ฉ่ำปอดเที่ยวทะเลกระบี่

กระบี่

กระบี่

หาดไร่เลย์

หาดไร่เลย์

กระบี่

          กระบี่ หนึ่งในจังหวัดชายฝั่งอันดามัน ที่วันนี้กล่าวได้ว่าเป็นที่นิยมที่สุด เมื่อนึกถึงการท่องโลกสีคราม หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสแจ๋ว ตลอดจนเกาะแก่งและแนวปะการัง จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครปฏิเสธการเดินทางไปเยือน จังหวัดกระบี่ เพราะที่นี่คือดินแดนแห่งขุนเขา หาดทราย ชายทะเล กลุ่มเกาะ น้ำตก และโถงถ้ำ ที่สวยงามติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ซึ่งสามารถเดินทางไปเยือนได้ตลอดทั้งปี

          นอกจากการมานั่งเล่นกินลมชมวิวท้องทะเลและหาดทรายแล้ว เทรนด์ใหม่ของการท่องเที่ยว ยังเน้นไปที่กิจกรรมกลางแจ้งหรือแนวแอดเวนเจอร์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ปีนเขา พายคายัก ดำน้ำ ฯลฯ ซึ่งกำลังเป็นกิจกรรมยอดนิยมในการท่องทะเลกระบี่ โดยที่มี อ่าวนาง เป็นศูนย์กลางในการท่องเที่ยวทะเลในจังหวัดกระบี่ ที่นั่นจึงมากไปด้วยโรงแรมและรีสอร์ต รวมถึงบริษัทนำเที่ยวมากมาย และ อ่าวท่าเลน เป็นแหล่งพายเรือคายักของจังหวัดกระบี่ อยู่ห่างจากตัวเมือง 35 กิโลเมตร บริเวณเป้นโตรกผาสูงตระหง่าน น้ำทะเลสีเขียวใส เป็นเส้นทางพายเรือชมธรรมชาติที่สวยงาม

หาดไร่เลย์

กระบี่

          ทว่า หากต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศบนชายหาดและน้ำทะเลใส ก็ต้องนั่งเรือท่องออกไปยังเกาะแก่งต่าง ๆ ที่กระจายตัวอยู่ในทะเลกระบี่ อย่าง หาดไร่เล หาดถ้ำพระนาง ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ ไกลจากความวุ่นวายของโลกภายนอก ด้วยไร้ถนนหนทางเข้าถึง ทำให้เป็นที่ปรารถนาของผู้ที่ต้องการไปพักผ่อนอย่างแท้จริง

          โดย หาดไร่เล เป็นหาดทรายสีขาวละเอียดริมโตรกผา เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมปีนหน้าผา แบ่งออกเป็นหาดไร่เลตะวันออก และหาดไร่เลตะวันตก มีโขดหินคั่นระหว่างหาดทั้งสอง บริเวณหาดมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวหลายแห่ง เดินทางเข้าถึงได้โดยทางเรือจากอ่าวนางใช้เวลา 10 นาที

อ่าวนาง

          ส่วน
หาดถ้ำพรนาง หรือ อ่าวนาง อยู่ห่างจากหาดนพรัตน์ธารา ตามถนนเลียบชายทะเลระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นชายหาดยาว  ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตาด้วยภูเขาหินปูนตั้งตระหง่าน ท้องทะเลในบริเวณอ่าวนางมีเกาะน้อยใหญ่กว่า 83 เกาะ บางเกาะมีรูปร่างประหลาดคล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา และหัวนก

ทะเลแหวก

ทะเลแหวก

          ที่จะพลาดไม่ได้หากได้มาเยือนที่นี่คือ หมู่เกาะปอดะ เป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ ที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ นั่นคือ "ทะเลแหวก" โดยประกอบด้วยเกาะที่เด่น ๆ ได้แก่ เกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะทับ และเกาะหม้อ วางตัวเป็นกระจุกอยู่ในบริเวณเดียวกัน ครั้นเมื่อยามน้ำลด บริเวณเกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ ก็จะปรากฎแนวสันทรายโผล่ขึ้นมา กลายเป็นเส้นทางเชื่อมทั้งสามเข้าด้วยกัน จึงเป็นที่มาของคำว่าทะเลแหวก ทั้งนี้ การไปชมสถานที่ดังกล่าวควรไปช่วงน้ำลดลงต้ำสุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะช่วงวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด





          อีกแห่งหนึ่งคงหนีไม่พ้น  หมู่เกาะพีพี  อัญมณีเม็ดงามแห่งอันดามัน สามารถเดินทางไปถึงสะดวกได้ทั้งจากจังหวัดกระบี่และภูเก็ต เป็นหมู่เกาะหินปูน รูปทรงแปลกตา หาดทรายขาดละเอียดดุจแป้ง น้ำทะเลใสปานกระจก จนกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของโลก ที่สำคัญบริเวณชายหาดยังเหมาะกับการเล่นน้ำ และสามารถดำน้ำชมความงามของโลกใต้ทะเล ทั้งแบบการดำน้ำลึกและน้ำตื้น

แหลมโตนด

          หรือจะไปสัมผัสความงามของ เกาะลันตา  เกาะที่ได้ชื่อว่ามีหาดทรายงามมากมายหลายแห่ง และนับเป็นเกาะที่มีหาดทรายติดต่อกันยาวที่สุดของจังหวัดกระบี่ ด้วยทัศนียภาพของหาดเปิดโล่งออกสู่ทะเลอันดามัน หาดเหล่านี้จึงเหมาะแก่การลงเล่นน้ำทะเลและพักผ่อนชายหาดได้ทุกแห่ง แต่ในความงานอันเป็นที่สุดนั้นเป็นที่ยอมรับกันว่า หาดบากันเตียง คือหาดที่ยาวและสวยงามที่สุด กว่า 1 กิโลเมตร

          รวมถึง เกาะไหง เกาะกลางทะเลอันดามันที่มีเวิ้งน้ำสีเขียวมรกต กับหาดทรายสีขาวยาวเหยียดสุดสายตา ตัดกับทิวมะพร้าวชายหาดเรียงราย ที่นี่คือเกาะในฝันที่เหมาะกับคนรักหาดทรายอย่างแท้จริง เกาะแห่งนี้มีหาดทรายอยู่ด้านหน้าของตัวเกาะ ที่หันออกสู่ทะเลด้านทิศตะวันออก จึงเหมาะกับการดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าแล้วรอจนแสงแดดเจิดจ้า เวิ้งน้ำด้านหน้าจะกลายเป็นสีเขียวมรกตงดงาม ที่หน้าแปลกเกาะแห่งนี้อยู่ในจังหวัดกระบี่ แต่การเดินทางที่ใกล้ที่สุดกลับต้องมาจากหาดปากเมงของจังหวัดตรัง

          แต่ถ้าอยากไปท่องเที่ยวเกาะแฝดกลางทะเลต้องไป หมู่เกาะรอก เพราะมีเกาะที่อยู่เคียงคู่กันราวกับเกาะพี่เกาะน้อง ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย ที่มีลักษณะเช่นว่านั้น ด้วยรูปลักษณ์ของเกาะที่มีขนาดใกล้เคียงกัน และตั้งอยู่เคียงคู่กัน มีเพียงร่องน้ำลึกตรงกลางช่องเขาขาด เป็นร่องแบ่งเกาะสองเกาะนี้ออกจากกัน คือ เกาะรอกในอยู่ทางทิศใต้ และเกาะรอกนอกอยู่ทางทิศเหนือ ทั้งสองเกาะนี้จะมีหาดขาวท่ามกลางเวิ้งน้ำเขียวใสเป็นมรกต อยู่ทางด้านตะวันออกของทั้งสองเกาะ ซึ่งปรากฏเห็นเป็นปะการังยาวเหยียดอยู่โดยรอบ และเหมาะเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่สวยงามแห่งหนึ่งในทะเลอันดามัน นอกจากนี้ ในช่วงกลางฤดูฝนที่ตกหนักบางปีก็จะได้เห็นน้ำตกลงเล ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดเล็ก ตกจากหน้าผาลงสู่ทะเลทางด้านทิศเหนือของเกาะรอกนอก และมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย

เกาะห้อง

          และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความขจีของป่า ต้องไปยลโฉม เกาะห้อง เพราะเกาะแห่งนี้มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยชายหาดด้านหน้าเกาะที่โค้งเกือบจะเป็นครึ่งวงกลม ร่มรื่น ด้วยแนวป่าชายหาดด้านหลัง น้ำทะเลที่นี่เป็นสีเทอคอยส์ ชวนให้ลงแหวกว่ายไปกับฝูงปลาแสนเชื่อง และทุกเดือนมีนาคม เกาะแห่งนี้จะเป็นที่รวมของฝูงปลาขนาดเล็กมากมาย ที่มาชุมนุมกันอย่างน่าอัศจรรย์

          ก่อนจะทิ้งท้ายกันที่ ทะเลใน เกาะพีพีเล ลากูนมรกตแห่งทะเลอันดามัน เพราะนอกจากจะเป็นเกาะที่มีรูปพรรณสัณฐานงดงาม ด้วยโขดเขาหินปูนหยึกหยักเป็นแนวหน้าผาสูงประดุจปราการกลางทะเลแล้ว ความเว้าแหว่งของเกาะแห่งนี้ ยังได้สร้างมุมมองทางอากาศที่งดงามด้วยเวิ้งอ่าวมาหยา ที่หาดทรายขาวละมุนกับทะเลในที่ทุกวันในช่วงเวลาน้ำขึ้น และแสงแดดสาดส่องตอนกลางวัน เวิ้งน้ำแห่งนี้จะเปล่งประกายเป็นสีเขียวมรกตอย่างหน้าอัศจรรย์

          ซึ่งคุณสามารถแล่นเรือหางยาวเข้าไปเที่ยวชมความงาม อันลึกเร้นและหน้าจดจำ ท่ามกลางหน้าผาอันสูงชันอันโอบล้อมเกือบทุกด้าน ส่วนถ้าเป็นช่วงเวลาน้ำลง คุณก็อาจจะได้เห็นชีวิตอันอีกมุมมองหนึ่ง คือ ลิงแสมที่มักพบเห็นออกมากินอาหารตามริมขอบทะเลในอยู่บ่อยครั้ง ที่นี่จึงควรค่าต่อการเป็นลากูนมรกตแห่งทะเลอันดามัน ที่คนทั้งโลกต้องประทับใจ

          นี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยว "ทะเลกระบี่" เพียงไม่กี่แห่งที่เราหยิบมาบอกกัน เพราะจริง ๆ แล้วจังหวัดกระบี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ แจ่ม ๆ รอให้ไปสัมผัสอีกเพียบ! ถ้ามีเวลาก็อย่าลืมแวะไปท่องเที่ยวทะเลกระบี่กันนะจ๊ะ

หาดไร่เลย์

การเดินทาง

          กระบี่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 814 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดกระบี่ได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง และเครื่องบิน

          โดยรถยนต์ : จากกรุงเทพฯ ไปกระบี่ได้ 2 เส้นทาง คือ

          1. ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ไปจนถึงกระบี่ ระยะทางประมาณ 946 กิโลเมตร

          2. ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) จนถึงจังหวัดชุมพร แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร สู่อำเภอไชยา อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ แล้ววกเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองกระบี่ ระยะทางประมาณ 814 กิโลเมตร

          โดยรถประจำทาง : มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-กระบี่ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11-12 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทรศัพท์ 1490 และ www.transport.co.th ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com

          โดยเครื่องบิน : การบินไทยบริการเที่ยวบินประจำระหว่างกรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน โทรศัพท์ 0 2356 1111 หรือ www.thaiairways.com, สายการบินไทยแอร์เอเชียบริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน โทรศัพท์ 0 2515 9999 หรือ www.airasia.com

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
, จังหวัดกระบี่, คุณ Boath7, คุณ ฝนแสนห่า, คุณ kidsanook และ หนังสือ ๑๒ เดือน ๗ ดาว ๙ ตะวัน มหัศจรรย์เมืองไทยต้องไปสัมผัส
    
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฉ่ำปอดเที่ยวทะเลกระบี่ อัปเดตล่าสุด 15 ธันวาคม 2558 เวลา 17:15:25 7,594 อ่าน
TOP
x close