เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สายฝนโปรยปรายนั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฤดูฝนมาเยือนแล้ว ใครที่กำลังวางแผนเที่ยวช่วงนี้ คงจะรู้สึกได้ถึงความชุ่มฉ่ำ ความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขาและสายน้ำ อีกทั้งอากาศยังสบาย ๆ ไม่ร้อนไม่หนาว อ๊ะ ๆ แต่จะมีสถานที่ "เที่ยวไทยหน้าฝน" ที่ไหนน่าสนใจบ้าง วันนี้กระปุกท่องเที่ยวได้รวบรวมมาบอกกันกับ 10 กิจกรรมท่องเที่ยวในฤดูฝน มาฝากกัน เผื่อเก็บเอาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับวางแผนการท่องเที่ยวต้อนรับสายฝน
1. กิจกรรมล่องแก่ง
ภาพจาก topten22photo / shutterstock.com
โดยการเลือกเล่นกิจกรรมล่องแก่งต้องมีความพร้อมทั้งในเรื่องสภาพร่างกาย จิตใจ และทักษะในการล่องแก่ง เพื่อความปลอดภัยของตัวนักท่องเที่ยวเอง ส่วนพื้นที่ล่องแก่งในเมืองไทยมีหลายแห่ง เช่น แก่งน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก, แก่งน้ำว้า จังหวัดน่าน, แก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี, แก่งลำน้ำนครนายก และอุ้มผาง ทีลอซู ทีลอจ่อ จังหวัดตาก เป็นต้น
2. ปีนผา...โรยตัว
อีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับนักท่องเท่ยงที่รักการเที่ยวแบบผจญภัย ท่ามกลางความสูงชันของหน้าผา บวกกับความท้าทายที่อยากเอาชนะตัวเอง ด้วยการปีนให้ถึงจุดสูงสุดอีกด้วย สำหรับกิจกรรมการปีนผายอดฮิตของนักท่องเที่ยว ได้แก่ กิจกรรมการปีนผาหินปูน โรยตัวที่น้ำตกไทรโยคน้อยหรือน้ำตกเขาพัง และหน้าผาที่วัดถ้ำเขาปูน จังหวัดกาญจนบุรี, กิจกรรมโรยตัว 4 หน้าผา 5 น้ำตก ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, ปีนผา จังหวัดกระบี่ ณ อ่าวไร่เลย์ อ่าวพระนาง เป็นต้น
3. เดินป่าสัมผัสความชุ่มฉ่ำของสายฝน
การเดินป่าสัมผัสความงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการท่องเที่ยวที่มาแรงในช่วงหน้าฝนนี้ ซึ่งสถานที่ยอดฮิตที่เป็นเหมือนสวรรค์ของนักเดินป่า ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เขากำแพง กาญจนบุรี เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ก่อนวางโปรแกรมควรตรวจสอบเส้นทาง หรือติดต่อสอบถามกับทางอุทยานฯ ที่จะไปให้ดีก่อนว่าปิดฟื้นฟูหรือไม่
4. เที่ยวน้ำตก
เมื่อถึงช่วงน้ำหลากอย่างฤดูฝนแบบนี้ การท่องเที่ยวเดินทางไปชื่นชมความสวยงามของน้ำตก ก็เป็นอีกหนึ่งการท่องเที่ยวที่คนส่วนใหญ่ไม่ยอดพลาด เพราะหนึ่งปีมีแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่เราจะได้ชื่นชมธรรมชาติของน้ำตกอย่างแท้จริง ส่วนสถานที่ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปชื่นชมกัน ได้แก่ น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก, น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี, น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี, น้ำตกวังตะไคร้ น้ำตกสาริกา น้ำตกนางรอง จังหวัดนครนายก, น้ำตกป่าละอู จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น
5. ล่องแพ
ล่องแพ อีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวมันส์ ๆ สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวในรูปแบบของการพักผ่อนริมแม่น้ำ และสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากสำหรับการล่องแพนี้ที่พลาดไม่ได้ ก็คือ ล่องแพเมืองกาญจน์ ริมแม่น้ำแควน้อย-ใหญ่, ล่องแพแม่น้ำปิง ปางช้างแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ หรือจะเป็นล่องแพในเขื่อน หรืออ่างเก็บน้ำต่าง ๆ เช่น ล่องแพเขื่อนภูมิพล, เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นต้น
6. ชมทุ่งดอกกระเจียวสวย ๆ
สายฝนโปรยปรายทำให้ดอกไม้หลากหลายชนิดเริ่มผลิบานให้เห็น หนึ่งในนั้น คือ ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ สถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงความสวยงามตามธรรมชาติด้วยการอนุรักษ์ดอกกระเจียว ภายใต้การดูแลของ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง ไว้ให้ชื่นชมและถ่ายรูปสวยไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งดอกกระเจียวของที่นี่จะเริ่มผลิบานในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมเท่านั้น นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีอีกด้วย
7. ไปดูไร่กะหล่ำปลี ณ ภูทับเบิก
ใครบอกว่าการไปเที่ยวภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ จะไปได้เฉพาะชาวงหน้าหนาวเท่านั้น เพราะช่วงฝนโปรยปรายแบบนี้ ความงามของภูทับเบิกก็สวยไม่แพ้ใคร อีกทั้งยังมีไร่กะหล่ำปลีอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาให้ได้ชมกันด้วย เนื่องจากมีการปลูกกะหล่ำปลี 2 ช่วง คือ ประมาณเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม นอกจากนี้ ยังมีสถานีวิจัยเพชรบูรณ์ แปลงทดลองทับเบิก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นสถานีสาธิตปลูกพืชเกษตรเมืองหนาว เช่น สตรอว์เบอร์รี พลัม ท้อ และจำหน่ายผลผลิตสด ๆ ที่แปลงตามฤดูกาลด้วย
8. ชมเมืองปายในวันที่สายฝนโปรยปราย
ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ไปสัมผัสอากาศสบาย ๆ และเติมออกซิเจนบริสุทธิ์เช่นเคย กับ เมืองปาย จังหวัดแม่อ่องสอน เพราะไม่ว่าฤดูไหน ๆ ความงดงามของปายก็แตกต่างกันไป ซึ่งช่วงหน้าฝนแบบนี้ ขุนเขาถูกโอบล้อมก็เขียวขจี นาข้าวอิ่มเอมไปด้วยเมล็ดข้าวชุ่มน้ำ แม่น้ำปายมีน้ำเต็มตลิ่ง เหมาะอย่างยิ่งที่จะลงไปล่องแพชื่นชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ที่สำคัญคือค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว ที่พักราคาถูก ^^ และนอกจากแหล่งท่องเที่ยวอย่างถนนคนเดินที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลายแห่งให้ไปเยี่ยมชม
9. ไปชิมผลไม้อร่อย ๆ สด ๆ จากสวนเข้าหน้าฝนก็เหมือนเข้าฤดูผลไม้เหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลไม้หลากหลายชนิดจากทางฝั่งตะวันออก อย่างจังหวัดจันทบุรี, ระยอง และตราด ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการสร้างผลิตผลไม้เป็นจำนวนมาก ส่วนผลไม้ที่มีชื่อเสียงของทีนี่ได้แก่ ทุเรียน, เงาะ, มังคุด, ลองกอง, ลางสาด และพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ อาจเพราะที่นี่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติทั้งในดินและในน้ำ แถมยังมีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการทำสวนผลไม้เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการจัดเทศกาลชิมผลไม้จากในสวน ขึ้นเป็นประจำทุกปีอีกด้วย เรียกได้ว่า อิ่มทั้งเที่ยว อิ่มทั้งท้องเลยก็ว่าได้
10. เที่ยวทะเลชิล ๆ
สำหรับใครที่มีใจรักการท่องเที่ยวทะเลและไม่อยากนอกใจไปเที่ยวป่าเขานั้น การเดินทางไปสัมผัสท้องทะเลในช่วงหน้าฝนก็ให้บรรยากาศอีกหนึ่งอารมณ์ความรู้สึก อีกทั้งยังน่าสนใจไปอีกแบบ เพราะใช่ว่าทะเลจะสวยก็หน้าร้อนเท่านั้น (จริงไหม) แถมราคาที่พักอยู่ถูกแสนถูก และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่อยากไปเบียดเสียดหรือแย่งกับใคร แต่ที่เด็ดสุด คือ ท้องฟ้าหลังฝนตกมักงดงามสดใสนะจ๊ะ
เป็นยังไงบ้างกับ 10 กิจกรรม เที่ยวไทยหน้าฝนที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน เพราะยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่เราสามารถวางแผนการท่องเที่ยวตามสไตล์ของตัวเองอีกด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการท่องเที่ยวหน้าฝนนี้ คือ ควรระมัดระวังในการเดินทางให้มากเป็นพิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวของเราจะได้ไม่หมดสนุกไปกับอุบัติเหตุจ้า
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก
