ที่เที่ยวปีใหม่ 2567 จะไปเที่ยวไหนดี หรือมีกิจกรรมอะไรที่สนุก ๆ ให้ทำได้บ้าง มาดูได้เลย รับรองว่าปีใหม่ปีนี้จะทำให้คุณประทับใจ
สถานที่ท่องเที่ยวปีใหม่
2567 ใครยังไม่รู้ว่าปีใหม่เที่ยวไหนดี เก็บลิสต์ทั้ง 50
สถานที่ที่เราหยิบมาแนะนำ
แล้วเลือกสักที่ไปลั้ลลาเที่ยวปีใหม่ให้อิ่มเอมใจต้อนรับสิ่งดี ๆ
ที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 กันดีกว่า
ตั้งอยู่ที่บ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย เป็นยอดดอยสูงในเทือกเขาดอยวาวี เป็นที่ตั้งสถานีวิจัยเกษตรที่สูงและหมู่บ้านขาวเขา มีแปลงปลูกผลไม้เมืองหนาวให้เที่ยวชม ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติสวย ๆ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี ชมสวนกาแฟ และเพลินตากับวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย และยังมีอีกหนึ่งสถานที่สำคัญ ได้แก่ "พุทธอุทยานดอยช้าง" มีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ และมีสระมรกตอยู่กลางพุทธอุทยาน รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่คอยให้ความร่มรื่นไปตลอดทาง
ภาพจาก Yellow Cat/shutterstock.com
ภาพจาก Korkusung/shutterstock.com
ภาพจาก Akarat Phasura/Shutterstock.com
แนะนำที่เที่ยวปีใหม่ 2567 จากทั่วไทย
1. ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย
ตั้งอยู่ที่บ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย เป็นยอดดอยสูงในเทือกเขาดอยวาวี เป็นที่ตั้งสถานีวิจัยเกษตรที่สูงและหมู่บ้านขาวเขา มีแปลงปลูกผลไม้เมืองหนาวให้เที่ยวชม ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติสวย ๆ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี ชมสวนกาแฟ และเพลินตากับวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย และยังมีอีกหนึ่งสถานที่สำคัญ ได้แก่ "พุทธอุทยานดอยช้าง" มีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ และมีสระมรกตอยู่กลางพุทธอุทยาน รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่คอยให้ความร่มรื่นไปตลอดทาง
2. สระมรกต ถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย
หลังจากที่สถานที่แห่งนี้ได้รับความสนใจากเหตุการณ์ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยผู้ประสบภัย 13 ชีวิต เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้ำหลวงก็กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ทางวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ได้ทำการตกแต่งและปรับปรุงทัศนียภาพโดยรอบ เพื่อให้เหมาะสมแก่การท่องเที่ยว ทั้งนี้บริเวณสระน้ำมรกต ขุนน้ำนางนอน จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ แต่สามารถเข้าเที่ยวชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มีห้องน้ำ ร้านค้า ร้านอาหาร ลานจอดรถไว้บริการเสร็จสรรพ
3. ไร่ชาฉุยฟง จังหวัดเชียงราย
บนเนื้อที่ตามเนินเขาของตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน มากกว่า 1,000 ไร่ เต็มไปด้วยไร่ชาคุณภาพแห่งไร่ชาฉุยฟง ด้วยความที่ไร่ชาแห่งนี้อยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเลมากถึง 1,200 เมตร พร้อมทั้งสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของชา จึงทำให้ชาที่นี่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม มีความหอมเป็นเอกลักษณ์ การันตีคุณภาพจากรางวัลต่าง ๆ ตลอดมา และเมื่อไม่นานมานี้ทางไร่ชาฉุยฟงได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมทัศนียภาพของไร่ชา พร้อมทั้งเลือกซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากทางไร่ได้ในราคาย่อมเยา
4. กิ่วแม่ปาน จังหวัดเชียงใหม่
กิ่วแม่ปาน ที่เที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 42 ถนนสายจอมทอง-อินทนนท์ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009) เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ได้รับความนิยมเสมอ เพราะการที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นทะเลหมอกสุดอลังการนั้น จะต้องเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ซึ่งเส้นทางก็จะมีทั้งป่าไม้สีเขียวขจี และทางเดินเลียบริมชายเขา ไปจนถึงหน้าผาชมวิว อันเป็นจุดที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้แบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งอากาศยังหนาวเย็น รับรองได้เลยว่าถ้าได้ไปเที่ยวกิ่วแม่ปานช่วงปีใหม่จะต้องฟินกับธรรมชาติที่นี่อย่างแน่นอน เส้นทางศึกษากิ่วแม่ปาน สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-16.00 น. โดยมีค่าธรรมเนียมสำหรับเจ้าหน้าที่ 200 บาท ต่อ 1 กรุ๊ป (ไม่เกิน 10 คน)
5. ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่
ปีใหม่นี้ชวนไปชมความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เพราะได้เริ่มทยอยออกดอกบานให้ได้ไปชื่นชมกันบ้างแล้ว โดยจะออกดอกบานเต็มที่ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ไปจนถึงช่วงต้นเดือนมกราคม ทางที่ดีแนะนำให้โทรศัพท์สอบถามกับเจ้าหน้าที่ดูก่อนนะ ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทรศัพท์ 0 5328 6729
สำหรับศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นโครงการเพื่อการวิจัยและเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ภายในล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์ความสวยงามของสวนดอกไม้และพรรณไม้ชนิดต่าง ๆ
6. ฮิโนกิแลนด์ จังหวัดเชียงใหม่
อาณาจักรไม้ฮิโนกิแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ ภายในพื้นที่กว่า 83 ไร่ ได้รับการออกแบบให้กลายเป็นเมืองจำลองแบบญี่ปุ่นขนานแท้ ประดับประดาด้วยโคมแดงขนาดยักษ์ โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ปราสาทฮิโนกิ สร้างจากไม้หอมทั้งหลัง ขนาดสูงกว่า 4 ชั้น ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศสวย ๆ ของภูเขาและธรรมชาติ ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเดินเพลินจนลืมเวลา แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ แทบจะทุกตารางพื้นที่ เดินเที่ยวเล่นได้ไม่มีเบื่อ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
7. อุทยานแห่งชาติขุนสถาน จังหวัดน่าน
ปีใหม่นี้พลาดไม่ได้กับการชมทะเลหมอกที่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน มีภูเขาสลับซับซ้อน ดอยที่สูงที่สุดคือ ดอยภูคา มีความสูง 1,726 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สำหรับสิ่งที่น่าสนใจ เช่น ดอยแม่จอก เป็นยอดดอยที่มีความสูง 1,424 เมตร อากาศหนาวเย็นตลอดปี สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน ในช่วงหน้าหนาวก็จะได้ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นสวย ๆ มีลานกางเต็นท์ไว้บริการ
8. บ้านสะปัน บ่อเกลือ จังหวัดน่าน
บ้านสะปัน เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมลำน้ำว้า ในหุบเขาของพื้นที่ตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ บรรยากาศภายในหมู่บ้านเงียบสงบ และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก มองเห็นภูเขาสูงใหญ่รอบด้าน มีลำธารสวยใสสะอาด น้ำเย็น ๆ ไหลผ่านหมู่บ้าน อากาศเย็นสบายสดชื่น สูดเข้าปอดได้แบบฟิน ๆ ช่วงเช้าจะเห็นสายหมอกบางเบา ลอยอยู่เหนือลำธาร กลางคืนก็มีทะเลดาวให้ได้ยลกันอย่างจุใจ ทั้งนี้ภายในหมู่บ้านมีโฮมสเตย์และที่พักชิค ๆ ให้ได้มานอนเล่นพักผ่อนกันด้วย
9. อุทยานแห่งชาติแม่เมย จังหวัดตาก
ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแม่อุสุ และตำบลแม่สอง บรรยากาศโดยรอบสงบร่มรื่นด้วยป่าเขา และมีสถานที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะจุดชมทะเลหมอกภายในอุทยาน ได้แก่ "จุดชมทะเลหมอกหลังที่ทำการอุทยาน" เป็นจุดที่ชมทะเลหมอกได้กว้างไกลและชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก, "ม่อนครูบาใส" และ "ม่อนพูนสุดา" อยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร สามารถชมทะเลหมอกยามเช้าและพระอาทิตย์ตกดิน และ "ม่อนกิ่วลม" เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวมากที่สุดเพื่อดูพระอาทิตย์ยามเช้าเหนือทะเลหมอก ใครที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติสวย ๆ มาที่นี่ไม่มีผิดหวัง
10. ภูลังกา จังหวัดพะเยา
ตั้งอยู่ที่ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา เป็นแหล่งชมทะเลหมอกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย นักท่องเที่ยวจะได้ชมหมอกมากมายลอยละล่องคลอเคลียกับยอดเขาหินปูนน้อยใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ อากาศสดชื่นและเย็นสบาย เที่ยวชมกันได้แบบชิล ๆ ไม่ต้องแย่งกับนักท่องเที่ยวเหมือนในช่วงหน้าหนาว ที่พักบางแห่งยังปรับลดราคาอีกด้วย
11. กิ่วฝิ่น จังหวัดลำปาง
กิ่วฝิ่น หรือดอยล้าน ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ จซ.7 ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง มีความสูง 1,517 เมตร ที่นี่จึงเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในจังหวัดลำปางเลยทีเดียว ยามค่ำคืนตรงจุดชมวิวกิ่วฝิ่นนี้จะสามารถมองเห็นแสงไฟได้ถึง 4 จังหวัด คือ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ และเชียงราย อีกทั้งยังสามารถมองเห็นดาวบนท้องฟ้าได้อย่างอลังการอีกด้วย
นอกจากนี้กิ่วฝิ่นยังเป็นจุดรอยต่อของจังหวัดลำปาง และอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่ใกล้เคียงมาก ๆ นั่นก็คือ หมู่บ้านแม่กำปอง สำหรับที่พักกิ่วฝิ่นนั้น บนดอยกิ่วฝิ่นจะไม่มีบ้านพักไว้รองรับนักท่องเที่ยว แต่ก็สามารถที่จะมากางเต็นท์ได้ ติดต่อการจองเต็นท์ได้เลยที่เจ้าหน้าที่ หรือจะลงไปนอนโฮมสเตย์ที่หมู่บ้านแม่กำปองก็ได้เช่นกัน
12. ทุ่งกังหันลมเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ตั้งอยู่ที่บ้านเพชรดำ ตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของเขาค้อเลยก็ว่าได้ เพราะเพิ่งมีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ได้ไม่นาน โดยบริเวณทุ่งกังหันลมจะมีจุดชมวิว ตลาดขายผัก-ผลไม้ปลอดสารพิษสด ๆ ของชาวบ้าน ร้านขายของฝากของที่ระลึก แปลงปลูกสตรอว์เบอร์รี และลานกิจกรรมเครื่องเล่นพื้นเมืองของชาวม้ง ให้ได้เดินเที่ยวชมกันอย่างเพลิดเพลิน ยามเช้าที่นี่อากาศดีมาก มีสายหมอกบาง ๆ ให้ได้มาสัมผัสกันด้วย อากาศเย็นสบาย สดชื่นบริสุทธิ์ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
13. จุดชมวิวบ้านชายเขา จังหวัดอุทัยธานี
จุดชมวิวบ้านชายเขา ตั้งอยู่ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก สถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมความยิ่งใหญ่อลังการของภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตา ที่รายล้อมอยู่รอบ ๆ ไร่สวนของชาวบ้าน บรรยากาศเงียบสงบ น่าประทับใจ จนหลาย ๆ คนตั้งฉายาให้ว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย โดยเฉพาะหน้าหนาว อากาศจะเย็นฉ่ำใจ มีสายหมอกยามเช้าให้ได้ชมกัน มีโฮมสเตย์ของชาวบ้านให้บริการในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย
14. เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี
กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่สวยงามมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ เนินช้างศึก ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวเขาน้อยใหญ่ในตำบลปิล๊อก พร้อมทั้งทางฝั่งประเทศเมียนมาได้อย่างสวยงามสุด ๆ เช้าก็ชมทะเลหมอกได้ เย็นก็มีพระอาทิตย์ตกดิน ยิ่งถ้าวันไหนท้องฟ้าเปิด ก็จะมองเห็นท้องทะเลอันดามันทางฝั่งประเทศเมียนมาได้เลยล่ะ อากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี มีลานกางเต็นท์ไว้บริการ
15. สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
ในยามที่ลมหนาวเข้ามาทักทายอำเภอสวนผึ้ง เป็นเหมือนอัญมณีที่เปล่งประกายท่ามกลางหมอกขาวและผืนป่าสีเขียว ในความเป็นจริงแล้วสวนผึ้งสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูหนาวจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติ ดินแดนแห่งหุบเขาและทุ่งหญ้า พร้อมด้วยการพักผ่อนแบบชิล ๆ แถมยังใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียง 2 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ นอกจากอากาศที่เย็นสบายด้วยภูมิประเทศที่ล้อมรอบด้วยหุบเขาแล้ว ที่สวนผึ้งยังครบครันทั้งเรื่องที่พักและร้านอาหารอีกด้วย
ภาพจาก sarayuth3390 / Shutterstock.com
16. ตลาดสามชุกร้อยปี จังหวัดสุพรรณบุรี
ตลาดเก่าแก่แห่งอำเภอสามชุก ตั้งอยู่ในชุมชนริมแม่น้ำท่าจีน ชาวบ้านเปิดบ้านไม้เก่าแก่ของตนขายของฝากของที่ระลึกกันอย่างคึกคัก มีของกินอร่อย ๆ ให้ไปตะลุยชิมมากมาย ใครที่ชอบกินบอกเลยว่าต้องชอบที่นี่ เพราะมีของกินให้เลือกซื้อกินไม่ต่ำกว่า 50 ร้านค้า นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ให้เยี่ยมชมด้วย คือ "พิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงจีนารักษ์" บ้านไม้เก่าแก่ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ด้านในจัดแสดงเกี่ยวกับความสำคัญของลุ่มแม่น้ำท่าจีน ประวัติความเป็นมาของเมืองสามชุกและประวัติของบ้าน เดินเที่ยวชมกันได้แบบเพลิน ๆ เลยล่ะ
17. ตลาดโบราณ 100 ปี เสาไห้ จังหวัดสระบุรี
ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สไตล์ชิค ๆ ขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวชม ตลาดโบราณ 100 ปี เสาไห้ กันค่ะ เป็นตลาดเก่าแก่ริมแม่น้ำป่าสักที่มีเสน่ห์ล้นเหลือ ด้วยบ้านเรือนแถวไม้โบราณอายุมากกว่า 100 ปี ภายในตลาดมีร้านค้าสุดคลาสสิกมากมาย และยังมีร้านอาหารอร่อยไว้รอเพียบ โดยเฉพาะร้านเกี๊ยวกรอบ กรอบทุกคำ อร่อยทุกชิ้น ต้องมาลิ้มลองกันให้ได้
18. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์ที่มีความน่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย และยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะขับรถเข้าไปเที่ยวชมด้านในได้ พร้อมทั้งแวะเที่ยวให้อาหารสัตว์ในส่วนจัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ ได้อย่างใกล้ชิด และยังมีกิจกรรมพร้อมทั้งการแสดงโชว์ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโชว์ช้างเล่นน้ำ, พาเหรดนกกาบบัว, สาธิตการให้อาหารแมวน้ำ, พาเหรดนกเพนกวิน, การแสดงความสามารถของสัตว์ต่าง ๆ, การแสดงพฤติกรรมของสัตว์ป่า เป็นต้น และยังมีสัตว์อีกมากกว่า 300 ชนิดให้ได้เที่ยวชม เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.khaokheow.zoothailand.org
19. หาดนางรำ และหาดนางรอง จังหวัดชลบุรี
มีลักษณะเป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องกัน หาดสวย น้ำใส โดย "หาดนางรำ" เป็นหาดที่คึกคักด้วยบรรยากาศของนักท่องเที่ยว ด้วยเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ห้องอาบน้ำ พร้อมด้วยกิจกรรมเล่นน้ำอีกเพียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ ระหว่างหาดนางรำและหาดนางรองมีรูปปั้นพระอภัยมณีและผีเสื้อสมุทร สามารถเดินทะลุระหว่าง 2 หาดได้
ขณะที่ "หาดนางรอง" ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นชายหาดที่อยู่ติดกัน แต่บรรยากาศค่อนข้างแตกต่างกัน ทั้งด้านความร่มรื่น ความเป็นธรรมชาติ และความเป็นส่วนตัว อยู่ที่ว่านักท่องเที่ยวชอบสไตล์แบบไหนก็เลือกไปชิลที่หาดนั้นได้เลย
20. หาดบางเสร่ จังหวัดชลบุรี
ชายหาดที่กำลังเป็นที่นิยมของสัตหีบ ที่นี่คุณจะได้พบกับความสงบ ด้วยเพราะหาดบางเสร่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็มีที่พักและรีสอร์ตไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยู่มากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านบางเสร่ แล้วแวะกินอาหารทะเลสด ๆ ซึ่งทุกวันจะมีเรือประมงมาเทียบท่า นำกุ้ง หอย ปู ปลามาให้พ่อค้าแม่ค้าได้ซื้อหาทุกวัน จึงรับประกันความสดใหม่ได้เลย
21. เขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชลบุรีมายาวนานมากกว่า 20 ปี โดยตั้งอยู่ที่ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ ติดกับทางหลวงชนบท ชบ. 1003 ถ้ามองจากระยะไกลจะเห็นว่าเขาชีจรรย์มีลักษณะเป็นภูเขาสูง รูปร่างสวยแปลกตา ความโดดเด่นและเอกลักษณ์อยู่ตรงที่พระพุทธรูปแกะสลักแบบลายเส้น รูปประทับนั่งปางมารวิชัย ซึ่งได้แรงบัลดาลใจมาจาก "พระพุทธนวราชบพิตร" ศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา มีความสูงมากถึง 109 เมตร หน้าตักกว้าง 70 เมตร มีฐานบัวสูง 21 เมตร มีชื่อพระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา บริเวณโดยรอบยังสวยงามน่าเที่ยวชม มีต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย พร้อมด้วยสวนสวย ตกแต่งไปด้วยดอกไม้หลากหลายสีสันตามฤดูกาล สามารถมาเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ฟรี ไม่มีค่าบริการใด ๆ
22. สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี
หนึ่งในสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของสัตหีบ ภายในประกอบด้วยบ้านทรงไทย สวนดอกไม้ ไม้ประดับนานาชนิด มาเที่ยวที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับสีสันของธรรมชาติ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยว ทั้งการบริการเรือชนิดต่าง ๆ ให้เช่าพาย เยี่ยมชมความน่ารักของสัตว์เลี้ยง ชมศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรม การฟ้อนรำพื้นบ้าน การแสดงช้าง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้รู้สึกประทับใจเมื่อมาเที่ยวชมความงดงามทั้งหมดของสวนแห่งนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ nongnoochtropicalgarden.com
ภาพจาก NorGal/shutterstock.com
23. เกาะมันนอก จังหวัดระยอง
เกาะมันนอก ตั้งอยู่ในเขตตำบลกร่ำ อำเภอแกลง ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเกาะส่วนตัวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมได้โดยการเข้าพักที่รีสอร์ตส่วนตัวบนเกาะ เกาะมันนอกมีเนื้อที่ไม่ใหญ่ ใช้เวลาเดินเที่ยวชมเพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็รอบเกาะแล้ว แต่ที่นี่บรรยากาศสวยงาม และน่ามาทิ้งตัวนอนเล่นบนชายหาดในช่วงวันหยุดมาก ๆ เพราะหาดทรายขาวสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ ท้องทะเลรอบ ๆ เกาะก็ยังงดงาม น้ำทะเลใส มีปะการังให้ได้ดำน้ำตื้นกันเบา ๆ
24. ตลาด 100 ปี หลังวัดโรมัน จังหวัดจันทบุรี
อีกหนึ่งตลาดน่าเที่ยวของจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่บริเวณหลังอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ย่านชุมชนเก่าแก่ที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบของชุมชน 3 เชื้อชาติ คือ ไทย จีน และเวียดนาม เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. ที่ทุกท่านจะได้เต็มอิ่มไปกับการชื่นชมวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม รวมถึงอาหารการกินอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นขนมเบื้องญวน, ขนมดอกแค, ขนมตาแบ้ว และขนมปากหม้อญวนสอดไส้หมู เป็นต้น ถึงแม้ว่าแต่ละชื่อจะฟังดูแปลก ๆ อยู่เสียหน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยถูกใจคนกิน เดินเล่นตลาดเสร็จแล้ว อย่าลืมเข้ามาชื่นชมความสวยงามของอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล โบสถ์ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในภาคตะวันออกกันด้วยนะ
25. เกาะช้าง จังหวัดตราด
เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากเกาะภูเก็ต พร้อมด้วยเกาะรายล้อมน้อยใหญ่กว่า 52 เกาะ บนเกาะช้างเรียกได้ว่ามีความสะดวกสบายพร้อมสรรพ ทั้งที่พัก ร้านอาหาร และจุดท่องเที่ยวกระจายอยู่รอบเกาะ หรือถ้าใครต้องการพักผ่อนชายหาดชิล ๆ ก็มีให้เลือกเที่ยวมากมาย เช่น หาดไก่แบ้, หาดคลองพร้าว, หาดทรายขาว และหาดท่าน้ำ เป็นต้น รวมถึงยังมีหมู่บ้านชาวประมง เยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่ายและเป็นกันเอง อีกหนึ่งเสน่ห์ของเกาะช้างที่คุณต้องมาสัมผัส
26. เกาะกูด จังหวัดตราด
เกาะที่ได้รับการขนานนามให้เป็น "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" พลาดไม่ได้กับกิจกรรมดำน้ำชมความสวยงามของโลกใต้ทะเลที่หมู่เกาะรัง ส่วนใหญ่โปรแกรมดำน้ำที่เกาะกูดมักเริ่มตั้งแต่เช้า ซึ่งหมู่เกาะรังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมดำน้ำมากที่สุด ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ล้อมรอบ พบกับแนวปะการังเขากวาง หญ้าทะเล และฝูงปลาหลากชนิด ที่แหวกว่ายไป-มาอยู่รอบตัวคุณ รวมถึงยังมีน้ำตกใหญ่ ๆ หลายแห่ง เช่น น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกคลองยายกี๋ มีหาดสวย ๆ ป่าชายเลน และแนวปะการัง เป็นต้น
ภาพจาก structuresxx/shutterstock.com
27. เกาะหมาก จังหวัดตราด
ตั้งอยู่ในท้องทะเลอ่าวไทย ระหว่างเกาะช้างและเกาะกูด เสน่ห์ของเกาะหมากอยู่ตรงที่บรรยากาศโดยรอบของที่นี่จะเงียบสงบมาก ไม่มีสถานบันเทิงหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่หวือหวา น้ำทะเลรอบเกาะสีฟ้าใส สามารถเล่นน้ำและดำน้ำชมปะการังได้อย่างจุใจ มีอ่าวและหาดทรายสวยงามหลายแห่ง เช่น อ่าวขาว, อ่าวสวนใหญ่, อ่าวนิด, อ่าวไผ่, อ่าวพระ, อ่าวตาล, อ่าวลม, อ่าวโปร่ง เป็นต้น ใครที่อยากสัมผัสกับท้องทะเลเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มาเที่ยวที่นี่ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศนั้นแบบเต็ม ๆ
28. เกาะพยาม จังหวัดระนอง
เกาะขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านมีอาชีพทำสวนมะม่วงหิมพานต์ สวนยางพาราและประมงชายฝั่ง กิจกรรมบนเกาะจะมีการตกปลา ขี่จักรยานรอบเกาะ และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำดูปะการัง เกาะพยามถือเป็นแหล่งดูปะการังที่สมบูรณ์สวยงาม และด้านทิศตะวันออกของเกาะไม่มีหาดทราย แต่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน อีกทั้งยังมีบ้านพักเอาไว้บริการนักท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ทั้งวิลล่ากลางน้ำวิวสวยหรือโฮมสเตย์ของชาวบ้าน พูดได้ว่าเกาะพยามยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติค่อนข้างอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งเลยทีเดียว
29. หาดป่าตอง ภูเก็ต
หาดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับนักท่องเที่ยว มีชายหาดเป็นแนวยาว หาดทรายขาวละเอียด และมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำแบบไม่มีเหงา เช่น ว่ายน้ำ เจ็ตสกี และสปีดโบ๊ต เป็นต้น ยิ่งช่วงเทศกาลที่หาดป่าตองจะมีนักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวคนไหนที่ชอบบรรยากาศความคึกคัก พลาดไม่ได้เด็ดขาดกับหาดป่าตอง
ภาพจาก Aleksandar Todorovic/shutterstock.com
30. เกาะไข่ จังหวัดพังงา
เกาะไข่ ประกอบด้วยเกาะไข่นุ้ย เกาะไข่นอก และเกาะไข่ใน ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันช่วงระหว่างเกาะภูเก็ตและเกาะยาวใหญ่ (พังงา) ทั้ง 3 เกาะมีลักษณะเป็นเกาะเล็ก ๆ มีเพียงเนินทรายและโขดหินอยู่บนเกาะ สิ่งที่โดดเด่นของที่นี่ก็คือหาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้าสวยใสราวกับกระจก สามารถมองเห็นพื้นทะเลได้หลายเมตร บางจุดมีแนวปะการังสวย ๆ ให้ไปแหวกว่ายพร้อมกับปลาการ์ตูนด้วย ในส่วนของเกาะไข่นุ้ยจะมีขนาดเล็กที่สุด มีหาดทรายเล็ก ๆ เท่านั้น โดยรอบจะเป็นแนวปะการัง นักดำน้ำชอบมาว่ายน้ำชมปะการังกันบริเวณนี้ ไม่อนุญาตให้ขึ้นฝั่ง ส่วนเกาะไข่นอกจะใหญ่ขึ้นมาอีกนิดหน่อย มีเก้าอี้ผ้าใบและร้านอาหารง่าย ๆ สุดท้ายคือเกาะไข่ใน อยู่ใกล้กับเกาะยาวใหญ่มากที่สุด เป็นเกาะที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะที่สุด มีร้านอาหาร ห้องน้ำ และกิจกรรมชายหาดหลากหลายแบบ
31. หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา
สวรรค์แห่งท้องทะเลสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการดำน้ำ ด้วยเพราะหมู่เกาะสิมิลันอุดมไปด้วยแหล่งปะการังน้ำลึกที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ ถึง 9 เกาะ ได้แก่ เกาะเก้า (บางู), เกาะแปด (สิมิลัน), เกาะเจ็ด (หินกะโหลก-หินพุทรา), เกาะหก (ปายู), เกาะห้า, เกาะสี่ (เมี่ยง), เกาะสาม (ปายัน), เกาะสอง (ปายัง) และเกาะหนึ่ง นอกเหนือจากความสวยงามของแนวปะการังแล้ว หมู่เกาะสิมิลันยังมีผืนทรายที่ขาวเนียนตัดกับผืนน้ำสีครามสดใส ที่ใครมาแล้วเป็นต้องกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน
32. หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา
หมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง ธรรมชาติที่สวยงามของหมู่เกาะสุรินทร์เป็นที่ต้องตาต้องใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ งดงามด้วยแนวปะการัง น้ำทะเลสีฟ้าใส และสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด แถมแต่ละเกาะก็มีหาดสวย ล้อมรอบด้วยขุนเขาเขียวขจี สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในหมู่เกาะสุรินทร์ ได้แก่ อ่าวไม้งาม, อ่าวช่องขาด, อ่าวสุเทพ, อ่าวจาก, เกาะตอรินลา (เกาะไข่) และอ่าวบอน เป็นต้น
33. เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล
นับเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา มีอ่าวน้อยใหญ่ที่มีชายหาดสวยงามอยู่หลายแห่ง และในท้องทะเลของเกาะตะรุเตายังมีปลามากมายหลายชนิด ทั้งยังมีที่เที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อ่าวเมาะและ, อ่าวตะโละวาว, อ่าวตะโละอุดัง, อ่าวพันเตมะละกา และผาโต๊ะบู เป็นต้น และที่ขาดไม่ได้คือ อ่าวตะโละอุดัง และอ่าวตะโละวาว สถานที่ที่อดีตเคยเป็นทัณฑสถาน และเป็นนิคมฝึกอาชีพของนักโทษเด็ดขาด, นักโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย และนักโทษการเมือง ก่อนจะยกเลิกไปในที่สุด
34. เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
เกาะเล็ก ๆ กลางทะเลอันดามัน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดัง ในจังหวัดสตูล ประกอบด้วย 3 หาด ได้แก่ "หาดพัทยา" "หาดซันไรซ์" และ "หาดซันเซ็ท" ซึ่งแต่ละหาดมีบรรยากาศและความสวยงามที่แตกต่างกันไป ซึ่งนอกจากชายหาดหลักทั้งสามของเกาะหลีเป๊ะแล้ว ที่เกาะหลีเป๊ะยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้แก่ เกาะไข่ เกาะหินงาม เกาะหินซ้อน เกาะอาดัง เกาะราวี เป็นต้น บอกแล้วว่ามาเที่ยวที่หลีเป๊ะที่เดียว คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
35. เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ที่เที่ยวทะเลสุดฮอตแห่งหนึ่งของไทย ตั้งอยู่ในฝั่งทะเลอ่าวไทย ประกอบด้วยชายหาดสวย ๆ มากมาย ได้แก่ หาดหน้าทอน, หาดเฉวง, หาดละไม, หาดตลิ่งงาม, หาดเชิงมน, หาดพระใหญ่, หาดบ่อผุด, หาดแม่น้ำ และหาดบางโพ เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อแพ็กเกจทัวร์เที่ยวเกาะสมุยจะเป็นแบบ One Day Trip หรือแพ็กเกจทัวร์ 3 วัน 2 คืน ก็เลือกตามสะดวก หรือถ้ามีเวลาก็เดินถามหาที่ถูกที่สุดแถวที่พักเอาได้เลย
36. ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม มีลักษณะเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม โดยมี "ตาน้ำ" เป็นหัวใจหลักของป่าต้นน้ำแห่งนี้ น้ำที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินนั้นไหลลอดใต้ภูเขาผ่านออกมายังจุดที่เรียกว่าตาน้ำ ซึ่งเป็นน้ำที่ใสบริสุทธิ์และชาวบ้านก็เชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำและพายเรือ เพื่อชื่นชมความสวยงามของป่าพรุ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวเองก็ควรที่จะปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เอาไว้
37. สระมรกต จังหวัดกระบี่
อันซีนไทยแลนด์ที่ได้รับความนิยมเสมอ ตั้งอยู่บริเวณป่าทุ่งเตียว อำเภอคลองท่อม สำหรับ “สระมรกต” สระน้ำธรรมชาติที่มีสีเขียวเหมือนมรกตขนาดใหญ่ ความใสทำให้มองเห็นพื้นหินข้างล่างได้ชัดเจน ซึ่งสระน้ำสีเขียวมรกตเป็นน้ำกระด้าง ไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของพืชและปลา จึงไม่มีสัตว์น้ำและพืชน้ำในสระเลย บริเวณรอบ ๆ สระมรกตยังมีศาลาให้นั่งพักผ่อน ชมทิวทัศน์รวมถึงสะพานไม้ที่เชื่อมออกจากป่าสู่ศาลาริมน้ำ ซึ่งเราสามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำเล่น ในบรรยากาศแสนร่มรื่น พักผ่อนหย่อนใจริมสระ หรือจะไปเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ก็ทำได้ตามอัธยาศัย
38. ทุ่งทานตะวันไร่มณีศร จังหวัดนครราชสีมา
ปีใหม่ชวนไปเขาใหญ่ ถ่ายรูปสวย ๆ ที่ทุ่งทานตะวันกว้างใหญ่ไพศาล ณ ไร่มณีศร ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง ซึ่งจะบานสะพรั่งเต็มพื้นที่กว่า 500 ไร่ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ดอกทานตะวันสีเหลืองสดใส รายล้อมไปด้วยหุบเขาน้อยใหญ่ บรรยากาศดีต่อใจ มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ ติดตามการบานของทุ่งทานตะวันได้ที่ เฟซบุ๊ก ไร่มณีศร ทุ่งทานตะวัน เขาใหญ่
39. เขายายเที่ยง จังหวัดนครราชสีมา
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว บนยอดเขามีอากาศที่สดชื่น ลดพัดเย็นสบาย อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองและเวิ้งน้ำของเขื่อนลำตะคองได้อย่างสวยงาม พร้อมกับชมกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาดยักษ์ของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา บริเวณอ่างเก็บน้ำบนเขายายเที่ยงสุดอลังการ เป็นต้น นอกจากนี้หากใครสนใจมาพักแรมที่นี่เขาก็มีบริการบ้านพัก รีสอร์ต และที่กางเต็นท์มากมาย
40. เชียงคาน จังหวัดเลย
เมืองท่องเที่ยวริมฝั่งโขงที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ก็ยังคงมีเสน่ห์ล้นเหลือ ด้วยชุมชนเล็ก ๆ สุดน่ารักที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านเรือนไม้เก่าแก่ยังคงตั้งเรียงรายอย่างสง่างาม ในตอนเช้าของทุกวันเราจะได้เห็นภาพของพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ขึ้นทางฝั่งประเทศลาว ส่องสะท้อนลำน้ำโขงให้เป็นสีส้มอ่อน ๆ สวยงามจับตา ชาวบ้านก็จะออกมาใส่บาตรข้าวเหนียวพระสงฆ์ ส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นให้กับผู้มาเยือน มีเสียงสวดมนต์เบา ๆ ลอยข้ามฝั่งมาจากประเทศลาว พร้อมกับกลิ่นข้าวจี่ย่าง หมูย่าง และอาหารพื้นเมืองหอม ๆ ยั่วน้ำย่อยยามเช้า ช่วงเย็นก็จะคึกคักไปด้วยบ้านต่าง ๆ ที่เปิดเป็นร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร บรรยากาศสุดชิล เที่ยวแป๊บเดียว แต่จะหลงรักไปอีกนาน
ภาพจาก Kornfoto.com/shutterstock.com
41. ทะเลสาบทุ่งกุลา จังหวัดสุรินทร์
ทะเลสาบทุ่งกุลา ตั้งอยู่ที่ตำบลไพรขลา อำเภอชุมพลบุรี สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนคลายร้อนยอดนิยมของชาวสุรินทร์และนักท่องเที่ยวในพื้นที่อีสานใต้ โดยมีแพไม้ไผ่ให้นักท่องเที่ยวได้ไปนั่งชมวิวชิล ๆ ใครอยากเล่นน้ำเย็นฉ่ำใสแจ๋วกลางทะเลสาบ เจ้าหน้าที่ก็ยินดีลากแพไปให้กระโดดน้ำกันอย่างเมามัน นอกจากนี้ยังมีห่วงยาง เรือเป็ดให้บริการ พร้อมทั้งร้านค้า ร้านอาหารหลากหลายแบบให้ได้กินเพลิน ๆ กันด้วย
42. ภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู โดยเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของเปลือกโลก เกิดเป็นหน้าผา ถ้ำ และกลุ่มหินรูปทรงต่าง ๆ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ของภูสิงห์ จนเกิดเป็นความงดงามของธรรมชาติที่น่าสนใจ ภูสิงห์มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ ลานธรรมภูสิงห์, จุดชมวิวลานธรรม, จุดชมวิวถ้ำฤาษี, หินช้าง, หินรถไฟ, ลานหินลาย และกำแพงหินภูสิงห์ เป็นต้น เรียกได้ว่ามาเที่ยวภูสิงห์ที่เดียวเที่ยวได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
43. จุดชมวิวหินช้างสี จังหวัดขอนแก่น
ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ นพ. 3 หินช้างสี เขตอุทยานแห่งชาติน้ำพอง บริเวณรอยต่อของอำเภอบ้านฝางและอำเภออุบลรัตน์ เป็นจุดชมวิวที่อยู่บนหน้าผาสูง สามารถมองเห็นวิวของเขื่อนอุบลรัตน์ได้แบบสวยสะกดใจ มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา พร้อมทั้งเป็นผืนป่าที่อยู่รอบ ๆ พื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านและหมู่บ้านที่อยู่ริมเขื่อน เป็นภาพที่สวยงามและหาชมได้ยากยิ่ง
44. ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย
ยอดเขาสูงที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมทะเลหมอกเหนือริมน้ำโขงสองฝั่งไทย-ลาว ในช่วงฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะได้เห็นคลื่นหมอกกระทบกับภูเขาสองฝั่ง ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยสดงดงาม โดยจุดเด่นของภูห้วยอีสันอยู่ที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน ดังนั้นคุณจึงมีเวลาตักตวงความสุขจากธรรมชาติได้แบบเต็มที่ นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปยังภูห้วยอีสัน จะต้องนั่งรถของชาวบ้านขึ้นไป โดยผ่านการประสานงานและอำนวยความสะดวกจาก อบต.บ้านม่วง อำเภอสังคม ใครอยากหาจุดชมทะเลหมอกวิวสวย คนไม่เยอะ มาที่นี่ไม่ผิดหวัง
45. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จังหวัดอุบลราชธานี
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ตั้งอยู่ที่ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดกับการชมปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ เมื่อทุก ๆ คืนต้นกัลปพฤกษ์ทางผนังด้านหลังโบสถ์จะค่อย ๆ เรืองแสงเปล่งประกาย โดดเด่นท่ามกลางความมืดมิด อย่างสวยงามและน่าประทับใจ สมกับที่ผู้คนต่างขนานนามวัดแห่งนี้ว่า "วัดเรืองแสง"
46. บ้านท่าแร่ จังหวัดสกลนคร
ตั้งอยู่ริมหนองหาร เป็นหมู่บ้านที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศ ทั้งยังเป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 100 ปี กิจกรรมท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวที่นี่ เห็นจะเป็นการชมความสวยงามของบ้านโบราณทรงยุโรป และในทุกวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี จะมีการจัด "เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส" โดยชาวบ้านจะตกแต่งโคมไฟรูปดาวไว้ที่หน้าบ้าน จากนั้นเป็นการเฉลิมฉลองในหมู่ชาวคริสต์ เป็นอีกหนึ่งงานเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสุขแทบจะในทุกพื้นที่ของบ้านท่าแร่
47. พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก จังหวัดยโสธร
แลนด์มาร์กของยโสธรและภาคอีสาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทวน มีลักษณะโดดเด่นสุด ๆ ด้วยตัวตึกคางคกสูงเท่าตึก 5 ชั้น ถือเป็นพิพิธภัณฑ์รูปร่างสุดแปลกในประเทศไทยที่สอดแทรกตำนานเกี่ยวกับพญาคางคกและบั้งไฟ ที่เป็นเรื่องเล่าตำนานพื้นเมืองของชาวอีสาน แถมยังสอดแทรกเรื่องราวด้านวิทยาศาสตร์และความหลากหลายทางชีวภาพ ภายในมีนิทรรศการบอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับที่มาของบั้งไฟโดยมีการจัดฉายเป็นภาพยนตร์ 4 มิติ และนิทรรศการเกี่ยวกับคางคกชนิดต่าง ๆ ที่พบได้ในเมืองไทย ที่มีอยู่กว่า 20 ชนิด นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่รวบรวมของดีทางด้านเกษตรกรรมของเมืองยโสธรไว้ภายในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอื่น ๆ เกี่ยวกับจังหวัดยโสธรเอาไว้ด้วย
48. สะพานไม้แกดำ จังหวัดมหาสารคาม
สะพานไม้แกดำ ตั้งอยู่ที่ตำบลแกดำ อำเภอแกดำ เป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่สร้างขึ้นทอดข้ามพาดผ่านลำห้วยหนองแกดำ เพื่อเชื่อมต่อระหว่างวัดดาวดึงษ์แกดำ บ้านแกดำ และวัดบูรพาวนาราม บ้านหัวขัว มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ในช่วงน้ำลดภายในทุ่งจะเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว มีต้นบัวแดงแซมอยู่เป็นระยะ บรรยากาศเงียบสงบและสวยงามมาก
49. พระมหาธาตุแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น
วัดที่มีความสำคัญต่อชาวจังหวัดขอนแก่น ตั้งอยู่บริเวณริมบึงแก่นนคร อำเภอเมืองขอนแก่น ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระมหาธาตุแก่นนคร ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กก่ออิฐถือปูนเรือนยอดทรงเจดีย์ มีทั้งหมด 9 ชั้น ซึ่งภายในเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และรวบรวมคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา มีการแกะสลักภาพชาดก ภาพพุทธประวัติ ภาพประจำวัน ภาพแกะสลักรูปพรหม 16 ชั้น ภาพในพิธีการต่าง ๆ ไว้บริเวณบานประตูและหน้าต่างของแต่ละชั้น ฝาผนังทั้ง 4 ด้านจะมีภาพประวัติของเมืองขอนแก่น และบริเวณชั้นที่ 9 ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองขอนแก่นได้ไกลสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย
50. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร
วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมือง เป็นที่ประดิษฐานของ "พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์" พระพุทธรูปเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของรอยพระพุทธบาทจำลอง พระธาตุภูมโนรมย์ทรง 8 เหลี่ยม และพระพุทธรูปอังคารเพ็ญที่เก่าแก่ ที่นี่เป็นอีกจุดชมวิวเมืองที่ไม่น่าพลาด โดยเฉพาะยามเย็นจะมองเห็นสะพานข้ามมิตรภาพไทย-ลาว หอแก้วมุกดาหาร และสายน้ำโขงในอีกมุมมองหนึ่ง
และนี่คือที่เที่ยวปีใหม่ 2567 ที่เราหยิบมาแนะนำกัน ช่วงวันปีใหม่ใครยังไม่มีแพลนไปเที่ยวที่ไหนก็ลองปักหมุดสักที่แล้วออกเดินทางไปสัมผัวกับธรรมชาติสวย ๆ กัน
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ วันขึ้นปีใหม่ และเทศกาลวันปีใหม่ ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
- ที่เที่ยวปีใหม่ 2567 บรรยากาศดี วิวสวย เก็บความประทับใจต้อนรับศักราชใหม่
- สถานที่ดูไฟ 2566-2567 จุดถ่ายรูปไฟคริสต์มาสและปีใหม่ทั่วไทย
- สถานที่ดูไฟ 2566-2567 จุดถ่ายรูปไฟคริสต์มาสและปีใหม่ทั่วไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก : thai.tourismthailand.org , กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช