เขาเล่าว่า…ในเมืองไทยยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่หลายคนยังไม่เคยไปสัมผัส
จากวิถีชีวิตของชาวบ้านในท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ที่มีการทำมาหากิน พักผ่อนบันเทิง ความเชื่อ และศาสนา บวกกับความเจ้าบทเจ้ากลอนของคนไทย จนเกิดเป็นบทร้องรำ ศิลปะ นิทาน นิยาย คำบอกเล่า หรือตำนานต่าง ๆ ที่สืบสานกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ในปี 2559 จะเป็นการเปิดเป็นประสบการณ์การเดินทางครั้งใหม่ให้กับการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากออกไปค้นหาเรื่องราวที่มาจากเรื่องเล่า ในโครงการ "เขาเล่าว่า" ที่ถือได้ว่าเป็นมิติใหม่ของการท่องเที่ยวในเชิงลึกมากขึ้นเป็น "กลยุทธ์ท่องเที่ยวแบบสี่มิติ" คือ
1. AWARENESS "รับรู้" เรื่องราววิถีและความเชื่อแบบไทย ๆ ที่น่าสนใจจากพื้นที่ต่าง ๆ
2. EXPERIENCE "เข้าไปเห็น" กระตุ้นให้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวไปสัมผัสกับเรื่องราวต่าง ๆ ทั่วเมืองไทย
3. ENGAGEMENT "มีส่วนร่วม" ได้ลงไปสัมผัสกับธรรมชาติและชุมชน
4. VALUE "เข้าถึง" เรื่องราวความเป็นมา ความเชื่อ ตลอดจนคุณค่าต่าง ๆ ของพื้นที่
โดยแนวคิดหลักของโครงการเขาเล่าว่า คือความเชื่อที่ว่าเบื้องหลังทุก ๆ ที่ในเมืองไทยนั้นก็เต็มไปด้วยเรื่องราวเรื่องเล่าของพื้นบ้าน บ้างก็เป็นคล้ายตำนานจากเมืองเก่า บ้างก็เป็นเรื่องเล่าของคนในท้องถิ่น บ้างให้คุณประโยชน์แก่ผู้ไปสัมผัส บ้างเป็นมงคลแก่ผู้ที่ได้ไปกราบไหว้ บ้างคล้ายความเชื่อที่ท้าทายเร้นลับ...
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงขอเชิญคนไทยออกไปรับรู้ สัมผัส มีส่วนร่วม และเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย ที่นอกจากจะมีความสวยงาม หรือมีความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังเต็มไปด้วยเรื่องราว "เขาเล่าว่า"...ที่ไม่ได้เล่าเพียงให้เราแค่เชื่อ...แต่เล่าให้เราออกไปเห็น
"เขาเล่าว่า" ภาคเหนือ
เขาเล่าว่า...ก่อนจะทำการใหญ่ ก่อนที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จใด ๆ ให้ถามใจตัวเองก่อนว่ามีแรงศรัทธามากพอหรือเปล่า ? ด้วยพลังแห่งศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านที่ก่อประสานกันเป็นสะพานที่มีความงดงาม จนกลายเป็นความเชื่อที่ว่าใครที่มาที่นี่ให้เดินข้ามผ่านสะพานอธิษฐานสำเร็จแล้วไปอธิษฐาน ณ วัดที่ปลายสะพาน ความสำเร็จในสิ่งที่หวังก็คงจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
2. "ประตูรักแห่งขุนเขา" ประตูผาบ่อง ดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
เขาเล่าว่า...รักแท้คือการเดินทางที่ต้องไปค้นพบที่หินผาแข็งแกร่งที่นิ่งสงบนับล้านปี ถือเป็นแหล่งสะสมพลังงานของโลกใบนี้ จะมีประตูรักแห่งขุนเขาที่เต็มไปด้วยพลังรักอันบริสุทธิ์ ให้จับมือคนที่เรารักแล้วเดินก้าวข้ามผ่านไปด้วยกัน จะช่วยเสริมความรักให้แข็งแกร่งดั่งภูผา
3. "เมืองที่ห้ามพูดโกหก" เมืองลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
เขาเล่าว่า...จากตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมา มีเมืองอยู่เมืองหนึ่งที่คนมีบุญเท่านั้นจึงจะได้เข้าไปถึง เมืองนี้เป็นเมืองของคนดี ถือวาจาสัตย์ใครประพฤติผิดไร้ซึ่งสัจจะวาจา ต้องถูกออกจากเมืองไปทันที
4. "พระยาช้างชนะศึก" กู่ช้าง กู่ม้า อ.เมือง จ.ลำพูน
เขาเล่าว่า..."ภู่ก่ำงาเขียว" เป็นช้างคู่บารมีของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญชัย เป็นพระยาช้างที่มีฤทธิ์มาก เมื่อออกศึกสงครามเพียงแค่ช้างหันหน้าไปทางศัตรูก็ทำให้ศัตรูอ่อนแรงลงได้ ว่ากันว่าครั้งหนึ่งในชีวิตหากมีโอกาสได้ลอดท้องพระยาช้างชนะศึกงาเขียวเท่ากับได้รับพรแห่งชัยชนะให้สมหวังในทุกสนามแข่งขัน ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน และการดำเนินชีวิต
"เขาเล่าว่า" ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5. "หินชมนภา" หาดชมดาว อ.นาตาล จ.อุบลราชธานีเขาเล่าว่า…ณ หาดหินรูปทรงประหลาดอันกว้างใหญ่ ในฤดูน้ำโขงลด จะมีหินกลางน้ำผุดขึ้นมาให้เราได้เห็น ชาวบ้านเชื่อกันว่าให้หาหินนี้ให้เจอ เพราะเป็นจุดชมท้องฟ้าที่ส่องแสงและสีสันได้สวยที่สุด ทั้งแสงแรกแห่งรุ่งอรุณและทะเลดวงดาว สวยระยิบระยับเต็มท้องฟ้าในยามคืนข้างแรม ท้องฟ้าที่สวยและงดงามดั่งฝัน ใครได้มาเซลฟี่ตรงนี้ก็จะทำให้เราได้สัมผัสกับชีวิตที่สวยงามดั่งฝัน และอย่าลืมแชร์ความสวยงามนี้ไปให้คนอื่น ๆ ได้เห็นกันด้วย
6. "มหายุทธแดนอีสาน" พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก อ.เมือง จ.ยโสธร
เขาเล่าว่า...กาลครั้งหนึ่งที่อีสานแล้ง เพราะฝนไม่ตกต่อเนื่องกันถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน !!! จนทำให้พญามหายุทธแดนอีสานอาสานำสัตว์ต่าง ๆ เช่น ช้าง, ม้า, วัว, ควาย, ปลวก, ผึ้ง และต่อแตน ขึ้นไปรบพญาแถนจนชนะ ฝนจึงตกมาตามเดิม โดยมีข้อแม้ว่าต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบอกกล่าวทุกปี ทั้งหมดนี้จึงเป็นเรื่องราวที่มาของประเพณีบั้งไฟและแลนด์มาร์กพญามหายุทธแดนอีสานแห่งใหม่ของเมืองไทย...ที่ใครเห็นต้องตะลึง
7. "ถ้ำพญานาค" ศาลพญานาค ใต้สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 อ.เมือง จ.มุกดาหาร
เขาเล่าว่า...เส้นทางสู่โลกแห่งการหลุดพ้นนั้นคือความเพียรพยายาม ที่นี่คือแดนสวรรค์บนดินที่ทุกคนสามารถไปสัมผัสปรัชญาทางธรรม โดยใช้ความเพียรและครองสติขึ้นจากชั้นที่ 1 จนถึงชั้นที่ 7 เชื่อกันว่าเป็นเสมือนวิมานของเทวดาแห่งป่าหิมพานต์ ใครที่มีโอกาสได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมบนยอดของภูสวรรค์ 7ชั้นจะถือว่าเป็นมหาบารมี
9. "ผ้าผิวสวย" ผ้าย้อมคราม จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี
เขาเล่าว่า…"ผ้า" สามารถช่วยบำรุงผิวของเราให้สวยได้ จากภูมิปัญญาชาวบ้านที่นำพืชโบราณที่เป็นที่เลื่องลือในสรรพคุณด้านสุขภาพ มาย้อมสีผ้าแบบไร้สารเคมีที่ทำให้เมื่อใส่จะรู้สึกเย็นสบายไม่ร้อน และถูกวิจัยมาแล้วโดยประเทศญี่ปุ่นและอเมริกาว่าสามารถป้องกันรังสียูวีได้ แพทย์พื้นบ้านโบราณยังเชื่อว่ากลิ่นหอมของผ้าทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และยังสามารถนำไปนึ่งเพื่อประคบบาดแผลลดอาการอักเสบได้อีกด้วย
10. "แห่นาคโหด" แห่นาคโหด บ้านโนนเสลา อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ
เขาเล่าว่า...พิธีแห่นาคที่นี่แปลก ประหลาด และโหดที่สุดในโลก !! บททดสอบความอดทนอดกลั้นของลูกผู้ชายเพื่อทดแทนพระคุณของ "แม่" ที่ต้องอดทนอดกลั้นกับความเจ็บปวดเมื่อตอนคลอดลูกออกมา และต้องอดทนกับความทรมานในการ "อยู่ไฟ" บนแคร่ไม้ไผ่ ฉะนั้นนาคที่นี่จะสามารถบวชได้ต้องอดทนกับความเจ็บปวดและครองตัวให้มั่นบนแคร่ไม้ไผ่ที่ถูกเซิ้ง ถูกโยนอย่างรุนแรง และถูกหามแห่ไปรอบ ๆ หมู่บ้าน
"เขาเล่าว่า" ภาคกลาง
หลวงพ่อสด (พระสงฆ์องค์ใหญ่) วัดจันทรังษี อ.เมือง จ.อ่างทอง, หลวงพ่อใหญ่ (พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย) วัดม่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง และพระนอน (พระนอนองค์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย) วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
เขาเล่าว่า…ที่นี่มีพระที่จะประทานพร 3 ข้อ ให้กับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวสามารถไปกราบไหว้และสัมผัสได้ครบทั้ง 3 ที่ 3 องค์
องค์ที่หนึ่ง ให้ไปสัมผัสลูกแก้วที่ฐานพระ ท่านจะประทานพรให้สุขภาพสดใสแข็งแรง
องค์ที่สอง ให้ไปสัมผัสที่ปลายพระหัตถ์พระพุทธเจ้าองค์ใหญ่ ท่านจะประทานพรให้ตำแหน่งหน้าที่การงานกิจการเจริญรุ่งเรืองเป็นใหญ่เป็นโต
องค์ที่สาม ให้ไปสัมผัสที่ฝ่าพระบาทพระนอน ท่านจะประทานพรให้มีอายุยืนยาว
12. "เขาหนุมานวัดใจ" เขาวงพระจันทร์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
เขาเล่าว่า….ระยะทางกับความยากลำบากพิสูจน์มิตรภาพและรักแท้ เสริมพลังรัก กับลพบุรีเมืองลิง หากได้พาคนที่เรารักไปร่วมพิสูจน์รักแท้ โดยการพิชิตยอดเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองหนุมาน ด้วยการเดินขึ้นบันได 3,790 ขั้นไปด้วยกัน พร้อมสักการะรอยพระพุทธบาทและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาแห่งนี้ เราจะรู้เลยว่าเขาคือ "รักแท้" ของเราอย่างแน่นอน หรือผู้ที่เกิดปีนักษัตรปีวอก (ปีลิง) ไปกราบไหว้ขอพรเสริมพลัง เป็นสิริมงคลแห่งปีกับเจ้าพ่อพระกาฬ (ศาลพระกาฬ อ.เมือง จ.ลพบุรี)
พระพิฆเนศองค์นอน วัดสมานรัตนาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
พระพิฆเนศองค์ยืน อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา
เขาเล่าว่า…พระศิวะเคยกล่าวไว้ว่าการบูชาเหล่ามหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ใดต้องการความสำเร็จ ความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ ให้บูชา "มหาเทพ" เทพแห่งปัญญาและศิลปะองค์นี้ก่อนทุกครั้ง และตามความเชื่อโบราณเชื่อว่าถ้าอยากขอพรท่านให้สมหวังเร็วขึ้น หลังขอพรจากองค์เทพ "พระพิฆเนศ" แล้ว อย่าลืมไปกระซิบขอพรที่หูหนู บริวารของเทพหนูบริวารนี้จะนำความไปเตือนท่านให้ประทานสิ่งที่ต้องการกลับมา โดยมีเคล็ดลับว่าจะต้องเอามืออีกข้างปิดที่หูหนู
ฉะเชิงเทรา…เป็นเมืองแห่งมหาเทพ "พระพิฆเนศ" ทั้งปางนอน-ปางนั่ง-ปางยืน ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ครั้งหนึ่งในชีวิตอย่าลืมไปสักการะให้ครบทุกที่เพื่อเสริมสิริมงคลครั้งยิ่งใหญ่แก่ชีวิต
14. "พระปางขอฝน" พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ วัดทิพย์สุคนธาราม อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
เขาเล่าว่า…ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาลนั้นฝนแล้งมาก แต่ด้วยพระพุทธบารมี...ได้ทรงพลิกพื้นที่แห้งแล้งให้มีน้ำฝนหลั่งไปทั่วทุกสารทิศ และที่อำเภอห้วยกระเจา คืออีสานจังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นที่มาของพระปางขอฝน ที่สุดแห่งความศรัทธากับประติมากรรมทางพุทธศิลป์ ...พระพุทธรูปสำริดปางขอฝนที่สูงที่สุดในประเทศไทยและงดงาม ว่ากันว่าหากได้มากราบไหว้ชีวิตจะพบแต่ความร่มเย็นเป็นสุขดั่งแผ่นดินที่ได้รับสายฝน
"เขาเล่าว่า" ภาคตะวันออก
เขาเล่าว่า…ที่ใดมีรักของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ที่นั่นย่อมอบอวลไปด้วยพลังแห่งรัก ณ เกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวของความรัก ว่ากันว่าใครที่อยากเติมความหวานให้ชีวิต ยามเช้าให้ชวนกันมาเติมพลังแห่งรักกับแสงแรกของวัน ณ ปลายสะพานแห่งรัก และยามพระอาทิตย์ตกให้ไปอธิษฐานขอพรกลางช่องเขา
16. "มหัศจรรย์ทรายดำ" ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลน อ.แหลมงอบ จ.ตราด
เขาเล่าว่า...ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติก่อเกิดเป็นเม็ดทรายสีดำสนิท เชื่อกันว่ามีสรรพคุณของแร่ธาตุธรรมชาติที่สามารถทำให้ผ่อนคลายสุขภาพได้เพียงแค่ได้นอนหมกตัวอยู่ใต้ผืนทรายดำ ก็จะทำให้รู้สึกถึงพลังบำบัดเหมือนได้ทำสปาธรรมชาติ
17. "ป่าสีทอง" ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง
เขาเล่าว่า...แหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ จะมีพลังที่สุดแสนบริสุทธิ์ปกคลุมอยู่ เมื่อก้าวเข้าไปจะพบกับ 1 กิโลเมตร ความสุขบนสะพานไม้ทอดยาวกลางป่าอันสมบูรณ์ และมีความงดงาม 3 เวลา 3 อารมณ์ สบาย ๆ แสงสีทองกว้างไกลสุดสายตา ยามเช้าสว่างไสวเหลืองทองอร่าม ดุจจิตรกรนำสีทองมาแต่งแต้มธรรมชาติให้ตระการตา ยามบ่ายป่าสีทองสงบเงียบมีความสุข ในยามเย็นไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกับมวลความบริสุทธิ์ของพลังงานธรรมชาติป่าชายเลน ที่ผ่านเกณฑ์ประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จำนวนป่าสีทองมหาศาล ที่จะช่วยเติมเต็มพลังกับร่างกาย จิตใจ และความคิด
18. "สะดือมังกร" หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
เขาเล่าว่า…ผืนทะเลใดที่มีสะดือมังกรทะเลตรงนั้นจะเป็นเหมือนศูนย์รวมแห่งพลังจักรวาล เป็นจุดที่ครบธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ชาวบ้านที่นี่เขาเชื่อกันว่าใครได้ไปยืนแช่ ณ ทะเลนั้นจะได้รับพลังชีวิตใหม่ที่ดีเข้ามา โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้ประพฤติดี ประพฤติชอบ เชื่อว่าจะยิ่งส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าในทุก ๆ ด้าน
"เขาเล่าว่า" ภาคใต้
19. "สันหลังมังกร" หาดสันหลังมังกร จ.สตูล
เขาเล่าว่า...ที่เมืองพระสมุทรเทวาอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อน้ำลดเราจะได้เห็นแนวสันทรายคล้ายมังกรโผล่พ้นน้ำทะเลราวกับมังกรกำลังพลิ้วกายแหวกว่ายอยู่กลางทะเล เมื่อได้เห็นให้ไปยืนอยู่บนสันทรายเกล็ดมังกรนี้ แล้วรับพลังบริสุทธิ์จากฮวงจุ้ยแห่งท้องทะเล จะช่วยเติมเต็มพลังกายพลังใจให้กับทุกร่างกายและจิตใจที่อ่อนล้าให้กลับมาเข้มแข็งพร้อมสู้ต่อไป
20. "พระแอด-ปวดหาย" พระกัจจายนะ (พระแอด) พระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
เขาเล่าว่า...ที่วัดพระมหาธาตุเมืองนครศรี มีพระศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง ที่เชื่อกันว่าท่านมีอภินิหารบันดาลลูกให้แก่ผู้ที่ไปขอที่ไม่เหมือนใคร ชาวบ้านเชื่อว่าหากใครปวดเมื่อย ปวดเอวปวดหลัง นำไม้ไปค้ำยันที่ด้านหลังองค์พระ อาการปวดก็จะหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
21. "น้ำตาศักดิ์สิทธิ์" เขาหงอนนาค อ.เมือง จ.กระบี่
เขาเล่าว่า…ณ ดินแดนอันชวนฝันของนักเดินทางที่ถูกโอบล้อมด้วยวิวพาโนรามาอันสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย แต่ใครเล่าจะรู้ว่าดินแดนแห่งนี้เป็นจุดจบเรื่องราวความรักของพญานาคจนต้องหลั่งน้ำตาออกมา เกิดเป็นบ่อน้ำเล็ก ๆ ที่มีน้ำใสไหลตลอดปี ชาวบ้านเชื่อว่าเมื่อได้อธิษฐานขอพรพร้อมทั้งนำน้ำมาลูบหน้า จะสมปรารถนาในสิ่งที่ขอและเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
22. "สะพานแห่งความสุข" สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
23. "อุโมงค์แสงมรกต" ลานแสงมรกต ถ้ำภูผาเพชร อ.มะนัง จ.สตูล
เขาเล่าว่า…ชีวิตคนเราขอเพียงเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์มันก็เกิดพลังที่จะเดินก้าวต่อไปในชีวิต ในความมืดของถ้ำที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก แต่มีอยู่โถงหนึ่งถ้าไปในเวลาที่แสงจากภายนอกทำมุมเข้ามา จะเกิดเป็นถ้ำแสงมรกตให้เห็น เชื่อกันว่านี่คือแสงปลายอุโมงค์ที่เล่าขานกันมาใครได้มาเห็นสักครั้งก็จะเกิดพลังชีวิต
24. "ไอ้ไข่ขอได้" ไอ้ไข่วัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
เขาเล่าว่า..."วิญญาณเด็กศักดิ์สิทธิ์" เมื่อเกือบ 200 ปี เชื่อกันว่า "ขอได้ไหว้รับ" โดยเฉพาะโชคลาภและการค้าขาย ที่นี่ไม่มีการโฆษณาใด ๆ แต่ทุกคนที่มาเพราะความเลื่อมใสอย่างแท้จริง ทุกวันผู้คนต่างหลั่งไหลไปขอพรไม่ขาดสาย จะเห็นได้ว่าในวัดเต็มไปด้วยสิ่งของที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาเอามาแก้บน (รูปปั้นไก่ชน ของเล่นเด็ก และการจุดประทัด) บ่งบอกถึงแรงศรัทธาที่มีต่อไอ้ไข่ และแสดงถึงผลสัมฤทธิ์จากผู้ที่มาขอแล้วได้รับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก