x close

เที่ยวเชียงใหม่กับ 5 โปรแกรมเส้นทางสายธรรมชาติ สัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์

            พาไปที่เที่ยวเชียงใหม่ เอาใจสาย Natural กับ 5 ที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์พร้อมกิจกรรมใกล้ชิดธรรมชาติ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน

          เชียงใหม่ จังหวัดทางภาคเหนือที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์เย็นสบาย ผสมผสานกับวัฒนธรรมล้านนาเป็นเอกลักษณ์ และมีความร่วมสมัยเข้ากันได้กับสถานการณ์ปัจจุบัน สามารถเที่ยวได้ในทุกช่วงเวลา ทำให้เชียงใหม่กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่ไปเที่ยวชมใกล้ชิดสัมผัสวิถีชีวิตพื้นเมืองแบบล้านนา และเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขึ้นดอย น้ำตก โป่งน้ำร้อน สวนดอกไม้ วัดสวย ๆ รวมไปถึงการแวะช้อป-ชม-ชิม ร้านค้า ร้านอาหาร และเลือกซื้อสินค้าแฮนด์เมดเก๋ ๆ ที่ถนนคนเดินด้วย

          นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่มีให้เลือกไม่หวาดไม่ไหวแล้วนั้น จังหวัดเชียงใหม่ยังมีเส้นทางสายธรรมชาติ ที่มีทั้งที่พักและกิจกรรมดี ๆ สำหรับผู้ที่รักในธรรมชาติ ชื่นชอบความเขียวขจี อยากจะหยุดพักความวุ่นวายในชีวิต และถอยหลังกลับไปใช้ชีวิตให้ช้าลง อยู่กับธรรมชาติให้มากขึ้น กินอยู่แบบพอเพียง ได้อยู่กับต้นไม้ใบหญ้า ใช้เวลาทำกิจกรรมในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท ในฟาร์มสเตย์ที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตที่เรียบง่าย แต่สุขกายสบายใจเหลือคณา โดยจะมีที่ไหนบ้างนั้น เราขอยกตัวอย่างมาฝากกันดังนี้

1. Mori Natural Farm

           ฟาร์มเกษตรออร์แกนิกแบบธรรมชาติ พร้อมฟาร์มสเตย์ผสมผสานกลิ่นอายความเป็นล้านนาและญี่ปุ่น ท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขา Mori Natural Farm ในตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม ซึ่งเป็นอำเภอที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นฟาร์มสเตย์เล็ก ๆ แสนอบอุ่นด้วยบริการเป็นกันเอง ให้ความรู้สึกเหมือนมาเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดเลยทีเดียว
เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

คุณปอ –สิทธิโชค พงศ์พฤกษา เจ้าของ Mori Natural Farm

          ที่พักของที่ Mori Natural Farm จะตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาลำเนาไพรได้กว้างไกล สวยงามและเพลิดเพลินสายตามาก ๆ เลย มีบ้านพักให้เลือก 5 หลัง คือ บ้านโมริ วาบิ ซาบิ บ้านพักสไตล์ญี่ปุ่น มีบ่อออนเซ็นในตัว พักได้ 5 ท่าน, บ้านเรียวคัง สำหรับ 2 คน, บ้านหลองข้าว บ้านพักสไตล์ล้านนา สำหรับ 2 คน, บ้านคอทเทจ เป็นบ้านเล็กๆ สไตล์ cottage garden สำหรับ 2 คน และบ้านโรงนา บ้านพักหลังใหญ่ที่สุดพักได้ 4-6 คน นอกจากนี้ยังมี Mori Camping Farm ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับสายแคมป์ปิ้งที่ชอบการกางเต็นท์อีก 3 หลังด้วย
เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

บ้านโมริ วาบิ ซาบิ

           ไฮไลต์เด่น ๆ ของที่ Mori Natural Farm นอกจากธรรมชาติที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ และบ้านพักสไตล์ญี่ปุ่นผสมล้านนาแล้ว ยังมีความน่ารักของเหล่าสัตว์โลกตัวน้อยอย่างน้องหมา ครอบครัวสายพันธุ์อาคิตะทั้ง 4 ตัว ซึ่งพันธุ์นี้นับว่าเป็นสุนัขที่เหล่าซามูไรจากประเทศญี่ปุ่นนิยมเลี้ยงไว้เพื่อล่าหมีโดยเฉพาะ และยังมีสายพันธุ์เฟรนด์ลี่อย่างโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ 1 ตัว ชื่อพี่แม็กซ์ นอกจากนี้ยังมีน้องแมวอีกกว่า 11 ตัว ไก่ และเป็ดเทศอีกหลายตัวเลย แขกผู้มาเข้าพักสามารถไปเล่นและถ่ายรูปกับน้อง ๆ ได้ แต่ต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าห้องบ้านพักด้วย
เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

พี่แม็กซ์ (พันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์) และไอมิ (พันธุ์อาคิตะ)

           สำหรับกิจกรรมสำหรับผู้เข้าพัก บอกเลยว่าถูกใจสายธรรมชาติสุด ๆ เพราะที่ Mori Natural Farm แห่งนี้ มีแปลงปลูกผักสวนครัวให้ได้เก็บผักสด ๆ ปลอดสารจากแปลง และส่งต่อให้ทางครัวนำไปปรุงอาหารเพื่อสุขภาพอร่อย ๆ ได้เลย ทั้งผักสลัดใบอวบ พริกหวานลูกโตสีสด และมันหวานญี่ปุ่นที่นำมาย่างร้อน ๆ กินคลายความหนาวได้ฟินนักแล แถมยังมีผลไม้ตามฤดูกาลอย่าง สตรอว์เบอร์รี เลมอน หรือข้าวโพดหวานด้วย หรือใครอยากจะฟินกับความเป็นญี่ปุ่น ลงแช่น้ำร้อนอุณหภูมิพอเหมาะในออนเซ็นแบบส่วนตัว ก็บอกเลยว่า ห้ามพลาดกับบ่อน้ำร้อนกึ่ง outdoor ขนาดใหญ่ไว้ให้นอนแช่กับแบบฟิน ๆ เลย
เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

          สำหรับสายโซเชียลทั้งหลาย ขอบอกเลยว่า ได้สนุกสนานกับมุมถ่ายรูปและพรอพเก๋ ๆ สไตล์ญี่ปุ่นที่ทางที่พักจัดไว้ให้ ทั้งชุดยูกาตะและรองเท้าเกี๊ยะแบบญี่ปุ่นได้สวมใส่ รับรองว่าโพสท่าถ่ายรูปกันจนเมมเต็มกันเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากที่พักแบบฟาร์มสเตย์แล้ว ทาง Mori Natural Farm ยังมีคาเฟ่ไว้บริการเมนูอาหารและขนมหวานที่ทำจากวัตถุดิบปลอดสารของทางฟาร์ม และเพลิดเพลินไปกับน้องหมาน้องแมวของทางฟาร์มได้ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จองที่พักไว้ และอยากมาเยี่ยมชมดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ของฟาร์มสเตย์แห่งนี้ด้วย

เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

เมนูของหวานของคาเฟ่ Mori Natural Farm

2. บ้านวสุนธารา สวนเกษตรอินทรีย์ & โฮมสเตย์

           พาไปเที่ยวชมสวนเกษตรอินทรย์และลิ้มลองเมนูศิลปะประกอบอาหารด้วยดอกไม้กินได้ (Edible Flower) ผสานสไตล์ “โอมากาเสะ” จากวัตถุดิบท้องถิ่นออร์แกนิก 100% ที่บ้านวสุนธารา ร้านอาหารและโฮมสเตย์เล็ก ๆ ภายใต้การดูแลของคุณลุงวิลาศ จุลกัลป์ อดีตนักแปลภาษาที่ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ และเกษียณมาใช้ชีวิตในจังหวัดเชียงใหม่ ซื้อพื้นที่กว่า 14 ไร่เพื่อทำการเกษตร ขุดบ่อเลี้ยงปลา ทำเกษตรอินทรีย์ปลูกผักและดอกไม้ปลอดสาร และนำวัตถุดิบที่ได้มาทำเป็นอาหารเซตในสไตล์โอมากาเสะ ในคอนเซ็ปต์มื้ออาหารแห่งความไว้ใจ ซึ่งคุณลุงเป็นผู้ลงมือทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่เก็บผัก-ดอกไม้ ปรุงอาหาร จัดตกแต่ง และยกเสิร์ฟ โดยในแต่ละวันเมนูก็จะไม่ซ้ำกัน เพราะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่หาได้ในวันนั้น นอกจากนี้ใน 1 วัน จะรับแขกเพียงแค่ 1 กรุ๊ปเท่านั้น เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่พิเศษ อิ่มอร่อยแบบอินทรีย์ 100%
เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

คุณลุงวิลาศ จุลกัลป์ เจ้าของบ้านวสุนธารา และพ่อครัวผู้ปรุงเมนูโอมากาเสะดอกไม้

เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

บรรยากาศที่บ้านวสุนธารา สวนเกษตรอินทรีย์ & โฮมสเตย์

          ตัวอย่างเมนูอาหารที่ทำจากดอกไม้ของทางบ้านวสุนธารา ได้แก่ เซตออร์เดิร์ฟ เป็นน้ำมะพร้าวปั่นสด ๆ และผลไม้ตามฤดูกาล สลัดผัก ผลไม้ และดอกไม้ราดด้วยน้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น เมี่ยงคำกลีบดอกไม้นานาพรรณ ขนมจีนน้ำยา ต้มส้มปลานิล ข้าวยำผักสมุนไพร และกล้วยบวดชี
เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

เมี่ยงคำกลีบดอกไม้นานาพรรณ

          ใครที่สนใจอยากลิ้มรสความอร่อยทั้งรูปสวย รวยรสชาติ และกลิ่นหอมที่ตราตรึงของดอกไม้ หรืออยากไปสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิดที่ร้านอาหารและโฮมสเตย์ บ้านวสุนธารา ก็สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊กของทางที่พักได้เลย
 

3. ไร่อ้อมกอดภูเขา

            สัมผัสประสบการณ์พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ใกล้ชิดกับช้าง เรียนรู้วิถีชีวิตควาญช้าง กับไร่อ้อมกอดภูเขา อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ฟาร์มสเตย์ที่จะพาทุกคนไปใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติ กับที่พักแบบกระท่อม ใช้ไฟจากแผงโซลาร์เซลล์ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ตัวแคมป์จะอยู่ในศูนย์อนุบาลช้าง สามารถเดินไปเล่นกับน้องช้างได้ตลอดเวลา มีกิจกรรมสนุก ๆ ทั้งให้อาหารช้าง อาบน้ำช้าง เดินชมไร่ ปลูกผัก เวิร์กช็อปทำสบู่จากดอกไม้ในไร่ พอกหน้าด้วยโคลน แช่สปาเท้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ตั้งแคมป์ไฟนอนดูดาว และปาร์ตี้บาร์บีคิวแสนอร่อย ใครที่มีความฝันในวัยเด็กอยากเป็นคนเลี้ยงช้าง อยากเล่นกับเจ้าตัวใหญ่ใจดี ในบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว ๆ ต้องที่นี่เลย
เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Maymei Maythinee

เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Maymei Maythinee

เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Maymei Maythinee

4. อยู่ดินกินดีฟาร์มสเตย์

           รีสอร์ตและที่พักแนวเกษตร เหมาะสำหรับคนที่รักในศิลปะและการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ตั้งอยู่กลางทุ่งนา โอบล้อมด้วยต้นไม้และขุนเขาใหญ่ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ในฟาร์มได้รับการจัดสรรอย่างดี มีที่พักสีสันสดใสทั้งแบบบ้านปูน และบ้านดินที่เป็นไฮไลต์สำคัญด้วยโครงสร้างหลังคาสูง หน้าต่างเยอะ โล่งโปร่งสบาย สามารถรับลมและถ่ายเทอากาศได้สะดวก มีแปลงปลูกผักสวนครัว สระกักเก็บน้ำไว้ใช้ทำเกษตร บ่อเลี้ยงปลา และนาปลูกข้าว ที่ในฤดูกาลทำนา รอบ ๆ ฟาร์มจะกลายเป็นทุ่งนาเขียวขจี อากาศสดชื่น เงียบสงบ ใครที่มาพักในช่วงทำนา ดำนา เกี่ยวข้าว ก็สามารถเข้าร่วมทดลองทำนาด้วยตัวเองได้ นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจของที่พักที่นี่ นอกจากนี้ยังร้านกาแฟชิค ๆ ให้นั่งชิลกับบรรยากาศด้วย
เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

ภาพจาก เฟซบุ๊ก อยู่ดินกินดีฟาร์มสเตย์ : Youdin Kindee farmstay

เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

ภาพจาก เฟซบุ๊ก อยู่ดินกินดีฟาร์มสเตย์ : Youdin Kindee farmstay

เส้นทางสายธรรมชาติเชียงใหม่

ภาพจาก เฟซบุ๊ก อยู่ดินกินดีฟาร์มสเตย์ : Youdin Kindee farmstay

5. Hippocampus

           มาใกล้ชิดธรรมชาติโดยมีแบ็กกราวน์เป็นดอยหลวงเชียงดาว วิวภูเขาหินปูนขนาดมหึมาที่สูงเป็นอันดับสามของประเทศไทย กับฟาร์มสเตย์ Hippocampus ในอำเภอเชียงดาวกันบ้าง เป็นบ้านพักเล็ก ๆ สไตล์โฮมมี่ อบอุ่น เป็นกันเอง เพียง 2 หลังที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศป่าเขาต้นไม้ใบหญ้า ที่ทำให้ผู้มาเข้าพักได้หลีกหนีจากเมืองที่พลุกพล่านและวุ่นวาย มานอนพักผ่อนบนเตียงแสนสบาย กินอาหารแบบโฮมเมด และเดินเล่นรอบฟาร์มเล็ก ๆ เพื่อดูข้าว หม่อน กาแฟ เสาวรส รวมถึงทำกิจกรรมสนุก ๆ อย่างปลูกผัก ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ ทำอาหาร ทำขนมปัง

          โดยอาหารของที่นี่จะเน้นความสดใหม่จากวัตถุดิบที่หาได้ในบ้าน ผักที่ปลูก หรือไข่จากเป็ดที่เลี้ยง หรืออื่น ๆ ที่หาได้ในท้องถิ่น ผักผลไม้ส่วนใหญ่จึงถูกนำมาปรุงเป็นอาหารตามฤดูกาล ทำให้มีความหลากหลายและแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา สำหรับใครที่จองที่พักไม่ทัน หรือไม่อยากนอนค้างคืนที่นี่ แต่อยากมานั่งเล่นชมธรรมชาติ ที่ Hippocampus ก็มีโซน Cafe & Gallery ให้ได้นั่งพักผ่อนชิล ๆ อีกด้วย
  • ที่ตั้ง : 334 หมู่ 12 บ้านโรงวัว ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัด เชียงใหม่ 

  • เบอร์โทรศัพท์ : 06-2929-4936

  • เฟซบุ๊ก : Hippocampus

          นี่เป็นเพียงบางส่วนของฟาร์มสเตย์ที่ใกล้ชิดธรรมชาติในจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น ยังมีที่พักสาย Natural ที่ยังรอให้นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นเหนือไปเสพธรรมชาติที่สวยงาม สูดอากาศบริสุทธิ์ ใช้ชีวิตตามวิถีสโลวไลฟ์อีกมากมาย หลายคนอาจจะมองว่าการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบนี้ เป็นชีวิตที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่ถ้าลองได้มาสัมผัสสักครั้งรับรองว่าจะต้องเกิดความประทับใจไม่รู้ลืมเลยทีเดียว

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวเชียงใหม่กับ 5 โปรแกรมเส้นทางสายธรรมชาติ สัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์ อัปเดตล่าสุด 6 พฤษภาคม 2565 เวลา 10:16:21 21,058 อ่าน
TOP