครับ ชอบรสชาติอะไร ????
ไม่รู้ว่าผมอยู่แต่หน้าคอมฯ มากไปหรือเปล่า เลยเพิ่งจะมาพบนวัตกรรมทางอาหารที่พิสดาร...องุ่นเสียบไม้เคลือบช็อกโกแลต เพื่อน ๆ ไม่ต้องหัวเราะกับความเชยของผมเลยนะ 5555
ที่จริงถนนคนกิน เอ๊ย ถนนคนเดิน มีของขายหลากหลายพอสมควร แต่ของบางอย่างผมเห็นชินตาก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาฝากเพื่อน ๆ แต่ของกินล้วนแล้วแต่ที่ผมชอบ ก็เลยได้รูปมาเยอะหน่อยครับ
ปูเสื่อขายของแนวนี้มีให้เห็นทั่วไป ของกระจุกกระจิกน่ารัก ๆ เหมาะกับวัยรุ่น วัยชราแบบผม ก็เลยแค่มองผ่าน ๆ
เด็ก ๆ น่ารักครับ มาช่วยแม่ปิ้งข้าวโพดขาย คุณแม่ยืนกำกับอยู่ข้าง ๆ ต้องขออนุญาตให้เรียบร้อยก่อน คุณแม่ย้ำแล้วย้ำอีก ถ้าไม่สวยห้ามนำมาโพสต์... แซวเล่นนะครับคุณแม่
เมืองเล็ก ๆ ผู้คนคุ้นเคยกัน ยืนถ่ายรูปแป๊บหนึ่งเพื่อน ๆ ของน้องเดินผ่านไป ทักทายกันตลอด...เสน่ห์ของเมืองเล็กเลยครับ
ถนนเล็ก ๆ ในเมืองเล็ก ๆ ความงดงามที่ยังคงดำรงอยู่
ผมพยายามหามุมสวย ๆ ของหอนาฬิกาประวัติศาสตร์แห่งนี้ ซึ่งจริง ๆ มุมสวย ๆ มีมาก แต่ฝีมือคนถ่ายคงไม่ถึงมากกว่า หุหุ
ผมนั่งขัดสมาธิริมถนนตรงนี้เลย แล้วก็เล็งกล้องพยายามถ่ายแชะ ๆ ไปเรื่อย นี่ถ้าเป็นยุคก่อนผมคงโดนข้อหาแอบถ่ายใต้กระโปรงไปแล้ว 5555
เริ่มเบื่อแล้วกับมุมนี้ เป็นภาพสุดท้ายก็แล้วกัน
ไม่แน่ใจว่าเพราะสาว ๆ ชอบมาเดิน ทำให้มีของที่เกี่ยวข้องกับสาว ๆ เยอะแยะ หรือว่าเพราะมีของเยอะแยะเกี่ยวกับสาว ๆ เลยทำให้สาว ๆ ชอบมาเดิน ใครรู้บ้างวานบอกกันหน่อยครับ
พี่คนนี้ดูมีความสุขกันการทำอาหารมาก ประณีตจริง ๆ ทำให้ผมนึกถึงซีรีส์เกาหลีเกี่ยวกับการทำอาหารเลยครับ ผมยังจำมาเลียนแบบท่าโรยเกลือลงอาหารด้วยนิ้ว 3 นิ้ว อย่างละเมียดละไม
นี่ก็อร่อยอีก สาว ๆ เดินกินกันอย่างไม่กลัวอ้วนเลย 5555
ปีที่แล้วผมไปที่แม่วงก์ ก่อนเข้าอุทยานฯ เราแวะซื้อของกินกันที่ตลาด ก็จะเจอพวกเสียบไม้แนว ๆ นี้ แม่ค้าที่นั่นคุยให้ฟังว่า เมื่อก่อนก็เสียบไม้เอง แต่ตอนหลังใช้วิธีสั่งจาก กทม. แล้วมาปิ้งขายเลย ไม่เหนื่อยมาก แล้วก็ขายดีด้วย ก็เลยไม่แน่ใจว่าที่นครพนมจะใช้สูตรเดียวกับที่โน่นหรือเปล่า
หมูปิ้งเสียบไม้แบบนี้ก็เหมือนกัน เห็นไม้แล้วคุ้น ๆ หน้าในแมคโคร แต่ที่เสียบไม้ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ 5555
แถวบ้านผมเรียก "ไข่หงส์" แต่แม่ผมบอกว่าเมื่อก่อนไม่ได้เรียกแบบนี้ ชื่อเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ลงบ่อปลาบ่อไหนเจ้าของบ่อหมดตัวบ่อนั้น
หน้าตาสวยงาม น่ากินมากครับ ผักสด ๆ ผมเห็นที่แปลงเมื่อวานนี้ แถวชานเมืองนี่เองครับ
สมกับเป็นถนนคนกินจริง ๆ ครับ ผมเห็นคุณสาว ๆ แวะตลอดทาง ไม่อ้วนก็ให้รู้ไป
วัฒนธรรมการกินไม่มีพรมแดนจริง ๆ เพื่อน ๆ คิดแบบผมไหมครับ
ร้านแนวผ้าถุงหรือสินค้าในชุมชนมีไม่กี่ร้าน แต่ผมชอบถ่ายรูปร้านแนวนี้ ก็เลยดูเหมือนมีหลายร้าน...สร้างภาพ หุหุ
บรรยากาศทั่วไปจะออกแนวนี้ มีสินค้าไม่มากนัก ปูเสื่อกันง่าย ๆ ไฟสักดวง พอส่องให้เห็น ...
ขนมเบื้อง...มาตรฐาน ผมเคยไปกินที่บ้านเพนานแล้ว ยังรู้สึกอยากจะขายบ้าง แต่ก็เป็นเพียงแค่ความคิด จนเดี๋ยวนี้ไปที่ไหนก็เห็นไปทั่ว
ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่ดูแปลกตา ไม่เคยเห็นมาก่อน คนที่ยืนรอก็ยังคงเป็นสาว ๆ อยู่นั่นเอง อ้วนไม่กลัว กลัวไม่อ้วน หุหุ
ตอนเป็นนิสิต เวลามีงานเกษตรแฟร์ เราจะคิดขายโน่น นี่ นั่นไปเรื่อย แล้วเราก็ไปติดต่อมาขายกัน กะว่าจะมีกำไรเพื่อเอาไว้ทำกิจกรรมกัน พอดีมีหน้าร้านว่างอยู่ ก็เลยเอาเตาแบบนี้แล้วก็ซื้อลูกชิ้นมาเสียบไม้ปิ้งขาย กะว่าจะเอาแบบฮา ๆ พอหมดงาน สรุปรายได้ปรากฏว่ายอดกำไรลูกชิ้นปิ้งแซงหน้าสินค้าหลักที่เราคิดไว้ไปถึงไหน ๆ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
เห็นสาว ๆ กำลังมุงเสริมความงามให้เล็บ ก็เลยโผล่หน้าเข้าไปขอเก็บภาพสักหน่อย สาว ๆ ก็เต็มใจโพสท่าให้อย่างเต็มที่ 5555
ของกินอีกละ...ก็ถนนคนกินนี่นา 5555
คิดว่าตัวเองเบื่อแล้วกับภาพหอนาฬิกาประวัติศาสตร์แห่งนี้ แต่ก็อดใจไม่ได้ต้องขออีกสักแชะ ก่อนจะเดินกลับ
คุณป้ามีสมาธิมากในการหยอดไข่ใส่ในช่อง โดยมีคุณลูกสาวนั่งช่วยอยู่ข้าง ๆ จะว่าไปแล้วนั่งสมาธิไม่ต้องไปนั่งที่วัดก็ได้ ริมถนนคนเดินก็สามารถ หุหุ
น่ากินไหมครับ...ส่วนตัวกระผมขอยกธงขาว อายุมากแล้วคงต้องระวังเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ
เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ถนนคนเดินมีให้เห็น คือ น้อง ๆ มาปูผ้านำเสนอความสามารถพิเศษของตนเอง นานมากแล้วที่ไนท์พลาซ่าที่เชียงใหม่ ผมเคยได้กำลังถักหญ้ามาฝากเพื่อน ๆ ที่ กทม. แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป จากถักหญ้ามาเป็นร้อยพลาสติกแทน
สินค้าทำมือ ร้อยเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ และอื่น ๆ ได้ตามใจ ที่อยากจะให้ร้อย น่ารักทั้งคนร้อยและของที่วางตรงหน้าครับ
ผ้าพันคอสวย ๆ กับอากาศหนาว ๆ ของคู่กัน
ตุ๊กตากองใหญ่ ดึงดูดเด็กเล็ก เด็กโต รวมทั้งคุณแม่ที่ยังเด็กอยู่ หุหุ แวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย
ตบท้ายก่อนเก็บกล้องลงกระเป๋า พยายามมองหาที่ปัสสาวะซึ่งเริ่มจะคุกคามหนักหนาแล้ว จนในที่สุดเห็นมีร้านน้องนั่งดริงก์อยู่ร้านหนึ่ง ก็เลยตรงรี่เข้าไป...มาม่าซังผู้มีอัธยาศัยให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แม้เมื่อผมบอกว่าขอเข้าห้องน้ำเท่านั้น ขอขอบคุณ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ ได้ถ่ายรูปมาม่าซังคนสวยมาด้วย แต่ขอเก็บไว้ดูคนเดียวนะครับ อิอิ
หลังจากนั้นก็เดินลิ่ว ๆ กลับมาที่จักรยาน ตอนนี้สองทุ่มเกือบครึ่งแล้ว ท้องร้องจ๊อก ๆ ยังนึกไม่ออกว่าจะไปกินอะไรดี แล้วก็สรุปที่ร้านข้าวต้มตรงใกล้ ๆ ด่านตรวจคนเข้าเมือง กับทุกอย่างจานละ 15 บาท ข้ามต้มชามละ 3 บาท ผมสั่งมา 3 อย่าง แล้วก็ข้าวต้ม 4 ชาม พุงกางไปเลย
น้าเจ้าของร้านเดินออกมาขอโทษ ว่าอาหารมีไม่กี่อย่าง เพราะใกล้จะปิดร้านแล้ว ผมก็เลยบอกไปว่าที่เหลืออยู่เป็นของชอบของผมทั้งนั้น ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ จากนั้นผมก็ขี่จักรยานเรื่อยเปื่อย กลับ The River หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน คืนที่สามแล้วที่ผมนอนเตียงนุ่ม ๆ บรรยากาศดี ๆ พรุ่งนี้เช้าค่อยเจอกันใหม่ครับ