เที่ยวระนองแบบวันเดย์ทริปด้วยรถสองแถวไม้ ตระเวนชมวิถีชีวิตผู้คน วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และกินอาหารอร่อย ๆ อีกหนึ่งทริปเที่ยวระนองดี ๆ ที่เราอยากนำเสนอ
…และนี่คือหน้าตาของพระเอกที่จะพาเราไปทัวร์เมืองระนองกันวันนี้ "รถสองแถวไม้" หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดระนอง ถ้าสังเกตดี ๆ เราจะเห็นรถหน้าตาแบบนี้ วิ่งไป-มาตามท้องถนน ทำหน้าที่คอยรับ-ส่งผู้โดยสารยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถสองแถวไม้ เพื่อไปเที่ยวยังจุดต่าง ๆ รอบตัวเมืองระนอง โดยที่เที่ยวแต่ละจุด นักท่องเที่ยวสามารถบอกกับคนขับได้เลยว่า อยากจะไปจุดไหนบ้าง หรือถ้าคิดไม่ออกจะให้พี่คนขับเป็นคนวางแผนให้ก็ไม่ว่ากัน…
วันเดย์ทริปเที่ยวระนองของเราในครั้งนี้ รถสองแถวไม้ได้พาเราไปยังจุดเช็กอินต่าง ๆ ได้แก่
- สุสานเจ้าเมืองระนอง
- บ้านร้อยปีเทียนสือ
- ร้านกาแฟสด ห้วยค้างคาว
- พระราชวังรัตนรังสรรค์
- ร้านอาหารพื้นเมือง J&T
ค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่ารถสองแถวไม้
อย่างที่บอกไปแล้วว่าราคาสำหรับการเช่ารถสองแถวไม้ ขึ้นอยู่กับระยะทางและจุดหมายที่เที่ยวนั้น ๆ แต่เราแนะนำว่า ถ้าขนเพื่อนไปด้วยเยอะ ๆ จะได้มีคนช่วยคุณหารค่าโดยสาร ซึ่งปกติแล้วราคาสำหรับค่าใช้จ่ายเช่ารถสองแถวไม้ มีรายละเอียด ดังนี้
- เที่ยวในตัวเมือง ครึ่งวัน ราคา 1,200 บาท/คัน และเต็มวัน ราคา 1,800 บาท/คัน
- เที่ยวนอกเมือง ราคา 2,500 บาท
(*** ทั้งนี้ราคาดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 081 569 8929)
จุดเช็กอินที่ 1 สุสานเจ้าเมืองระนอง
ตั้งอยู่ทางด้านขวามือของทางหลวงหมายเลข 4044 (ระนอง-ปากน้ำ) สถานที่แห่งนี้เป็นที่ฝังศพของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) เจ้าเมืองระนองคนแรก ผู้ซึ่งเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตหลาย ๆ ด้าน ทั้งความกตัญญู ความซื่อตรง ความอดทน ความมัธยัสถ์ รู้จักจัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จนกลายเป็นบุคคลที่น่านับถือของคนในจังหวัด
หากสังเกตดี ๆ สุสานเจ้าเมืองระนองแห่งนี้ตั้งตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการ ด้วยทำเลที่ตั้งหลังติดเขา และหันหน้าออกสู่ทะเล บนบริเวณเชิงเขาขนาดเล็ก ด้านหน้าเป็นลานกว้างทำด้วยศิลา ปูขึ้นไปเป็นชั้น ๆ เรื่อยไปจนถึงสุสานฝังศพ ด้านหลังมีเสาธง แพะ เสือ ม้า ขุนนางทั้งฝ่ายบู๊และบุ๋น ตามหลักฮวงจุ้ยศาสตร์อีกด้วย
จุดเช็กอินที่ 2 บ้านร้อยปีเทียนสือ
สถานที่แห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมชุนชนที่น่าสนใจ ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองระนองได้อย่างถึงแก่น ซึ่งในสมัยอดีตบ้านเทียนสือเปรียบเสมือนท้องพระคลังกลางเมืองระนอง หากแต่ปัจจุบันบ้านเทียนสือกลายเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่รวบรวมเรื่องราวของคนไทย-จีน เมื่อ 100 กว่าปีก่อน
จุดเช็กอินที่ 3 ร้านกาแฟสดห้วยค้างคาว
หลังจากเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองระนองกันมาหอมปากหอมคอแล้ว ก็ถึงเวลาแวะหาร้านกาแฟสักร้านไว้นั่งชิล ๆ สั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ กันดูสักหน่อย เรามีหนึ่งร้านกาแฟดี ๆ ในระนองมาแนะนำ นั่นคือ ร้านกาแฟสดห้วยค้างคาว ร้านกาแฟแห่งนี้มีดีอยู่ที่บรรยากาศสุดชิล และการบริการที่แสนเป็นกันเอง
ตัวร้านตกแต่งได้อย่างน่ารัก มองไปมองมาคล้ายกับเป็นบ้านหลังเล็ก
ๆ ให้บริการเครื่องดื่มหลากหลายประเภท ทั้งชา กาแฟ โกโก้ น้ำมะนาวโซดา
และน้ำผลไม้ รวมถึงยังมีเมนูอาหารแบบง่าย ๆ
เอาไว้ให้ลูกค้าได้สั่งกินรองท้องอีกด้วย มีโซนที่นั่งให้เลือกหลากหลาย
แต่มุมสุดฮิตเห็นจะหนีไม่พ้น โซนที่นั่งด้านล่างติดลำธาร
เอาไว้เป็นมุมให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามานั่งเล่นบนแคร่ไม้ไผ่
เอาเท้าจุ่มน้ำชิล ๆ จนแทบไม่อยากลุกไปไหนเลยทีเดียว
โดยปริมาณน้ำมาก-น้อยแตกต่างกันในแต่ละช่วงฤดู แต่ก็สวยงามแตกต่างกันไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 082 283 0377 หรือเฟซบุ๊ก ห้วยค้างคาว กาแฟสด
จุดเช็กอินที่ 4 พระราชวังรัตนรังสรรค์
ภายในมีสิ่งของจัดแสดงมากมาย ได้แก่ ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีจำนวนทั้งหมด 6 ห้อง ทั้งอาคารทรงแปดเหลี่ยม อาคารท้องพระโรง สะพานไม้เชื่อมอาคารที่ประทับทรงงานกับอาคารแปดเหลี่ยม จัดแสดงภาพเก่าในอดีต และข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มากมาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ทรงคุณค่าของจังหวัดระนองที่ต้องมาเช็กอิน (***ภายในพระราชวังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปได้ ถ่ายได้เฉพาะตัวอาคารด้านนอกกับบริเวณทางเชื่อมเท่านั้น)
จุดเช็กอินที่ 5 ร้านอาหารพื้นเมือง J&T
เที่ยวกันมาทั้งวัน ต้องหาอะไรอร่อย ๆ มาเติมพลังกันเสียหน่อย ใครที่มาเที่ยวระนองแล้วอยากกินอาหารพื้นเมือง แวะมาที่ร้าน J&T กันได้เลยค่ะ ถึงแม้จะเป็นร้านเล็ก ๆ แต่อัดแน่นด้วยคุณภาพและรสชาติคับร้าน เมนูอาหารมีให้เลือกทั้งอาหารไทย อาหารพื้นเมือง ที่มีให้เลือกแบบจุใจ เช่น หมูคั่วเครื่องรา, หมูค้อง, กุ้งแม่น้ำกระบุรี, หมูคั่วเคยเค็ม, ห่อหมกขนมครก, ยำยอดกาหยู และไข่ตุ๋นเคยเค็ม เป็นต้น
แต่ละจานบอกเลยว่ารสชาติอาหารอร่อย
ด้วยวัตถุดิบที่คัดมาแล้วเป็นอย่างดี แต่เมนูแนะนำที่เราอยากให้สั่ง ได้แก่
"ปลาทูทอดกะปิ" น้ำพริกกะปิราดบนตัวปลาทูทอด หอมน่าชวนกิน, "ชุนเปี๊ยะ"
ลักษณะคล้าย ๆ ฮ่อยจ๊อแต่รวมทุกอย่างทั้งกุ้ง หมู และปลา อร่อยมาก ๆ และ
"ต้มยำกุ้งแม่น้ำกระบุรี" เต็มอิ่มกับกุ้งแม่น้ำตัวโต จัดจ้านด้วยรสต้มยำ
สั่งมากินคู่กับข้าว บอกเลยว่าลงตัวสุด ๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทรศัพท์ 077 812 483 หรือเฟซบุ๊ก J&T อาหารดีเมืองระนอง
นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างทริปดี ๆ สำหรับการมาเที่ยวระนองแบบวันเดย์ทริป แถมยังได้นั่งรถสองแถวไม้ชิล ๆ ตระเวนชมบ้านเรือน วิถีชีวิตผู้คน และยังได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ทำให้คุณได้เห็นระนองในมุมมองใหม่ บอกเลยว่าจะทำให้คุณตกหลุมรัก "ระนอง" ได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก J&T อาหารดีเมืองระนอง, เฟซบุ๊ก ห้วยค้างคาว กาแฟสด, เฟซบุ๊ก บ้านร้อยปีเทียนสือ, ททท.
ระนอง อีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงแซงทุกทางโค้ง จุดหมายแรก ๆ ที่คนจะนึกถึงเมื่อมาเที่ยวระนอง เห็นจะหนีไม่พ้นทะเลพม่า เกาะพยาม หรือไม่ก็บ่อน้ำร้อนธรรมชาติแน่ ๆ แต่วันนี้เราอยากที่จะเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวระนองกันดูสักหน่อย โดยเราจะพาเที่ยวในตัวเมืองระนองแบบวันเดย์ทริปกัน แต่จะให้เที่ยวธรรมดา ๆ ก็กระไรอยู่ เราจะเพิ่มความพิเศษให้กับทริปนี้ ด้วยการนั่งรถสองแถวไม้ตระเวนตามจุดเช็กอินเด็ด ๆ ในตัวเมืองระนองกัน ทริปนี้ของเราจะสนุกมากน้อยแค่ไหน ตามเรามาดูด้วยกันเลยดีกว่า
วันเดย์ทริปเที่ยวระนองของเราในครั้งนี้ รถสองแถวไม้ได้พาเราไปยังจุดเช็กอินต่าง ๆ ได้แก่
- สุสานเจ้าเมืองระนอง
- บ้านร้อยปีเทียนสือ
- ร้านกาแฟสด ห้วยค้างคาว
- พระราชวังรัตนรังสรรค์
- ร้านอาหารพื้นเมือง J&T
ค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่ารถสองแถวไม้
อย่างที่บอกไปแล้วว่าราคาสำหรับการเช่ารถสองแถวไม้ ขึ้นอยู่กับระยะทางและจุดหมายที่เที่ยวนั้น ๆ แต่เราแนะนำว่า ถ้าขนเพื่อนไปด้วยเยอะ ๆ จะได้มีคนช่วยคุณหารค่าโดยสาร ซึ่งปกติแล้วราคาสำหรับค่าใช้จ่ายเช่ารถสองแถวไม้ มีรายละเอียด ดังนี้
- เที่ยวในตัวเมือง ครึ่งวัน ราคา 1,200 บาท/คัน และเต็มวัน ราคา 1,800 บาท/คัน
- เที่ยวนอกเมือง ราคา 2,500 บาท
(*** ทั้งนี้ราคาดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 081 569 8929)
จุดเช็กอินที่ 1 สุสานเจ้าเมืองระนอง
ตั้งอยู่ทางด้านขวามือของทางหลวงหมายเลข 4044 (ระนอง-ปากน้ำ) สถานที่แห่งนี้เป็นที่ฝังศพของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) เจ้าเมืองระนองคนแรก ผู้ซึ่งเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตหลาย ๆ ด้าน ทั้งความกตัญญู ความซื่อตรง ความอดทน ความมัธยัสถ์ รู้จักจัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จนกลายเป็นบุคคลที่น่านับถือของคนในจังหวัด
หากสังเกตดี ๆ สุสานเจ้าเมืองระนองแห่งนี้ตั้งตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการ ด้วยทำเลที่ตั้งหลังติดเขา และหันหน้าออกสู่ทะเล บนบริเวณเชิงเขาขนาดเล็ก ด้านหน้าเป็นลานกว้างทำด้วยศิลา ปูขึ้นไปเป็นชั้น ๆ เรื่อยไปจนถึงสุสานฝังศพ ด้านหลังมีเสาธง แพะ เสือ ม้า ขุนนางทั้งฝ่ายบู๊และบุ๋น ตามหลักฮวงจุ้ยศาสตร์อีกด้วย
สถานที่แห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมชุนชนที่น่าสนใจ ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองระนองได้อย่างถึงแก่น ซึ่งในสมัยอดีตบ้านเทียนสือเปรียบเสมือนท้องพระคลังกลางเมืองระนอง หากแต่ปัจจุบันบ้านเทียนสือกลายเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่รวบรวมเรื่องราวของคนไทย-จีน เมื่อ 100 กว่าปีก่อน
โดยความหมายของคำว่า "บ้านเทียนสือ" เป็นคำในภาษาจีน คำว่า
"เทียน" แปลว่า สวรรค์ ส่วนคำว่า "สือ" แปลว่า ของขวัญ
โดยรวมแล้วบ้านเทียนสือ จึงแปลว่า "ของขวัญจากสวรรค์"
เสน่ห์ของบ้านเก่าหลังนี้ จึงอยู่ที่เรื่องวันวานที่น่าสนใจ
ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ
ในสไตล์จีนผสมยุโรปอันเก่าแก่หลายชั่วอายุคน สะท้อนถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น
ภาพถ่ายเก่าแก่ ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
เสมือนว่าเราได้หมุนนาฬิกาย้อนกลับไปยังอดีตเลยทีเดียว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 081 088 2629 หรือเฟซบุ๊ก บ้านร้อยปีเทียนสือ
หลังจากเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองระนองกันมาหอมปากหอมคอแล้ว ก็ถึงเวลาแวะหาร้านกาแฟสักร้านไว้นั่งชิล ๆ สั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ กันดูสักหน่อย เรามีหนึ่งร้านกาแฟดี ๆ ในระนองมาแนะนำ นั่นคือ ร้านกาแฟสดห้วยค้างคาว ร้านกาแฟแห่งนี้มีดีอยู่ที่บรรยากาศสุดชิล และการบริการที่แสนเป็นกันเอง
พระที่นั่งจำลอง
เพื่อเป็นอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมจังหวัดระนอง ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(รัชกาลที่ 5) ปี พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 6 (พ.ศ. 2452) และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
(พ.ศ. 2471) งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยไม้ตะเคียนทอง
หลังคาทรงปั้นหยา ตั้งอยู่บนเชิงเขานิเวศน์
ทำให้สามารถแลเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองระนอง
และยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยงามอีกมุมหนึ่งของเมืองระนองอีกด้วย
ภายในมีสิ่งของจัดแสดงมากมาย ได้แก่ ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีจำนวนทั้งหมด 6 ห้อง ทั้งอาคารทรงแปดเหลี่ยม อาคารท้องพระโรง สะพานไม้เชื่อมอาคารที่ประทับทรงงานกับอาคารแปดเหลี่ยม จัดแสดงภาพเก่าในอดีต และข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มากมาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ทรงคุณค่าของจังหวัดระนองที่ต้องมาเช็กอิน (***ภายในพระราชวังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปได้ ถ่ายได้เฉพาะตัวอาคารด้านนอกกับบริเวณทางเชื่อมเท่านั้น)
เที่ยวกันมาทั้งวัน ต้องหาอะไรอร่อย ๆ มาเติมพลังกันเสียหน่อย ใครที่มาเที่ยวระนองแล้วอยากกินอาหารพื้นเมือง แวะมาที่ร้าน J&T กันได้เลยค่ะ ถึงแม้จะเป็นร้านเล็ก ๆ แต่อัดแน่นด้วยคุณภาพและรสชาติคับร้าน เมนูอาหารมีให้เลือกทั้งอาหารไทย อาหารพื้นเมือง ที่มีให้เลือกแบบจุใจ เช่น หมูคั่วเครื่องรา, หมูค้อง, กุ้งแม่น้ำกระบุรี, หมูคั่วเคยเค็ม, ห่อหมกขนมครก, ยำยอดกาหยู และไข่ตุ๋นเคยเค็ม เป็นต้น
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก J&T อาหารดีเมืองระนอง, เฟซบุ๊ก ห้วยค้างคาว กาแฟสด, เฟซบุ๊ก บ้านร้อยปีเทียนสือ, ททท.