แบ็คแพ็กไปลำคลองงู กับงบเบา ๆ แบงค์พันมีทอน

ลำคลองงู
         
          เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่สุด Unseen Thailand ที่นักเดินทางหลาย ๆ คนอยากไปสัมผัสสุด ๆ สำหรับ "ลำคลองงู" เพราะมีทั้งเดินป่า กระโดดน้ำ ว่ายน้ำลอดถ้ำ ฯลฯ เรียกได้ว่าแอดเวนเจอร์สุด ๆ อีกทั้งหากใครจะไปเที่ยวก็ต้องจองและติดต่อกับทางอุทยานแห่งชาติลำคลองงูเสียก่อน เพราะที่นี่จำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวนะ อ๊ะ ๆ แต่ถ้าอยากรู้ว่ามันจะ Unseen Thailand อย่างไร หรือสวยขนาดไหน ก็ต้องตามบันทึกการเดินทางของ คุณหนมโก๋_Pakchong สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปเที่ยวลำคลองงูกันก่อนดีกว่าค่ะ



          รีวิวกระทู้แรกของผม รูปอาจจะไม่สวย การจัดเรียงหรือแม้แต่ประโยคถ้อยคำอาจจะดูบ้าน ๆ ไปหน่อย มีถูก มีผิดบ้างคงจะให้อภัยกันนะครับ จุดประสงค์ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางของผม ให้เป็นแนวทางสำหรับคนที่อยากจะออกไปดูโลกกว้างแต่ยังไม่กล้าลอง ผมหวังแค่เพียงว่าสิ่งที่ผมถ่ายทอดออกมามันจะเกิดประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย

          ทริปนี้มันกะทันหันจนผมแทบไม่มีเวลาได้เตรียมตัว.....ตริ้ง ตริ้งงงง ตื้ด ๆ ระหว่างที่ผมนั่งเม้าท์กันกับเพื่อนในคลับท่องเที่ยวแบกเป้ลุยเดี่ยวและจิตอาสาพาเที่ยว ในแอพพลิเคชั่น Beetalk พูดถึงทริป "ลำคลองงู" ที่ผมกับเพื่อน ๆ จะไปกันในวันที่ 28-29 มีนาคม มือก็กดเลื่อนหน้าจอดูนู่นดูนี่ไปเรื่อยเปื่อย สายตาเหลือบไปเห็นเพจท่องเที่ยวเพจหนึ่ง (Palapilii Thailand) โพสต์ประกาศรับสมัครเพื่อนร่วมทริปหนึ่งคนไปร่วมทริปลำคลองงู เฮ้ยยยยย ๆๆ กำลังอยากไป เอาดิลองดู ผมนั่งเฝ้ากด Refresh ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ก่อนเวลาที่เพจจะโพสต์ประกาศรับสมัครตอน 2 ทุ่ม ใครสมัครคนแรกได้สิทธิ์ไปร่วมทริปกับเพจ 1 คน จนเวลา 2 ทุ่ม 37 นาที โพสต์รับสมัครจากเพจที่ผมเฝ้ากด Refresh อยู่เกือบชั่วโมงก็เด้งขึ้นมา ผมรีบพิมพ์ทัก inbox ไปที่เพจ..... "ผมไปลำคลองงูด้วยคนนะครับ" ผ่านไปเกือบ 5 นาที ผมนี่นั่งลุ้นการตอบกลับจากทางเพจตัวเกร็งเลยครับ "โอเคครับ" ทางเพจตอบกลับมา เฮ้ยยยยยยย นี่ผมได้ไปใช่ไหม "เดินทางตี 2 คืนนี้นะครับ" ข้อความถัดมาจากเพจ "ครับ ๆๆ" ผมรีบตอบกลับไป พร้อมทั้งจัดแจงยัดสิ่งของจำเป็นลงเป้ แล้วรีบออกเดินทาง มองดูนาฬิกา 3 ทุ่มกว่าแล้วจะมีรถเข้า กทม. ไหมเนี่ย ไปลองดูไม่มีก็ไปขึ้นที่สระบุรีก็ได้

ลำคลองงู

          ผมเริ่มต้นการเดินทางจาก บขส. สระบุรี มุ่งหน้าเข้า กทม. เป้าหมายจุดนัดพบที่ ม.รังสิต เอาแล้วไง ม.รังสิต มันอยู่ส่วนไหนของ กทม. (ผมนึกในใจ) ไม่รู้ยังไงก็ต้องไปให้ถึง ก่อนตี 2 ให้ได้ ตี 1 ยี่สิบ ผมและสัมภาระก็มาประจำการที่จุดนัดพบ หน้า ม.รังสิต

ลำคลองงู

          ผมแวะเข้า 7/11 ซื้อของใช้ที่จำเป็นและเสบียงในการเดินทาง จนแล้วจนรอดรวมตัวกันครบ สมาชิก 4 คน ก็ออกเดินทางกันมุ่งหน้าสู่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

ลำคลองงู

          ระหว่างทางบทสนทนาแนะนำตัว พร้อมทั้งที่มาที่ไป สารพัดเรื่องราวการท่องเที่ยว มันเป็นการพบกันครั้งแรกของผมกับคนที่ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้า นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมเดินทางคนเดียวเพื่อที่จะไปเที่ยวกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน 

ลำคลองงู

          05.50 น. แสงสว่างก็เริ่มส่องให้เห็นวิวทิวทัศน์ระหว่างทางที่ถูกปกคลุมด้วยสายหมอก

ลำคลองงู

          การเดินทางเราใช้เส้นเดียวกับทางไปสังขละบุรี ถนนหมายเลข 323 จากสามแยกทองผาภูมิ-สังขละบุรี เลี้ยวขวามาทางสังขะบุรี ขี่เข้ามาเรื่อย ๆ ประมาณ 30-40 กม. จะมีแยกขวาเข้าไปอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ขี่ตามทางหลักเข้าไปอีกไกลพอสมควร ยึดเสาไฟฟ้าเป็นตัวนำทาง

ลำคลองงู

          เรามาถึงอุทยานฯ กันเกือบ ๆ 8 โมง ด้วยความใจเย็นเราแวะสั่งข้าว มื้อเช้าที่หน้าอุทยานแห่งชาติ ลง.1 เขาพระอินทร์

ลำคลองงู

          ลงจากรถมายืนชิล ๆ กัน ยืดเส้นยืดสายพลางคิดในใจทำไมเงียบจัง นี่เราก็มาถึงกันเช้านะ ไม่เห็นมีใครมาเลย สักพักเดียวเท่านั้นแหละครับ รถกระบะ 4x4 บรรทุกนักท่องเที่ยวก็ค่อย ๆ ทยอยกันออกมา ทีละคัน 3 คัน ผ่านไปข้าวที่สั่งก็ยังไม่เสร็จ รีบสิครับ ไม่กงไม่กินแล้ว ห่อ ๆๆๆ ใส่กล่องไปกินกลางวันเอา ระหว่างที่รอข้าวเราก็เปลี่ยนชุดที่พร้อมจะลุย แล้วก็รีบเข้าไปติดต่ออุทยานฯ เพื่อลงชื่อยืนยันชื่อจองและชำระค่าใช่จ่าย มัวแต่ยืนชิลกัน 555 ตกรถสิครับ ต้องเหมารถกันไปเอง มาถึงแล้วนี่จะถอยได้ไง 4 คน ก็ไปครับ เราติดต่อเช่ารถจากอุทยานฯ เพื่อจะเดินทางไป “ถ้ำเสาหิน” จุดหมายปลายทางที่จะไปลุยกันในวันแรก

ลำคลองงู

          การเดินทางไปถ้ำเสาหินจะต้องใช้รถทางอุทยานฯ และผู้ชำนาญเส้นทางเท่านั้น

ลำคลองงู

          ระยะทางจากอทุยานฯ ไปยังถ้ำเสาหินประมาณ 9 กม. ใครที่อยากเปลี่ยนสีผมให้นั่งด้านหลังนะครับ 555 ทางจะเป็นถนนลูกรัง ฝุ่นค่อนข้างเยอะ มีผ้าปิดจมูกติดไปด้วยจะดีครับ ***ข้อควรระวังในการนั่งรถไปยังถ้ำเสาหิน ถ้าจำนวนคนไม่เยอะให้นั่งลงด้านล่างกระบะเลยนะครับ อย่านั่งขอบกระบะ เพราะทางบางช่วง สูงชัน และคดเคี้ยว นั่งแบบไม่ระวังอาจจะพลัดตกเกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายได้ เดี๋ยวเพื่อน ๆ ร่วมทริปจะพากันหมดสนุกเอาได้

          ชั่วอึดใจเดียวเราก็มาถึงจุดเริ่มต้นที่จะเดินไปยังถ้ำเสาหิน

ลำคลองงู

          พี่ ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ บอกกับเราว่าระยะทางแค่ 2 กม. ก็ถึงปากถ้ำแล้ว ฮึ ๆๆ (ผมแอบหัวเราะในใจ) กินขนมและตรู แค่ 2 กม. เอง เดินจ่ายตลาดเลยก็ยังได้ 555

ลำคลองงู

          ช่วงแรกจากจุดลงรถเพียงไม่กี่ก้าว เราก็ถึงแลนด์มาร์กสำคัญของที่นี่ ก็คือป้าย อลังการแห่งลำคลองงู

ลำคลองงู

          ถ่ายรูปสิครับ เก็บแลนด์มาร์กที่นี่เป็นที่แรก เราถ่ายรูปและคลิปเต้นกวน ๆ อยู่พักหนึ่งจึงเริ่มออกเดินกันต่อ

ลำคลองงู

          ช่วงแรกจะเป็นทางลงเขาอย่างเดียว ฟังไม่ผิดครับ ลงอย่างเดียวเลย พื้นจะเป็นดินปกคลุมด้วยใบไผ่ ถ้าเดินเพลิน ๆ ก็มีโอกาสลื่นได้ วิวด้านข้างจะเป็นป่าไผ่ซะส่วนใหญ่ สลับกับต้นไม้ใหญ่ ***เทคนิคที่ผมใช้ในการเดินทางลาดชันลงเขาตรงนี้ ผมจะไม่ก้าวยาวนะครับ จะก้าวสั้น ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อต้นขาทำงานเท่า ๆ กัน ข้างใดข้างหนึ่งไม่รับน้ำหนักตัวมากเกินไป ซึ่งนั่นก็อาจทำให้เรารู้สึกตึง ๆ หรือปวดต้นขาได้ ซึ่งก็จะมีผลอย่างมากในขาขึ้น ตอนกลับนะ 5555 เดินมาถึงครึ่งทางก็เริ่มมีหิน หน้าผาให้เห็น ความโหดมันกำลังจะเริ่มต่อจากนี้สินะ ริวสัมผัสได้ 555 ช่วงที่เริ่มเป็นหินให้ปีนป่ายลงไปยังด้านล่าง ช่วงนี้สมาธิสำคัญมากครับ ก่อนที่จะทิ้งน้ำหนักตัวลงไปที่เท้าอย่างเต็มที่ เราต้องเหยียบจุดที่คิดว่ามั่นคงมากที่สุด หาจุดจับยึดที่มั่นคง ตรงนี้ถ้าห่วงว่าอุ้งมือน้อย ๆ อันบอบบางของคุณจะเกิดลอยด้าน ก็เตรียมถุงมือมาใส่ได้นะครับ เหิ้มมมมม ๆๆๆ (เสียงน้ำตก) เฮ้ยยยยยย ได้ยินเสียงน้ำตกแล้ว มีแรงฮึดขึ้นมาทันทีครับ เมื่อลงมาถึงด้านล่างสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันคือน้ำตกใส ๆ

ลำคลองงู

          กลิ่นไอของละอองน้ำปลิวเข้ามากระแทกหน้า หายเหนื่อยเลยครับ

ลำคลองงู
         
          *** ข้อควรระวัง สำคัญมากนะครับเมื่อมาถึงน้ำตก ถึงแม้จะเหนื่อย จะร้อนอยากลงเล่นน้ำ ก็ต้องพักสัก 10-20 นาที ก่อนเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพ คลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อก่อน ไม่ควรลงน้ำทันทีที่มาถึง เพราะเมื่อร่างกายปรับสภาพไม่ทัน โอกาสเกิดตะคริวมีสูง เนื่องจากน้ำที่น้ำตกเย็นมาก และสิ่งสำคัญก็ควรใส่ชูชีพทุกครั้งเวลาลงเล่นน้ำ ถึงแม้จะว่ายน้ำเป็นก็เถอะ เราหยุดพักเล่นน้ำกับฝูงปลา กินข้าวเติมเสบียงกันอยู่ครู่ใหญ่ ๆ พร้อมกับเตรียมอุปกรณ์พรศักดิ์ เย้ยยยยยย อุปกรณ์ส่องแสงครับ 555 (มุขเสี่ยว) เพื่อที่จะเตรียมตัวเข้าไปในถ้ำ จำเป็นมากนะครับสำหรับไฟส่องสว่าง เพราะในถ้ำมืดสนิท (คนที่กลัวความมืดไม่ต้องกลัวนะครับ จำนวนนักท่องเที่ยวที่พลัดกันเข้าพลัดกันออก มีจำนวนมมากพอที่จะมีแสงสว่างพอสมควร) ภายในถ้ำช่วงแรก ๆ เราจะต้องลงน้ำ ว่ายน้ำทวนกระแสน้ำขึ้นไป สลับกับการปีนหินที่ค่อนข้างลื่นพอสมควร ในถ้ำการก้าวแต่ละก้าวจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก แต่ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดครับ

ลำคลองงู

          จากปากถ้ำว่ายน้ำ ปีนป่ายทวนน้ำมาไม่ไกลมากนัก เราก็จะเห็นแลนด์มาร์กอีกที่หนึ่ง คือ เสาหิน ขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่กลางถ้ำ เป็นเสาหินธรรมชาติที่สูงที่สุดในโลก วัดจากพื้นถึงยอดได้ 62.5 เมตร ซึ่งสูงกว่าเสาหินที่สูงเป็นอันดับสองของโลกที่อยู่ในประเทศจีนถึงเกือบสองเท่า (อันดับสองสูง 32 เมตร) เสาหินนี้สำรวจโดย นายเคฟแมน นักสำรวจถ้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และได้บันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กไว้แล้วว่าเป็นเสาหินที่สูงที่สุดในโลก พวกเราเข้าไปกัน 4 คน จึงมีเวลาค่อนข้างมากที่จะเก็บภาพตรงจุดนี้  ภาพถ่ายฝีมือ น้องโม (Watermelon mo) ตากล้องประจำทริปนี้ 

ลำคลองงู

          ด้วยความที่เป็นถ้ำ แน่นอนในถ้ำต้องมีแบทแมนและโรบิน ฮู้ด (เกี่ยวอะไรกับแบทแมนและโรบิน ฮู้ด 555) ในถ้ำต้องมีค้างคาวครับ มีค้างคาวก็ต้องมีขี้ค้างคาว ถามว่ากลิ่นเป็นยังไง โดยส่วนตัวนะ เป็นคนสกปรกอยู่แล้ว กับอะไรประเภทนี้ผมเฉย ๆ นะ แหะ ๆ :p

ลำคลองงู

          เราอยู่ในถ้ำเป็นกลุ่มสุดท้าย ถ่ายรูปตรงจุดนี้อยู่นาน ต้องขอบคุณ พี่สมหมาย เจ้าหน้าที่ที่ดูแลพวกเราด้วยครับ ที่ให้เราใช้เวลาตรงนี้อย่างเต็มที่ พอถ่ายเสร็จเราก็ต้องย้อนกลับออกทางเดิม ตอนกลับจะง่ายกว่าครับเพราะเราจะว่ายตามกระแสน้ำออกมา

ลำคลองงู

          ขากลับออกมาจากถ้ำนี่แหละครับ เราจะได้เริ่มกระโดดน้ำตกกันแล้ว

ลำคลองงู

          ออกมาจากปากถ้ำไม่ไกลก็ถึงจุดกระโดจุดแรกแล้ว ความสูงตรงจุดนี้ก็ไม่สูงมากครับ ราว ๆ 2-3 เมตร

ลำคลองงู

          สำหรับคนที่ไม่กล้ากระโดดเจ้าหน้าที่ก็จะพาเดินลัดเลาะตามน้ำตกมาอีกทาง หลังกระโดดเสร็จก็จะมีเวลาเตรียมตัว เติมพลัง เพื่อเผชิญกับทางสุดโหด ทางที่เราเดินลงมานั่นและครับ 

          พักกันพอหายเหนื่อยแล้วก็เริ่มเดินขึ้นกันเลย ช่วงนี้แหละครับเราต้องใช้พลังงานเยอะมาก เป็น 2 กม. ที่ยาวนานที่สุด ความรู้สึกว่ามันใกล้ แต่ตอนเดินมันไกล๊ไกล การเดินในขาขึ้นนี้ต้องจัดการพลังงานและร่างกายให้ดี ๆ เทคนิคที่ผมใช้ ก็คือ การเดินตลอดและต่อเนื่อง จะไม่หยุดถ้าไม่จำเป็นนะครับ เพราะถ้าหยุดพักได้นั่งก้นสัมผัสพื้นแล้ว ขอบอกเลยว่าอยากจะทิ้งร่างไว้ตรงนั้นแล้วล่องลอยไปแต่วิญญาณเลยทีเดียวเชียว

          ชั่วโมงนั้นผมได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินอย่างเดียวเลยครับ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งนั้น สมาธิมุ่งมั่นอยู่ที่การก้าวเดินในแต่ละก้าว น้ำที่ผมเอาไว้ในเป้กันน้ำของ Feelfree และซีลอย่างแน่นหนา กะว่าแค่ 2 กม. เอง คงไม่ต้องใช้น้ำมั้ง ผมประเมินค่าระยะทางช่วงนี้ต่ำไปครับ มันเหนื่อยกว่าที่คิดไว้เยอะ จนแล้วรอดก็ต้องรื้อเป้เอาน้ำออกมาจนได้ แต่ก็ทำในระหว่างการเดินช้า ๆ อย่างต่อเนื่องนะครับ พยายามอย่างมากว่าจะไม่หยุด กลัวรากจะงอก แล้วการที่จะมาเริ่มต้นเดินอีกครั้งมันทำใจลำบาก เฮือก ๆๆ หลังกระดกน้ำใส่ลำคอ พอมีเรี่ยวแรงเดินต่อ ก็ลากยาวเลยครับ ในที่สุดก็ถึงจุดที่เราลงรถ

ลำคลองงู

          ผมมานั่งหอบอยู่ที่ศาลาพักใหญ่ เมื่อสมาชิกมากันครับ เนื่องจากช่วงนี้เราเช่ารถกันไปเอง สมาชิกทั้ง 4 คน จึงมาพร้อมกันก่อนกลุ่มอื่น ๆ เรารีบขึ้นรถแล้วออกเดินทางกลับอุทยานฯ กันอย่างเร่งรีบ 555

ลำคลองงู

          การได้ออกเป็นคันแรกเป็นเรื่องวิเศษสุด ๆ ครับ อากาศระหว่างเดินทางจะบริสุทธิ์มากครับ จะไม่ถูกรบกวนจากละอองฝุ่น ที่จะเปลี่ยนจากคนบ้านนอกคอกนาให้กลายเป็นลูกครึ่งอินเตอร์ได้ทันที ฮิ ๆ ๆ

ลำคลองงู

          ระหว่างทางกลับอุทยานฯ มีเรื่องตื่นเต้นหวาดเสียวขึ้นนิดหน่อยครับ ไม่ใช่ว่าเราเจออาโออิถ่ายหนัง AV กับนิคกี้อยู่ข้างทางนะ 555 แต่เราเจองูจงอางครับ ย้ำ*** งูจงอาง ตัวใหญ่มาก เท่าต้นแขน ยาวประมาณ 2เมตรกว่า กำลังแผ่แม่เบี้ยขวางถนนอยู่ เสียดายครับที่เก็บภาพไม่ทัน ที่เสียดายยิ่งกว่า คือแบบร้องไห้นักมากกกกกกกก ผมจำทะเบียนรถที่ผมนั่งไม่ได้ ฮืออออออ ๆๆ T_T

          อึดใจเดียวเราก็กลับมาถึงอุทยานฯ ผมกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อมองหาต้นไม้คู่กันในระยะที่จะผูกเปลได้ เพื่อสร้างที่พักกันในค่ำคืนนี้ แหงน (เงย) หน้าขึ้นมองท้องฟ้าเพื่อเช็กสภาพอากาศ โอ้ว ! เพิ่งจะ 4 โมง เกือบ 5 โมงเย็น ทำไมมันมืดตึ้ดตื๋อเลย

ลำคลองงู

          เปาะแปะ ๆ เสียงสายฝนหล่นกระทบใบไม้ใกล้เข้ามา เสบียงสัมภาระ เครื่องสนามที่กำลังลำเลียงออกมาจากเป้ ก็ถูกยัดกลับเข้าไปใหม่อย่างทุลักทุเล สายตาก็เฝ้ามองหาที่หลบฝน โชคดีที่เรากลับมาถึงอุทยานฯ ก่อนกลุ่มอื่น ๆ พื้นที่ในอาคารที่ทำการจึงว่าง พอที่จะเอาร่างไปว่างกองไว้ตรงนั้นเพื่อหลับนอน

ลำคลองงู

          ผมรีบเอาสัมภาระไปวางกองสร้างแลนด์มาร์กและอาณาเขตไว้ก่อน (ไม่นะอย่าเอาเมืองฉันไป 555) ไม่พงไม่ผูกมันแล้วเปล นอนมันตรงนี้เลยแล้วกันอุ่นใจสบายกาย ห้องน้ำอยู่ใกล้ ๆ ด้วย ฮิ ๆ ผมเช่าเบาะรองนอนกับถุงนอนและหมอนที่อุทยานฯ ในราคา 50 บาท

ลำคลองงู

          สำหรับการเข้าเฝ้าพระอินทร์ในค่ำคืนนี้ สบายเลยเรา สร้างแลนด์มาร์กเสร็จก็รีบอาบน้ำชำระร่างกายก่อนเลย ตอนแรกกะจะแค่เปลี่ยนเสื้อผ้า 555 แต่คิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เราไปลุยมา ไม่ได้ ๆ ต้องอาบ ๆ แล้วจะอาบน้ำที่ไหนล่ะ อาบน้ำท่าวัด เอากระจกที่ไหนส่อง เยี่ยม ๆ มอง ๆ นกขุนทองร้องวู้ ฮ่า ๆๆ สบายตัวแล้วก็ถึงเวลาทำอาหารเย็น รื้ออุปกรณ์สนามออกจากเป้ดูสิมีอะไร......?  ง่อววววว ผลของการไม่มีเวลาเตรียมตัว หยิบอะไรได้หยิบใส่มาก่อนแบบรีบ ๆ จึงมีแค่มาม่าและปลากระป๋องเป็นที่เพิ่งสุดท้าย ก็ช่วยไม่ได้นี่ ตอนเรียนลูกเสือเวลาเข้าค่ายอาหารที่พอทำได้และแสนง่ายก็หนีไม่พ้นมาม่า ปลากระป๋อง อย่าบอกนะว่าพวกคุณไม่เคย ฮิ ๆ

ลำคลองงู

          หนังกลองตึง สายกีต้าร์ก็หย่อน อะจ๊ากกกกกกก หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนสิถึงจะถูก ประกอบกับการเดินในวันแรกนี้ผมใช้พลังงานไปค่อนข้างเยอะ กิจกรรมช่วงกลางคืนของผมจึงไม่มีอะไรมากไปกว่าการพักผ่อนหลับนอนเอาแรง ชาร์ตแบตให้ร่างกาย ระหว่างการนอนก็จะมีเสียงเพลงขับกล่อมบรรเลงอยู่ตลอด โป้ก ป้าก โป๊ง เป๊ง โง่งเหง่ง ดัง เสียงอยู่ใกล้หูผมมาก แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ใจเขาใจเรา ธรรมชาติในการใช้ชีวิตของมนุษย์มาเที่ยวพักผ่อน ทุกคนก็ออยากปล่อยอารมณ์ออกมาให้สุด ๆ หลังจากที่ต้องอุดอู้ นั่งทำหน้าบู้อยู่หน้าคอม อันนี้ผมเข้าใจ ด้วยความเพลียมันทำให้ผมหลับโดยไม่รู้ตัว

ลำคลองงู

          รู้สึกตัวตื่นมาอีกทีก็ใกล้สว่าง เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ของใครคนหนึ่ง มาสะกิดให้ผมตื่นแบบงัวเงียมาก ๆ อากาศในตอนเช้านี่มันเหยียบหน้าผมทำให้ไม่อยากจะลุกขึ้นมาเลย ลุกก็ลุก ผมลุกจากที่นอนเก็บถุงนอนและเบาะรองนอนส่งคืนเจ้าหน้าที่พร้อมกับทำภารกิจส่วนตัว แล้วจึงค่อยเดินออกไป สูดอากาศบริสุทธิ์ที่หน้าอุทยานฯ ถึงแม้จะไม่ใช้หน้าหนาว อากาศในยามเช้าก็ค่อนข้างเย็น หมอกก็ยังมีให้เห็น คงเป็นเพราะฝนที่ตกเมื่อคืนด้วย

          มื้อเช้าผมฝากท้องไว้ที่โรงพยาบาลรอวันนัดมาอัลตราซาวด์ ไม่ใช่ 555 ผมฝากท้องไว้ที่ร้านค้าหน้าอุทยานฯ อาหารง่าย ๆ นม+ขนมปัง ถูกลำเลียงลงผ่านคอหอย ลงไปลำไส้ใหญ่ ไหลลงสู่กระเพาะให้ทำหน้าที่ย่อยแปลเปลี่ยนมาเป็นพลังงานให้ร่างกายเอาไปใช้ทำกิจกรรมในวันนี้ 555

          ในวันที่ 2 ของการเดินทาง จุดมุ่งหมายของเราอยู่ที่ถ้ำนกนางแอ่น โชคดีมากครับวันนี้มีพี่ ๆ กลุ่มหนึ่งให้เราอาศัยติดรถไปด้วย เย่ ๆๆ ไม่ต้องเช่ารถไปเองแล้ว ถ้า 4 คน ต้องเช่ารถไปเองอีก มีหวังแบงค์พันหนึ่งใบคงไม่พอ Go ๆๆๆ พร้อมแล้วออกเดินทางกันต่อเลย ผมซื้อน้ำ+ขนมจากร้านค้าที่ผมฝากท้องไว้มื้อเช้าติดมานิดหน่อยเอาไว้กินกันตาย ระยะทางจากที่ทำการอุทยานฯ ไปยังถ้ำนกนางแอ่นก็ไม่ไกลราว ๆ 6 กม. เดินเท้าลงไปอีก 2 กม. เส้นทางการเดินเท้าช่วงนี้จะเดินง่ายมาก ช่วงไหนไปทางขึ้นก็จะมีบันได ช่วยให้เดินสะดวกมากขึ้น

ลำคลองงู

          ***ข้อควรระวังตอนเดินขึ้นบันได สำหรับคนนำหนักตัวเยอะพยายามเดินขอบ ๆ ริมบันได เพราะไม้ที่ทำขั้นบันไดตรงกลางค่อนข้างบอบบาง เดินอย่างระมัดระวังทุกย่างก้าวนะครับ จะได้เที่ยวอย่างสนุกเต็มที่

          ไปกันต่อเลย ช่วงการเดินช่วงนี้จะมีทางขึ้นไม่กี่จุดครับ ส่วนมากจะเป็นทางลง เดินสบายกว่าวันแรกมาก ไม่ถึงชั่วโมงเราก็เดินมาถึงแลนด์มาร์กอีกที่หนึ่งขอที่นี่ คือ ตะปูมะทุมิติ แฮ่ ตะปูทะลุมิติ แฮ่ ประตูทะลุมิติ แฮ่ ถูกแล้วววววววว

ลำคลองงู

          เอ๊ะ ๆ ยังไง โดราเอมอนมาทำหล่นไว้หรือเปล่า เรารีบวาบเข้าไปดูดีกว่า

ลำคลองงู

          OMG !!! แวบแรกนี่ผมสตั้นไป 3 วินาทีเลยครับ แม่เจ้า ! เหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่งจริง ๆ ครับ ความงดงามที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ มันอลังการกว่าที่เห็นในรูปจริง ๆ ครับ เรื่องจริงที่ เซอร์ไอแซก นิวตัน ได้กล่าวไว้ว่า สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น ต่อจากตัว N คือตัว O ง่อวววววว คนละเรื่องเดียวกันเลย

ลำคลองงู

          หลังจากตะลึงกับความงามของถ้ำอยู่พักหนึ่ง เดินเลาะตามกระแสน้ำมานิดเดียวก็ถึงจุดกระโดดจุดแรกแล้ว รวบรวมความบ้าก้าวขาแล้วดีดตัวออกไปสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น

ลำคลองงู

ลำคลองงู

ลำคลองงู

          กระโดดน้ำกันชุ่มช่ำ อ่ำ อัมรินทร์ แล้วก็ลอยคอกันต่อ ปล่อยตัวปล่อยใจไหลไปตามน้ำ แต่อย่าปล่อยชูชีพนะ 555 อารมณ์ตอนนั้นมันฟินสุด ๆ ...จะพาเธอนั้นไปลอยทะเล...ร้องเพลงงึมงำล่องลอยมาเรื่อย ๆ ตรงไหนที่เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำตื้นเดินได้ก็อย่าปล่อยตัวปล่อยใจเพลินไหลไปเรื่อยซะล่ะ เดี๋ยวตรูดดดดดของท่านจะไปกระทบกันหินเข้า บั้นเอวเสียใช้งานไม่ได้จะหาว่าผมไม่เตือนนะ

ลำคลองงู

          ขึ้นฝั่งเดินกันต่อ

ลำคลองงู

ลำคลองงู

          การเดินครึ่งบกครึ่งน้ำนี่เข้าทางผมมากพูดเลยครับ ปกติเวลาทำงาน เวลากินส่วนมากก็ลากไปกินในน้ำประจำ ฮิ ๆ

          มาถึงถ้ำที่ 2 ความอลังการของหินผ้าม่านก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า โอ้ !! มันใหญ่มาก เนื่องจากวันนี้เราขออาศัยเกาะรถพี่ ๆ อีกกลุ่มมา มัวแต่ซึมซับความงามธรรมชาติซะเพลิน เลยต้องเร่งทำเวลาหน่อยครับ ออกจากถ้ำหินผ้าม่านมาไม่ไกล ก็ถึงอีกถ้ำหนึ่งไฮไลท์ทริปนี้มีอยู่ตรงนี้แหละครับ เอเลี่ยนที่เราตามหาแอบซ่อนอยู่ในถ้ำนี้นี่เอง

ลำคลองงู

          อย่าเผลอเข้าไปใกล้ล่ะ มีหินอนาคอนด้าอยู่ด้านล่าง ถถถ ตรงถ้ำเอเลี่ยนนี่แหละครับจะมีจุดกระโดดที่สุดท้าย...วัดใจกัน

ลำคลองงู

          กระโดด ๆ ๆ สำหรับผู้ที่มีสกิลสูง จะมีระดับความสูงอีกระดับหนึ่งซ่อนอยู่ตรงจุดนี้แหละครับ แต่ไม่แนะนำดีกว่า มันค่อนข้างอันตราย

ลำคลองงู

          เช่นเคยครับ เมื่อกระโดดแล้วก็ต้องลอยคอไหลตามกระแสน้ำออกไปปากถ้ำ เพียงไม่ไกลก็ถึงจุดสุดท้ายที่เราต้องขึ้นจากน้ำเพื่อเดินต่อกันแล้ว

ลำคลองงู

          ถ่ายรูปปิดทริปกันหน่อย

ลำคลองงู

          การเดินช่วงสุดท้ายระยะทางก็แค่ 500 เมตร ทางขึ้นลาดชันนิดหน่อยครับ สมาชิกมากันครับ ก็ขึ้นรถกลับอุทยานฯ กัน เมื่อถึงอุทยานฯ ก็จัดแจงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บสัมภาระตัวเองใส่เป้

ลำคลองงู

          พร้อมทั้งเคลียค่าใช่จ่ายกับอุทยานฯ รายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม www.facebook.com/PalapiliiThailand?fref=ts 

ค่าใช้จ่ายทริปนี้

          ค่าแก็สเดินทาง (1,000 บาท) หารเฉลี่ย 4 คน = 250 บาท
          ค่าเข้าอุทยานฯ = 40 บาท
          ค่าชูชีพตัวละ 50 x 2 วัน = 100 บาท
          ค่าเช่ารถไปถ้ำ 1,000 บาท หารเฉลี่ย 4 คน = 250 บาท
          ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1 คน 2 วัน 600 บาท หารเฉลี่ย 4 คน = 150 บาท
          ค่าถุงนอน เบาะรองนอน = 50 บาท
          ค่ากิน+น้ำดื่ม มื้อเที่ยง 40 บาท มื้อเย็นเตรียมไปเอง (มาม่า) น้ำดื่ม 30 บาท มื้อเช้า 30 บาท
          รวม = 940 บาท***

          *** ตัวแปลสำคัญ คือ ค่าเช่ารถไปยังถ้ำทั้ง 2 วัน จำนวนคนน้อยแนะนำให้ขออาศัยกลุ่มอื่นไปด้วยนะครับ เมื่อขออาศัยติดรถกลุ่มอื่นไป ก็ต้องรักษามารยาทเรื่องเวลาด้วยนะครับ แบงค์พัน 1 ใบ จะพอไม่พอขึ้นอยู่กับตรงนี้แหละครับ

          ชำระค่าใช้จ่ายกับทางอุทยานฯ กันแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องโบกมือลาสถานที่แห่งความทรงจำนี้แล้ว Good Bye.....

          THANK......

          อุทยานแห่งชาติลำคลองงู : 08 4913-2381

          โอกาสและประสบการณ์ดี ๆ จาก Palapilii Thailand

          รูปประกอบรีวิวสวย ๆ จาก Watermelon MOz Gallery : www.facebook.com/WatermelonMOz.Gallery?pnref=story

          พาหนะรับ-ส่งจาก Hiran Chulo : www.facebook.com/suresleep?pnref=story

          สอบถามข้อมูลและดูรูปเพิ่มเติม www.facebook.com/monster.perfect

 
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แบ็คแพ็กไปลำคลองงู กับงบเบา ๆ แบงค์พันมีทอน อัปเดตล่าสุด 7 เมษายน 2558 เวลา 15:10:22 20,623 อ่าน
TOP
x close