ไต้หวัน จะไปเที่ยวไต้หวันต้องเตรียมตัวอะไร ที่ไต้หวันมีอะไรน่าสนใจบ้าง...เรารวบรวมมาไว้ที่นี่เพื่อการเที่ยวไต้หวันที่สมบูรณ์ของคุณ
หลายคนคงได้ยินกิตติศัพท์ความสวยงามของไต้หวันกันมาบ้างแล้ว
ซึ่งก็กระตุ้นต่อมอยากจะเดินทางไปสัมผัสไต้หวันกันสักครั้ง
ใครที่เคยไปเที่ยวมาแล้วก็อยากที่จะกลับไปเที่ยวอีกกันทั้งนั้น
เพราะไต้หวันไม่ได้มีชื่อเสียงแค่อาหารอร่อย
แต่ยังมีที่เที่ยวสวยงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ ในโลกเลยทีเดียว
วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อน่ารู้เกี่ยวกับไต้หวันมาไว้ที่นี่
เผื่อเป็นประโยชน์ให้กับนักท่องเที่ยวไต้หวันมือใหม่
จะได้ไม่พลาดเรื่องราวสำคัญของที่นี่
● 1. ไต้หวัน มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐจีน ประกอบด้วย 5 เกาะใหญ่ คือ เกาะจินเหมิน, เกาะไต้หวัน, เกาะเผิงหู, เกาะหมาจู่ และเกาะอูชิว
● 2. ไต้หวันตั้งอยู่ระหว่างทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ประกอบด้วยเกาะหลัก ๆ ได้แก่ เกาะไต้หวัน, หมู่เกาะเผิงหู (Penghu), จินเหมิน (Kinmen), หมาจู่ (Matsu) และเกาะเล็กอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 36,000 ตารางกิโลเมตร
● 3. เมืองหลวงของไต้หวันคือ "ไทเป" (Taipei)
● 4. เมืองน่าเที่ยว อาทิ ไทเป, เกาสง (Kaoshiung), ไถจง (Tai Chung), เถาหยวน (Taoyuan) หรือจีหลง (Keelung)
● 5. คนส่วนใหญ่พูดภาษาจีนกลาง คนท้องถิ่นสามารถพูดภาษาฮกเกี้ยนได้ และคนไต้หวันบางส่วนยังใช้ภาษาอังกฤษได้ดีอีกด้วย
● 6. 1 ดอลลาร์ไต้หวัน เท่ากับ 1 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2562)
● 7. ข่าวดีสำหรับคนไทย รัฐบาลไต้หวันเตรียมยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวไทย โดยจะสามารถพำนักในไต้หวันได้ครั้งละ 30 วัน เป็นโครงการทดลอง 1 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 ถึง 31 กรกฎาคม 2562
● 8. สนามบินหลักของไต้หวันคือสนามบินเถาหยวน อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทเป) แต่ถ้าจะไปเที่ยวทางใต้ของไต้หวันก็มีสนามบินเกาสงรองรับ
● 9. ไต้หวันเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าต้องเลือกช่วงที่น่าเที่ยวของไต้หวันคือช่วงเดือนตุลาคม-พฤษภาคม ส่วนช่วงมิถุนายน-กันยายน จะเป็นฤดูฝน
● 10. ถ้าเป็นคนที่ติดโลกโซเชียลควรซื้อซิมโทรศัพท์ของไต้หวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต ราคาไม่แพง และอินเทอร์เน็ตแรงมาก แนะนำให้ซื้อตามศูนย์ผู้ให้บริการเครือข่ายตั้งแต่ที่สนามบิน เพราะพนักงานจะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ดีกว่า
● 11. การเดินทางเข้าเมืองไทเป มีทั้งบริการรถบัส รถไฟความเร็วสูง และแท็กซี่
● 12. ที่พักในไต้หวันมีหลากหลายแบบทั้งโรงแรมหรูหรา ไปจนถึงโฮสเทล
● 13. การเดินทางในไต้หวันไม่ยากอย่างที่คิด เพราะมีหลากหลายแบบให้เลือก ในเมืองใหญ่ ๆ อย่างไทเป ก็สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ ด้วยรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้า MRT แต่ถ้าจะไปเที่ยวข้ามเมืองก็มีรถไฟ TRA วิ่งจากเหนือลงใต้ และรถไฟความเร็วสูง THSR ให้บริการจากด้านเหนือของเกาะไต้หวันลงสู่เมืองทางใต้ด้วยเช่นกัน แต่มีความเร็วกว่ามาก ส่วนแท็กซี่ก็ไม่ได้แพงมากมาย อีกทั้งคนขับบางคนยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี สุภาพ
● 14. ปลั๊กไฟส่วนใหญ่เป็นแบบขาแบน 2 ขา กระแสไฟฟ้าจะเป็นระบบ 110 V. 60 Hz ควรเตรียม Universal Adapter ติดตัวไปด้วยค่ะ
● 15. ที่เที่ยวที่น่าสนใจในไทเป อาทิ Longshan Temple, Taipei 101, Sun Yat-sen Memorial Hall, Xiangshan, Ximending, Chiang Kai-Shek Memorial Hall, Shilin Night Market, National Palace Museum เป็นต้น
● 16. ที่เที่ยวที่น่าสนใจในไต้หวัน อาทิ Taroko National Park, Penghu Islands, Alishan National Scenic Area, Sun Moon Lake, Kenting National Park, Jiufen, Yangmingshan National Park เป็นต้น
● 17. คนไต้หวันนิยมกินสัตว์แปลก ๆ เป็นยา ถ้าใครไปเดินในตลาดกลางคืนจะสังเกตเห็นบางซอกซอยมีการขายยาดอง ซึ่งจะเอาสัตว์ต่าง ๆ มาดองในขวดโหล หรือแม้กระทั่งในภัตตาคาร จะมีเมนูอาหารแปลก ๆ อยู่ด้วย ถามให้แน่ใจว่าเป็นเนื้อสัตว์อะไร
● 18. ไม่จำเป็นต้องให้ทิปพนักงานในร้านอาหารหรือคนขับแท็กซี่ แต่ถ้าใครไปกับไกด์ พักในโรงแรมก็ควรให้พนักงานสัก 10%
● 19. อาหารในไต้หวันจะคล้าย ๆ กับอาหารจีนในเมืองไทย ไม่มันมาก แต่รสชาติกินขาดเลยล่ะ อร่อยบาดใจ กินฟินไปเลยเชียว
● 20. ไปถึงที่แล้วต้องไม่พลาดกินชานมไข่มุกของเจ้าถิ่น กลิ่นของชาจะหอมมาก ตัวไข่มุกนุ่มกำลังดี น้ำชาไม่หวานจนเกินไป กินเล่นได้ตลอดทั้งวัน ใครชอบชาไต้หวัน ก็สามารถซื้อกลับมาชงกินเองที่บ้านได้ด้วย (ชาเกรด A ของไต้หวัน จะหอมมาก)
● 9. ไต้หวันเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าต้องเลือกช่วงที่น่าเที่ยวของไต้หวันคือช่วงเดือนตุลาคม-พฤษภาคม ส่วนช่วงมิถุนายน-กันยายน จะเป็นฤดูฝน
● 10. ถ้าเป็นคนที่ติดโลกโซเชียลควรซื้อซิมโทรศัพท์ของไต้หวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต ราคาไม่แพง และอินเทอร์เน็ตแรงมาก แนะนำให้ซื้อตามศูนย์ผู้ให้บริการเครือข่ายตั้งแต่ที่สนามบิน เพราะพนักงานจะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ดีกว่า
● 11. การเดินทางเข้าเมืองไทเป มีทั้งบริการรถบัส รถไฟความเร็วสูง และแท็กซี่
● 12. ที่พักในไต้หวันมีหลากหลายแบบทั้งโรงแรมหรูหรา ไปจนถึงโฮสเทล
● 13. การเดินทางในไต้หวันไม่ยากอย่างที่คิด เพราะมีหลากหลายแบบให้เลือก ในเมืองใหญ่ ๆ อย่างไทเป ก็สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ ด้วยรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้า MRT แต่ถ้าจะไปเที่ยวข้ามเมืองก็มีรถไฟ TRA วิ่งจากเหนือลงใต้ และรถไฟความเร็วสูง THSR ให้บริการจากด้านเหนือของเกาะไต้หวันลงสู่เมืองทางใต้ด้วยเช่นกัน แต่มีความเร็วกว่ามาก ส่วนแท็กซี่ก็ไม่ได้แพงมากมาย อีกทั้งคนขับบางคนยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี สุภาพ
● 14. ปลั๊กไฟส่วนใหญ่เป็นแบบขาแบน 2 ขา กระแสไฟฟ้าจะเป็นระบบ 110 V. 60 Hz ควรเตรียม Universal Adapter ติดตัวไปด้วยค่ะ
● 15. ที่เที่ยวที่น่าสนใจในไทเป อาทิ Longshan Temple, Taipei 101, Sun Yat-sen Memorial Hall, Xiangshan, Ximending, Chiang Kai-Shek Memorial Hall, Shilin Night Market, National Palace Museum เป็นต้น
● 16. ที่เที่ยวที่น่าสนใจในไต้หวัน อาทิ Taroko National Park, Penghu Islands, Alishan National Scenic Area, Sun Moon Lake, Kenting National Park, Jiufen, Yangmingshan National Park เป็นต้น
● 17. คนไต้หวันนิยมกินสัตว์แปลก ๆ เป็นยา ถ้าใครไปเดินในตลาดกลางคืนจะสังเกตเห็นบางซอกซอยมีการขายยาดอง ซึ่งจะเอาสัตว์ต่าง ๆ มาดองในขวดโหล หรือแม้กระทั่งในภัตตาคาร จะมีเมนูอาหารแปลก ๆ อยู่ด้วย ถามให้แน่ใจว่าเป็นเนื้อสัตว์อะไร
● 18. ไม่จำเป็นต้องให้ทิปพนักงานในร้านอาหารหรือคนขับแท็กซี่ แต่ถ้าใครไปกับไกด์ พักในโรงแรมก็ควรให้พนักงานสัก 10%
● 19. อาหารในไต้หวันจะคล้าย ๆ กับอาหารจีนในเมืองไทย ไม่มันมาก แต่รสชาติกินขาดเลยล่ะ อร่อยบาดใจ กินฟินไปเลยเชียว
● 20. ไปถึงที่แล้วต้องไม่พลาดกินชานมไข่มุกของเจ้าถิ่น กลิ่นของชาจะหอมมาก ตัวไข่มุกนุ่มกำลังดี น้ำชาไม่หวานจนเกินไป กินเล่นได้ตลอดทั้งวัน ใครชอบชาไต้หวัน ก็สามารถซื้อกลับมาชงกินเองที่บ้านได้ด้วย (ชาเกรด A ของไต้หวัน จะหอมมาก)
ภาพจาก Wayne0216 / shutterstock.com
● 21. สถานที่ลิ้มลองอาหารไต้หวันที่ดีที่สุดคือตลาดกลางคืน
มีให้เลือกกินทุกสิ่งอย่าง ทั้งของคาว ของหวาน มันน่ากินไปเสียหมด
แถมราคายังเบา ๆ อีกด้วย ถ้าใครไม่มีเวลาไปเดินตลาดกลางคืน
ก็ลองมองหาร้านสะดวกซื้อก็ได้ค่ะ มีอาหารและขนมไต้หวันอร่อย ๆ เพียบ● 22. มาถึงไต้หวันแล้วต้องมาลิ้มลองเสี่ยวหลงเปาต้นตำรับกันที่ร้าน Din Tai Fung ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก ความอร่อยของอาหารที่นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ อร่อยจนอยากกินให้หมดทั้งร้าน
● 23. เกาะเผิงหู (Penghu Islands) เป็นที่เที่ยวทะเลที่สวยงามมาก ๆ ของไต้หวัน บรรยากาศเงียบสงบมากถึงมากที่สุด เพราะอยู่ห่างจากชายฝั่ง นักท่องเที่ยวจะเดินทางจากเมืองใหญ่ในไต้หวันโดยเรือหรือเครื่องบินก็ได้ นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว บนเกาะแห่งนี้ยังมีอาหารทะเลที่สดมาก อร่อยมาก ให้ทานกันด้วย บอกเลยว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของไต้หวันที่ต้องไปสัมผัสกันสักครั้ง
● 24. ถ้าใครชอบงานศิลปะ เราขอแนะนำให้ไปเที่ยวที่เมืองเกาสง เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมงานศิลปะหลายแขนง ที่เที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ Dome of Light, Kaohsiung 85 Building, Hakka Cultural Museum, Kaohsiung Museum of Labor, Fo Guang Shan Monastery เป็นต้น
● 25. เราขอแนะนำให้ไปลองพักค้างคืนในโรงแรมใกล้ ๆ ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) สัก 1 คืน เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน และยังมีบรรยากาศเงียบสงบ โรแมนติกสุด ๆ
● 26. ไต้หวันก็มีเทศกาลดอกไม้สวย ๆ เช่นกัน ซึ่งเทศกาลดอกไม้ที่เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของคนไต้หวันเลยก็คือเทศกาลชมดอก ถง หรือดอกฮากกา (Hakka Tung Blossom Festival) ซึ่งเป็นต้นไม้ที่อยู่คู่กับชนเผ่าพื้นเมืองของไต้หวันมาอย่างยาวนาน โดยจะมีให้ชมในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมของทุกปี ดอกถงสีขาวอมชมพูจะบานสะพรั่งทั่วทั้งหุบเขา ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายและเงียบสงบ สวยงามจนอยากให้ไปสัมผัสกันด้วยตัวเองจริง ๆ ติดตามการบานของดอกถงได้ที่เว็บไซต์ tung.hakka.gov.tw
● 27. ไต้หวันมีชนเผ่าพื้นเมืองมากมาย ซึ่งแต่ละชนเผ่าก็จะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง อยากให้คุณได้ลองสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนพื้นเมืองดูบ้าง โดยเฉพาะด้านอาหาร ที่มีความอร่อยแตกต่างกันไป เคยลองทานอาหารของชนเผ่า Thao ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณรอบ ๆ ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) อยากจะบอกว่าอร่อยจนลืมอาหารไทยไปเลยชั่วขณะ โดยเฉพาะข้าวกระบอกไม้ไผ่ ที่มีกลิ่นของเครื่องเทศและธัญพืชต่าง ๆ หอมละมุน ตัวข้าวนุ่ม หวาน ยิ่งได้กินกับเมนูอาหารพื้นเมืองอื่น ๆ อร่อยจนน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วงไปตาม ๆ กัน :D
● 28. คนไต้หวันน่ารักมาก เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว
● 29. ของฝากจากไต้หวัน อาทิ ใบชาเขียว, พายสับปะรด, ชานม, ร่มคันเล็กลวดลายดอกถง, รองเท้าผ้าใบ, ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นต้น
● 30. การเที่ยวไต้หวันในปัจจุบันไม่ยากเลย เพราะมีการจัดการในด้านต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไต้หวันไว้อย่างดีมาก ทั้งจุดบริการนักท่องเที่ยว, ป้ายบอกทางที่เป็นภาษาอังกฤษ, และที่สำคัญมาก ๆ คือ คนไต้หวันจำนวนไม่น้อยสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว นี่แหละเป็นใบเบิกทางที่ทำให้เราเที่ยวไต้หวันได้อย่างสบายใจ
ทั้ง 30 ข้อนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับไต้หวันเท่านั้น โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวและเมนูอาหารเด็ด ๆ ยังมีอะไรให้คุณได้ไปค้นหาที่ไต้หวันอีกมากมาย ลองไปเที่ยวไต้หวันสักครั้ง แล้วคุณจะหลงรัก :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
hakka.gov.tw, taiwan.net.my, visawebapp.boca.gov.tw, immigration.gov.tw, sunmoonlake.gov.tw