การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอบอกว่าคุณต้องไม่พลาดกับการเปิดตัวมหกรรมท่องเที่ยวเป็นมหกรรมแรกในรอบปี 2560 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทยกับ งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 ในวันที่ 25-29 มกราคม 2560 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 14.00-22.00 น.
โดยงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 จัดขึ้นใน Theme "ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง" ซึ่งจัดได้ว่าครั้งนี้จัดได้ยิ่งใหญ่กว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา เสมือน "ยกเมืองไทย 77 จังหวัดมาไว้ในงานนี้" ท่านจะพบกับกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ มากมาย ภายในงานประกอบด้วย 10 โซนพื้นที่ ดังนี้
โดยงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2560 จัดขึ้นใน Theme "ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง" ซึ่งจัดได้ว่าครั้งนี้จัดได้ยิ่งใหญ่กว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา เสมือน "ยกเมืองไทย 77 จังหวัดมาไว้ในงานนี้" ท่านจะพบกับกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ มากมาย ภายในงานประกอบด้วย 10 โซนพื้นที่ ดังนี้
จุดเด่นแรกของงานในครั้งนี้ ดื่มด่ำกับความสุขกลางกรุง ด้วยบรรยากาศสวยงามที่สามารถถ่ายภาพได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ZONE 2 หมู่บ้าน 5 ภาค
หมู่บ้านภาคกลาง "สุขกลางใจใกล้แค่เอื้อม"
พบกับการจำลอง Landmark บ้านเรือนไทยเจ้าพระยาขนาดใหญ่ ที่สามารถขึ้นไปสัมผัสวิถีความเป็นอยู่และบรรยากาศจริงบนตัวบ้านได้ ภายในบ้านประกอบด้วย ห้องพระ ห้องนอน ห้องครัว โถงรับแขก โดยจะมีกิจกรรมสำคัญบนบ้านในแต่ละวัน เช่น การทำบุญขึ้นบ้านใหม่ การแต่งงาน การสาธิตร้อยมาลัย พร้อมการตกแต่งบริเวณบ้านเสมือนจริง ตั้งแต่ซุ้มประตูเข้าบ้าน ที่จะต้อนรับผู้เข้าร่วมงานด้วย หม้อดินเผาใส่น้ำ ศาลพระภูมิ บ่อน้ำ ธงราวหลากสีสันภาคกลาง
โดยรอบ ๆ บ้าน จะจำลองวิถีชุมชนของภาคกลาง ไม่ว่าจะเป็น การสาธิตผลิตภัณฑ์ของภาคกลาง จากวิทยาลัยในวัง จำนวน 15 ซุ้ม, การจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึกภาคกลาง (OTOP) จำนวน 40 ร้าน, การออกร้าน 15 ตลาดบก 16 ตลาดน้ำ ร้อยร้านอร่อย จำนวน 80 ร้าน, การบริการนวด โดยวิสาหกิจชุมชนร่วมใจสืบสานการแพทย์แผนไทย พร้อมกันนี้ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมภาคกลางด้วย เช่น การแสดงจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ การละเล่นเด็กไทย การแสดงเงาเสียงนักร้องลูกทุ่ง การแสดงละครลิงประกิต เป็นต้น และการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวจาก ททท. 8 สำนักงานภาคกลาง ที่จะให้ผู้ร่วมงานได้ถ่ายภาพกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เสมือนได้ไปยังสถานที่นั้นจริง ๆ
หมู่บ้านภาคเหนือ "เหนือฝัน ล้านแรงบันดาลใจ" ตอนประกาศศักดา ท้าเที่ยวเหนือ
นำเสนอกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ในมุมมองต่าง ๆ และสัมผัสการจำลองบรรยากาศของวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านเอกลักษณ์ท้องถิ่นและร่วมสมัย รวมทั้งพระราชดำริของราชสกุลมหิดลที่ถูกถ่ายทอดผ่านการทรงงานช่วยเหลือชนเผ่าต่าง ๆ จนทำให้เกิดการพัฒนาทั้งความเป็นอยู่ และผลิตภัณฑ์ จนถึงแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ผู้เข้าชมงานเกิดแรงบันดาลใจให้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังภาคเหนือ
ซุ้มประตูทางเข้า ตกแต่งด้วยโคมและร่มล้านนาหลากหลายสีสัน
จุดประชาสัมพันธ์ จุดให้ข้อมูลข่าวสารและชุมชนคนเที่ยวเหนือ
เวทีการแสดง เวทีปล่อยแสง ล้านแรงบันดาลใจ
หมู่บ้านภาคเหนือ การจำลองหมู่บ้านชนเผ่าเสมือนจริงและการสาธิตวิถีชีวิต 10 ชนเผ่า ได้แก่ เย้า, ลีซอ, อาข่า, ม้ง (เข็กน้อย), กะเหรี่ยง (ตาก), ไทใหญ่, ไทลื้อ, ลาวครั่ง, ไทพวนและกะเหรี่ยง (พระบาทห้วยต้ม)
Landmark สวนดอกไม้และร้านกาแฟดอยตุง
โซนกิจกรรมสาธิต DIY "ลานอวด (ของ) ดี" จำนวน 20 ซุ้ม และลานกิจกรรม Workshop DIY สลับกับการแสดงของชนเผ่า
โซนร้านอาหาร "กาดโนโฟม" จำนวน 60 ร้าน
โซนสินค้า OTOP "ของดีเมืองเหนือ" จำนวน 23 ซุ้ม
หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ "อีสานแซ่บนัว"
สนุกสุดแซ่บไปกับเสียงแคนในโซนอีสานแซ่บนัว สักการะพระธาตุพนมจำลองขนาดความสูง 10 เมตร พร้อมด้วยพระธาตุประจำวันเกิด ที่นำมาให้ได้สักการะขอพรกันถึงที่ และได้สัมผัสกับต้นกระธูปที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคอีสาน อิ่มบุญอิ่มใจกันแล้ว ต้องอิ่มท้องด้วยอาหารพื้นเมืองจากต้นตำรับชาวอีสาน ที่ยกกันมาให้ได้แซ่บนัวกันถึง 21 ร้านค้า นั่งจกข้าวเหนียวพร้อมดูอาหารตาด้วยกิจกรรมการแสดงประจำภาคอีสานที่มาพร้อมกับระบบแสง สี อลังการและนักแสดงมืออาชีพ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ซึมซับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวอีสานได้อย่างแท้จริง
อิ่มตาอิ่มใจกันแล้วมาเดินเลือกซื้อของฝากที่นำสินค้า OTOP ของดีของดังประจำภาคอีสาน ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกหากัน แถมยังมีซุ้มกิจกรรมสาธิตและกิจกรรม DIY ให้ท่านได้ร่วมเพลิดเพลินกันอีกด้วย มาที่นี่ที่เดียว เหมือนได้เที่ยวทั่วอีสานเลยเด้อออ !!!!!
หมู่บ้านภาคตะวันออก "สีสันตะวันออก"
ทางเข้าหลักจำลองรูปแบบมาจากสะพานอัษฎางค์ (เกาะสีชัง) ใช้เป็นทางเชื่อมเข้าสู่ภาคตะวันออก ตกแต่งด้วยฝูงนกนางนวลตลอดแนวสะพาน (สอดคล้องกับประภาคารและฉากท่าเทียบเรือของเวทีการแสดง)
ซุ้มประชาสัมพันธ์และกองอำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก เป็นสถาปัตยกรรมเรือนไม้ริมทะเล เวทีการแสดง รูปแบบมาจากท่าเทียบเรือ จำลองประภาคารแหลมงอบเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญ โดดเด่น ภายในโซนแต่ละจังหวัดของภาคตะวันออก จะมีโครงสร้างและบรรยากาศของ Local Experience ของแต่ละโซน มีความเป็นเอกลักษณ์ และสอดคล้องกับแหล่งท่องเที่ยว/อาหารถิ่น/หัตถกรรม ที่แต่ละโซนนำเสนอ Landmark และรูปแบบโครงสร้าง ดังนี้
หมู่บ้านภาคใต้ "ปักษ์ใต้ ปักหมุดหยุดเวลา"
บรรยากาศโดยรวมของหมู่บ้านภาคใต้ ปักหมุดหยุดเวลา คือการจำลองบรรยากาศริมทะเล ท่าเรือยอชท์ ในระดับไฮ-คลาสของภาคใต้มาไว้ที่สวนลุมพินี ฉากเวทีจึงเป็นการจำลองเรือยอชท์เสมือนจริง พร้อมฉากบรรยากาศท่าเรือ และมีองค์ประกอบฉากเป็นโขดหินเกาะแก่ง พร้อมการตกแต่ง และตู้โชว์กุ้งมังกร ที่จะมีการนำมาประมูลในวันงาน
นอกจากนี้ยังมีการจัดสร้างแลนด์มาร์กที่เด่นชัด เพื่อสื่อสารถึงความเป็นภาคใต้อย่างชัดเจน โดยเริ่มตั้งแต่การจัดสร้างซุ้มประตูทางเข้าหลัก เป็นการจำลองเสาและพังงาขนาดใหญ่ (พวงมาลัยเรือ) พร้อมประดับตกแต่งด้วยการจำลองกุ้งมังกรขนาดใหญ่ และอีกสองประตูทางเข้ารองเป็นเสาพังงาเรือที่ตกแต่งด้วยปลาโทงเทงขนาดใหญ่ และปูม้าขนาดใหญ่
แลนด์มาร์กที่สำคัญอีกสองส่วนคือ การจำลองพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมการตกแต่งบรรยากาศ และการจำลองศาลเจ้าเล่งจู่เกี้ยง (ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) จังหวัดปัตตานี พร้อมบรรยากาศเสมือนจริงมาไว้ในบริเวณโซนภาคใต้นี้ด้วย และในส่วนของ ร้านค้ากว่า 70 ซุ้มนั้นจะเป็นการจำลองตลาดใต้โหนด ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่นที่มีชื่อในจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยซุ้มสาธิตและซุ้มสินค้าโอทอป ที่จัดสร้างในรูปแบบศาลาท่าเรืออีก 50 ซุ้ม
Zone 3 "ของดี 50 เขต อาหารถิ่นตะลุยกินทั่วไทย"
คัดสรรสุดยอดของกินของดี จาก 50 เขตในกรุงเทพมหานคร ให้ผู้มาร่วมงานได้เลือกอิ่มอร่อยแบบจุใจไม่อั้น และพลาดไม่ได้กับสุดยอดไฮไลท์อาหารถิ่นสุดพิเศษหารับประทานได้ยากจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย ทั้งจากภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคอีสาน มารวบรวมไว้อยู่ภายในโซนนี้
พร้อมกิจกรรมการสาธิตทำอาหารจาก สถาบันฝึกทำอาหาร มติชน อะคาเดมี ผู้เข้าร่วมงานสามารถมาเรียนรู้และจดจำสูตรอาหารถิ่นเด็ด ๆ กลับไปทำทานเองที่บ้านได้ด้วย
Zone 4 "นิทรรศการสร้างความรับรู้ด้านการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย"
#ณ สุขใจ วิถีไทยเก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง
พบกับ Landmark น้องสุขใจขนาดใหญ่ และการจำลองบรรยากาศหมู่บ้านวิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง โดยในหมู่บ้านประกอบไปด้วย การสาธิตทำมาลัยข้าวตอกจากยโสธร, กังหันผ้าไหม การสานปลาตะเพียนจากชุมชนตลาดพลูและจุดถ่ายรูปวิวผืนนาข้าวแปรอักษรจากนาเฮียใช้ สุพรรณบุรี สุดพิเศษกับกิจกรรม VR 3 ฤดู พบกับการแนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวไทยใน 3 ฤดู (ร้อน ฝน หนาว) และสัมผัสกับเส้นทางการท่องเที่ยวกินรี รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย พร้อมกันนี้ยังสามารถ ช้อป ชิม ชิล กับโซน OTOP, Food Truck, TAT SHOP, IT, โครงการหลวง, ประชารัฐสุขใจและอื่น ๆ อีกมากมาย
Zone 5 "แนะนำเส้นทางการท่องเที่ยว"
พบกับโครงการการแนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวแคมเปญใหม่ "ท้าเที่ยวข้ามภาค" กับกระเป๋าทั้ง 9 ใบ และเส้นทางตามรอยพระบาท รวมถึงโปรโมชั่นดี ๆ สำหรับนักเดินทางที่ชอบท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น 12 เมืองต้องห้าม…พลาด พลัส, วันธรรมดาน่าเที่ยว, การท่องเที่ยวของกลุ่มผู้หญิงและกลุ่มสูงวัย พิเศษสุดด้วยของรางวัลและสิทธิพิเศษมากมาย
Zone 6 "Outdoor Fest"
เป็นโซนที่รวบรวมกิจกรรม Adventure ผู้ที่มาเดินเที่ยวชมในโซน 6 นี้ สามารถเข้ามาร่วมกิจกรรมได้ไม่ว่าจะเป็นการปีนหน้าผาจำลอง กิจกรรมลุย ๆ กับทางกองทัพบก อาทิ เพ้นท์บอล ปีนตาข่าย นอกจากนั้นยังมีการสอนถ่ายภาพจาก Nikon รวมถึงเรียนรู้เรื่องจักรยานและทดลองขี่จักรยานกับ Probike และยังเอาใจเด็กแว้นสายแนวด้วย Vespa และโซน Camping จากหนังสือ อสท. และ 1672
สำหรับบรรยากาศโซนนี้ถือว่าชิลสุดกับดนตรีอะคูสติก ที่จะสลับสับเปลี่ยนกันมาเล่นตลอดทั้งงาน
Zone 9 มหกรรมเปิดโลกธรณีวิทยาประกอบด้วยนิทรรศการดังนี้
1. นิทรรศการเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาของไทยในชื่อของ "อุทยานธรณี" (Geopark) นำเสนอในรูปแบบของทัวร์เสมือนจริง (virtual tour) ผ่านจอภาพขนาดใหญ่
2. นิทรรศการเปิดตัวไดโนเสาร์สายพันธุ์ไทย นำเสนอผ่านป่าจำลองบรรยากาศยุคดึกดำบรรพ์ พร้อมหุ่นจำลองไดโนเสาร์สายพันธุ์ไทย และชิ้นส่วนตัวอย่างกระดูกไดโนเสาร์ของจริง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น การขุดค้นกระดูกไดโนเสาร์
3. นิทรรศการพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยาทั้ง 7 แห่งของไทย นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของแต่ละแห่ง
4. นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอุดลยเดช รัชกาลที่ 9 ผ่านจอภาพขนาดใหญ่โดยใช้ระบบ Body sensor
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก