เที่ยวไทยหน้าฝน...ไปไหนดี ? คำถามนี้คงเกิดขึ้นในใจใครหลาย ๆ คน เมื่อย่างก้าวเข้าสู่ช่วงสายฝนโปรยปราย
สำหรับคนที่อยากออกไปโลดแล่นสัมผัสบรรยากาศการเที่ยวหน้าฝน สูดอากาศบริสุทธิ์ เสพความเขียวขจีของขุนเขา แต่ดันติดตรงที่ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี หรือกลัวเกรงว่าจะไม่สวยเหมือนฤดูอื่น ๆ ดังนั้น กระปุกท่องเที่ยวเลยขอหยิบเอาไกด์ไลน์ 40 วิวแห่งขุนเขา และ 40 วิวแห่งสายหมอก จากบันทึกการเดินทางที่มาพร้อมกับภาพถ่ายสุดตระการตาของ คุณ ชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาให้ชมกัน ขอบอกว่าแต่ละสถานที่ของดีเมืองไทยทั้งนั้นนะจ๊ะ ^^
วันนี้ผมได้รวบรวมการเดินทางของตัวผมเองที่ได้ไปสัมผัสมาเกือบ 40 วิวแห่งขุนเขา และ 40 วิวแห่งสายหมอก มัน เป็นภาพแห่งความประทับใจ เป็นทั้งความสุขและความทรงจำดี ๆ ของภูเขาหน้าฝนมาตลอดสามปีที่ผ่านมาอย่างมากมาย มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับตอนที่ผมเข้าไปดูหนังเรื่องหนึ่งแล้วผมก็ชอบ มัน กลับมาผมก็อยากมาเล่าอยากให้ใครที่ผมรักได้ไปดูกัน และในตอนที่ผมกำลังจะเล่ามันก็บังเอิญเหมือนได้กลับไปอยู่ในช่วงเวลาดี ๆ แบบนั้นอีกทุกครั้ง !!! อาจ จะมีใครสักคนที่เดินผ่านเข้ามาแล้วก็มานั่งพักที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ค่อย ๆ ดูรีวิวฉบับนี้ แล้วก็ได้พบเจออะไรบางอย่าง ? บางอย่างที่อาจจะเป็น "แรงบันดาลใจ" ที่ครั้งหนึ่งผมไม่เคยรู้จักมัน หรือบางทีผมอาจจะทำมันหายไปในตอนไหนก็ไม่รู้ แล้ววันหนึ่งผมก็ค่อยสะสมแรงบันดาลใจ และเป็นที่มาของบันทึกการเดินทางในครั้งนี้
ภูเขาฤดูฝนคือสิ่งที่ผมรัก ผมไม่รู้ว่าผมหลงรักสิ่งนี้ไปตั้งแต่ตอนไหน ตั้งแต่จำความได้ตอนเด็ก ๆ นั้นล่ะมั้ง จุดเริ่มต้นผมรู้สึกชอบภูเขา ชอบมองมันทุกครั้งเวลาได้นั่งรถผ่านวิวภูเขาเสมอ และเมื่อวันหนึ่งผมพร้อมที่จะเดินทางด้วยตนเอง มันก็ถูกเริ่มต้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากภูเขาที่หนึ่งในตอนนั้น เชื่อมต่อเส้นทางของขุนเขาสีเขียวทั่วเมืองไทยให้กับผม มันเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกที่ดีมาก ๆ เวลาเห็นภูเขาสีเขียว สีที่ทำให้โลกนี้ของผมเต็มไปด้วยความทรงจำของตั้งหลายเรื่อง บางทีอาจจะดูเป็นเรื่องไร้สาระของใครหลายคน แต่สำหรับผมมันยิ่งใหญ่มากในช่วงเวลาที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งวันนี้
มันเป็นความทรงจำที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นทีละเล็กทีละน้อย และหนึ่งในความทรงจำเรื่องหนึ่ง ก็คือ การได้มีโอกาสใช้เวลาเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงทุกช่วงเวลาของภูเขา เพื่อรอคอยบางสิ่งบางอย่าง ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่รู้ว่ามันอาจจะทำให้สิ่งที่ผมเคยทำหายในตอนเด็ก ๆ ได้วนกลับมาอีกครั้งในตอนนี้ มันต้องเป็นแรงบันดาลใจที่จะได้ทำอะไรในแบบที่ผมรัก ในแบบที่ผมรู้สึกสนุก และอยู่ในมุมมองที่ผมอยากทำ ^^ ทะเลหมอกหน้าฝนมันคือแรงบันดาลใจของผม หนึ่งในความรักที่ทำให้ผมโลดแล่นไปกับภูเขาหน้าฝนเสมอ ต่อให้มันมาแล้วก็จางหายไป แต่สุดท้ายมันก็จะกลับมาอีก ให้ผมได้เฝ้ารอเพื่อที่จะได้เห็นทุก ๆ ครั้งในการเดินทางครั้งถัดไปเสมอ !!!!
มันคงคล้ายกับที่ผมรู้สึกกับที่แห่งนี้ในตอนแรก ๆ มันให้ความรู้สึกที่อยู่ใกล้บ้าน เลยไม่เคยได้วางแผนไปสักที แต่พอได้ไปในครั้งนั้น ผมก็หลงรักที่นี่ทันที มันเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ตอบแรงบันดาลใจผมได้เป็นอย่างดี
1. เส้นทางของขุนเขาและทะเลหมอก @ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
มันคือ 1 ใน 3 ของอุทยานแห่งชาติที่ผมชอบมากที่สุด ด้วยความงดงามของทิวทัศน์และความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ในฤดูฝน ผมรู้ว่าถ้าผมมาที่นี่วันไหนก็แล้วแต่ ผมจะได้เห็นความสวยงามของท้องทะเลแห่งขุนเขา และได้เห็นสายหมอกสีขาวแห่งทะเลหมอกอยู่เสมอ ตลอดเส้นทางตั้งแต่รู้สึกขับขึ้นเขา สองข้างทางเต็มไปด้วยภูเขาสวย ๆ และมีจุดชมวิวหนึ่งที่สวยมาก คือ จุดชมวิว กม.12 ก่อนถึงที่ว่าการอุทยานประมาณ 6 กิโลเมตร ผมมักใช้เวลาที่นี่ทุกครั้งเสมอ มันเหมือนเพื่อนเก่า ที่ยังไงก็ต้องแวะทักทาย แล้วขับรถต่อไปอีกนิดก็ถึง อช.ทองผาภูมิ ภายในตัวอุทยานฯ จะมีจุดชมวิวที่สวยงามมาก คือ จุดชมวิวเนินกูดดอย และ จุดชมวิวเนินช้างเผือก ผมไปที่นี่มาสองครั้งในรอบ 2 ปี และได้มีโอกาสนอนบ้านทาร์ซานในตัวอุทยานฯ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก แม้จะมีหนูเต็มบ้านทาร์ซาน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องที่ขำปนสยองในคืนเดือนมืดที่ฝนตกหนักทั้งคืน แต่ธรรมชาติของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาและสายหมอก ยังคงทำให้ที่นี่เป็นปลายทางในแต่ละปีของผมเสมอ
2. ชมวิวทะเลหมอก 360 องศา @ ฐานปฏิบัติการช้างศึก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
ทุกครั้งที่ไปทองผาภูมิ ผมจะไม่มีทางพลาดจุดชมวิวที่ดีที่สุดอีกที่หนึ่ง มันคือ ฐานปฏิบัติการช้างศึก ด้วยวิวที่ผมสามารถมองเห็นวิวภูเขาได้ 360 องศา 360 องศาที่มองเห็นภูเขาที่จะทำให้ผมหลงรักมัน เล่ากันว่าในวันที่อากาศดีจะสามารถมองเห็นทะเลอันดามันตรงอ่าวเมาะตะมะของ พม่า ^^ และในฤดูฝนโอกาสที่จะเจอทะเลหมอกในตอนเช้าสูงมาก มันเป็นทะเลหมอกที่ทำให้ผมลืมที่นี่ไม่ลงจริง ๆ
3. นอนบ้านแพสบายใจ @ เขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือเขื่อนเขาแหลม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
อีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นทางผ่าน แต่เวลาไปเที่ยวทองผาภูมิต้องแวะทุกครั้ง เพราะมันอยู่ติดถนนใหญ่ อยู่เหนืออำเภอทองผาภูมิไปประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่ได้เห็นทั้งภูเขา สายน้ำ สายหมอก และลิงซน ๆ หลายตัวเลย วันนั้นผมขับรถเข้าไปชมที่สันเขื่อน บรรยากาศสบาย ๆ ที่สำคัญไม่เสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชม และขับรถมาเรื่อย ๆ เลยทางแยกเข้าเขื่อนไป 3-4 กิโลเมตร ก็จะมีบ้านพักหลากหลาย ไม่ว่าจะอยู่ริมน้ำหรือบนน้ำ มีร้านอาหารน่าทานอร่อย ๆ หลายแห่ง ตกแต่งร้านเข้ากับเขื่อนอย่างสวยงาม วันสบาย ๆ อีกหนึ่งวันที่ไม่ต้องรีบร้อนที่จะทำอะไร ได้ใช้ชีวิตให้เวลาค่อย ๆ หมดไป เป็นอะไรที่ดีมาก
4. ความหลังและความทรงจำ @ ขุนเขาแห่งทับลาน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
ผมนึกถึงขุนเขาแห่งทับลานตอนไหน ผมก็เห็นแต่ภูเขาสีเขียว สลับซับซ้อนเรียงตัวกันไปมา มันมีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอปักธงชัย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี สภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์และมีป่าลาน แต่เชื่อว่าหลายคนไม่ค่อยได้รู้จักกันเท่าไหร่ แล้วถ้าเราจะมองขุนเขาแห่งทับลาน...มองจากตรงไหนดี ? แต่สำหรับผม จุดชมขุนเขาแห่งทับลานได้สวยที่สุดคงเป็นตรง หมู่ 4 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี มีที่หนึ่งที่ไม่ผิดกฎหมายการบุกรุกป่า นั่นคือ สวนสุบินโฮมเสตย์ มุมนี้จะมองเห็นขุนเขาแห่งทับลานได้สวยมาก สวยจนผมรู้สึกไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล ๆ เพราะมันอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้เอง
เดินทางมาอีกนิดยังไม่ทันเหนื่อยเลย เพราะภูเขาโซนนี้มีที่ให้เราได้ท่องเที่ยว มีที่ให้ได้ชมเยอะมาก มันเป็นความแตกต่างของขุนเขาที่ทำให้หลายที่กลายเป็นจุดชมวิวที่สามารถมอง เห็นความแตกต่างของภูเขาได้สวยมาก
5. ยิงหนังสติ๊กปลูกป่า @ ผาเก็บตะวัน อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
มันคือจุดชมวิวของวังน้ำเขียว ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติทับลาน สามารถชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็น และเป็นที่ตั้งของหลักแบ่งเขตจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดนครราชสีมา ผมเองไปที่นี่บ่อยมาก อยากเห็นทะเลหมอกที่จุดชมวิวตรงนี้ แต่ก็พลาดทุกครั้ง อ้อ...ลืมไป มีหนังสติ๊กให้ผมได้ปลูกป่าด้วย
อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ๆ ที่ห้อมล้อมด้วยวิวขุนเขาบนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ในเขตตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ปากทางเข้าอยู่ริมถนน 304 กม.31 ปากทางเข้าอยู่ก่อนถึงที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 2 กิโลเมตร ตรงกับหลัก กม.31 ให้เลี้ยวขวาที่ทางแยก มีป้ายบอกตรงปากทาง ไปตามถนนดินอีก 2 กิโลเมตร ก็จะเจอแล้วครับ ผมชอบที่นี่มาก ๆ มันสงบเงียบด้วยวิวขุนเขาที่ล้อมสายน้ำไว้ อีกหนึ่งที่ที่ต้องแวะไปทุกครั้ง
นึกถึงตอนเด็ก ๆ ที่ได้เริ่มทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ทุกสิ่งคือความตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสนุกสนานเสมอ และนี่คงเป็นจุดเริ่มต้นให้ผมได้ขี่จักรยานแน่ ๆ เลย สถานที่ที่ส่งให้ผมโลดแล่นบนเส้นทางของขุนเขาอีกมากมาย
7. นอนสบายมองวิวเขา @ วังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
พูดถึงวังน้ำเขียว หลายคนคงรู้สึกชิน อาจจะเพราะว่าอยู่ใกล้เลยได้ไปบ่อย ๆ หรือจะรู้สึกว่ามันหมดความเขียวแล้ว แต่พอฤดูฝนเริ่มทำงานวังน้ำเขียวก็กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ภูเขาเริ่มกลับมามีสีเขียว มีรีสอร์ทที่พักหลายที่ที่ตอบสนองต่อการพักผ่อนในวันหยุด มีวิวให้เลือกหลายแบบ อาจจะเป็นวิวที่เห็นขุนเขา หรือจะเป็นวิวของอ่างเก็บน้ำ ในช่วงฤดูฝนวังน้ำเขียวก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่น่าไปเที่ยวมาก ผมชอบไปเที่ยวตอนหน้าฝน เพราะวังน้ำเขียวจะกลับมาเขียวอีกครั้ง และที่สำคัญค่าที่พักจะถูกลงเยอะเลย มันให้ความรู้สึกจากครั้งหนึ่งที่ภูเขาไม่เคยมีสีเขียว และสายหมอกไม่เคยมีสีขาว ฤดูกาลที่ผ่านมาไม่เคยสร้างเรื่องราว เหมือนกับว่าทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิม จนกระทั่งเมื่อภูเขาและสายหมอกเปลี่ยนแปลงฉัน มันอาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้ ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนผมยังจำความรู้สึกนี้ได้ดี จุดเริ่มต้นการเดินทางของผมเมื่อสามปีที่แล้ว
8. ชมทุ่งกระเจียว @ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ
ทุก ๆ ปีในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม จังหวัดชัยภูมิจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะสีชมพูจะบานในใจของคนที่รักดอกไม้ นั่นคือ เทศกาลชมทุ่งกระเจียว ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต ผมกำลังพูดถึงดอกกระเจียวสีชมพูอมม่วงและสีขาว จะผลิดอกบานชูช่อสวยสดงดงามเต็มทั่วท้องทุ่ง อีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฤดูฝน และเนื่องจากที่นี่ใกล้กว่า อช.ไทรทอง ดังนั้น ที่นี่คนจะเยอะมากในวันหยุด แต่ถ้าวันธรรมดาก็โอเค จากประสบการณ์ 2 ครั้งในสองปีที่ไปทุ่งกระเจียวมา ขอแนะนำแบบนี้นะครับ ช่วงที่ทุ่งกระเจียวเริ่มออกดอก คือ ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงสิงหาคม แต่แนะนำช่วงต้น ๆ นะครับ เพราะจะเห็นแต่สีเขียวกับสีชมพู ถ้าไปช่วงกลางหรือท้าย ๆ ก็จะเห็นสีน้ำตาลของดอกที่โรยราแล้ว จะไม่ค่อยงาม แต่ก็สวยอยู่
*** แนะนำให้ติดตามวันต่อวันเลย แล้วเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุด อาจโทรศัพท์ไปถามเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ นะครับ ผมเองก็ทำแบบนี้แล้วเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุด จะได้บรรยากาศที่ดีที่สุดเสมอ
ปล. ไปแต่เช้านะครับ ทั้งสายหมอก ดอกไม้ ต้นไม้ ภูเขา บรรยากาศสวยมาก แต่ถ้าไปวันหยุดทำใจไว้นิดนะครับ เพราะคนจะเยอะมาก
9. เดินป่าดูทุ่งกระเจียว @ อุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ
ไปดูทุ่งกระเจียวที่ป่าหินงามแล้ว ขับรถมาอีกประมาณ 80 กิโลเมตร คุณก็จะได้เห็นอีกหนึ่งบรรยากาศของทุ่งกระเจียว ที่ผลิดอกบานชูช่อสวยสดงดงามเต็มทั่วท้องทุ่งไม่แพ้กับที่ อช.ป่าหินงาม แม้การชมทุ่งกระเจียวในที่แห่งนี้จะต้องใช้แรงเท้าในการเดินชมมากกว่าทุ่ง แรก แต่คุณจะประทับใจแน่นอนกับธรรมชาติของทุ่งกระเจียวที่นี่ สองปีที่ผ่านมามันเคยเข้ามาทำงานในใจผม ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยรู้สึกว่าอยากไปเลย แต่พอได้ไปก็อยากไปซะทุกปี
สิ่งที่แตกต่างกัน ก็คือ ทุ่งดอกกระเจียว (ทุ่งบัวสวรรค์) ของอุทยานแห่งชาติไทรทอง สภาพโดยทั่วไปจะยังคงความเป็นธรรมชาติมากกว่าที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เราจึงสามารถสัมผัสกับบรรยากาศแบบเดิม ๆ ของทุ่งดอกกระเจียวเหมือนเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว
10. ชมทะเลหมอกหน้าระเบียงบ้านพัก @ เขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เป็นอีกขุนเขาที่หนึ่งที่ผมชอบมากที่สุด เพราะในหน้าฝนเทือกเขาน้อยใหญ่บนเขาค้อจะมีเมฆหมอกปกคลุมให้เห็นอยู่เสมอ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีและอยากแนะนำเที่ยวเขาค้อ คือ ภูเขาในฤดูฝนเขียวและสดชื่นมาก แม้บางพื้นที่จะเป็นภูเขาหัวโล้น แต่ยามหน้าฝนมันก็กลับถูกปกคลุมด้วยต้นหญ้าที่มาเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ รู้สึกสดชื่นสบายตายิ่งนัก และจุดเด่นของเขาค้อ คือ การได้รอชมทะเลหมอกรอบอ่างเก็บน้ำรัตนัยที่ตัวอำเภอเขาค้อ
เมื่อพูดถึงฟ้าหลังฝนเขาค้อแล้ว หากจะไม่พูดถึงทะเลหมอกยามหน้าฝนบนเขาค้อก็ดูจะกระไรอยู่ เพราะทะเลหมอกบนนี้ถือเป็นเสน่ห์ที่ผมหลงรักมาก โดยหมอกฝนจะแตกต่างออกไปจากหมอกยามหน้าหนาวที่ดูขาวเนียน ลอยพลิ้วฟูฟ่อง แต่ว่าหมอกฝนบนเขาค้อจะดูขาวหม่น แต่ดูชุ่มฉ่ำเป็นละอองลอยเอื่อย ๆ ตามสายลม แถมหมอกฝนยังมีกลิ่นหอมชุ่มฉ่ำจาง ๆ ที่หากเดินอยู่ท่ามกลางสายหมอกก็จะสัมผัสได้ ซึ่งในฤดูฝนโอกาสที่จะได้เจอทะเลหมอกในเขาค้อสูงกว่าฤดูหนาวด้วยซ้ำไป และการได้ตื่นนอนตอนเช้าออกมายืนที่หน้าระเบียง แล้วเห็นวิวทะเลหมอกแบบนี้ มันเหมือนความฝันที่มันมีอยู่จริง
ปล. ที่พักที่มองเห็นวิวทะเลหมอกจะอยู่รอบริมอ่างเก็บน้ำในตำบลเขาค้อนะครับ มีให้เลือกเยอะมากมาย
11. ไหว้พระอิ่มใจ ชมวิวอิ่มตา @ ผาซ่อนแก้ว อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ถ้าใครมาเที่ยวเขาค้อไม่อยากให้พลาดที่นี่นะครับ มาไหว้พระและชมวิวภูเขา 360 องศา เมื่อเงยหน้าขึ้นสูงหน่อยก็พบกับเนินเขาลูกเล็กลูกน้อยสลับกันไปมา และเงยหน้าสูงขึ้นไปอีกก็พบกับผาซ่อนแก้ว ผาใหญ่ที่สงบเงียบมั่นคง สวยงามสุด ๆ ในฤดูฝน เพราะเมฆหมอกจะมารวมตัวกันอยู่บริเวณนี้เกือบทั้งวัน ถ้าขับรถลงจากเขาค้อถึงแยกแคมป์สนก็เลี้ยวขวา มุ่งหน้าไปทางหล่มสัก อย่าลืมเข้าช่องซ้ายสุดเลนนอกไว้ครับ เดี๋ยวต้องเลี้ยวซ้ายกัน ระยะทางจากแยกแคมป์สนสัก 2 กิโลเมตร ก่อนที่จะหมดถนน 4 เลน ก่อนถึง อบต.แคมป์สน มีป้ายอยู่ซ้ายมือครับ แล้วก็เลี้ยวซ้ายตรงเข้าไปหน่อยก็เห็นแล้วครับ
เสียงโทรศัพท์บอกเวลาให้ผมตื่นเช้าทุกครั้ง "แต่เสียงนั้นแค่ทำให้ผมตื่น แต่เสียงของภูเขาที่ไหนสักแห่งที่ทำให้ผมอยากเดินทางอีกครั้ง" ภูเขาจากที่หนึ่งเชื่อมภูเขากับอีกที่หนึ่งเสมอ ตัวผมก็คงเป็นแบบนั้นเหมือนกัน ผมชอบภูเขามาก มันมีมิติของความรู้สึก มีความกว้าง ความลึก และความสูง บรรยากาศที่พร้อมจะเปลี่ยนไปทุกช่วงเวลาให้ผมได้ตื่นตาตื่นใจ และสนุกกับการได้เฝ้าดูมัน
12. ชมวิวจิบกาแฟเบา ๆ @ อุทยานแห่งชาติเขาค้อ โซนผาซ่อนแก้ว ริมถนน 12 อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
แม้มันจะไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่มันก็เป็นที่พักใจพักสายตาอย่างดีที่สุดของเขาค้ออีกแห่งหนึ่ง ธรรมชาติของขุนเขาคืออาหารตาของที่แห่งนี้ ผมกำลังพูดถึงคอฟฟี่ฮิลล์เก่า แต่ตอนนี้มันกลายเป็นจุดชมวิวภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาค้อ โซนผาซ่อนแก้ว มันคือ จุดชมวิวตำนานน้ำตกหมอก ทะเลหมอกในตำนานที่ใคร ๆ อยากเห็นมัน และผมก็ยังไม่ได้เห็น การเดินทางก็ง่ายนิดเดียว จากแยกแคมป์สนเลี้ยวขวาไปประมาณ 5 กิโลเมตร (หลักกม.105) อยู่ด้านซ้ายมือ มีบริการเครื่องดื่มและอาหารว่างนะครับ นึกภาพตอนนั่งทานกาแฟ ดูวิวไปแบบเบามันจะสุขแค่ไหน ?
13. ช่วงเวลาที่ดีที่สุด @ ร้านกาแฟคืนชีวิตให้แผ่นดิน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
จากร้านกาแฟเมื่อกี้ขับรถมาต่อมาทางหล่มสักอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร จะเจอร้านกาแฟในฝันของผมนะครับ มันชื่อร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน อยู่ด้านซ้ายมือเช่นกัน ทุกครั้งที่ผมไปเขาค้อผมจะแวะไปที่นี่ทุกครั้งเสมอ และมีทริปหนึ่งที่ผมไปหาที่พักโซนนี้เลย เพื่อที่จะรอดูทะเลหมอกตอนเช้าในโซนนี้ แล้วมันก็เป็นวิวที่สวยที่สุดที่หนึ่งของผม เราทานข้าวต้มตอนเช้า นั่งมองทะเลหมอกที่ค่อยผุดขึ้นมาทีละนิดจนเต็มหุบเขา มันทำให้หัวใจพองโต มีความสุขไปพร้อมกับทะเลหมอกที่ค่อยขยายตัวเรื่อย ๆ มันงามสุดใจจริง ๆ นะครับ ไม่ว่าจะไปกี่ครั้งที่นี่ก็เป็นร้านกาแฟที่สวยทุกครั้งเสมอ คงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเปลี่ยนไปสินะ ^^
14. แอ็คชั่นถ่ายรูปกับป้ายแบบแนว ๆ @ ทุ่งแสลงหลวง หน่วยหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เมื่อไปเที่ยวเขาค้อถ้ามีเวลาลองขับรถไปอีกหน่อย ก็จะถึง อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เพราะในฤดูฝนไม่ว่าที่ไหนมันก็สวยไปหมด ทุ่งหญ้าก็จะเป็นสีเขียว ต้นไม้ก็สีเขียว ภูเขาก็สีเขียว มันเป็นการขับรถชมวิวที่ดีมาก ๆ และถ้าคุณโชคดีอาจจะได้เห็นทะเลหมอกลอยต่ำอยู่เบื้องหน้าหลังป้ายที่ผมยืน อยู่ และมันก็เป็นอีกช่วงเวลาที่ดีที่สุดอีกช่วงหนึ่งของผม
เสียงบางอย่างดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิด สติของผมก็ค่อย ๆ เริ่มคืนกลับมา ความฝันที่เลือนรางแต่ทำไมรู้สึกดี และมันก็ทำให้ผมได้รู้ว่าโลกใบนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน ในขณะที่ตัวเราดูเล็กนิดเดียว ความสุขต่างหากที่ยิ่งใหญ่มากจนมองอย่างอื่นแทบไม่เห็น มุมมองของคนหลายคนคงมีเหตุผลแตกต่างกันไป แต่สำหรับผมความสุขไม่เคยไปไหน และเมื่อผมเขียนคำนี้ "ความสุข...ไม่เคยหายไปไหน" ทำให้ผมรู้ว่า "ภูเขาและสายหมอกก็ไม่เคยไปไหน" เหมือนกัน
15. ภูเขาและสายหมอกไม่เคยไปไหน @ ภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
ถึงจะไม่ได้หนาวสะท้านเหมือนช่วงฤดูหนาว แต่เพราะฝนที่ตกลงมาก็ทำให้ "ภูทับเบิก" มีอากาศเย็นสบายได้ไม่ยาก แถมยังมีสายหมอกในฤดูฝนให้ชื่นชมอีกด้วย ซึ่งความงามของภูทับเบิกในช่วงหน้าฝนนั้น นอกจากความเขียวชอุ่มของขุนเขาแล้ว ไร่กะหล่ำปลีสีเขียวไกลสุดลูกหูลูกตาก็ยังทำให้ตื่นตาเสมอ ที่สำคัญคืออากาศบริสุทธิ์สุดสดชื่น ปลอดโปร่ง เงียบสงบ เหมาะสำหรับไปนั่งชิล ๆ จิบกาแฟรสเยี่ยม เคล้าบรรยากาศดีจริง ๆ ใครจะไปภูทับเบิกช่วงฤดูฝนไปตอนไหนถึงได้เห็นวิวสวย ๆ ถ้าอยากจะเห็นกะหล่ำปลีเยอะต้องรู้จักช่วงเวลาการปลูกกะหล่ำปลีก่อน
กะหล่ำปลี มีอายุในการปลูก 3 เดือน แล้วจะทำการเก็บไปขาย ปลูกเดือนเมษายนเก็บไปขายเดือนกรกฎาคม ปลูกเดือนกรกฎาคมเก็บไปขายเดือนตุลาคม กะหล่ำปลีจะมีให้ชมสวย ๆ ในช่วงเดือนมิถุนายนและเดือนกันยายน แต่ปัจจุบันสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ควรโทรศัพท์สอบถามที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนไปนะครับ (วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก โทรศัพท์ 08 5733 9737)
16. คลายร้อน กระโดดน้ำ @ คลองลาน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
แม้จะเข้าฤดูฝนแต่ก็ยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวในบางวัน พาให้นึกถึงน้ำตกที่หนึ่ง ที่ดูยิ่งใหญ่มาก รถสามารถขับเข้าไปถึงจุดชมวิวน้ำตกได้เลย ผมกำลังพูดถึงน้ำตกคลองลาน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก หน้าผาน้ำตกมีความสูงถึง 95 เมตร และกว้างประมาณ 40 เมตร มันเลยเป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมมาก สำหรับผมเองถ้าไปที่แห่งนี้ ผมจะขับไปอีกหน่อยก็จะถึง อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ซึ่งห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตร ด้วยนะครับ ได้เที่ยวทั้งสองที่เลย
17. ช่องเย็นมันเย็นมาก @ แม่วงก์ อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
ป่าแม่วงก์เป็นรอยต่อของสองจังหวัด คือ กำแพงเพชรและนครสวรรค์ ส่วนที่อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์เรียกว่า ป่าแม่วงก์-แม่เปิน ส่วนที่อยู่ในจังหวัดกำแพงเพชรเรียกว่า ป่าคลองแม่วงก์-ป่าคลองขลุง ในฤดูฝนฝนที่ตกลงมาทำให้ป่ากลับมาสดชื่นอีกครั้ง มันเหมาะสำหรับคนอย่างผม คนที่หลงรักภูเขา หลงรักต้นไม้ หลงรักความเป็นธรรมชาติของสายหมอก และที่นี่คือคำตอบ มันมีจุดชมวิวให้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวกิ่วกระทิง จุดชมวิวขุนน้ำเย็น และช่องเย็น ที่รถสามารถขับรถขึ้นไปจนถึง และผมรักที่นี่มาก
18. จุดชมวิวภูสวรรค์ อช.แม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร
ถ้าได้ขึ้นไปที่จุดชมวิวช่องเย็นแล้ว อย่าลืมแวะขึ้นไปต่ออีกนิดนะครับ เป็นจุดชมวิวภูสวรรค์อยู่ด้านหลังของบ้านพักเรือนแถวช่องเย็น เดินขึ้นเขาซึ่งค่อนข้างชันไปอีก 300 เมตร ดูเหมือนไม่ไกลแต่พอได้ไต่ปีนขึ้นผมนี่ขาสั่น เล่นเอาแทบเหนื่อยเลยนะครับ ^^ แต่พอได้เห็นบรรยากาศและวิวที่อยู่ต่อหน้า ผมก็ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงเรียกที่นี่ว่า "ภูสวรรค์"
19. เกาะกำแพงเพชร อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร
จากตัวเมืองกำแพงเพชร มุ่งหน้าไปทางเหนือเส้นทางไปจังหวัดตาก มุ่งหน้าสู่อำเภอ อำเภอโกสัมพีนคร ผมมาที่นี่เพื่อมาดูความสวยงามของธรรมชาติริมแม่น้ำปิง อยู่หลักกิโลเมตรที่ 485 อยู่ด้านขวามือ ตั้งอยู่ที่บ้านเกาะตำแย-เกาะเสือ หมู่ที่ 5 ตำบลโกสัมพี อำเภอโกสัมพีนคร อยู่ห่างจากถนนพหลโยธินเพียง 200 เมตรเท่านั้น เรื่อย ๆ มาเรียงๆ ที่ผมได้ผ่านเข้ามาที่นี่ บรรยากาศริมแม่น้ำปิงสวย สงบ และบรรยากาศดีเสมอ ได้มีโอกาสมาหลบฝนในตอนเย็น ๆ ทำให้ที่นี่สวยอย่าน่าทึ่ง สำหรับตอนนี้หรือตอนไหน ๆ มันก็ดีเสมอ แม้จะเคยนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้นมาได้สักพักใหญ่ ๆ ก็ตาม
20. โลกแห่งความฝัน @ อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดตาก
กำลังคิด ๆ ว่าจะไปไหนต่อดีในฤดูฝน ใกล้ ๆ ก็ไปมาหมดแล้ว ลองไปเที่ยวภูเขาเมืองตากดูไหม ที่ผมกำลังจะไปนั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เดินทางสะดวกมากเพราะตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 (ตาก-แม่สอด) ห่างจากตัวอำเภอเมืองตากประมาณ 35 กิโลเมตร ที่นี่ผมชอบนะ เงียบสงบ เพราะนักท่องเที่ยวไปพักกันน้อย ส่วนใหญ่ก็เลยไปแม่สอด ไม่ก็อุ้งผาง ไม่ก็ขึ้นแม่ฮ่องสอน ทำให้ที่นี่เป็นอีกที่ที่เหมาะสำหรับคนรักความสงบและไม่ไกลจนเกินไป ^^
21. ชมเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย @ เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
หลายคนคงได้มีโอกาสขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือบ่อย ๆ ไม่ว่าจะไปเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน คงได้ผ่านจังหวัดตาก ทางผ่านที่ต้องผ่านเสมอ ถ้ามีเวลาลองไปเที่ยวที่นี่นะครับ มันมีทั้งภูเขา ต้นไม้ และสายน้ำ ผมกำลังพูดถึง "เขื่อนภูมิพล" ซึ่งห่างจากถนนทางหลวงหมายเลข 1 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 463 จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าเขื่อนภูมิพลประมาณด้วยระยะทางเพียงแค่ 17 กิโลเมตร เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งและเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของ ประเทศไทย เดิมชื่อเขื่อนยันฮี ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2500 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระปรมาภิไธยให้เป็นชื่อเขื่อนว่า เขื่อนภูมิพล ลักษณะของเขื่อนเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย สร้างปิดกั้นลำน้ำปิงที่บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีรัศมีความโค้ง 250 เมตร สูง 154 เมตร ยาว 486 เมตร ความกว้างของสันเขื่อน 6 เมตร ถ้าได้ขึ้นไปเที่ยวเหนือต้องแวะไป
22. ท้าภูเขา ยลสายหมอก @ อุทยานแห่งชาติแม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
ผมกำลังพูดถึงอีกหนึ่งอุทยานแห่งชาติที่ทำให้ผมรู้สึกดีอย่างเป็นที่สุด กับผืนป่าที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย มันคือ อุทยานแห่งชาติแม่เมย ตั้งอยู่ในเขตอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนสหภาพพม่าโดยมีแม่น้ำเมย เป็นเส้นแบ่งเขตแดน เป็นอีกหนึ่งอุทยานฯ ที่มีความสวยงามและอลังการของทะเลหมอกไม่แพ้ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ม่อนปุยหมอก ม่อนครูบาใส ม่อนกระทิง ม่อนกิ่วลม และม่อนพูนสุดา ซึ่งแต่ละจุดเป็นจุดชมทิวทัศน์ของขุนเขาสีเขียวและทะเลหมอกสีขาวที่สวยงาม มาก
23. ขุนเขาหัวใจสีเขียว เสน่ห์แห่งอีสาน @ ภูนาคำรีสอร์ท อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
นึกถึงเช้าวันหนึ่งที่ผมตื่นนอนแล้วก็เห็นบรรยากาศแบบนี้ที่ด่านซ้าย มันเป็นความรู้สึกดีจริง ๆ ด่านซ้ายเป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่ซ้อนตัวในหุบเขา เป็นเมืองเล็กของจังหวัดเลย อาจจะเหมือนเป็นเมืองผ่าน เพราะผู้คนส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าไปภูเรือ ไม่ก็เชียงคานกันทั้งนั้น แต่ถ้ามีเวลาสักคืนลองแวะพักชมวิวอยู่ในบรรยากาศแบบนี้สักคืนน่าจะดีนะครับ ขุนเขาที่ล้อมรอบตัวผมในวันนั้น มันทำให้วิว 360 องศา กับสายหมอกในฤดูฝนสวยจับใจ และมันก็ทำให้ที่พักในวันนั้น ภูนาคำรีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งบ้านพักที่ทำให้ฤดูฝนยังคงทำงานเสมอ
ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหน ดูเหมือนว่า อุทยานแห่งชาติภูเรือ ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ มันดังมาก ที่นี่อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แถมมีดีไม่แพ้ที่ไหน ๆ หน้าหนาวก็หนาวมาก หน้าฝนก็เขียวสดชื่นอากาศเย็นสบาย อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ และอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ทิศเหนือติดกับประชาชนลาว เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลก คือ มีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่ ผมเองได้มีโอกาสไปช่วงหน้าฝนหมอกบังมิดเลย แต่มันก็ได้เห็นรู้สึกถึงบรรยากาศใหม่ที่ทำให้เราได้คิดถึงมันเสมอ
25. ล่องแพชมวิวทานข้าวนอนเล่น @ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมานตอนบน หรืออ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง
วันนี้พาไปกินข้าวนอกบ้าน เป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้ ๆ อำเภอเมือง จังหวัดเลย ที่นี่คือ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมานตอนบน มีความพิเศษกว่าการไปกินและพักผ่อนจากที่อื่น คือ บรรยากาศที่ร่มเย็น ลมโกรกสบาย เมื่อลอยเรือแพอยู่กลางอ่างเก็บน้ำ พร้อมกับอาหารบ้าน ๆ ที่แสนจะอร่อยเป็นที่สุด
อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมานตอนบน หรืออ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง ตั้งอยู่ในวนอุทยานหริรักษ์ เป็นอ่างเก็บน้ำสันเขื่อนดิน มีขนาดความจุ 26 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 1,500 ไร่ สันเขื่อนยาว 800 เมตร สร้างเพื่อการชลประทาน บริเวณอ่างเก็บน้ำมีทัศนียภาพที่สวยงามของป่าไผ่และภูเขาที่โอบล้อม การเดินทางใช้เส้นทางเลย-ภูเรือ ออกจากตัวเมือง 15 กิโลเมตร และให้เลี้ยวขวาไป 5 กิโลเมตร
จากสีเขียวที่โอบกอดขุนเขา ส่งสายใยให้สายหมอกได้โอบกอดขุนเขาในเวลาต่อมา และนี่คงเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่บอกว่า ขุนเขา สายหมอก และสายน้ำไม่เคยไปไหนไกล !!!!
26. ทุ่งนาแห่งความฝัน @แม่หลางหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
ขึ้นดอยอินทนนท์ทั้งทีก็ต้องผ่านแม่กลางหลวง ถ้ามาหน้าฝนจะเห็นสีเขียวของทุ่งนาเต็มไปหมด และได้ของแถมเป็นอากาศเย็น ๆ และภาพสายหมอกที่คลอเคลียบนยอดเขาเป็นแบ็คกราวด์ให้กับทุ่งนาสีเขียว ๆ ทำให้ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่เราชอบมากที่สุด สำหรับทุ่งนาขั้นบันไดบนยอดดอยแบบนี้เลยค่ะ ที่นี่มีบ้านพักให้เลือกเยอะเลย เป็นอีกหนึ่งที่ที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิดเลย
27. ชมทุ่งนาสีเขียว @ บ้านผาหม่อน อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
เป็นสิ่งที่เราอยากเห็นมาก ๆ เลยล่ะค่ะ สำหรับทุ่งนาสีเขียว ๆ ในช่วงฤดูฝน ของแถมเป็นอากาศเย็น ๆ และภาพสายหมอกที่คลอเคลียบนยอดเขาเป็นแบ็คกราวด์ให้กับทุ่งนาสีเขียว ๆ ทำให้ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่เราชอบมากที่สุดสำหรับทุ่งนาขั้นบันไดบนยอดดอยแบบ นี้เลยค่ะ และถ้าได้พักค้างคืนที่นี่เสียงน้ำฝนตอนกลางคืนจะทำให้ประทับใจกับบรรยากาศ พักผ่อนจริง ๆ
28. โลกนี้มีแค่เรา @ ระเบียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
บ้านพักที่มองเห็นวิวดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจน ส่วนใหญ่ผู้คนนิยมไปที่นี้ในช่วงฤดูหนาวนะคะ แต่เรามีโอกาสได้เห็นภาพ ๆ ของที่นีในช่วงฤดูฝน ภาพของหมอกขาว ๆ ฟู ๆ ที่คลอเคลียยอดเขาหินปูน ทำให้เราอยากไปที่นี้ในช่วงฝนค่ะ เลยตัดสินใจไปในทริปเดียวกับดอยอินทนนท์ และก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ
ปล. ข้าวต้มที่นี่อร่อยมาก 555+
29. ความฝันมีอยู่จริง @ ดอนแม่ตะมาน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ด้วยการเดินทางที่ลำบากพอสมควร หน้าฝนจะขึ้นยากหน่อยนะคะ เราไปช่วงปลายฝน ที่นี่เราติดใจกับวิวหน้าบ้านพักมาก ๆ ค่ะ ยังจำความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เห็นวิวข้างหน้าหลังจากลงจากรถ อุทานออกมาหลายครั้งว่า สวยจัง !! 55+ ไม่ได้เว่อร์เลยกับช่วงเวลาหน้าฝนที่จะได้เห็นท้องฟ้าสีแปลก ๆ เปลี่ยนไปมาตลอดเลย เป็นความประทับใจที่ได้กลับมาค่ะ แต่ต้องระวังคุ่นนะคะ เราแพ้เป็นแผลมาจะสองปีละยังไม่หายเลย 555 ต้องระวังให้ดี
คงไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่แน่ ๆ ใช่ไหมคะ เราก็รู้จักที่นี่จากพันทิปเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าตามรอยชาวพันทิปไป แต่เราไปในช่วงฤดูฝนค่ะ เสียดายที่ตอนนั้นเป็นวันหยุดยาว คนเยอะมาก ๆ เลยค่ะ แต่ถ้าคนไม่เยอะเท่าไหร่ เราว่าฤดูฝนม่อนแจ่มสวยมาก ๆ เลยนะคะ ความเขียวและหมอกที่ปลิวไปมาสดชื่นมาก ๆ ถ้าอากาศดี ๆ หลังฝนตกได้ภาพสายรุ้งจากที่นี่กลับมาคงดีไม่ใช่น้อยเลยค่ะ
น่าจะเป็นการเที่ยวเชียงใหม่ด้วยตัวเองครั้งแรกของเราเลยค่ะ ด้วยความที่ชอบสีเขียว ๆ อยู่แล้ว ตกหลุมรักหน้าฝนไปเลยค่ะ
นี่ก็อีกหนึ่งท่ายากของผมเวลาเดินทางไปท่องเที่ยว มันช่วยเติมเต็มความทรงจำให้กับผม มันเป็นท่าที่ยากพอตัวนะ แต่มันก็บอกเล่าเรื่องราวอะไรได้ตั้งเยอะ ได้รู้ว่าผมไปที่ไหน บรรยากาศตอนนั้นเป็นยังไง และผมรู้สึกยังไง
ตลอดการเดินทางในช่วงฤดูฝน ผมได้พบเพื่อนใหม่เสมอ มันช่วยให้ขุนเขาสวยงามขึ้น และทำให้ช่วงเวลาการรอชมทะเลหมอกของผมสนุกขึ้นไปอีก การได้มองดูตัวน้อย ๆ ดูปฏิกิริยาของมันต่อเรา บางทีก็ได้หยอกล้อ ได้เล่น ได้ทำความรู้จักกับมัน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม
32. ภูเขาลอยฟ้า @ บ่อเกลือ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน
ถ้าคุณชอบวิวภูเขาสวย ถนนแบบคดเคี้ยวเลี้ยวไปเลี้ยวมา ผมว่า บ่อเกลือ ภูเขาสวยมาก ผมไปช่วงปลายฝน ยังรู้สึกสวยขนาดนี้ ถ้าไปตอนฝนชุก ๆ จะขนาดไหน จินตนาการตอนที่ฝนตก สายหมอกจะลงขนาดไหน เป็นขุนเขาที่รู้สึกเงียบสงบ นาน ๆ รถผ่านสักคัน ใครที่ชอบแนวนี้จะรักที่นี่แน่นอน
ปล. ผมไปพักที่ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ซึ่งบรรยากาศดีมาก
ถ้าคุณชอบอะไรที่ไม่ค่อยมีใครได้ไปเที่ยวกัน ประมาณว่าอันซีนไทยแลนด์ ผมแนะนำที่นี่นะครับ บ้านบวกอุ้ม หมู่ 14 ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ที่ซึ่งเต็มไปด้วยหุบเขาของเมืองน่านกับทุ่งข้าวสีเขียว ที่นี่มีความเป็นธรรมชาติมาก และคงต้องใช้รถ 4WD ถนนหนทางยังเป็นดิน และทางขึ้นเขาค่อนข้างลำบากมาก แต่วิวด้านบนทำเอาหายเหนื่อยเลย กับทุ่งข้าวสุดขอบฟ้า กับสายหมอกสีขาวในวันนั้นมันทำให้รู้สึกดีมาถึงวันนี้ ผมจิตนาการว่าถ้าไปช่วงที่ฝนชุก ทุ่งข้าวสีเขียวตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า และสายหมอกสีขาวมันจะขนาดไหน
ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่ดีของขุนเขาและสายหมอกที่มีให้ผมเสมอมา ความรักที่ทำให้โลกหมุนได้เป็นสิ่งสะท้อนที่ทำให้ผมรู้ว่าความรู้สึกดีไม่ เคยไปไหน ขอบคุณที่รู้ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้สึกดีกลับมาทุกครั้ง ขอบคุณที่มันยังคงอยู่แบบนี้ไปอีกนานแสนนาน คิดถึงจังเจ้าแกะน้อยเพื่อนยาก
34. ชมนาข้าวขั้นบันไดบนดอยสูง @ สถานีเกษตรสะจุกสะเกี้ยง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน
โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง "คนอยู่คู่กับป่าอย่างเกื้อกูลกัน" ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านสะจุกหมู่ที่ 7 และบ้านสะเกี้ยง หมู่ที่ 8 ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ทางอาจจะไปยากนิด ต้องใช้รถที่มีแรงขับเคลื่อนสูง แต่สิ่งที่ได้รับคือการได้เห็นความยิ่งใหญ่ของขุนเขา สายหมอกสีขาวในช่วงฤดูฝน และนาขั้นบันไดทั้งหุบเขา มันเป็นความมหัศจรรย์ของที่นี่มากมาย ในโครงการมีแกะให้ชมด้วยนะครับ บรรยากาศแบบดีมาก ๆ ด้านบนมีที่พักให้นะครับ แต่จะต้องดำเนินการติดต่อล่วงหน้า ไม่สามารถเข้าพักได้ถ้าไม่ได้ติดต่อล่วงหน้า
35. เมื่อสายหมอกโอบกอดขุนเขา @ ศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหน ดูเหมือนว่า อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ เพราะที่นี่วิวภูเขาสวยมาก ยิ่งฤดูฝนก็ยิ่งทำให้ที่แห่งนี้สวยงามมากขึ้นไปอีก เนื่องด้วยสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้ภาพสายหมอกลอยอ้อยอิ่งหยอกล้อกับขุนเขาก็ยิ่งสวยขึ้นไปอีก ยิ่งช่วงฤดูฝนแบบนี้แล้วความเขียวขจีของธรรมชาติยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก ไม่ว่าจุดชมวิวเสมอดาวหรือผาชู้ มันก็ยิ่งทำให้หลายคนได้ตกหลุมรักที่นี่เสมอ สำหรับผมเองศรีน่านไม่ไกลมากนัก เพราะอยู่จังหวัดน่านตอนล่าง ถ้าไปศรีน่านมักจะได้เที่ยวพ่วงกับ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน เสมอ เพราะอยู่อำเภอนาน้อยเหมือนกัน มันคงดีไม่น้อยที่เราจะไม่พลาดอะไรเลยสักอย่าง
36. เมื่อสายหมอกโอบกอดขุนเขา @ ขุนสถาน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
ภาพของป่าชุ่มชื่นตลอดสองข้างทางที่มุ่งตรงไปยัง "อุทยานแห่งชาติขุนสถาน" ดินแดนที่แฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์ของขุนเขาและสายหมอก คงเป็นสิ่งที่การันตีได้เป็นอย่างดีว่าที่นี่สวยงามน่าเที่ยวขนาดไหน โดยเฉพาะฤดูฝนก็ยิ่งเพิ่มความเขียวขจีขึ้นไปอีก ผมชอบที่จะยืนอยู่บนที่สูงแล้วมองเห็นวิวด้านล่าง ที่แห่งนี้คือความฝันของใครสักคนที่ชอบบรรยากาศแบบนั้น โดยเฉพาะบ้านพักดอยแม่จอก 1 ที่มองเห็นวิวได้จากห้องพัก มีระเบียงที่ทำให้ความฝันมีอยู่จริง มันจะทำให้ผมลืมที่นี่ไม่ลงเลยทีเดียว เป็นวันที่ผมได้เจอทั้งฝนตก รถเสีย เจอสายหมอก เจอสายรุ้งสีสดใส และได้เจอวันที่ทำให้ผมรักที่นี่ไม่เคยเปลี่ยนไป
37. ชีวิตบางเบา หัวใจนำทาง @ ผาตั้ง อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น ซึ่งเป็นเทือกเขาแนวพรมแดนไทย-ลาว สูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ดอยผาตั้งถือเป็นจุดชมวิวไทย-ลาว และทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้ภูชี้ฟ้า รถยนต์สามารถขึ้นเกือบถึงจุดชมวิวบริเวณเนินร้อยสามได้ บนจุดชมวิวจะเป็นแนวเขาซึ่งชมวิวได้ตลอดแนว ด้านบนมีจุดชมวิวมากมาย แต่ที่สนุกคือการได้เดินในทางแคบไปตามไหล่เขาไล่ระดับไปเรื่อย ๆ มันคือมิตรภาพและความสุขระหว่างการเดินทาง และการรอลุ้นว่าด้านหน้าจะเป็นวิวแบบไหน ใครที่ไปช่วงฤดูฝนอาจจะดูลำบากนิดหน่อย แต่มันก็ทำให้เราได้มีความสุขกับชีวิตบางเบา และหัวใจนำทางอีกครั้ง
38. บ้านพักที่วิวดีที่สุดของผมในปี 2012 @ ภูชี้ฟ้าโฮมสเตย์ อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
แล้วทริปในฝันผมก็เกิดขึ้น นั่นก็คือ ภูชี้ฟ้า สุดยอดของขุนเขาและทะเลหมอกของเชียงราย ที่ซึ่งผมอยากไปมากมาย ก่อนไปผมหาข้อมูลที่พักในอินเทอร์เน็ต ได้ที่พักในใจ 3 ที่ ใช้เวลาอยู่เป็นอาทิตย์ในการเปรียบเทียบวิวแต่ละที่ บ้านพักที่ผมอยากไปนอนพักคือบ้านพักที่มีวิวที่ยิ่งใหญ่ของภูเขา เป็นบ้านพักที่มีระเบียงบ้านและมีพื้นที่ส่วนตัว และเห็นวิวได้จากระเบียงบ้าน...แล้วผมก็เลือก ภูชี้ฟ้าโฮมสเตย์ แล้ววันเดินทางก็มาถึงผมขับรถเส้นเทิง-ภูชี้ฟ้า เป็นเส้นทางที่วิวสวยมาก สวยแบบว่าทำไมภูเขามันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่เคยพบเคยเจอ แล้วผมก็ผ่านที่พักที่หนึ่งแบบเสียดายจัง เป็นบ้านพักที่อยู่บนวิวยอดเขาแล้วมองเห็นวิวที่ยิ่งใหญ่มาก ผมยังพูดกับเพื่อนเลยว่าไม่น่าจองมาเลย ไม่มีใครมาหรอก หน้าฝนแบบนี้ เสียดายอยากอยู่ที่นี่ แล้วผมก็เห็นป้ายก็บอกว่าภูชี้ฟ้าโฮมเสตย์ ^^ มันเป็นที่พักที่วิวสวยที่สุดของผมในปี 2012
คุณเคยรู้สึกแบบนี้ไหม สบายใจ...เมื่อได้เจอกับสิ่งนั้น สนุกสนาน...เมื่อได้เจอกับสิ่งนั้น โลกสดใส...เมื่อได้เจอกับสิ่งนั้น ตื่นเต้น...เมื่อได้เจอกับสิ่งนั้น มีความสุข...เมื่อได้เจอกับสิ่งนั้น และผูกพัน...เมื่อได้เจอกับสิ่งนั้น
39. ความสุขและความผูกพัน @ ภูชี้ฟ้า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
อีกหนึ่งขุนเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดเชียงราย และเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลาย ๆ คน ที่ชอบความสวยงามของธรรมชาติ และยังพอเรี่ยวแรงที่ฝันอยากจะมาสัมผัสกับความงามของสถานที่แห่งนี้สักครั้ง ในชีวิต สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับยอดภูแห่งนี้มาตลอด และสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาพบเห็น นั่นก็คือ ความสวยงามแปลกตาของหน้าผาสูงที่ยื่นเด่นลอยออกไปในอากาศ ในฤดูฝนทำให้ที่นี่กลับมามีชีวิตด้วยสายหมอก ที่พร้อมทำงานเต็มที่ ทำให้มองเห็นวิวที่แตกต่างกับในฤดูหนาวอย่างสิ้นเชิง ผมเองเคยรู้สึกมันไกล ไกลเกินกว่าจะขับรถจากบ้านไปถึง แต่วันหนึ่งผมก็ขับรถไปจนถึง มันคือสถานที่ที่ดีที่สุดในการเดินทางของผมในปีที่ผ่านมาเลย มันยิ่งใหญ่ มันสนุก และประทับใจ และปีนี้ผมก็สัญญากับตัวเองแล้วว่าผมจะกลับไปอีกครั้ง ^^
อันดับ 40 นี่ยังไม่เกิดนะครับ แต่คงเร็ว ๆ นี้ !!!!!
เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่รอแรงบันดาลใจอีกนิด รอเวลาอีกหน่อย ผมเคยได้เฉียดแม่ฮ่องสอนทีหนึ่งตอนขึ้นไป อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เพราะผมเห็นป้ายว่าเข้าเขตแม่ฮ่องสอน ผมจินตนาการเมืองสามหมอกไว้เยอะเลยว่ามันจะทำให้ผมมีความสุข และประทับใจอย่างแน่นอน สายหมอกคงมีให้ผมได้เห็นทั้งตอนเช้า ได้เห็นทั้งตอนเย็น ๆ หลังจากฝนตก แค่ได้นึกความสุขก็เริ่มต้นทำงานแล้ว ไว้พบกันนะครับ แม่ฮ่องสอนอินมายเลิฟ ^^
40. แม่ฮ่องสอนครั้งแรกของผม @ จังหวัดแม่ฮองสอน
ขอบคุณภาพรวมในกูเกิลที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมเสมอ
ทุกวินาทีมักมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นในชีวิตรอบตัวเราเสมอ มีหลายสิ่งที่ผ่านเข้ามาและผ่านออกไป อาจจะเป็นทั้งเรื่องราวดี ๆ หรือเรื่องราวที่เราไม่อยากจดจำ แต่สุดท้ายมันก็เป็นคำตอบของเวลาที่จะเลือกจดจำในบางสิ่ง และให้บางอย่างค่อยเลือนหายไป แต่กับธรรมชาติของภูเขาฤดูฝน ผมมักมีแต่ความรู้สึกดี ๆ มีแต่ความทรงจำที่สวยงามอยู่เสมอ
มี คนถามผมเสมอว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น ผมบอกว่าธรรมชาติเป็นอะไรมากกว่าคำว่า "งดงาม" สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของธรรมชาติ คือ การอยู่นอกเหนือการคาดเดา และเป็นที่มาของแรงบันดาลใจบางอย่าง ที่บอกเราอะไรคือสิ่งที่เรารัก อะไรคือสิ่งที่เราจะรู้สึกดี แล้วมันก็คอยนำทางให้เราได้พบกับความทรงจำที่ดี ๆ เสมอ
ดีใจที่มีคนเข้ามาชมรีวิวนี้ และได้สร้างแรงบันดาลใจอะไรบางอย่างออกไป เพราะอย่างน้อยก็มีคน 1 คน ที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับคำว่า "แรงบันดาลใจ" แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจำเป็นต่อชีวิต แล้วอยู่ดี ๆ ผมก็รู้จักมัน มันก็เข้ามาทำงานอะไรในชีวิตผมตั้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่ดี หรือทุกอย่างที่เรียกว่าความสุข ดีใจที่แรงบันดาลใจของ 1 คน ส่งต่อให้อีกใครก็ได้สัก 1 คนในวันนี้ ทุกแรงบันดาลใจคืออะไรก็ได้ที่เรารู้สึกว่าใช่ แค่ต้อนรับมัน ให้มันเข้ามาทำงาน และเติบโตไปกับมัน สำหรับผมตลอด 3 ปีที่ผ่านมาให้อะไรกับผม ให้ผมได้เห็นและได้เรียนรู้ไปกับมันมากมาย มากมายจนผมรู้สึกโชคดีที่ได้ทำให้มันเกิดขึ้น เกิดขึ้น และเกิดขึ้น
อย่างน้อยมันก็เคยเกิดขึ้น และเกิดขึ้นในทุก ๆ การเดินทางที่ผ่านเข้ามา สิ่งเหล่านั้นผ่านมาแต่ไม่เคยผ่านเลยไป และมันทำให้ผมได้รู้ว่าโลกใบนี้ยิ่งใหญ่มาก ตัวเรานั้นดูเล็กนิดเดียว ความสุขและแรงบันดาลใจต่างหากที่ยิ่งใหญ่มาก ยิ่งใหญ่เพียงพอที่จะทำให้เราได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ได้ทำในสิ่งที่แตกต่างจากที่เคยเห็น ได้เดินไปในเส้นทางของแรงบันดาลใจที่เราไม่เคยได้คาดหวังและไม่เคยรู้จัก
มุมมองของคนหลายคนก็คงมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับผมมันคือหนึ่งช่วงเวลาที่รอคอยการเปลี่ยนแปลงมาตลอด และเป็นอีกช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงของอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายมันก็ทำให้เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิตผมที่เคยมา
ผมรักขุนเขา ผมรักสายหมอก ::: แล้วพบกันใหม่ครับ
https://www.facebook.com/chanomworld