1. ร้าน Paintbar Bangkok
ภาพจาก paintbarbangkok.com
มาเริ่มต้นกันที่ร้านเพ้นท์บาร์แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าเพื่อน ๆ ฟังไม่ผิด เพราะที่นี่สร้างความโดดเด่นให้ร้านด้วยการนำเอาศิลปะมารวมเข้ากับการกิน-ดื่มแบบชิล ๆ ในสไตล์การจิบเบียร์หรือไวน์ไปในระหว่างการวาดภาพ ซึ่งริเริ่มจากเพื่อน 2 คน คือ คุณเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ และ คุณวริท บูลกุล ซึ่งได้แนวความคิดการทำบาร์แบบนี้มาจากบาร์ในบอสตัน ภายในบาร์แห่งนี้ตกแต่งแบบเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์นให้มีกลิ่นอายความดิบจากผนังปูนเปลือยผสมผสานกับโทนสีดำ เน้นการใช้กระจกแทนผนังเพื่อรับแสงจากธรรมชาติ และตกแต่งพื้นที่ด้วยสิ่งของเล็กน้อยทำให้รู้สึกโล่งโปร่งสบาย เพื่อให้เหมาะกับการสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานภาพจาก เฟซบุ๊ก Paintbar Bangkok
สำหรับเมนูอาหารของร้านเน้นสไตล์โฮเมดเล็ก ๆ และของหวานให้เลือกหลากหลาย ส่วนเครื่องดื่มของทางร้านจะเน้นไวน์และเบียร์เป็นหลัก สำหรับผู้ที่สนใจเข้าเข้าไปสัมผัสประสบการณ์การสร้างสรรค์งานศิลปะแบบใหม่ สามารถสำรองที่นั่งได้ที่เว็บไซต์ paintbarbangkok.com/th โดยค่าใช้จ่ายในวันอังคาร-พฤหัสบดี เริ่มต้นที่ 649 บาท และวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มต้นที่ 799 บาท หรือหากต้องการจัดงานส่วนตัวสามารถติดต่อสอบถามทางร้านเพื่อจัดงานได้เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 19.00-22.00 น., วันเสาร์ เวลา 13.30- 16.30 น. และ 19.00-22.00 น. และ วันอาทิตย์ เวลา 13.30- 16.30 น.
ที่อยู่ : 46/4 ซอยสุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 08 1001 0849
เว็บไซต์ : paintbarbangkok.com, เฟซบุ๊ก Paintbar Bangkok
2. ร้าน Root garden
ถือเป็นอีกหนึ่งร้านอาหาร ที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างน่าสนใจมากเลยทีเดียวกับ "ร้าน Root garden" กับแนวคิดการออกแบบให้ร้าน เป็นคาเฟ่ทีตั้งอยู่ใจกลางสวนผักปลอดสารพิษ โดยครูองุ่น มาลิก เจ้าของพื้นที่ได้มอบให้แก่ มูลนิธิไชยวณา สำหรับนำที่ดินที่เดิมเป็นพื้นที่รกร้างไปใช้ในการพัฒนาให้เกิดประโยชน์ ด้วยการแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน ได้แก่ พื้นที่ปลูกผักสวนครัว, ทำนา, ฟาร์มเห็ด และเลี้ยงสัตว์อย่าง ไก่ และแพะ รวมทั้งใช้เป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และพาเด็ก ๆ มาสัมผัสการเกษตรด้วยการลองปลูกผักด้วยตนเอง, การเลี้ยงสัตว์ หรือทำกิจกรรมเวิร์คช้อปดี ๆ อย่างการจัดสวนในโหลแก้ว และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกอย่างข้าวกล้อง น้ำตาลอ้อย และเกลือสมุทร เป็นต้น
นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากผลผลิตทางการเกษตรของร้าน ซึ่งเมนูแนะนำ ได้แก่ กาแฟออร์แกนิค, ชาชนิดต่าง ๆ และสลัดผักสด อีกทั้งทุกวันอาทิตย์แรกของทุกเดือนจะมีกิจกรรมเวิร์ช้อปและตลาดนัดในสวน ส่วนวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนจะมีการจัดเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนคู่กับการเรียนรู้สึกหรับพาครอบครัวและเด็ก ๆ ไปสัมผัสเป็นอย่างมาก
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00-20.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
ที่อยู่ : ซอยทองหล่อ 3 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 08 5825 2298
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Root Garden At Thong Lor
3. ร้านกินติมดูควาย
ร้านไอศกรีมริมถนนแบบธรรมดาแต่กลับที่สร้างจุดสนใจให้กับร้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยกิจกรรมนั่งดูควายไปกินไอศกรีมไป หรืออาจจะเซลฟี่เบา ๆ กับควายก็ได้ ภายในร้านสร้างเป็นเพิงเล็ก ๆ แบบเรียบง่าย ส่วนเมนูไอศกรีมก็มีให้เลือกหลากรส พร้อมด้วยท็อปปิ้งมากมายให้เลือกใส่ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเมนูแนะนำของร้านได้แก่ ไอศกรีมกะทิ, ไอศกรีมเผือก, ไอศกรีมข้าวเหนียวดำ, ไอศกรีมช็อกโกแลต และไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี เป็นต้น
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
ที่อยู่ : ริมถนนเลี่ยงเมืองหนอนมน ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
โทรศัพท์ : 08 2477 7646
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก กินติมดูควาย
4. ร้าน Big Knit Cafe
ร้านอาหารเก๋ ๆ ที่เอาใจคนชอบและหลงใหลการถักนิตติ้งในรูปแบบต่าง ๆ ภายในร้านออกแบบในโทนสีขาว ตกแต่งด้วยไหมพรมหลากหลายเฉดสีในบรรยากาศวินเทจร่วมสมัย รายล้อมด้วยผลงานนิตติ้งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อน ๆ ที่เข้ามาสร้างสรรค์ชั้นงานของตัวเอง และเพราะการทำงานฝีมือต้องใช้เวลาในการสร้างสรรค์จนบางคนอาจจะลืมเวลากินไปเลย ทำให้ทางร้านเกิดไอเดียอยากทำนิตติ้งคาเฟ่ขึ้นมาบ้าง โดยเริ่มต้นจากการบริการเมนูเบา ๆ อย่างเบเกอรี่โฮมเมดอย่างวาฟเฟิล, Oreo Banoffee และ เค้กมะพร้าว, เค้กมะตูม, เครป, ช็อกโกแลตบราวนี่ พร้อมด้วยเมนูอาหารแบบพิเศษ อาทิ ข้าวผัดสามสหาย, มักกะโรนีอบชีส, โอรีโอบานอฟฟี่, Mix Green Salad (สลัดแซลมอนกับน้ำจิ้มแจ่ว) เป็นต้น
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-21.00 น.
ที่อยู่ : 88 ซอยสุขุมวิท 49 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 0 2260 5050
เว็บไซต์ : bigknit49.com, เฟซบุ๊ก Bigknit
5. ร้านThe Bookshop Restaurant
มาปิดท้ายกันที่ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งในสไตล์เมืองแห่งเวทมนตร์ที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย Alice in Wonderland หรือหนังเรืองแฮรี่ พอตเตอร์ ที่เปิดให้เพื่อน ๆ ได้ นั่งผ่อนคลายไปกับกิจกรรมการอ่านหนังสือ จิบกาแฟ และทานอาหารแบบเบา ๆ ภายในร้านเน้นการออกแบบบรรยากาศให้น่านั่งชิลแบบสบาย ๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น เพิ่มความเก๋ ๆ ให้ร้านด้วยการตกแต่งหนังสือให้ห้อยย้อยลงมาอย่างสวยงาม ส่วนโซนทีนั่งจัดวางแบบผสมผสานระหว่างเกาอี้ทรงสูง และโซฟานุ่ม ๆ ในจุดต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ส่วนเมนูอาหารของร้านเน้นบริการอาหารยุโรป และอาหาร สัญชาติไทยแท้ คู่กับเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตของร้านอย่างกาแฟ, เครื่องดื่มค็อกเทล และไวน์ เป็นต้น
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-24.00 น.
ที่อยู่ : G Floor แอชตัน คอนโดมิเนียม สุขุมวิทซอย 38 (BTS ทองหล่อ) กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 0 2187 4949
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Bookshop
ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์เพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาร้านอาหารไอเดียเก๋ และอยากทำงานอดิเรกไปพร้อม ๆ กันได้อีกด้วย เหมาะกับการใช้เวลาว่างในไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดีเลยจ้า
หมายเหตุ : ข้อมูลต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทาง
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ