ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่น สัมผัสเมืองหิมะ 6 วัน 5 คืน กับเงิน 20,000 บาท

          ลุยเดี่ยว เที่ยวญี่ปุ่นเมืองหิมะ 6 วัน 5 คืน ด้วยเงิน 20,000 บาท (Takayama, Matsumoto, Nagano, Shibu onsen)


          สวัสดีครับ ผมต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าเป็นครั้งแรกของผมในการเขียนรีวิวลงในพันทิป มันมีที่มาที่ไปคือผมได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกและไปคนเดียวซะด้วย (Solo backpacker) ซึ่งผมเองต้องมีการหาข้อมูลและทำการบ้านเยอะมาก โดยอาศัยข้อมูลจากเว็บพันทิปและ Search Engine อย่าง Google นี่แหละครับ ผมมีความรู้สึกขอบคุณทุกคนที่แชร์ข้อมูลลงในเว็บไซต์ ทำให้การเที่ยวของผมครั้งนี้สนุกและประทับใจมาก ผมเลยตั้งใจว่าหลังจากกลับมาเมืองไทยแล้วจะเขียนรีวิวลงพันทิปเพื่อเป็นการแบ่งปันข้อมูลกัน

          1. เริ่มที่การวางแผนการเดินทางก่อนเลยนะครับ เมืองไหนบ้างที่เราจะไป

          Day 1 Takayama ทาคายาม่า : 19 Jan 2017 พักที่ Takayama, K\'s house hostel 2 คืน
          Day 2 Shiragawago ชิราคาวาโกะ : 20 Jan 2017
          Day 3 Matsumoto มะสึโมะโตะ : 21 Jan 2017 (ช่วงเช้า)
          Day 3 Shibu onsen, Nagano : 21 Jan 2017 (ช่วงบ่าย) พักที่ Shibu onsen, Koishiya Ryokan 2 คืน
          Day 4 Snow Monkey Park : 22 Jan 2017
          Day 5 Shinjuku ชินจุกุ (shopping) : 23 Jan 2017
          Day 6 Narita to Don Muang : 24 Jan 2017


          2. จัดทำตารางการเดินทางด้วยตัวเอง ที่พัก เวลา ค่าใช้จ่าย

          ค่าใช่จ่ายในทริปนี้แบ่งเป็น

          - ค่าเครื่องบิน โชคดีได้ตั๋วถูก 6,700 บาท ไป-กลับลงนาริตะ

          - ค่าเดินทางผมไม่ได้ซื้อพาสนะครับ เพราะส่วนใหญ่ผมเที่ยวต่างจังหวัด ผมใช้บริการรถบัส (Highway Bus) ซึ่งถูกกว่ารถไฟมาก

          - ค่าที่พักราคาประมาณ 1 พันบาท เป็น Hostel สนุกดีได้เพื่อนใหม่ชาวต่างชาติด้วย

          - ค่าอาหาร ผมชอบหาของกินใน Family Mart สะดวกดี เช่น ข้าวปั้น ยากิโซบะ มีกินหรูบ้างคือเนื้อฮิดะที่ Takayama 1,000 บาท

          - ตั๋วเครื่องบิน + ค่าที่พัก + ค่าเดินทางรถบัส, รถไฟ รวมแล้วประมาณ 13,500 บาท บวกค่ากินไปด้วยก็ไม่เกิน 20,000 บาท

          3. จองที่พัก จองรถบัสล่วงหน้า (Trick ผมจะพรินท์ใบจองเป็นกระดาษ A4 เก็บไว้หนึ่งชุด)

          - ที่พักผมใช้บริการของ Booking จองก่อนจ่ายที่หลังในวันที่ check in

          - จองรถบัส (จองได้ 1 เดือนล่วงหน้าก่อนเดินทาง)

          Website จองรถบัส : www.nouhibus.co.jp และ www.highwaybus.com

          Website ดูตารางรถไฟ : www.hyperdia.com

          4. การเตรียมชุดสำหรับตะลุยหิมะ

          - กระเป๋าเป้ Backpack (ผมใช้ขนาด 30 ลิตร ของ Karrimor) ไซส์นี้ถือขึ้นเครื่องได้เลยครับ (ห้ามเกิน 7 kg) ไม่ต้องโหลด

          - เสื้อ เลคกิ้ง heattech ของ uniqlo, เสื้อกันหนาวตัวนอกแนะนำเป็นขนเป็ด -10 องศา เอาอยู่แน่นอน

          - รองเท้าควรเป็นรองเท้าหนัง (กันหิมะซึมเข้าไป) พื้นรองเท้าเป็นแบบดอกยางที่ใช้สำหรับเดินบนพื้นหิมะ จะได้ไม่ลื่น

          - ขาดไม่ได้คือที่ครอบหู ผ้าพันคอ และถุงมือควรเป็นหนังและควรเป็นแบบ touchsceen

          - หมวกไหมพรม ส่วนตัวนะครับ ผมว่าเหมาะสำหรับผู้หญิงใส่จะดูดี จริง ๆ ผมก็เตรียมไปนะครับ แต่ไม่ได้ใช้เลยใส่แล้วมันดูแปลก ๆ ผมว่าที่ครอบหูก็ช่วยได้มากนะครับในการทำให้หูเราอุ่นตลอดเวลา

          - ไม้ Selfie อันนี้ขาดไม่ได้


          5. ทุกอย่างพร้อม ความมั่นใจมาก็ลุยเลย

          ผมออกเดินทางจากดอนเมืองคืนวันพฤหัสบดี 00.20 น. สายการบิน Scoot ของ Singapore ถึงสนามบินนาริตะ (Narita) ตอนเช้าวันศุกร์ 07.45 am สิ่งแรกที่ทำคือเปลี่ยนซิมก่อนเลย (ผมใช้สุโก้ยซิม 4G) จากสนามบินเข้าเมืองไปสถานีชินจูกุ Shinjuku โดยรถไฟด่วน Narita Express (N\'EX) นั่งยาวไม่ต้องเปลี่ยนขบวน พอถึงสถานีรถไฟชินจูกุ ให้ออกทางทิศใต้ New South Gate สังเกตป้าย Expressway Bus Terminal เดินประมาณนาทีเดียวก็ถึงสถานีรถบัส

          Website แสดงแผนผังสถานีและทางเดินไป highway bus


          Day 1 : Shinjuku ไป Takayama

          แสดงใบจองรถที่เราพรินท์มา (ซึ่งเราได้จองไว้ตั้งแต่เมืองไทย) กับเจ้าหน้าที่ที่ Highway Bus จ่ายเงิน แล้วเราจะได้ตั๋วรถบัสไป Takayama ในสถานีรถบัสมีร้าน Family Mart หาซื้อขนมหรือของกินเอาขึ้นไปกินในรถบัสได้นะครับ เพราะเราต้องเดินทางไกลประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าจะถึง ระหว่างทางจะมีจุดพักรถเป็นระยะ รถจะจอดประมาณ 15 นาที ให้เราลงไปเข้าห้องน้ำ ซื้อของกิน มีร้านกาแฟ Starbucks วิวจุดพักรถก็สวยครับ ตารางเดินรถบัสผมออกเดินทาง 11.05 น. ถึง 16.35 น.


          ผมถึง Takayama ประมาณ 5 โมงเย็น ก็เดินไปซื้อตั๋วรถบัสไป Shiragawago 4,200 Yen สำหรับวันพรุ่งนี้ ซึ่งสถานีรถบัส (nohibus) อยู่ติดกับสถานีรถไฟ JR เลย แล้วเดินไปเช็กอินที่ K\'s house hostel ซึ่งที่พักอยู่ใกล้ ๆ กับสถานีประมาณ สามร้อยเมตร

          ภาพบรรยากาศตัวเมือง Takayama ตอนหิมะปกคลุมท้องถนน


          Day 2 : Shirakawago หมู่บ้านมรดกโลก

          จากเมือง Takayama นั่ง Nohi Bus เพียง 50 นาที หมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งที่นี้ก็เป็นหนึ่งใน My Dream Destination ที่ต้องไปเยือนสักครั้ง


          กลับจากชิราคาวาโกะก็มาเดินเล่นที่เมืองทาคายามะ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ด้วยบ้านไม้แบบญี่ปุ่นโบราณ และที่ห้ามพลาดคือเนื้อฮิดะ Hida อันเลื่องชื่อ เนื้อนุ่มละลายในปากเลยทีเดียว ร้าน Sengoku-ya


          Day 3 : Matsumoto ปราสาทอีกาดำ

          Check out K\'s house แต่เช้า 7 โมง เพื่อเดินไปขึ้นรถบัสให้ทันรอบ 07.50 am ก็จะถึง Matsumoto 10.15 am

          Website ดูตารางเดินรถ : www.nouhibus.co.jp


          ปราสาทมัตสึโมโต้หรือที่เรียกกันว่า "ปราสาทอีกา" เพราะตัวปราสาทเป็นสีดำ และรอบ ๆ ปราสาทก็มีอีกาบินไปบินมาเป็นปราสาทไม้ที่คงความดั้งเดิมและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติล้ำค่าประจำชาติญี่ปุ่น


          ช่วงบ่ายซื้อตั๋วรถไฟ JR จาก Matsumoto ไป Nagano ด้วย LTD.EXP (WIDE VIEW) SHINANO ถึงนากาโน่ประมาณเที่ยง

          Website ดูตารางรถไฟ : www.hyperdia.com


          จากนั้นก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟ Nagano Electric Railway Ltd. Exp. ไปสถานีรถไฟ Yudanaka


          วิวเมื่อมองจากรถไฟสวยมาก เห็นแนวเทือกเขามีหิมะปกคลุมเต็มไปหมด ต้นแอปเปิลในหน้าหนาวก็จะมีแต่กิ่ง


          จากสถานีรถไฟ Yudanaka นั่งรถบัสต่อไปที่เมือง Shibu onsen โดยที่ซื้อตัวรถบัสจะอยู่ในสถานีรถไฟเลย สังเกตเห็นง่ายมาก แล้วก็มาถึงเมืองที่ผมประทับใจที่สุดในทริปนี้ Shibu onsen เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งไม่ธรรมดาเลย เพราะว่าหมู่บ้านนี้มีชื่อว่าหมู่บ้านแห่งบ่อน้ำร้อน


          แล้วก็ถึงเวลาเช็กอินเข้าที่พัก Koishiya Ryokan ซึ่งผมจะพักที่นี่ 2 คืนด้วยกัน เก็บสัมภาระเสร็จก็ถึงเวลาสำรวจเมืองออนเซ็นแห่งนี้กันครับ บรรยากาศถนนหลักในหมู่บ้านแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะสวมชุดยูกาตะ ที่ทางเรียวกัง (โรงแรมทำจากไม้แบบญี่ปุ่นโบราณ) เตรียมไว้ให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาพักที่ชิบุออนเซ็น พร้อมกับกุญแจเข้าบ่อออนเซ็นสาธารณะทั้ง 9 แห่ง เราสามารถเข้าไปแช่ที่ไหนก็ได้ตั้งแต่เช้าจนถึง 4 ทุ่มเลยครับ แช่กันให้ตัวเปื่อยกันเลยทีเดียว


          * ที่ต้องติดดาวและห้ามพลาดด้วยประการทั่งปวง คือถ้าคุณเข้าพักที่ Koishiya Ryokan ผู้เข้าพักจะได้ผ่อนคลายในโรงอาบน้ำพุร้อนธรรมชาติ Momoyama Buro ของ Yoroduya ฟรี ซึ่งที่นี่เป็นออนเซ็นที่แพงและดีที่สุดในหมู่บ้านออนเซ็นแห่งนี้ มีทั้งบ่อภาพในอาคารและแบบ Open Air คุณจะได้แช่ออนเซ็นท่ามกลางหิมะโปรยปราย คือที่สุดแล้วของทริปนี้

          Day 4 : สวนลิงจิโกคุดานิ Jigokudani Monkey Park

          ทางเรียวกังที่ผมพักมีบริการรถไปส่งฟรีที่ Jigokudani Yaen-koen ประมาณ 10 นาที, จากป้ายต้องเดินขึ้นเขาไปอีก 1.6 km ใช้เวลา 25 นาที

          วิวตลอดทางเดินไปดูลิงเต็มไปด้วยป่าสนเมืองหนาว ทางเดินปกคลุมไปด้วยหิมะ เหมือนเดินเข้าไปในป่า Wonder Land


          ผ่านเรียวกังแห่งเดียวใน Snow Monkey Park ชื่อ Jigokudani onsen ซึ่งมีบริการออนเซ็นสำหรับคนที่ไม่ได้พักที่นี่ก็แช่น้ำร้อนได้


          ซึ่งผมก็ไม่พลาดที่จะขอแช่ออนเซ็นที่นี่ หิมะหนาอุณหภูมิติดลบสิบองศา แต่ได้แช่อยู่ในบ่อน้ำร้อนคือมันฟิน


          และแล้วก็มาถึงลิงหิมะ หน้าแดงก้นแดงแช่บ่อน้ำร้อนออนเซ็นคลายหนาว น่ารักไหม



          กลับจากดูลิงหิมะช่วงเช้า เราสามารถเดินกลับที่พักที่ Shibu onsen ได้ ใช้เวลาไม่นานประมาณ 20 กว่านาที หรือจะขึ้นรถก็ได้มีรถบัสบริการ พอกลับมาถึงที่ Shibu onsen ช่วงบ่ายก็เดินสำรวจเมืองแห่งออนเซ็นแห่งนี้กัน และก็ได้มาเจอศาลเจ้าก็เลยถือโอกาสไหว้พระขอพร


          Day 5 : Shinjuku ชินจุกุ (shopping)

          วันนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้ากลับเข้าเมืองไป Shopping ที่ Shinjuku เหมือนตอนขามา เราต้องนั่งรถไฟจาก Yudanaka station ไป Nagano Station โดยต้องนั่งสองต่อ ต่อแรกนั่งรถไฟไป SHINSHU by Nagano Electric Railway  for SHINSHUNAKANO แล้วนั่งรถไฟอีกต่อจาก SHINSHU ไป Nagano by Nagano Electric Railway for NAGANO


          จาก Nagano เข้าเมืองผมใช้บริการของรถ Highway bus 3,900 Yen ในรถมีที่ชาร์จไฟ และฟรี Wi-Fi ดูตารางเวลารถบัสจากเว็บนี้เลยครับ www.highwaybus.com


          Day 6 : Narita to Don Muang

          ได้เวลากลับเมืองไทย เนื่องจากเป็น flight เช้า เมื่อคืนผมเลยนอนที่สนามบิน Narita เขาเตรียมที่ไว้พักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางแต่เช้า ปลอดภัยครับ มีเจ้าหน้าตรวจตราตลอดคืน ดูรีวิวได้ครับ www.mu-ku-ra.com

          จบแล้วนะครับรีวิวทริปญี่ปุ่นตะลุยหิมะ แช่ออนเซ็นของผม หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่อยากเที่ยวแบบตามใจฉัน แพลนเอง เที่ยวเอง เพื่อนหาเอาข้างหน้า และที่สำคัญภาษาอังกฤษจะช่วยคุณได้มากในการเที่ยวแบบ Solo Backpacker

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณสมาชิกหมายเลข 3709488 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม