จัดหนักจัดเต็มที่กินและที่เที่ยวในจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดท่องเที่ยวแดนอีสานที่แสนจะมีเสน่ห์ ไปกี่ครั้งก็สนุกทุกครั้ง คราวนี้มีอะไรน่าให้เราไปกินและไปเที่ยวเช็กอินบ้าง ตามมาดูกันเลย
10 ที่กินอุบลราชธานี
ไปอุบลฯ กินอะไรดี ? คำถามที่หลายคนอยากรู้ วันนี้เลยหยิบเอา 10 ร้านอาหารอุบลฯ ห้ามพลาดในเมืองอุบลราชธานีและอำเภอใกล้เคียง ที่มีทั้งร้านอาหารอร่อย ๆ ให้ได้ไปลิ้มลองมาแนะนำ โดยเริ่มกันที่
1. ร้านสาคร
ร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี ไม่ว่าใครก็ต้องแวะมาลิ้มลองความอร่อย แต่ละเมนูทางร้านคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี และผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน เมนูเด็ดน่าลองของที่ร้าน ได้แก่ แกงอ่อมปลา, น้ำพริกปลาร้าลวกจิ้ม, ไส้กรอกอีสาน, ต้มไก่บ้าน, ปลาส้มทอด และอีกหลากหลายเมนูไว้คอยให้บริการ ส่วนในเรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึง เรียกได้ว่าอร่อยถูกใจคนกิน เล่นทำเอาเราอยากขออาสาเป็นลูกค้าประจำไปนาน ๆ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
ที่อยู่ : ถนนผาแดง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
2. ส้มตำจินดา
ร้านส้มตำสุดแซ่บยอดนิยม มีเมนูอาหารหลากหลายประเภท ทั้งส้มตำ, แกงอ่อม, ทอด, ลวก หรือย่าง ก็มีจัดเสิร์ฟอย่างครบครัน แต่ละเมนูอร่อย จัดจ้าน ไม่ทำให้คนกินต้องผิดหวัง เมนูแนะนำของที่ร้าน ได้แก่ ส้มตำปูหมูยอ, ลาบเป็ด, ส้มตำปลาดุกฟู, วุ่นเส้นผัดชะอม, ไก่ทอดตะไคร้ และต้มปลาเนื้ออ่อน เป็นต้น นอกจากรสชาติอาหารจะเยี่ยมยอดแล้ว การบริการก็ถือว่าเลิศ ใครอยากหาร้านอร่อยในอุบลราชธานี ต้องแวะมาที่นี่เลย
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30-21.00 น.
ที่อยู่ : ถนนพิชิตรังสรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 045 255 223
เฟซบุ๊ก : ส้มตำจินดา
3. เลียงฮวดเฮง
ร้านอาหารจีนเก่าแก่ของจังหวัดอุบลราชธานี ใครที่ชอบกินอาหารจีนเป็นทุนเดิม แต่จะหลงใหลได้ปลื้มกับความอร่อยของเมนูอาหารที่นี่อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นแฮ่กึ๋น, หอยจ๊อ, หูหมูแก้ว, พลุ้ง, เป็ดตุ๋น, ปลากะพงต้มเผือก, เอ็นตุ๋น (เนื้อ, หมู), ตบเป็ดอบเต้าหู้, และปลากั้งผัดฉ่า เป็นต้น ใครแวะมาที่เที่ยวอุบลราชธานี แล้วนึกอยากกินอาหารจีน เห็นทีว่าต้องมาเช็กอินความอร่อยที่นี่กันเสียแล้ว
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-20.30 น.
ที่อยู่ : ถนนศรีณรงค์ อำเภอเมือง จังหวัดเมืองอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 045 254 279
4. Papilio
ร้านกาแฟและขนมหวานฮอตฮิตแห่งเมืองอุบลราชธานี โดดเด่นด้วยการตกแต่งร้านที่เรียบง่าย แต่ดูดีมีเอกลักษณ์ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามารู้สึกถึงความผ่อนคลาย จะสั่งอาหารหรือจะสั่งเป็นเครื่องดื่มชิล ๆ ก็ดีไม่แพ้กัน เมนูเครื่องดื่มที่น่าสนใจ ได้แก่ อเมริกาโน่เย็น, ช็อกโกแลตลาวา สตรอว์เบอร์รี และน้ำส้ม Yuzu เป็นต้น ในส่วนของเมนูอาหารก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น กะเพราหมูสับทะเล, คะน้าหมูน้ำมันหอย, ผัดขี้เมาทะเล, พะแนงหมู, ต้มยำน้ำข้น และราดหน้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีของกินเล่น, เมนูสปาเกตตี และสเต๊กอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.
ที่อยู่ : หมู่ 8 ตำบลบุ่งไหม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 061 871 8716
เฟซบุ๊ก : All New Papilio Dessert
5. น้ำเต้าหู้เตาถ่าน
ภาพจาก OaddybeinG
ภาพจาก OaddybeinG
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่ 03.00-12.00 น. (หยุดวันจันทร์)
ที่อยู่ : ถนนราชบุตร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 095 451 5655
เฟซบุ๊ก : น้ำเต้าหู้เตาถ่าน อุบลราชธานี
6. อากาเว่
ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นน่าลอง มองจากภายนอกร้านอาจเห็นว่าธรรมดา แต่พอได้ลองเข้ามานั่งในร้าน บอกเลยว่าบรรยากาศสุดชิลและแสนสบาย เมนูอาหารแต่ละเมนูล้วนแล้วมีรายละเอียด รสชาติดี และสะอาด แน่นอนเลยว่า เมื่อมาถึงที่ร้าน...ต้องอิ่มอร่อยไปกับเมนูอาหารเวียดนามหลากหลายชนิด เช่น แหนมเนืองปลากราย, เส้นหมี่หมูย่าง, แหนมเนืองหมู, ยำหมูยอ, ยำหัวปลี, หมูยอทอด, เต้าหู้ทอด และซุปขนมจีนหมูย่าง เป็นต้น อาหารแต่ละเมนู ล้วนแล้วคัดสรรวัตถุดิบเป็นอย่างดี รับรอบว่าถูกใจคนกิน รวมถึงยังมีเมนูเครื่องดื่มอีกมากมาย ที่พร้อมรอให้ลริการลูกค้าด้วยความเต็มใจ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-20.30 น.
ที่อยู่ : ถนนพโลรังฤทธิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 045 900 241
เฟซบุ๊ก : อากาเว่ / vietnamese cuisine & café
7. เจ๊หุ่นยนต์ ปากหม้อ
ร้านปากหม้อเล็ก ๆ อยู่แถวหน้าอำเภอ บนถนนเบ็ญจะมะ สังเกตง่าย ๆ ว่าจะมีลูกค้ามายืนรอต่อคิวลิ้มลองความอร่อยแบบแน่นร้าน เอกลักษณ์ของที่ร้าน นอกเหนือจากความอร่อยแล้ว เห็นจะอยู่ที่ตัวแม่ค้า ที่มีจังหวะและลีลาการทำปากหม้อที่ไม่เหมือนใคร (ถ้าอยากรู้ต้องมาดูให้เห็นกับตา) อร่อยไปกับปากหม้อญวน แผ่นแป้งเหนียวนุ่ม ที่ห่อไส้ปรุงรส ต้นหอมซอย และหมูยออีกนิด ยิ่งถ้าได้กินกับน้ำจิ้มรสเด็ด บอกเลยว่าถูกใจ แถมร้านยังมีแบบไข่ดาว ไข่เจียว และข้าวเกรียบไข่ดาว ข้าวเกรียบไข่เจียว ให้ได้ลิ้มลองกันด้วย
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-14.00 น.
ที่อยู่ : ถนนสรรพสิทธิประสงค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 045-255-324
8. Ricco Caf
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00-24.00 น.
ที่อยู่ : ถนนนพคุณ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 045 240 440
เฟซบุ๊ก : RICCO CAF\'" most popular bar in town
9. โอชิเน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.
ที่อยู่ : ถนนชวาลาใน อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 045 241 111
เฟซบุ๊ก : โอชิเน อุบล - Oshinei Ubon
10. ก๋วยจั๊บ 99
หนึ่งในร้านกวยจั๊บญวนเจ้าอร่อย ความอร่อยเลื่องลือไปทั่วทั้งจังหวัด จุดเด่นมัดใจลูกค้า อยู่ที่เส้นกวยจั๊บญวน ของที่ร้านจะเป็นเส้นกลม เล็ก เหนียว โดยเอามาต้มกับน้ำซุป โรยด้วยหอมเจียว ใส่เครื่องตามต้องการ หลัก ๆ ก็จะเป็นหมูยอกับเลือดหมู หรือถ้าลูกค้าคนไหนสนใจอยากเพิ่มกระดูกหมู ปีกไก่ ตีนไก่ และน่องไก่ ก็สามารถสั่งได้เลยค่ะ แอบแนะนำนิดหนึ่งว่าใครจะมากินที่ร้านนี้ต้องใจเย็น ๆ เพราะลูกค้าแน่นร้านตลอดเวลา แต่รับรองว่าได้กินของอร่อยชัวร์
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-20.30 น.
ที่อยู่ : ถนนพิชิตรังสรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 045 260 424
10 ที่เที่ยวจังหวัดอุบลราชธานี
ตระเวนกินของอร่อย ๆ ในตัวเมืองอุบลฯ และอำเภอใกล้เคียงจนอิ่มหนำ ก็ถึงเวลาไปสำรวจที่เที่ยวกันแล้ว ไปดูสิว่าจะมีที่ไหนให้เราไปเช็กอินหรือถ่ายรูปสวย ๆ บ้าง
เริ่มที่วัดสำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี ชมความสวยงามทางสถาปัตยกรรมของ "พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์" สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษ ของพุทธศาสนาในปี พ.ศ. 2500 โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ภายนอกงดงามด้วยองค์สีขาวลวดลายสีทองสุดวิจิตร พร้อมด้วยภาพนูนต่ำบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าสิบชาติ ส่วนภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ หลังจากนั้นได้มีการบูรณะและสร้างพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์องค์ปัจจุบันครอบองค์พระธาตุเดิมไว้ และในส่วนด้านหลังของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ มี "พระวิหาร" ภายในประดิษฐานพระประธานและพุทธรูปงดงามอีกหลายองค์ นับเป็นสถานสถานสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดที่ควรค่าต่อการมาเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง
ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
2. วัดมหาวนาราม
วัดมหาวนาราม เดิมชื่อว่า วัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์ แต่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า "วัดป่าใหญ่" เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี มีปูชนียวัตถุสำคัญของทางวัด คือ "พระเจ้าใหญ่อินแปลง" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง ลักษณะศิลปะแบบลาว ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า
โดยในวันเพ็ญเดือน 5 (ประมาณเดือนเมษายน) ของทุกปี จะมีการทำบุญตักบาตร เทศน์มหาชาติชาดก และสรงน้ำปิดทองพระเจ้าใหญ่อินแปลง ซึ่งถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีมาจนทุกวันนี้
ที่อยู่ : ถนนหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
3. ชุมชนคนทำเทียน
งานแห่เทียนพรรษาที่จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นงานบุญยิ่งใหญ่ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เบื้องหน้าแห่งความอลังการ กลับเต็มไปด้วยความศรัทธาและความสามัคคีของชาวบ้านมากมายอยู่เบื้องหลัง รวมเป็นชุมชนคนทำเทียนที่มีอยู่หลากหลายชุมชน เช่น โรงเทียนวัดพระธาตุหนองบัว, โรงเทียนวัดศรีอุบลรัตนาราม, โรงเทียนวัดไชยมงคล, โรงเทียนวัดทุ่งศรีเมือง, โรงเทียนวัดศรีประดู่ และศูนย์การเรียนรู้วัดศรีประดู่ และโรงเทียนวัดกุดคูณ เป็นต้น
นักท่องเที่ยวที่มาเยือน นอกจากจะได้ชมทุกขั้นตอนของการลงมือตกแต่งต้นเทียนแล้ว ยังจะได้เรียนรู้วิถีชุมชน วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่แฝงอยู่ในต้นเทียนทุกต้น อย่างยากที่จะหาชมได้จากที่อื่น
4. แกรนด์แคนยอน บ้านหนองไหล
ตั้งอยู่ที่บ้านหนองไหล ตำบลหนองขอน เดิมเป็นพื้นที่บ่อดินสาธารณะ จนมีรถมาขุดดินบริเวณดังกล่าวไปทำถนน พอขุดเจอน้ำก็ย้ายไปขุดบริเวณใหม่ เกิดเป็นหลุมดินขนาดใหญ่หลายหลุมสลับไปมา ภายในหลุมดินแต่ละหลุมยังมีบ่อน้ำใสขังอยู่ กลายเป็นภาพแปลกตา และเรียกเสียงฮือฮาให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนไม่น้อยได้มาถ่ายรูปเก๋ ๆ แต่ถ้าใครมาช่วงหน้าฝน น้ำจะค่อนข้างเยอะ อาจมองไม่เห็นคันดินกั้นน้ำของแต่ละหลุม อย่างไรก็แล้วแต่…อย่าได้ลงเล่นน้ำเด็ดขาด หรือถ้าจะถ่ายรูป ก็ถ่ายด้วยความรัดระวัง เพื่อกันไม่ให้ลื่นพลัดตกลงบ่อน้ำ
ที่อยู่ : บ้านหนองไหล ตำบลหนองขอน อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
5. หาดวัดใต้
ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี มีลักษณะเป็นเกาะหาดทรายโดยธรรมชาติ อยู่กลางล้ำน้ำมูล บนเกาะมีต้นไม้และหาดทรายขาว เอกลักษณ์สำคัญของการข้ามไปบนเกาะ นั่นคือนักท่องเที่ยวจะต้องเดินไปบนสะพานไม้ไผ่ เป็นทางยาวประมาณ 250 เมตร แต่ก็ไม่ได้สร้างไว้ถาวร โดยในแต่ละปีสะพานไม้ไผ่จะถูกรื้อถอนเมื่อถึงหน้ามรสุมช่วงเดือนพฤษภาคม และจะถูกสร้างขึ้นใหม่ในหน้าแล้งอีกครั้งเมื่อช่วงเดือนธันวาคม เพื่อซ่อมแซมและปรับปรุงภูมิทัศน์ต่าง ๆ
ตลอดทางเดินบนสะพานไม้ไผ่ นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสวิถีประมงพื้นบ้าน รวมถึงยังมีเมนูอาหารอร่อย ๆ ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ที่อยู่ : ถนนเขื่อนธานี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
6. วัดหนองป่าพง
ตั้งอยู่ในอำเภอวารินชำราบ เป็นวัดที่องค์หลวงปู่ชา สุภัทโท ได้ก่อตั้งขึ้น และสร้างให้เป็นวัดแห่งการปฏิบัติภาวนาอบรมจิตใจ ให้บริสุทธิ์และบริบูรณ์ในศีล สมาธิ และปัญญา ตามหลักคำสอนขององค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เน้นความเป็นอยู่สงบ และเรียบง่ายภายในป่า เพื่อช่วยยกระดับจิตใจให้ผู้ปฏิบัติ ได้สัมผัสกับความรู้สึกสงบร่มเย็น อันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของการประพฤติพรหมจรรย์ในพระพุทธศาสนาต่อไป นอกจากนี้วัดหนองป่าพงยังเป็นต้นแบบของวัดป่ากว่า 100 แห่งในประเทศไทย และอีกหลายแห่งในต่างประเทศ โดยทางวัดได้อนุญาตให้พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้เข้ามาปฏิบัติธรรมได้อีกด้วย
ที่อยู่ : ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 086 360 5768
เว็บไซต์ : www.ubu.ac.th
7. สวนสัตว์อุบลราชธานี
ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติดงฟ้าห่วน บนเนื้อที่ 1,217 ไร่ มีลักษณะเป็นป่าโปร่ง ซึ่งพบต้นยางนามากที่สุดในประเทศไทยด้วย ความน่าสนใจของที่นี่อยู่ตรงที่การจัดแสดงสัตว์จะจัดในรูปแบบ Jungle Park ให้สัตว์ได้อยู่กับป่าไม้ ปล่อยเลี้ยงในพื้นที่อย่างเป็นอิสระ และให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเที่ยวชมอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันที่นี่มีสัตว์ป่านานาชนิด เช่น เสือโคร่งไซบีเรีย, เสือโคร่งอินโดจีน, เสือโคร่งขาว, สิงโต, สิงโตขาว, เก้ง, ละมั่งพันธุ์พม่า, เนื้อทราย, กวางป่า, ซิก้า, บาราซิงก้า และแบล็กบั๊ก เป็นต้น
นอกจากนี้ภายในพื้นที่สวนสัตว์ยังเป็นที่ตั้งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) และมีห้องพักให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนกันด้วย
ที่อยู่ : 112 หมู่ 17 ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 0 4525 2761, 09 3320 0810
เว็บไซต์ : ubon.zoothailand.org
เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์อุบลราชธานี Ubon Zoo
8. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี
ภาพจาก Nussar / Shutterstock.com
ตั้งอยู่ที่ถนนเขื่อนธานีตัดกับถนนอุปราช อำเภอเมือง เดิมเป็นศาลากลางจังหวัด สร้างเมื่อ พ.ศ. 2461 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นเหมือนศูนย์อนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น มุ่งเน้นเรื่องราวต่าง ๆ ของจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งทางภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ โบราณคดี วัฒนธรรมพื้นบ้าน และชาติพันธุ์วิทยา โดยแบ่งหัวข้อเรื่องนิทรรศการเป็น 10 ห้อง ดังนี้
- ห้องจัดแสดงที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดอุบลราชธานี
- ห้องจัดแสดงที่ 2 ภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ห้องจัดแสดงที่ 3 สมัยก่อนประวัติศาสตร์
- ห้องจัดแสดงที่ 4 สมัยประวัติศาสตร์เริ่มแรก วัฒนธรรมทวารวดี และวัฒนธรรมเจนละ (ขอมหรือเขมรสมัยก่อนเมืองพระนคร) ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12-15
- ห้องจัดแสดงที่ 5 วัฒนธรรมหรือเขมรสมัยเมืองพระนคร ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 15-18
- ห้องจัดแสดงที่ 6 วัฒนธรรมไทย - ลาว ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 23-25
- ห้องจัดแสดงที่ 7 ผ้าโบราณและผ้าพื้นเมืองอุบลราชธานี
- ห้องจัดแสดงที่ 8 ดนตรีพื้นเมือง
- ห้องจัดแสดงที่ 9 ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน และเครื่องใช้ในครัวเรือน
- ห้องจัดแสดงที่ 10 การปกครองและงานประณีตศิลป์เนื่องในพุทธศาสนา
เวลาเปิด-ปิด : วันพุธ-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.00 น. (หยุดวันจันทร์-อังคาร)
เบอร์โทรศัพท์ : 045 251 015
เว็บไซต์ : www.finearts.go.th
9. บ้านคำปุน
ตั้งอยู่ที่อำเภอวารินชำราบ ที่นี่เป็นแหล่งผลิตงานหัตถศิลป์ผ้าทอมือ และแหล่งอนุรักษ์ศิลปะพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอุบลราชธานี โดยมี คุณเถ่า-มีชัย แต้สุจริยา เจ้าของบ้านคำปุน ผู้มีผลงานโดดเด่นจนได้รับการยกย่องในฐานะ "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" ดูแลอยู่
ภายในโดดเด่นด้วยอาคารสถาปัตยกรรมไทยที่ผสมผสานกับเอกลักษณ์ท้องถิ่นอย่างลงตัว โดยเปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง ผ้าโบราณล้ำค่า ตลอดจนเรียนรู้ถึงกรรมวิธีการผลิตผ้าทอมือ ได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น (ในช่วงเข้าพรรษา) หากแต่ในปี 2561 บ้านคำปุนได้เปิดอาคารพิพิธภัณฑ์คำปุน ซึ่งเป็นอาคารใหม่ ตั้งอยู่ติดกันด้านขวามือของบ้านคำปุน ทั้งนี้ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์และร้านกาแฟ-ของที่ระลึก จะเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจเรื่องถักทอ มาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี นับตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป
*หมายเหตุ ปี พ.ศ. 2562 จะเป็นปีสุดท้ายของงานนิทรรศการ บ้านคำปุน แต่ในส่วนของอาคารพิพิธภัณฑ์ ยังคงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมได้ปกติ
ที่อยู่ : ถนนศรีสะเกษ ตำบลหนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 045 254 830
เฟซบุ๊ก : Khampun Museum
10. สวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุบลราชธานี สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงยังเป็นสถานที่ที่เอาไว้ใช้ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น งานแห่เทียนเข้าพรรษา, งานสดุดีเจ้าเมืองอุบลราชธานี, งานกาชาด หรืองานปีใหม่ ภายในทุ่งศรีเมือง ยังมีสิ่งก่อสร้างให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมอีกด้วย เช่น อภิมหาเทียนพรรษาเฉลิมพระเกียรติ, อนุสาวรีย์แห่งความดีของชาวเมืองอุบลราชธานี, ศาลหลักเมืองอุบลราชธานี และอนุสาวรีย์ของพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ เป็นต้น
ดังนั้นหากจะพูดว่าสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง เป็นเหมือนศูนย์รวมและศูนย์กลางในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวเมืองอุบลราชธานีก็คงจะไม่ผิดไปนัก และเมื่อมีคนทุกกลุ่มทุกวัยเข้ามาแวะเวียนอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้ ในเรื่องของ "ห้องสุขา" ก็เป็นอีกหนึ่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่อาจมองข้าม หากสังเกตดี ๆ ห้องน้ำตามแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ บางทีก็ไม่สะอาดบ้าง เก่าบ้าง หรือมีไม่เพียงพอบ้าง และด้วยเพราะเหตุนี้ ทาง King Power ร่วมกันกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้ร่วมส่งมอบห้องน้ำห้องน้ำ "พลังคนไทย สุขา สุขใจ" แห่งที่ 2 ให้กับชาวอุบลราชธานีอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
ทั้งนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการออกแบบและก่อสร้างห้องน้ำเป็นจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท มีห้องน้ำโดยเฉพาะและทางลาดสำหรับผู้พิการ เพื่อให้เป็นห้องน้ำของทุกคน ทั้งนี้คาดว่าโครงการฯ จะก่อสร้างแล้วเสร็จครบทั้ง 10 แห่ง ภายในเดือนธันวาคม 2561
ชมภาพ 360 องศา บริเวณสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
https://photos.google.com/photo/AF1QipO3DSFkgwHyT9OUIxz3SCfNCxH8j71JcrG3HV93
สำหรับใครที่ต้องการแนะนำเพื่อการขอรับห้องน้ำชุมชน มีเงื่อนไขคร่าว ๆ 6 ข้อ ดังนี้
1. ชุมชนต้องมีพื้นที่ขนาด 5 เมตร X 10 เมตร สำหรับก่อสร้างห้องน้ำ พลังคนไทย สุขาสุขใจ
2. ชุมชนที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 500 – 1,000 คนต่อสัปดาห์
3. มีศักยภาพในการดูแล โดยมีการตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานโครงการห้องน้ำชุมชนอย่างน้อย 5-7 ท่าน
4. มีศักยภาพในการดูแลและรักษาความสะอาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายกับประชาชนผู้ใช้บริการ
5. ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะชุมชนมีพื้นที่สาธารณะ เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับบุคคลทั่วไป
6. เขียนแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของชุมชนตนเองที่เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปความยาวไม่เกินหน้ากระดาษ A4 ติดต่อที่ King Power โทรศัพท์ 02 677 8888
รายละเอียด : เฟซบุ๊ก King Power Thai Power พลังคนไทย
งานนี้เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มทั้งเรื่องกินและเรื่องเที่ยวที่จังหวัดอุบลราชธานีแบบสุด ๆ บอกแล้วไงคะว่ามาเที่ยวอุบละราชธานีเมื่อไร ไม่มีผิดหวังแน่นอน เผลอ ๆ หลายใครอาจติดใจ อยากกลับมาเที่ยวที่นี่อีก ที่เที่ยวเยอะแยะ พ่วงด้วยของกินอร่อยแบบนี้ ใครบ้างจะไม่อยากมาเที่ยว จริงไหม ?