เที่ยวพิจิตร เมืองชาละวัน จังหวัดเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมา พลาดไม่ได้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ในพิจิตร ที่จะทำให้คุณสนุกอีกขึ้นอีกเป็นกอง
ภาพจาก SP rabbito / Shutter.com
ภาพจาก kwanchai / Suhtter.com
เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพิจิตรอายุนับร้อยปี อันเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อเพชร" พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนที่มีอายุกว่า 800 ปี ซึ่งหล่อด้วยทองสำริด และมีพุทธลักษณะงามล้ำเกินคำบรรยาย องค์พระมีหน้าตักกว้าง 1.40 เมตร สูง 1.60 เมตร ตามประวัติเล่าว่าพระพิจิตรผู้เป็นเจ้าเมืองอยากได้พระประธานมาประดิษฐานที่เมืองพิจิตร เมื่อทัพกรุงศรีอยุธยาเดินทางผ่านเมืองเพื่อไปปราบขบถจอมทองเมืองเชียงใหม่ พระพิจิตรจึงได้ขอร้องแม่ทัพว่าหากปราบขบถเสร็จแล้ว ขอให้หาพระพุทธรูปมาฝาก ครั้นเมื่อเสร็จศึก แม่ทัพนั้นได้อาราธนาพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร ลงแพลูกบวบล่องมาทางแม่น้ำปิง โดยฝากเจ้าเมืองกำแพงเพชรไว้ จากนั้นได้อาราธนาหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานไว้ ณ อุโบสถวัดนครชุมก่อน แล้วจึงย้ายมาประดิษฐานที่พระอุโบสถวัดท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร จนถึงปัจจุบัน
2. วัดหัวดง
3. วัดยางสามต้นวนาราม (วัดไตรยาง)
4. พระพุทธเกตุมงคลหรือหลวงพ่อโตตะพานหิน วัดเทวปราสาท
5. ศาลเจ้าแม่ทับทิม
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก ทางด้านหลังใกล้ริมทางรถไฟสายเหนือ สายเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ตามทางหลวงหมายเลข 111 สายพิจิตร-สากเหล็ก เลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดวิจิตราราม ผ่านตลาดท่าฬ่อแล้วเลี้ยวซ้าย ไปสักการะองค์เจ้าแม่ทับทิม (ตุ้ยบ่วยเต่งเหนี่ยง) อันศักดิ์สิทธิ์ ด้านขวาเป็นที่ประทับของเจ้าพ่อกวนอู ด้านซ้ายเป็นที่ประทับของเจ้าพ่อปุ้นเถ่ากงและปุ้นเถ่าม่า
ตามประวัติกล่าวว่าองค์เจ้าแม่ทับทิมและองค์เจ้าพ่อกวนอู ได้อัญเชิญมาจากเกาะไหหลำ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2410 ในสมัยนั้นเจ้าของอู่ต่อเรือซึ่งตั้งถิ่นฐานทำการค้าที่หมู่บ้านท่าฬ่อเป็นผู้อัญเชิญองค์เจ้าแม่ทับทิมมาจากประเทศจีน ได้บริจาคซุงไม้สักจำนวน 2 แพ เพื่อปลูกสร้างศาลขนาดใหญ่ถวายแด่องค์เจ้าแม่ทับทิมและเจ้าพ่อกวนอู ให้เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านตลอดจนผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งใกล้และไกล ยิ่งกว่านั้นศาลเจ้าแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่สอนหนังสือไทยและหนังสือจีนให้แก่เด็ก ๆ ในหมู่บ้าน
ภาพจาก Christopher PB / Shutter.com
ตั้งอยู่ที่ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมืองพิจิตร ตามเส้นทางสายพิจิตร-ตะพานหิน
ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร
ซึ่งเพราะมีเจดีย์แบบลังกาตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันมองดูคล้ายช้างนั่นเอง
จึงเป็นที่มาของชื่อวัดว่าวัดเขารูปช้าง และเมื่อเดินทางมาถึงแล้ว
อยากชวนคุณออกกำลังขา เดินขึ้นไปบันไดนาคที่สูง 136 ชั้น
สู่ลานกว้างบนยอดเขา คุณจะมองเห็นวิวเมืองพิจิตรและตัวเมืองตะพานหินได้ชัดเจน
โดยเฉพาะยามเย็นที่มีแสงสีทองทาบทอลงมาเติมเสน่ห์เมืองพิจิตร
ให้งดงามไปอีกแบบ
7. บึงสีไฟ
8. สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ
9. อุทยานเมืองเก่าพิจิตร
ตั้งอยู่ตำบลโรงช้าง อำเภอเมืองพิจิตร
อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เส้นทางสายพิจิตร-สามง่าม-วังจิก
ทางหลวงหมายเลข 115 และทางหลวงหมายเลข 1068 ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 6
เชื่อกันว่าที่นี่คือที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า สร้างในสมัยพระยาโคตรบอง
ประมาณปี พ.ศ. 1601 สังเกตได้จากภายในบริเวณกำแพงเมืองที่มีพื้นที่ประมาณ
400 ไร่เศษนั้น มีลักษณะเป็นเมืองโบราณ ประกอบไปด้วยกำแพงเมือง คูเมือง
เจดีย์เก่า ฯลฯ มีสวนรุกขชาติกาญจนกุมาร ซึ่งกรมป่าไม้ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อ
พ.ศ. 2520 ทำให้พื้นที่ภายในมีความร่มรื่นเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ
ไฮไลท์น่าชม เช่น ศาลหลักเมือง เป็นอาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ด้านบนจะเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง ส่วนด้านล่างจะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระยาโคตรบองซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "พ่อปู่", วัดมหาธาตุ เป็นโบราณสถานก่อด้วยอิฐที่ตั้งอยู่กึ่งกลางเมืองพิจิตรเก่า ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านเก่า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ ไม่ควรพลาดชม "พระธาตุเจดีย์" เจดีย์ทรงลังกาซึ่งภายในมีพระเครื่องชนิดต่าง ๆ ซึ่งได้ถูกลักลอบขุดค้นไป
10. ย่านเก่าวังกรด
ย่านเก่าวังกรด ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองพิจิตร ห่างจากจากตัวเมืองพิจิตรประมาณ 6 กิโลเมตร อยู่ติดริมแม่น้ำน่านไปทางตะวันออก เป็นย่านพาณิชยกรรมที่เก่าแก่ คนพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่เข้ามาพำนักและก่อร่างสร้างตัวจากการค้าขาย ในอดีตมีความรุ่งเรืองด้านการค้าขายอย่างมาก แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ย่านเก่าวังกรดยังคงสามารถบอกเล่าเรื่องราวในอดีตและให้ความทรงจำผ่านสถาปัตยกรรมเรือนแถวไม้เก่าแก่ และจากคำบอกเล่าเรื่องทางประวัติศาสตร์ของคนในชุมชน
ย่านเก่าวังกรดมีสถานที่สำคัญมากมายให้ได้แวะเข้าไปชม ทั้งร้านค้า ร้านยาสมุนไพร และร้านอาหารที่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะแบบโบราณที่คนพิจิตรและที่อื่น ๆ ต้องมาลิ้มลองให้ได้ นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าพ่อวังกลมที่ขึ้นชื่อด้านความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งและศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองได้เป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้เองที่ทำให้วังกรดเป็นเมืองเก่าที่มีเสน่ห์และทรงคุณค่าแก่การอนุรักษ์ให้รุ่นลูกหลานสืบไป
ภาพจาก SP rabbito / Shutter.com
หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, vmwangkrod.nha.co.th
ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน
เพลิดเพลินบึงสีไฟ ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย
ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน ...
นี่คือคำขวัญของจังหวัดพิจิตร จังหวัดที่หลายคนมักถามว่า "พิจิตร มีอะไรให้เที่ยว" ซึ่งจริง ๆ แล้วที่นี่มีอะไรเจ๋ง ๆ ให้เราได้ค้นหามากมาย
ภาพจาก SP rabbito / Shutter.com
จังหวัดพิจิตร เป็นจังหวัดที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง
ที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ล่วงมาถึงปัจจุบัน
พิจิตรก็ยังคงเป็นเมืองที่มีความสงบ สมกับเป็นเมืองพระ
ที่มีวัดวาอารามเก่าแก่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง
มีโบราณสถาน บึงน้ำขนาดใหญ่ และอื่น ๆ อีกเพียบ
วันนี้เราจะไปสำรวจหาของดีกันดูว่าพิจิตรในวันนี้มีที่เที่ยวที่ไหนสวยงามและโดดเด่นบ้าง ตามมาดูกันเลย
1. วัดท่าหลวง
ภาพจาก kwanchai / Suhtter.com
ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
เฟซบุ๊ก : วัดท่าหลวงพระอารามหลวงพิจิตร
ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ตำบลหัวดง อำเภอเมืองพิจิตร ทางตอนใต้ของตัวเมืองพิจิตรไปตามเส้นทางสายพิจิตร-ตะพานหิน ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นวัดเก่าแก่อายุนับร้อยปี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2413 ผูกพัทธสีมาครั้งแรก พ.ศ. 2468 ความน่าสนใจอยู่ที่การค้นพบพระรูปเหมือนหลวงพ่อเงินขนาดหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว เนื้อนวโลหะ (ทองเหลือง) ที่แทรกขึ้นมาบริเวณต้นอินทนิล เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 ซึ่งหลวงพ่อเงินนั้นเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนทั่วไปรู้จักและเคารพนับถือเป็นจำนวนมาก และจากนั้นมาวัดแห่งนี้ก็เป็นที่รู้จักของชาวพิจิตร มีผู้คนแวะเวียนมาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย
ที่อยู่ : ตำบลฆะมัง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
3. วัดยางสามต้นวนาราม (วัดไตรยาง)
ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลหนองพระ ริมทางหลวงหมายเลข 11 อำเภอวังทรายพูน ความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อเงินวัดไตรยาง" เป็นที่เลื่องลือในหมู่ชาวเมืองพิจิตรมาช้านานแล้ว และยังเลื่องลือไปถึงจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย จนกระทั่งสามารถดึงดูดผู้คนให้เดินทางเข้าเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ ภายในวัดจะได้ชมวิหารหลวงพ่อเงินองค์ใหญ่ พร้อม ๆ กับสักการะรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ดังที่มีมากถึง 25 รูป
ที่อยู่ : ตำบลหนองพระ อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร
ชมพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงาม สมสัดส่วน และมีขนาดใหญ่ที่สุดของพิจิตร พระพุทธเกตุมงคล หรือ หลวงพ่อโต นั้นเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร หน้าตักกว้าง 20 เมตร สูง 30 เมตร แท่นสูง 4 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก เมื่อปี พ.ศ. 2508 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2513 ซึ่งถ้าหากเดินทางด้วยรถไฟจะมองเห็นองค์พระเหลืองอร่ามมาแต่ไกล เสมือนเป็นสัญญาณบอกว่าคุณได้เดินทางมาถึงเมืองพิจิตรแล้ว
ที่อยู่ : ซอยสันติพลาราม 1 ตำบลตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร
เบอร์โทรศัพท์ : 056 621 423
5. ศาลเจ้าแม่ทับทิม
ตามประวัติกล่าวว่าองค์เจ้าแม่ทับทิมและองค์เจ้าพ่อกวนอู ได้อัญเชิญมาจากเกาะไหหลำ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2410 ในสมัยนั้นเจ้าของอู่ต่อเรือซึ่งตั้งถิ่นฐานทำการค้าที่หมู่บ้านท่าฬ่อเป็นผู้อัญเชิญองค์เจ้าแม่ทับทิมมาจากประเทศจีน ได้บริจาคซุงไม้สักจำนวน 2 แพ เพื่อปลูกสร้างศาลขนาดใหญ่ถวายแด่องค์เจ้าแม่ทับทิมและเจ้าพ่อกวนอู ให้เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านตลอดจนผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งใกล้และไกล ยิ่งกว่านั้นศาลเจ้าแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่สอนหนังสือไทยและหนังสือจีนให้แก่เด็ก ๆ ในหมู่บ้าน
ทั้งนี้เพราะความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารของเจ้าพ่อ เจ้าแม่แห่งศาลเจ้าแม่ทับทิมท่าฬ่อ เป็นที่เลื่องลือ ในเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีการจัดงานสักการะเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งมีผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลกันมาร่วมงาน ส่วนใหญ่มาเพื่อแก้บนเรื่องขอมีบุตร
ที่อยู่ : ตำบลท่าฬ่อ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
6. วัดเขารูปช้าง
ภาพจาก Christopher PB / Shutter.com
สำหรับเจดีย์เก่าแห่งนี้ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่
โดยประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์ มีรั้วรอบองค์เจดีย์
และทางวัดยังได้สร้างวิหารใหญ่ขึ้นอีกหลัง โดยมีเจดีย์เก่าแบบลังกา
ทรงเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา
นอกจากนี้ยังมีมณฑปแบบจัตุรมุขหลังเก่าอยู่ไม่ไกลกัน
ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทสำริดและภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องไตรภูมิพระร่วง
ที่อยู่ : ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
7. บึงสีไฟ
ตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร
ความยิ่งใหญ่ของบึงสีไฟไม่เพียงเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่อันดับสามของประเทศ
ที่มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่เท่านั้น
หากที่นี่ยังถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งแรกของจังหวัดพิจิตร บรรยากาศรอบ ๆ
บึงสีไฟ มีความสงบงามและเป็นธรรมชาติ
จึงกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองที่สำคัญแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
และคงไม่มีใครปฏิเสธว่าพระอาทิตย์ตกกลางบึงสีไฟนั้นคือความงามจับตาในช่วงเย็นที่น่าประทับใจจริง
ๆ ซึ่งไฮไลท์น่าสนใจในการมาชมบึงสีไฟ
นอกจากวิวพระอาทิตย์ตกกลางบึงสีไฟในช่วงเย็นที่น่าประทับใจแล้ว
ยังมีรูปปั้นพญาชาละวัน รูปปั้นจระเข้ด้านหน้าบึงสีไฟ ที่มีความยาวถึง 38
เมตร กว้าง 6 เมตร สูง 5 เมตร
ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
8. สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ
อยู่ในความดูแลของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพิจิตร ภายในประกอบด้วย
- อาคารเฉลิมพระเกียรติ สร้างเป็นรูป 9 แฉก ยื่นไปในบึงสีไฟ ภายในประกอบด้วยตู้แสดงพันธุ์ปลาฝังในผนัง จำนวน 12 ตู้ ใช้เป็นที่แสดงพันธุ์ปลาแปลกๆ ที่หายากและมีค่า ผนังด้านนอกของตัวอาคารบุเซรามิคสีทอง ทั้ง 9 ด้าน เฉลียงทางเดินด้านนอกตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบดินเผาเป็นภาพในวรรณคดีและประเพณีไทยรวม 9 ภาพ ตรงกลางของตัวอาคารเป็นช่องเปิด สำหรับชมปลาในบึงสีไฟ ซึ่งปลาชนิดต่างๆ มาชุมนุมเพื่อรอกินอาหารที่นักท่องเที่ยวที่มาชมโปรยอาหารให้
- สะพานยาว 60 เมตร ประกอบด้วยราวสะพาน ซึ่งเป็นท่ออลูมิเนียมพร้อมระบบไฟฟ้าแสงสว่างในตัว
- สะพานยาว 60 เมตร ประกอบด้วยราวสะพาน ซึ่งเป็นท่ออลูมิเนียมพร้อมระบบไฟฟ้าแสงสว่างในตัว
เหมาะสำหนับเป็นแหล่งศึกษาพันธู์ปลาต่าง ๆ สนุกสนานและเพลิดเพลินกับสีสันโลกใต้น้ำ แวะมาพิจิตรก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันนะคะ
ที่อยู่ : ถนนบึงสีไฟ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
เบอร์โทรศัพท์ : 056 611 309
ไฮไลท์น่าชม เช่น ศาลหลักเมือง เป็นอาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ด้านบนจะเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง ส่วนด้านล่างจะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระยาโคตรบองซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "พ่อปู่", วัดมหาธาตุ เป็นโบราณสถานก่อด้วยอิฐที่ตั้งอยู่กึ่งกลางเมืองพิจิตรเก่า ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านเก่า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ ไม่ควรพลาดชม "พระธาตุเจดีย์" เจดีย์ทรงลังกาซึ่งภายในมีพระเครื่องชนิดต่าง ๆ ซึ่งได้ถูกลักลอบขุดค้นไป
ถ้ำชาละวัน สัมผัสวรรณคดีชื่อดังเรื่องไกรทอง บทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2
ได้ที่นี่ โดยมีลักษณะเป็นถ้ำลึกลงไปในดิน
ด้านหน้ามีรูปปั้นไกรทองและชาละวันที่ทางจังหวัดได้สร้างไว้
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อประมาณ 65 ปีมาแล้ว
พระภิกษุวัดนครชุมรูปหนึ่งจุดเทียนไขเดินเข้าไปในถ้ำ
จนหมดเทียนเล่มหนึ่งก็ยังไม่ถึงก้นถ้ำ
จึงไม่ทราบว่าภายในถ้ำชาละวันจะสวยงามวิจิตรพิสดารเพียงใด
ปัจจุบันดินพังทลายทับถมจนตื้นเขิน และเกาะศรีมาลา เป็นมูลดินคล้ายเกาะเล็ก
ๆ กลางคูเมืองนอกกำแพงเก่า มีคูล้อมรอบเกาะแต่ตื้นเขิน
สันนิษฐานว่าแต่เดิมน่าจะเป็นป้อม หรือหอคอยรักษาการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่อยู่ : ถนนโยธาธิการ พิจิตร 3063 ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
10. ย่านเก่าวังกรด
ย่านเก่าวังกรด ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองพิจิตร ห่างจากจากตัวเมืองพิจิตรประมาณ 6 กิโลเมตร อยู่ติดริมแม่น้ำน่านไปทางตะวันออก เป็นย่านพาณิชยกรรมที่เก่าแก่ คนพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่เข้ามาพำนักและก่อร่างสร้างตัวจากการค้าขาย ในอดีตมีความรุ่งเรืองด้านการค้าขายอย่างมาก แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ย่านเก่าวังกรดยังคงสามารถบอกเล่าเรื่องราวในอดีตและให้ความทรงจำผ่านสถาปัตยกรรมเรือนแถวไม้เก่าแก่ และจากคำบอกเล่าเรื่องทางประวัติศาสตร์ของคนในชุมชน
ย่านเก่าวังกรดมีสถานที่สำคัญมากมายให้ได้แวะเข้าไปชม ทั้งร้านค้า ร้านยาสมุนไพร และร้านอาหารที่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะแบบโบราณที่คนพิจิตรและที่อื่น ๆ ต้องมาลิ้มลองให้ได้ นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าพ่อวังกลมที่ขึ้นชื่อด้านความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งและศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองได้เป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้เองที่ทำให้วังกรดเป็นเมืองเก่าที่มีเสน่ห์และทรงคุณค่าแก่การอนุรักษ์ให้รุ่นลูกหลานสืบไป
ที่อยู่ : ถนนเทศบาล 9 ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
เบอร์โทรศัพท์ : 083 163 0084
11. วัดโรงช้าง
วัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อสมัยพระยาโคตรบองขึ้นครองราชย์ สถานที่แห่งนี้เรียกว่า กองช้าง เพราะเป็นที่พักของกองช้าง ต่อมาได้เรียกกันเพี้ยนไปเป็น คลองช้าง จนกระทั่งทาราชการได้เปิดโรงเรียนประชาบาลขึ้นที่วัดนี้ จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดโรงช้าง บริเวณวัดโรงช้างมีพระพุทธรูปใหญ่อยู่กลางแจ้ง 3 องค์ เป็น พระพุทธรูปปางมารวิชัย ปางห้ามญาติ และปางไสยาสน์ สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือเจดีย์องค์ใหญ่ของวัดที่ภายในได้สร้างเป็นห้องลับใต้ดินเพื่อใช้สำหรับเก็บแผ่นอิฐจารึกพระไตรปิฎกจำนวน 84,000 พระธรรมขันธ์ โดยได้เล็งเห็นว่า ในอนาคตอาจมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเช่น สงครามนิวเคลียร์ซึ่งอาจทำให้พระไตรปิฏกสูญหายจากโลกได้
ที่อยู่ : บ้านโรงช้าง หมู่ 2 ตำบลโรงช้าง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
12. สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 80 พรรษา เมื่อ พ.ศ.2527 มีเนื้อที่ 170 ไร่ เป็นสวนพักผ่อนริมบึงสีไฟ มีสะพานทอดลงน้ำสู่ศาลาใหญ่ที่จัดไว้เป็นที่พักผ่อน นักท่องเที่ยวนิยมมาให้อาหารปลาและชม อาทิตย์อัสดง
ภายในบึงมีพรรณไม้น้ำต่าง ๆ มีดอกบัวหลวงจำนวนมากและสวยงาม ริมบึงปลูกไม้ดอกไม้ประดับและไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น กลางบึงมีศาลาที่ใช้เป็นที่พักผ่อนชมทิวทัศน์มีสะพานยาวทอดข้ามจากฝั่งถึงศาลา ภายในสวนมีทางเดินสำหรับออกกำลังกาย และประตูทางเข้ามีหอประชุมขนาดใหญ่รูปจระเข้ยักษ์ในตำนานชาละวัน สัญลักษณ์ของจังหวัดพิจิตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ไว้ผ่อนคลายชิล ๆ ของชาวเมืองพิจิตร
ที่อยู่ : บึงสีไฟ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
13. วัดแก้วพิจิตร
ภาพจาก SP rabbito / Shutter.com
พระอารามหลวง ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำบางปะกงเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี และตั้งอยู่บนถนนแก้วพิจิตร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เป็นวัดเก่าแก่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2422 ในราวรัชกาลที่ 4 ต่อมาในปี พ.ศ. 2461 ได้สร้างพระอุโบสถเพิ่มเติม จึงมีลักษณะทางสถาปัตยกรรม และลวดลายประดับอาคารประสมประสานระหว่างศิลปไทย จีน ยุโรป และเขมร สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถที่ฝาผนังด้านนอกมีภาพปูนปั้นเรื่องรามเกียรติ์ ตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ ภายในพระอุโบสถมีภาพวาดบนแผ่นผ้าเกี่ยวกับเรื่องราวในพระพุทธศาสนา เช่น ทศชาติชาดก มารผจญ ทำโดยช่างหลวง ในรัชกาลที่ 6 นอกจากนั้นภายในวัดแก้วพิจิตรยังมีหอพระไตรปิฎก และศาลาตรีมุขที่ท่าน้ำ แถมบรรยากาศภายในวัดยังร่มรื่นอีกด้วย
ที่อยู่ : ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี หมู่ 4 ถนนแก้วพิจิตร ตำบลบางบริบูรณ์ อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี
เป็นยังไงบ้างคะ ? บอกเลยว่าพิจิตรมีที่เที่ยวสวย ๆ อีกเพียบ ทั้งแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมและธรรมชาติ บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีเสน่ห์ไม่ซ้ำใคร มาเที่ยวแล้ว...รับรองว่าติดใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, vmwangkrod.nha.co.th