ที่เที่ยวบึงกาฬ อีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยวของภาคอีสาน เรียนรู้วิถีชุมชน เพลิดเพลินกับธรรมชาติสวย บอกเลยว่าที่บึงกาฬยังมีที่เที่ยวเด็ด ๆ ให้คุณไปเช็กอินอีกเพียบ
"บึงกาฬ" จังหวัดน่าท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของภาคอีสาน ด้วยเพราะลักษณะภูมิประเทศที่ต่างจากพื้นที่อื่น ๆ
มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่สูง
ทำให้บึงกาฬมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจซ่อนอยู่เพียบ
วันนี้เราจะลัดเลาะพาไปชมที่เที่ยวบึงกาฬเด็ด ๆ กัน ตามเรามาเช็กอินด้วยกันเลย
1. หินสามวาฬ
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา
ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง
แยกตัวเป็น 3 ก้อน มีอายุประมาณ 75 ล้านปี หนึ่งเดียวของโลก
เมื่อมองดูจากระยะไกล หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ
ที่ประกอบด้วยพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ ซึ่งเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน
ทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในภูสิงห์ มองเห็นผืนป่า
ทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก
หาดทรายแม่น้ำโขงและภูเขาเมืองปากกระดิง ประเทศลาว สวยงามเกินคำบรรยาย
2. ภูสิงห์
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู
โดยเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของเปลือกโลก เกิดเป็นหน้าผา ถ้ำ
และกลุ่มหินรูปทรงต่าง ๆ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ของภูสิงห์
จนเกิดเป็นความงดงามของธรรมชาติที่น่าสนใจ
ภูสิงห์มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ ลานธรรมภูสิงห์,
จุดชมวิวลานธรรม, จุดชมวิวถ้ำฤาษี, หินช้าง, หินรถไฟ, ลานหินลาย
และกำแพงหินภูสิงห์ เป็นต้น เรียกได้ว่ามาเที่ยวภูสิงห์ที่เดียวเที่ยวได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
3. ภูทอก
เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร
(วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง
บริเวณโดยรอบภูทอกล้อมรอบด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและเงียบสงบ
และมีสะพานไม้สร้างวนขึ้นไปสู่ยอดเขารวมทั้งหมด 7 ชั้น
เพื่อเป็นทางเดินขึ้นไปยังกุฏิและถ้ำที่อยู่ตามหลืบผา
จากด้านบนนักท่องเที่ยวจะมองเห็นความสวยงามของภูมิประเทศเบื้องล่างได้ไกลสุดลูกหูลูกตา
ยิ่งถ้าในวันที่อากาศแจ่มใส
อาจมองได้ไกลถึงเทือกเขาในเขตจังหวัดนครพนมเลยด้วย
4. วัดสว่างอารมณ์
วัดสว่างอารมณ์
หรือ วัดถ้ำศรีธน ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอปากคาด
เป็นวัดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของที่เที่ยวบึงกาฬ เป็นวัดที่มีทิวทัศน์สวยงาม
มีลำธารเล็ก ๆ ไหลผ่านในบริเวณวัด เต็มไปด้วยก้อนหินน้อยใหญ่ และเงียบสงบ
มีโบสถ์ตั้งอยู่บนก้อนหินใหญ่
ถ้ำด้านล่างเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ปางปรินิพพาน
บริเวณด้านบนก้อนหินเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม
รวมถึงยังเป็นสถานที่จัดงานประจำปี ทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่
และออกพรรษา โดยจะมีคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
ภาพจาก Sakcared / Shutterstock.com
5. น้ำตกถ้ำพระ
ตั้งอยู่บ้านถ้ำพระ
ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว
ตัวน้ำตกถ้ำพระแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก ๆ ได้แก่
ช่วงแรกจะเป็นธารน้ำตกไหลลดหลั่นลงสู่แอ่งน้ำกว้าง
(นักท่องเที่ยวคนไหนจะเล่นน้ำตรงส่วนนี้ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
เพราะน้ำจัดได้ว่าค่อนข้างลึกพอสมควร) ถัดมาช่วงกลางของน้ำตก
มีพื้นที่ขนาดใหญ่กินพื้นที่ยาวไปจนถึงฝายทดน้ำ
น้ำค่อนข้างตื้น และส่วนสุดท้ายเป็นบริเวณเหนือฝายขึ้นไป
จุดนี้ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของน้ำตก
เพราะคุณจะได้เห็นน้ำตกกว้างสีขาวลอยฟูฟ่อง
ซึ่งเป็นต้นธารที่ไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง
จุดนี้จะเห็นนักท่องเที่ยวที่ทั้งขึ้นมาชมน้ำตก
และลงเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมาก
6. น้ำตกเจ็ดสี
ตั้งอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว
เป็นหนึ่งในน้ำตกสวย ๆ ของที่เที่ยวบึงกาฬที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว
ทั้งยังมีจุดให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำด้วยกันหลายจุด
ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
ทั้งส่วนของร้านค้าและเครื่องดื่มมากมาย
หากแต่นักท่องเที่ยวควรเพิ่มความระมัดระวัง เพราะเส้นทางเดินค่อนข้างชัน
บางช่วงทางเดินค่อนข้างลื่น ดังนั้นอย่าได้ประมาทเวลาเดินเด็ดขาด
โดยช่วงที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวน้ำตกเจ็ดสี จะอยู่ในช่วงฤดูฝน-ต้นฤดูหนาว
รับรองว่าคุณจะได้ชมน้ำตกสวย ๆ อย่างแน่นอนเลยค่ะ
7. น้ำตกชะแนน
ตั้งอยู่ในท้องที่บ้านเทพมีชัย ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะสายน้ำของน้ำตกเกิดจากลำห้วยชะแนนไหลหลั่นกันเป็นชั้น ๆ ยิ่งถ้าไปในช่วงหน้าฝน ปริมาณน้ำที่ตกจากหน้าผาเรียกได้ว่าอลังการแบบสุด ๆ เหมือนกับม่านเมฆสีขาวตั้งตระหง่าน เสียงน้ำตกไหลดังกึกก้อง ละอองน้ำกระเซ็นเป็นวงกว้างตามขนาดหน้ากว้างของน้ำตก รับรองว่าสวยงามคุ้มคาแก่การรอคอย
8. น้ำตกตาดิมานทิพย์
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภุลังกาจังหวัดบึงกาฬ ประกอบด้วยน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น ปกติแล้วจะมีน้ำเยอะในช่วงหลังฝนตก ความสวยงามไม่ได้อยู่เพียงม่านน้้ำสุดอลังแต่เพียงเท่านั้น หากแต่ยังล้อมรอบด้วยป่าไม้ มองทางไหนก็เพลินตาสบายใจ ซึ่่งถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนต้องการเดินขึ้นสู่ชั้น 7 จำเป้นที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทาง หากแต่เมื่อขึ้นไปเยือนแล้ว รับรองว่าสวยงามประทับใจแน่นอน
9. หนองกุดทิง
แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ ทั้งยังเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญระดับโลก (พื้นที่แรมซาร์) แห่งที่ 11 ของประเทศไทย ด้วยเพราะมีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงนกสายพันธุ์ต่าง ๆ เหมาะสำหรับเป็นที่เที่ยวพักผ่อน เอาไว้ชื่นชมธรรมชาติในวันสบาย ๆ
10. แก่งอาฮง
ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดอาฮงศิลาวาส ถือเป็นจุดที่แม่น้ำโขงมีความลึกที่สุดและจะยิ่งเชี่ยวในช่วงฤดูน้ำหลาก กระแสน้ำจะไหลวนเป็นรูปกรวยขนาดใหญ่
ซึ่งชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าเป็น "สะดือแม่น้ำโขง" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่นชิล ๆ
อีกทั้งยังเป็นสถานที่เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่าง "บั้งไฟพญานาค"
ในช่วงประเพณีออกพรรษา
ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมปรากฏการณ์นี้กันเป็นจำนวนมาก
ภาพจาก Ford Contributor / shutterstock.com
11. ล่องแพหนองเลิง
ภาพจาก Phonpipat Jampatip / shutterstock.com
12. บึงโขงหลง
ตั้งอยู่ที่อำเภอบึงโขงหลง ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก
โดยเฉพาะนกน้ำที่ย้ายถิ่นเข้ามาในช่วงฤดูหนาว
เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพเป็นอย่างมาก
ในน้ำก็อุดมไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด
บริเวณบึงยังมีหาดคำสมบูรณ์ที่มีหาดทรายทอดยาวในช่วงฤดูหนาว
เป็นแหล่งพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ มองเห็นภูลังกาเป็นฉากหลัง
ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ในจังหวัดนครพนมได้อย่างชัดเจน
13. พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต
ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย พิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางวิถีชีวิตชุมชน โดยอาคารเป็นบ้านไม้เก่าแก่รูปทรงอีสานที่มีอายุกว่า 60 ปี และได้นำมาปรับปรุงให้มีสไตล์ที่ร่วมสมัย ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิถีอีสานอินสไตล์ ที่มีกลิ่นอายทั้งเรื่องประเพณี วิถีชีวิต วัฒนธรรม และศิลปะท้องถิ่นผสมผสานกัน ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของชุมชนแห่งนี้ ทั้งยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้คุณได้ร่วมสนุกอีกมากมาย เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่าย (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 086 229 7626 และเฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จ.บึงกาฬ)
14. หาดทรายขาว
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจของที่เที่ยวบึงกาฬ มีลักษณะเป็นหาดทรายขาวริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร โดยทุกช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูน้ำลง จะเกิดเป็นเนินทราย ทอดตัวเรียงยาวตั้งแต่วัดป่าบ้านพันลำเรื่อยไปจนถึงบ้านนาโนน และจะจมหายไปช่วงประมาณเดือนมิถุนายน โดยในช่วงเวลาเย็น ที่นี่จะเป็นเหมือนสถานที่ชุมชนเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งเล่นกีฬา เล่นน้ำ หรือนั่งพักผ่อนชมทัศนียภาพต่าง ๆ เรียกได้ว่าชิลสุด ๆ ไปเลย
15. อุทยานแห่งชาติภูลังกา
อุทยานแห่งชาติภูลังกาครอบคลุมพื้นที่ของตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม และอำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ช่วงฤดูท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีดอกไม้ กล้วยไม้ป่า และรองเท้านารีบานสะพรั่งบนยอดภูลังกา ภายในอุทยานมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง ทั้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เที่ยวถ้ำต่าง ๆ เช่น ถ้ำยา ถ้ำพ่อหง่า ถ้ำตาทัด ถ้ำเกีย และถ้ำอาจารย์วัง เป็นต้น หรือจะเป็นน้ำตก เช่น น้ำตกกินรี น้ำตกตาดขาม น้ำตกตาดโพธิ์ เป็นต้น หรือจะเดินทางพิชิตยอดภูลังกา ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน (สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะพิชิตยอดภูลังกา จำเป็นที่จะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อย่างน้อยเป็นเวลา 7 วัน) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 081 725 2684, 084 792 3505
และอีกหนึ่งที่เที่ยวพลาดไม่ได้กับ "ถ้ำนาคา" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดอะเมซิ่งของที่เที่ยวบึงกาฬ ตั้งอยู่บริเวณวัดถ้ำชัยมงคล อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ตื่นตากับหินที่มีรูปร่างคล้ายลำตัวของงูขนาดใหญ่ ทั้งนี้ด้วยลักษณะร่องรอยของหินทำให้อดจินตนาการไม่ได้ว่าเป็นลวดลายคล้ายกับเกล็ดงู นอนขดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แน่นอนว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้าสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้พบเห็นเป็นจำนวนไม่น้อย (ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถดูวิธีการจองคิว และรายละเอียดการเยี่ยมชมถ้ำแห่งนี้ได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม - Phulangka National Park Thailand)
เห็นแล้วหรือยังว่า "บึงกาฬ" มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย
มีธรรมชาติสวย ๆ วิถีชีวิตผู้คนที่น่าค้นหาในแบบฉบับของตัวเอง ว่าง ๆ
ลองหาเวลาไปเที่ยวที่บึงกาฬกันดู
เราเชื่อเลยว่าคุณจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก