แนะนำที่เที่ยวในเดือนพฤศจิกายน ออกไปสัมผัสความหนาวเย็น ฟินกับธรรมชาติที่สวยงาม และงานประเพณีอันแสนล้ำค่าในทั่วทุกภาคของประเทศ
ช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งของปีที่น่าเที่ยว หลาย ๆ พื้นที่ของประเทศเริ่มจะมีอากาศเย็นสบาย ธรรมชาติป่าเขาชุ่มชื้นจากหยาดฝน ดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิบานอวดความสวยงาม ว่าแล้วก็เตรียมกางปฏิทิน 2565 หาวันหยุด และที่เที่ยวหน้าหนาว ไปฟินกับธรรมชาติแสนงามทั้งภูเขา น้ำตก ทะเล สถานที่ประวัติศาสตร์ แหล่งเรียนรู้ และงานเทศกาลใหญ่อย่างงานลอยกระทง ในช่วงปลายปีกันดีกว่า
1. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่
จุดหมายปลายทางของคนที่ต้องการอยากขึ้นไปเช็กอินความหนาวเย็นกับอุณหภูมิเลขตัวเดียวในภาคเหนือของไทยกับ ดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ มีสภาพอากาศเย็นตลอดปี และยังมียอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,599 เมตร อีกทั้งบนดอยอินทนนท์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น
-
ทุ่งไฮเดรนเยียอินทนนท์ สวนคุณทองดี : เอาใจสายดอกไม้กับทุ่งดอกไม้ที่หมู่บ้านผาหมอน อำเภอจอมทอง เป็นสวนขนาดกว้างใหญ่ สะพรั่งไปด้วยดอกไฮเดรนเยียหลากสีสัน ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนก็สามารถถ่ายรูปเช็กอินได้ทุกมุม
-
น้ำตกแม่ยะ : น้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ด้วยความสูงกว่า 260 เมตร พร้อมกับสายน้ำที่ไหลลดหลั่นลงมาถึง 30 ชั้น ทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย
-
พระมหาธาตุนภเมทนีดล พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ : ประดิษฐานอยู่บริเวณทางแยกของถนนก่อนขึ้นยอดดอยอินทนนท์ โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดลเป็นสีน้ำตาล สัณฐานทรงระฆัง 8 เหลี่ยม ถือเป็นพระมหาสถูปเจดีย์องค์แรกที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในไทย ส่วนพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ จะเป็นทรง 12 เหลี่ยม สีม่วงอมชมพู ประดับโมเสกแก้ว ด้านในนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
-
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน : นับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย กับเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่จะพาเราเดินชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นระยะทางประมาณ 3-5 กิโลเมตร ตลอดทางจะได้พบกับพืชพรรณนานาชนิด น้ำตก และวิวสวย ๆ ระหว่างการเดินทางบนสันเขา เมื่อมาถึงจุดชมวิวของกิ่วแม่ปาน เห็นภาพของพระมหาธาตุเจดีย์คู่ และแนวเขาที่ปกคลุมไปด้วยทะเลหมอกสีขาว จนรู้สึกหายเหนื่อยในพริบตา
-
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ : โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อการวิจัยและอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ รองเท้านารีอินทนนท์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ให้ยังคงอยู่เพื่อให้เราชมความงามกันต่อไป นอกจากรองเท้านารีอินทนนท์แล้ว ภายในศูนย์ยังมีสวนดอกไม้นานาพรรณ รวมถึงดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่จะเบ่งบานริมทะเลสาบในช่วงเดือนมกราคมให้ได้ชมความงดงามกันด้วย
2. ทุ่งดอกบัวตอง
เมื่อสายลมหนาวมาเยือน นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าดอกบัวตองกำลังจะผลิสีเหลืองบานสะพรั่งไปทั่วทั้งดอยในช่วงต้นฤดูหนาวของทุกปี ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง เรามีตัวอย่างมาฝากกัน ดังนี้
-
ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน : เป็นทุ่งบัวตองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ในทุกฤดูหนาว ดอกบัวตองจะพากันผลิดอกชูช่อสีเหลืองรับแสงตะวัน บานสะพรั่งสวยงามอร่ามไปทั่วทั้งดอย อีกทั้งยังมีเส้นทางให้เดินชมดอกบัวตองอย่างใกล้ชิด พร้อมกับมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ
-
ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่เหาะ จังหวัดแม่ฮ่องสอน : ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 เป็นเส้นทางหลวงสายท่องเที่ยวเพื่อมุ่งสู่เมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เมื่อผ่านมาบริเวณนี้จะพบกับดอกบัวตองสีเหลืองสดที่บานสะพรั่งรายล้อมข้างทาง
-
ทุ่งดอกบัวตองดอยหัวแม่คำ จังหวัดเชียงราย : เป็นยอดดอยสูงราว ๆ 1,850 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกบัวตองบานเหลืองสะพรั่งท่ามกลางอากาศหนาวเย็น พร้อมกับแสงทองอ่อน ๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้า ท่ามกลางความเงียบสงบของหมู่บ้านดอยหัวแม่คำ
-
ทุ่งดอกบัวตองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง : ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ่อเหมืองแม่เมาะ เป็นพื้นที่กว่า 500 ไร่ ในสวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองทองอร่ามที่อวดโฉมเบ่งบานสีสันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีลานดอกไม้ประดับสวย ๆ หลากสี และลานดอกบัวใบเขียว รอให้คนรักดอกไม้ไปถ่ายรูปเก็บเป็นความประทับใจด้วย
-
ทุ่งดอกบัวตอง สวนป่าทุ่งเกวียน จังหวัดลำปาง : ตั้งอยู่ที่อำเภอห้างฉัตร เป็นเส้นทางระหว่างลำปางไปเชียงใหม่ เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การแวะพักผ่อนชมธรรมชาติและกางเต็นท์พักแรม นอกจากนี้ยังสามารถแวะเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ กาดทุ่งเกวียน ซึ่งมีสินค้าพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองนานาชนิด และศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งมีการแสดงของช้างให้ชมอีกด้วย
3. ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ขึ้นเชียงใหม่ไปกอดลมหนาว สูดอากาศเย็น ๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติให้หนำใจที่ดอยหลวงเชียงดาว บนความสูง 2,225 เมตร นับว่าเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย เมื่อขึ้นมาบนยอดนักท่องเที่ยวจะได้พบกับอีก 2 ดอยอยู่เบื้องหน้า นั่นคือ ดอยสามพี่น้อง และดอยพีระมิด เป็นภาพที่งดงามจับตา ให้ความรู้สึกอิ่มเอมใจท่ามกลางธรรมชาติที่โอบกอด ความโดดเด่นอีกหนึ่งอย่างของที่นี่คือ เป็นแหล่งชมไม้ดอกไม้ประดับที่สวยงามหลายชนิด เช่น ดอกค้อเชียงดาว และดอกเทียนนกแก้ว ซึ่งเป็นดอกไม้รูปร่างเหมือนนกแก้ว พบได้แค่ที่ดอยหลวงเชียงดาวเท่านั้น ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายของนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์ทั้งหลาย
4. ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่ และเทศกาลโคมแสนดวง จังหวัดลำพูน
หนึ่งในงานประเพณีที่สำคัญของชาวล้านนาในเดือนพฤศจิกายน นั่นคือ งานประเพณียี่เป็ง หรือเทศกาลงานจุดโคมไฟประดับวัดวาอารามและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เพื่อสืบสานตำนานวัฒนธรรมล้านนา กับเอกลักษณ์ธรรมเนียมปฏิบัติเพื่อบูชาพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ โดยในปี 2565 ก็มีหลายจังหวัดในภาคเหนือที่จัดงานประเพณีนี้ขึ้น เช่น งานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2565 งานยี่เป็ง ณ โหล่งฮิมคาว จังหวัดเชียงใหม่ และงานเทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน
5. เทศกาลลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย
เทศกาลประเพณีประจำปีที่หลายคนเฝ้ารอ โดยในปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายน ซึ่งแต่ละจังหวัดและแต่ละพื้นที่ต่างก็เตรียมจัดงานกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะจังหวัดสุโขทัย ที่จะจัดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2565 ถือเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ประจำปี มีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม - 8 พฤศจิกายน 2565 บริเวณหน้าวัดชนะสงคราม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย คึกคักไปกับบรรยากาศตลาดโบราณ ได้สัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมด้วยการแลกหอยเบี้ยแทนเงินสด เพื่อใช้ซื้ออาหารคาว-หวานพื้นเมือง มีกิจกรรมขบวนแห่นางนพมาศ ประกวดกระทงเล็ก-กระทงใหญ่ ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การแสดงแสง สี เสียง สุดอลังการ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์ มนตร์เสน่ห์แห่งอารยธรรมเมืองมรดกโลก
6. เขาสันหนอกวัว จังหวัดกาญจนบุรี
ชวนกันไปพิชิต เขาสันหนอกวัว ยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี มีระดับความสูงที่ 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งอยู่ทางเหนือของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี ในแนวเทือกเขาเขียวที่เป็นป่าฝั่งตะวันตกของพื้นที่อุทยาน มีส่วนที่ติดต่อกับพื้นที่ป่าในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร จึงมีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ สภาพป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และยังคงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ คำว่า สันหนอกวัว มาจากลักษณะของยอดเขาที่นูนออกมา รูปร่างคล้ายกับส่วนที่เป็นสันนูนบนหลังของวัว ที่เรียกว่าโหนกหรือหนอก เมื่อขึ้นไปถึงด้านบน วิวบนยอดเขาเป็นภูเขาหญ้าคล้ายเขาช้างเผือก มีลักษณะเปิดโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่บังทัศนียภาพ จึงสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้สุดลูกหูลูกตา เห็นทะเลสาบจากเขื่อนวชิราลงกรณ และภูเขาสลับซับซ้อนเบื้องล่าง
7. เขาพะเนินทุ่ง จังหวัดเพชรบุรี
แหล่งชมทะเลหมอกใกล้กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีอีกชื่อหนึ่งว่า ภูลวงตา เนื่องจากมีทะเลหมอกปกคลุมเหนือยอดเขาทั้งปี จนไม่สามารถมองเห็นภูเขาเบื้องหน้าได้ และหมอกเปลี่ยนทิศทางอยู่เป็นประจำ ทำให้ยากต่อการจดจำว่าเป็นเขาลูกไหน คล้ายกับโดนบังตาหรือลวงตานั่นเอง โดยทะเลหมอกเกิดขึ้นจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและต้นไม้ ที่คายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจนกลายเป็นทะเลหมอกหนาตาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกันในช่วงเช้า เมื่อหมอกเริ่มจาง ป่าดงดิบเบื้องล่างและต้นไม้น้อยใหญ่ก็ค่อย ๆ ปรากฏพร้อมกับภาพทิวเขาเรียงรายสลับซับซ้อน สำหรับช่วงที่ทะเลหมอกถูกยอมรับว่าสวยที่สุดและมีอากาศเย็นสบายที่สุดคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของทุกปี
8. ทุ่งทานตะวัน จังหวัดลพบุรี
เมื่อถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เจ้าดอกทานตะวันนับแสนต้นก็พร้อมใจกันเชิดหน้าชูคอท้าพระอาทิตย์ เหลืองอร่ามไปทั่วจังหวัดลพบุรี มีไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปอยู่ 2 จุด คือ ทุ่งทานตะวันที่บ้านหัวดง และเขาจีนแล ซึ่งแต่ละแห่งสวยงามแตกต่างกันไป อย่างที่เขาจีนแล ซึ่งได้รับการขนานนามจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นทุ่งทานตะวันที่สวยที่สุดของจังหวัดลพบุรี ดอกทานตะวันบานสะพรั่งกลางหุบเขา มีฉากหลังเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวอยู่ไกลลิบ ๆ ประดิษฐานอยู่บนเขา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปของวัดเวฬุวัน คนที่มาเที่ยว ณ จุดนี้จึงมีโอกาสขึ้นไปกราบนมัสการด้วย ส่วนที่บ้านหัวดงนั้นก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ด้วยภูมิทัศน์ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาเตี้ย ๆ มีทุ่งนา ทุ่งข้าวโพด กระท่อมปลายนา เป็นฉากหลัง หวนให้นึกถึงบรรยากาศแบบลูกทุ่ง แต่แฝงไปด้วยความร่วมสมัย ทำให้อดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้ดู ช่วงเวลาแนะนำคือเช้าตรู่ไปจนถึง 10 โมงเช้า
9. ภูหมู จังหวัดมุกดาหาร
ภูหมู ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแห่งหนึ่งของอำเภอนิคมคำสร้อย เป็นภูเขาที่มีระดับความสูง 356 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้มีการพบหมูป่าเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อภูหมู อีกทั้งที่นี่ยังเคยเป็นที่ตั้งของฐานทัพทหารอเมริกันในสมัยสงครามเวียดนามอีกด้วย เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนของภูจะมีจุดชมวิวทิวทัศน์ 3 จุด ได้แก่
-
ผาระเบียงตะวัน อยู่ด้านทิศตะวันออก เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น สามารถมองเห็นภูแผงม้า อ่างเก็บน้ำห้วยขี้เหล็ก และภูเขาในเขตวนอุทยานดงบังอี่ได้
-
ผาพบรัก อยู่ด้านทิศตะวันตก เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก สามารถมองเห็นภูด่านแต้และเทือกเขาภูพานได้
-
ผาหินสงบ อยู่บริเวณยอดเขาทางทิศใต้ สามารถมองเห็นถ้ำภูพระและอำเภอเลิงนกทาของจังหวัดยโสธรได้
10. ชมวิวทะเลหมอกสุดปัง จังหวัดเลย
เลย อีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า ภู ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ภูต่าง ๆ ของจังหวัดเลยจะกลายมาเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกสุดอลังของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ว่าจะเป็น
-
ภูบักได่ อำเภอภูเรือ : ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อำเภอภูเรือ มีความสูงประมาณ 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในฤดูหนาวอากาศที่นี่จะหนาวเย็นจัด ยามเช้าจะมองเห็นทะเลหมอกสีขาวงดงามอลังการ ไฮไลต์ห้ามพลาดคือ บริเวณยอดภูจะมีหินยื่นออกมาจากหน้าผา เรียกกันว่า ผาหลอกลวง เป็นมุมถ่ายภาพสุดฮิตที่ไม่ควรพลาด
-
ภูลำดวน อำเภอปากชม : เป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของอำเภอปากชม อำเภอชายแดนริมแม่น้ำโขงของจังหวัดเลย แต่เดิมมีชื่อเรียกว่า ภูซำทอง เพราะมีห้วยซำทองไหลผ่านใกล้ ๆ อีกทั้งเมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดของชาวบ้าน แต่ต่อมาได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่นี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะจากบริเวณนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของโค้งแม่น้ำโขงได้อย่างสวยงาม จึงตั้งชื่อใหม่ให้จุดชมวิวแห่งนี้ว่า ภูลำดวน ตามชื่อของเจ้าของที่ดินแห่งนี้
-
ภูทอก อำเภอเชียงคาน : จุดชมวิวทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่จังหวัดเลย ระยะทางห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นภูเขาสูง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถมองเห็นสายหมอกปกคลุมภูเขาคลอเคล้าแสงสีทองของพระอาทิตย์ มีระเบียงที่สามารถชมวิวได้ชัดเจน
- ภูอีเลิศ อำเภอด่านซ้าย : สถานที่ชมสายหมอกสีขาวละมุนท่ามกลางร่องภูเขาของทั้งฝั่งไทยและฝั่งประเทศลาว โดยเฉพาะในวันที่หมอกหนาแน่น ด้านล่างจะปกคลุมไปด้วยไอหมอกสีขาวโพลน ตัดกับสีเขียวของป่าเขาทั้งสองฝั่ง เป็นทัศนียภาพที่งดงามเกินบรรยาย ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงเรียกทะเลหมอกแห่งนี้ว่า ทะเลหมอกสองแผ่นดิน จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ ลักษณะของเขาที่เป็นหินซ้อนกันหลายชั้น และเป็นเว้าโค้งคล้ายแกรนด์แคนยอน น่าหวาดเสียวแต่ก็สวยงามตามธรรมชาติ
11. อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จังหวัดอุบลราชธานี
ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย และอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาพนมดงรัก ที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพ จุดเด่นของการเดินทางมาเที่ยวที่นี่คือ การได้ชมความงามของน้ำตกห้วยหลวง มีลักษณะเป็นหน้าผาหินที่มีน้ำกระโจนตกจากที่สูงลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง โดยบริเวณแอ่งน้ำด้านล่างสามารถลงเล่นน้ำได้ด้วย และจะสวยงามมากที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ภูหินด่าง พลาญกงเกวียน และแก่งกะเลา เป็นต้น
12. ควนนกเต้น จังหวัดพัทลุง
จุดเช็กอินชมวิวทะเลหมอกยามเช้าชื่อดังอีกหนึ่งที่ของภาคใต้ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจไปกับทะเลหมอกที่ลอยละล่องท่ามกลางทิวเขาน้อยใหญ่ มีฉากหลังของธรรมชาติ ป่าเขา และเส้นขอบฟ้า กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฟ้าหลังฝนหมอกจะยิ่งลงจัด อีกทั้งยังมีร้านกาแฟเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งจิบพักผ่อน พร้อมกับมองดูวิวทะเลหมอกและถ่ายรูปกันแบบสุดปัง รวมถึงใครที่อยากจะมานอนชมวิวแถวนี้ก็มีห้องพักหลายสไตล์ให้บริการด้วย ทั้งแบบกระท่อมและเต็นท์โดมสีขาว ชมได้ทั้งวิวทะเลหมอกตอนเช้าและดาวสวย ๆ ยามค่ำจากในห้องได้เลย
13. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อยู่ในเขตอำเภอสมุย ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ มากถึง 42 เกาะ สภาพเกาะส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนสูงชัน บางเกาะมีหาดทรายขาวสะอาด สวยงาม บางเกาะมีเฉพาะเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินขึ้นไปชมทัศนียภาพโดยรอบ ทำให้หมู่เกาะอ่างทองได้ชื่อว่ามีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวบนยอดเขาของเกาะวัวตาหลับ ที่สามารถชมทิวทัศน์ได้รอบถึง 360 องศา หรือจะเป็นความงดงามของทะเลสีเขียวมรกตโอบล้อมด้วยขุนเขาที่ทะเลใน เกาะแม่เกาะ ซึ่งเป็นไฮไลต์เด็ด ๆ ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเยี่ยมชมเพื่อให้เห็นความงามนี้ด้วยตาตัวเอง
14. เกาะเขาใหญ่ จังหวัดสตูล
เกาะเขาใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสตูลที่เพิ่งสำรวจและเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา อยู่ห่างจากท่าเรือปากบาราประมาณ 3 กิโลเมตร ลักษณะเป็นเกาะหินปูนกลางทะเล บนเกาะมีอ่าวชื่อ นะปุลา เป็นชายหาดที่เงียบสงบสวยงาม นอกจากนี้เวลาที่น้ำลดก็จะสามารถลอดช่องหินเข้าไปชมความสวยงามของปราสาทหินพันยอด สิ่งอัศจรรย์สุดอันซีนที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นจากการกัดเซาะหินของน้ำฝน จนกลายเป็นแท่งหินแหลมรูปร่างสวยงามแปลกตาคล้ายกับปราสาทในเทพนิยาย
15. เทศกาลพลุนานาชาติ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับงานเทศกาลแห่งความตื่นตาตื่นใจกับพลุไฟสีสันตระการตา ที่จะสร้างความสว่างไสวให้กับท้องทะเลเมืองพัทยา นับเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายเฝ้ารอคอย โดยในปีนี้มีกำหนดการจัดงานในวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2565 ตั้งแต่เวลา 17.00-23.59 น. ณ บริเวณชายหาดพัทยา จังหวัดชลบุรี หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ 1337 (เมืองพัทยา) หรือ เฟซบุ๊ก PRPATTAYA
ได้จุดเช็กอินน่าไปรับลมหนาวช่วงหนาวแรกของปีแล้วก็อย่ามัวนั่งหงอยอยู่ในบ้าน จับมือเพื่อน ควงแขนแฟน ออกไปเที่ยวกินฟินยาว ๆ ตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายนกันดีกว่า
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง