1. ซูชิจิ แอนด์ คาร์นิวัล ยากินิคุ (Sushicyu & Carnival Yakiniku)
ร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพระดับพรีเมียม โดดเด่นทั้งซูชิและเนื้อย่าง ซึ่งสั่งตรงแบบสด ๆ จากประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้าใครไม่ทานเนื้อ ที่นี่ก็มีอีกหลายเมนูให้ได้เลือกรับประทาน โดยเฉพาะเนื้อหมู ที่ทางร้านจะใช้เนื้อหมูคุณภาพดี หมักซอสปรุงรสอย่างกลมกล่อม นำไปย่างบนเตาถ่าน กลิ่นจะหอมกรุ่น รับประทานกับเครื่องเคียงและซอสต่าง ๆ ยิ่งอร่อยจนไม่อยากจะวางตะเกียบเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเมนูซูชิอีกมากกว่า 10 แบบให้เลือกทานกันอย่างจุใจ
ที่อยู่ : ชั้น 1 โครงการ 8 thonglor
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 11.30-14.00 น., 18.00-22.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.30-22.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2713 8321, 08 5145 1722
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : sushicyu.com, เฟซบุ๊ก Sushicyu & Carnival Yakiniku 8 Thonglor
2. มาซาลา อาร์ท (Masala Art)
ร้านมาซาลา อาร์ท เป็นร้านอาหารอินเดีย สำหรับใครที่คิดว่าอาหารอินเดียรับประทานยาก เพราะมีกลิ่นเครื่องแกงที่แรงเกินไป ต้องมาลิ้มลองที่ร้านนี้เลยค่ะ ความคิดคุณจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพราะที่นี่จะปรุงรสชาติของอาหารให้สามารถทานได้ง่ายขึ้น ด้วยการใส่เครื่องแกงของอินเดียให้น้อยลง แต่ยังคงรสชาติของความเป็นอาหารอินเดียไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยในแต่ละเมนูคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี และมีการทำเครื่องปรุงต่าง ๆ ในแบบโฮมเมด จึงมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ เมนูที่ห้ามพลาด อาทิ ไก่หมักเครื่องเทศย่าง, ลูกชิ้นผักสอดไส้โยเกิร์ต, แกงกุ้งทรงเครื่อง เสิร์ฟพร้อมกับข้าวอบอินเดียและแป้งนานราดเนยกระเทียม เป็นต้น
ที่อยู่ : ชั้น 1 โครงการ 8 thonglor
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-13.00 น. และ 18.00-22.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2713 8357
เว็บไซต์ : masala-artbkk.com
3. ฟลาน โอเบรียนส์ ไอริช ผับ (Flann O\'Brien\'s Irish Pub)
ร้านอาหารกึ่งผับสไตล์ไอริช ที่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มแบบไอริชมาพร้อมเสิร์ฟให้กับลูกค้าถึงใจกลางกรุงเทพฯ ในบรรยากาศสบาย ๆ มีดนตรีคลอเบา ๆ บางค่ำคืนก็จะมีดนตรีสดมาขับกล่อม สร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้มาเยือน ใครไปถึงที่นี่แล้วต้องลิ้มลองเชฟ เฮ้าส์ สลัด เมนูเบา ๆ ที่มีทั้งผักและเนื้ออกไก่ พร้อมราดน้ำสลัดสูตรพิเศษอย่างเข้ากัน แล้วค่อยตามด้วยพายเนื้อตุ๋นเบียร์กินเนส ที่พายจะหอมหวาน รับประทานเข้ากันอย่างดีกับเนื้อนุ่ม ๆ และน้ำซุปเข้มข้น ยิ่งถ้าได้ทานคู่กับเครื่องดื่มสไตล์ไอริช ยิ่งฟินไปอีกหลายเท่า ซึ่งที่นี่ก็จะมีการจัดเทศกาลเบียร์เขียวในช่วงวันเซนต์ แพทริค อีกด้วย
ที่อยู่ : ชั้น G โครงการ 8 thonglor
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-01.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2392 2898
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : flann-obriens.com, เฟซบุ๊ก Flann O\'Brien\'s Irish Pub
4. เครป แอนด์ โค (Crepes & Co.)
สำหรับคนรักเครปและอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ต้องลองมาลิ้มชิมรสอาหารและเครื่องดื่มอันหลากหลายกันที่นี่เลยค่ะ ซึ่งชื่อร้านก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าอาหารที่ขึ้นชื่อจะต้องเป็นเครปแน่นอน ซึ่งก็มีทั้งเครปแบบของคาว และเครปแบบของหวาน นอกจากนี้ยังมีอาหารฝรั่งเศส อาหารกรีก อาหารโมร็อกโก และอาหารสเปน พร้อมเสิร์ฟอีกด้วย
ที่อยู่ : ชั้น G โครงการ 8 thonglor
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-23.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2726 9398-9
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : crepesnco.com, เฟซบุ๊ก Crepes & Co.
5. เฮ้าส์ เทน (HOUSE 10)
หากมาเดินเที่ยวแถวทองหล่อ แล้วต้องการฟังเพลงสบาย ๆ รับประทานอาหารไทยรสชาติคุ้นปาก เราขอแนะนำร้านนี้ค่ะ ตัวร้านตั้งอยู่บริเวณชั้น G ของโครงการ เอท ทองหล่อ ตกแต่งอย่างเก๋ไก๋ ในสไตล์ปราสาทเก่า นอกจากบรรยากาศที่ผ่อนคลายแล้ว อาหารที่นี่ยังมีรสชาติที่อร่อยเด็ดไม่แพ้ร้านอาหารที่ไหนเลยทีเดียว ด้วยความจัดจ้านของเครื่องปรุงตามแบบฉบับอาหารไทยแท้ เริ่มต้นความอร่อยกันแบบเบา ๆ ด้วยเมนูหมูกรอบบู๊ลิ้ม กากหมูทรงเครื่องมาแบบเข้มข้น บีบมะนาวนิดหน่อย ความอร่อยก็พุ่งขึ้นสูงปรี๊ด ตามมาด้วยเมนูอร่อยขยี้ใจกับยำเส้นแก้ว ที่เลือกใช้เส้นซึ่งทำจากบุก จึงมีความหนึบเหนียว เข้ากันดีแบบสุด ๆ กับน้ำยำรสแซ่บ และต้องไม่ลืมสั่งเมนูต้มยำไข่เจียว ที่น้ำซุปต้มยำจะเข้มข้น อมเปรี้ยวเผ็ด ตักเข้าปากพร้อมกับไข่เจียว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยมาก !
ที่อยู่ : ชั้น G/LG โครงการ 8 thonglor
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-01.00 น.
โทรศัพท์ : 08 1837 1133
เฟซบุ๊ก : HOUSE 10 Thonglor
6. เอล การ์โชว์ อาร์เจนติเนียน สเต๊กเฮ้าส์ (El Gaucho Argentinian Steakhouse)
ถูกใจคนชอบทานสเต๊กอย่างแน่นอน เพราะที่นี่คัดสรรแต่เนื้อคุณภาพดีมาเพื่อทำสเต๊กสูตรพิเศษจากอาร์เจนตินา เนื้อทุกชิ้นจะบรรจงตัดอย่างพิถีพิถัน นำไปหมักและย่างอย่างดี จนเป็นความสุกในแบบที่ลูกค้าต้องการ รับประทานคู่กับซอสสูตรของทางร้าน และเครื่องดื่มเย็น ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ในซอยทองหล่อ ความฟินแบบนี้ มีมาเสิร์ฟให้ที่นี่เท่านั้น
ที่อยู่ : ชั้น G โครงการ 8 thonglor
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-01.00 น.
โทรศัพท์ : 08 8721 3088
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : elgaucho.asia, เฟซบุ๊ก El Gaucho Argentinian Steakhouse Asia
7. บาร์ สตอเรีย เดล คัฟเฟ่ (Bar Storia del Caffe)
ใครที่อยากจิบกาแฟรสชาติเข้มข้นสไตล์อิตาเลียน พร้อมกับรับประทานอาหารเมนูสุดพิเศษไปพร้อม ๆ กัน ต้องแวะมาที่นี่เลยค่ะ เพราะนอกจากกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ร้านนี้ยังมีเมนูอาหารที่น่าลิ้มลองมาก ๆ อีกด้วย สิ่งแรกที่จะทำให้คุณประทับใจก็คือกลิ่นหอม ๆ ของกาแฟ พร้อมกับบรรยากาศของร้านในสไตล์อินดัสเทรียล ผสมผสานกับวินเทจ เมื่อนั่งลงเพื่อสั่งอาหารสิ่งประทับใจที่ 2 คือ เมนูอาหาร ที่มีหน้าตาเหมือนหนังสือพิมพ์ และแน่นอนว่าสิ่งที่จะทำให้คุณประทับใจร้านนี้แบบสุด ๆ ก็คือรสชาติของอาหารที่อร่อยกลมกล่อมจนต้องสั่งมาทานแล้วทานอีก ไม่ว่าจะเป็น Truffle Soup, Rack of Lamp, Seared Scallop Salad, Roast Baby Chicken, Blue Mussel Arrabiata เป็นต้น
ที่อยู่ : ชั้น G โครงการ 8 thonglor
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-22.30 น.
โทรศัพท์ : 0 2714 9301
เฟซบุ๊ก : Bar Storia del Caffe
8. โอล่า สแปนิช (Hola Spanish)
คงไม่ง่ายนักที่จะหาร้านอาหารสเปนรับประทานกันได้ในกรุงเทพฯ ซึ่งโอล่า สแปนิช ก็เป็นเพียงร้านอาหารสเปนเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้นในเมืองไทย และแน่นอนว่าเมนูที่ห้ามพลาดเมื่อมาที่นี่ก็คือ Seafood Paella เมล็ดข้าวกลมนุ่มคลุกเคล้ากับน้ำซอสปรุงรสอย่างเข้มข้น หรือใครจะสั่ง Black Paella ซึ่งนำหมึกจากตัวหมึกมาผสมและปรุงรสอย่างอร่อยกลมกล่อมไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดที่ควรลิ้มลองก็คือเมดิเตอร์เรเนียนสลัด ผักสด ผลไม้สด และเนื้อแซลมอนหั่นเต๋า คลุกเคล้าเข้ากันดีกับน้ำสลัดสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นสูตรของทางร้าน รสชาติอร่อยถูกปากคนไทยแน่นอน
ที่อยู่ : ชั้น LG โครงการ 8 thonglor
เวลาเปิด-ปิด : 11.00-23.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2713 8387
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : barcelonahola.com, เฟซบุ๊ก Hola Spanish Food
9. ทาไดมะ (Tadaima)
อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นสุดโด่งดังแห่งซอยทองหล่อ ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ปลาดิบชนิดต่าง ๆ โดยจะนำปลาดิบสด ๆ ไม่มีการแช่แข็ง มาทำเมนูสุดพิเศษให้กับผู้มาเยือน ใครอยากรับประทานปลาดิบแบบจัดเต็มก็สั่งเมนูซาซิมิมาทานกันให้จุใจ แต่ถ้าใครต้องการแบบอิ่มท้อง ขอแนะนำเมนูซูชิ ที่มีหน้าให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งยังมีเมนูอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยมีความแตกต่างจากที่อื่น ๆ คือ ทุกเมนูจะราคา 88 บาท ใครอยากลิ้มรสปลาดิบแบบต้นตำรับในราคาย่อมเยาก็เชิญที่นี่ได้เลย
ที่อยู่ : ชั้น LG โครงการ 8 thonglor
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30-23.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2714 9883
เฟซบุ๊ก : Tadaima
10. น้ำเต้าหู้เตาถ่าน (Charcoal Soymilk)
ภาพจาก charcoalsoymilk.com
ภาพจาก charcoalsoymilk.com
หากอยากดื่มน้ำเต้าหู้รสชาติดั้งเดิม กลิ่นหอมเตาถ่าน โดยที่ไม่ต้องรอต่อคิวยาว ๆ หรือตื่นนอนแต่เช้า ก็มาชิมน้ำเต้าหู้ที่นี่กันได้เลยค่ะ ซึ่งเป็นน้ำเต้าหู้สูตรโบราณ ใช้เตาถ่านในการต้มจนได้ที่ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเตาถ่าน จึงตักเสิร์ฟให้กับลูกค้า พร้อมกับใส่เครื่องแบบจัดเต็ม ทั้งลูกเดือย, เม็ดแมงลัก, เม็ดทับทิม, ถั่วแดง, แปะก๊วย ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเมนูอื่น ๆ ให้ได้ลิ้มลองอีกด้วย
ที่อยู่ : ชั้น LG โครงการ 8 thonglor
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
โทรศัพท์ : 09 5451 5655
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : charcoalsoymilk.com, เฟซบุ๊ก น้ำเต้าหู้เตาถ่าน
นี่แค่เพียง 10 ร้านแนะนำเท่านั้น เพราะที่นี่และในซอยทองหล่อ ยังมีร้านอาหารให้เลือกรับประทานกันอย่างจุใจอีกเพียบ หลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์ ใครผ่านมาแถวนี้รับรองได้ว่าไม่มีหิวแน่นอน คอนเฟิร์ม :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, 8thonglor