
ทะเลบัน บ้านที่สันกาลาคีรี ผืนป่าอันสมบูรณ์
ทะเลบันบ้านที่สันกาลาคีรี (อ.ส.ท.)
ธเนศ งามสม...เรื่องและภาพ
1. เสียงนกเงือกหัวแรดกังวานมาจากยอดไม้ยามอยู่ในแวดล้อมป่าดิบเช่นนี้ เสียงดังกล่าวยิ่งก้องกังวานให้อารมณ์รับรู้จับใจ ผมอยู่ห่างจากบ้านกว่า 1,000 กิโลเมตร ยืนอยู่ริมบึงน้ำที่คนถิ่นนี้เรียกว่า "ทะเลบัน" ฟังเสียงนกเงือกหัวแรดในบ้านของพวกเขา...บ้านแห่งทิวเขาสันกาลาคีรี
กล่าวสำหรับนกเงือกหัวแรด พวกเขาคือ 1 ในนกเงือกจำนวน 13 ชนิด ในบ้านเรา ด้วยความอุดมสมบูรณ์ที่นี่ปรากฏพวกเขาอาศัยอยู่ถึง 8 ชนิด คือ นกเงือกหัวหงอก นกชนหิน นกเงือกกรามช้าง นกเงือกกรามช้างปากเรียบ นกกก นกเงือกปากดำ นกเงือกปากย่น และเจ้าของเสียงร้องกังวานก้อง
กล่าวสำหรับสันกาลาคีรี ทิวเขาเสมือนพรมแดนไทย-มาเลเซียนี้อุดมด้วยป่าดิบถิ่นใต้ ทอดยาวตั้งแต่จังหวัดนราธิวาส ยะลา สงขลา มาจดทะเลอันดามัน นับเป็นป่าดิบสมบูรณ์แห่งหนึ่งในภาคใต้ ผืนป่าซึ่งยังมีพืชและสัตว์ "หลงสำรวจ" อีกมากหลาย รวมถึงเป็นบ้านของ "ซาไก" ชนเผ่าผู้เกิดและใช้ชีวิตในป่ามาแต่ดึกดำบรรพ์

สิ้นเสียงนกเงือกหัวแรดราวป่าเบื้องล่างก็กังวานด้วยสรรพเสียงนานา ทั้งฝูงชะนีกู่ร้อง เสียงนกเล็ก ๆ หวานใสมาจากป่าหวาย ซึ่งแคลุมรอบ ๆ บึงน้ำอันกว้างใหญ่ ผมเดินตามสะพานไม้ซึ่งยื่นออกไป ก็พบฝูงลิงแสมลงมาหาอาหารด้วยขนาด 125 ไร่ แวดล้อมด้วยป่าดิบและภูเขา มันจึงเป็นบ้านอันอุดมและปลอดภัย ย้อนเวลากลับไปเหนือบึงน้ำนี้เคยเป็นภูเขาหินปูนผุดโผล่ เล่าต่อกันว่า เมื่อราว 300 ปีก่อน เกิดแผ่นดินสะเทือนครั้งใหญ่ มีเสียงดังครั่นครืนนานแรมเดือน แล้วภูเขาทั้งลูกก็ทลายลง คนท้องถิ่นเรียกปรากฏการณ์นั้นในภาษาลายูว่า "เลอโอ๊ด กะบัน" อันหมายถึงแผ่นดินยุบลงไป จากนั้นน้ำก็ไหลรี่เข้าท่วม แผ่นดินยุบกลายเป็นบึงน้ำใหญ่ ชื่อก็กร่อนกลายเป็น "ทะเลบัน" ในเวลาต่อมา
ผมอยู่ห่างจากบ้านกว่า 1,000 กิโลเมตร พักอยู่ที่นี่ร่วมสัปดาห์แล้ว ทว่าไม่เคยเงียบเหงาว่างเปล่า ยิ่งในยามเช้าบึงน้ำสะท้อนภาพรอบตัวลงมา ราวกับเรือนยอดไม้แน่นทึบเลื่อนลงมาใกล้ ทิวเขาสันกาลาคีรีปรากฏชัดอยู่ตรงหน้า

ยาโรย คือ หนึ่งในน้ำตกเหล่านั้น สายน้ำไหลโจนลดหลั่นมาจากยอดเขา จากชั้น 4 ซึ่งโจนตกจากหน้าผา ลำธารค่อย ๆ ไหลรี่แล้วโจนจากผาหินสูง 15 เมตร ลงมาเป็นชั้น 3 บ่ายวันหนึ่งผมเดินทวนน้ำขึ้นไป ที่ชั้นแรกมีผู้คนเข้ามาหย่อนใจหนาตา ด้วยแอ่งน้ำกว้าง ใสสะอาด รอบ ๆ เป็นลานหินกว้างน่านั่ง จากชั้นแรกรอยทางเล็ก ๆ เลียบขึ้นไหล่เขา ยาโรยชั้น 2 ปรากฏท่ามกลางหมู่ไม้ สายน้ำไหลพาดลงไป ดั่งผืนผ้าขาวนวลพาดตามลาดหินลดหลั่น ข้างธารน้ำมีต้นไทรแผ่ใบร่มรื่น ตามกิ่งก้านดกดื่นอยู่ด้วยลูกสุก ฝูงนกนานาจึงแวะเวียนมาไม่ขาด ทั้งนกเขาเปล้าสีนวลตา นกโพระดกคางแดงซึ่งมีแต้มสีแดงสด และนกเขียวก้านตองปีกสีฟ้าซึ่งน่าชมด้วยสีฟ้าสดใส

ตะวันค่อย ๆ คล้อยและยอดเขา ลมเย็นชื่นพัดลูบไล้เนื้อตัว เสียงนกยังร้องแว่วอยู่บนต้นไทร ผมเดินเลาะลำธารเย็นใสขึ้นไป นกกางเขนน้ำหัวขาวปรากฏบนโขดหินเบื้องหน้า ลำตัวขาวสะอาดคาดดำช่างโดดเด่น มันส่งเสียงเล็กแหลมแล้วบินทวนน้ำหายลับไป เสียงหวานใสนั้นทำให้ผมนึกถึงผืนป่าอื่น ๆ ที่เคยไปเยือน ครั้งหนึ่งในผืนป่าจังหวัดบ้านเกิด ผมเดินตามเสียงหวานใสนั้นไปครู่หนึ่งก็พบพวกเขาเกาะนิ่งบนโขดหินกลางน้ำ
กล่าวสำหรับนกกางเขนน้ำ ในบ้านเรามีพวกเขาทั้งหมด 4 ชนิด อาศัยเฉพาะในป่าดิบเขาสูงตั้งแต่ 400-800 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง กล่าวได้ว่าทุกลำธารที่พบพวกเขานั้นล้วนอุดมสมบูรณ์ ใสสะอาด และปลอดภัย
ผมเดินทวนน้ำขึ้นไปถึงยาโรยชั้น 3 ก็พบเขาอีกครั้งขณะแนบตากับช่องมองภาพ ลำตัวขาวดำนั้นสะท้อนเงาลงบนผืนน้ำงดงามจับตา โมงยามนั้นผมคล้ายได้กลับไปเยือนบ้านเกิดที่จากมา

3. วังประ คือ ทุ่งหญ้ากว้างในหุบเขา เราเข้าไปเยือนที่นั่นเพราะเรื่องเล่าหลากหลาย
"แต่ก่อนจะดูนกเงือกไม่ต้องขึ้นภูเขา รอบ ๆ ทุ่งวังประเห็นได้ง่าย ๆ แม้แต่นกชนหินที่หาดูยากก็เห็นริมชายทุ่ง" ใครบางคนเริ่มต้นเรื่องเล่า
จากทะเลบันเราใช้ทางตรวจการณ์เดินทางลึกเข้าไป สองข้างทางปรากฏทิวเขาหินปูนสูงตระหง่าน ป่าดิบแผ่เรือนยอดแน่นทึบราวกับใจหัวกะหล่ำปลี ขณะต่ำลงมาสวนยางพาราเริ่มรุกเข้าครอบครอง
"สิบปีก่อนข้างทางยังเป็นป่าดิบอยู่เลย ตั้งแต่น้ำยางแพง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องเหนื่อยหนัก คอยระวังพวกถางป่าปลูกยางพารา" ชายซึ่งผมเรียกอย่างเคารพว่า "บัง" เล่าน้ำเสียงเรียบเรื่อย สวนยางพาราปรากฏแทรกในป่าดิบตรงโน้นตรงนี้
ทางลูกรังทอดลึกเข้าไปสู่ใจกลางป่า แม้จะล่วงสู่ฤดูแล้งทว่าทางยังเต็มไปด้วยหล่มโคลน ร่องลึก เพราะป่าดิบแน่นทึบ เรือนยอดสอดสานจนแดดยากจะส่องถึงได้ง่าย ๆ ใช้เวลากว่าชั่วโมงเราจึงมาถึงหน่วยฯ ทุ่งวังประ ที่ทำการหน่วยฯ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวแวดล้อมด้วยไม้ป่าน้อยใหญ่ จากหน่วยฯ เราเดินตามรอยทางเล็ก ๆ ไปยังทิศใต้ บุกป่าซึ่งเต็มด้วยหวายและพรรณไม้มีหนามแหลม ฝ่าป่าพรุอับชื้น ข้ามลำห้วยสีเขียวใส จึงไปถึงใจกลางทุ่งวังประ
กลางทุ่งหญ้ากว้างผมย่อตัวดูรอยตีนหมูป่าใหม่ ๆ ขณะไกลออกไปรอบตัว คือ ทิวเขาสีครามลดหลั่น เสียงชะนีร้องดังกังวานไปทั่ว
"ผมเคยเห็นฝูงกวางออกมาเล็มหญ้า นกเงือกหัวแรดบินเหนือทุ่งหญ้า นกหว้าก็เคยเห็นในทุ่งนี้ล่ะ" บังเล่าพลางกวาดสายตาไปยังทิวเขาสีคราม
ลมเย็นโบกโบย ทุ่งหญ้าพลิ้วไหว กลิ่นดอกไม้ป่าลอยมาจาง ๆ ผมจินตนาการถึงสมเสร็จ สัตว์สงวน 1 ใน 15 ชนิดของบ้านเราค่อย ๆ เดินลงมากินโป่งในทุ่งหญ้า
"ผมไม่เห็นเขานานหลายปีแล้ว ได้ยินว่าพวกปลูกยางพาราเข้ามาถึงที่นี่ฝูงกวางก็หายไป เจ้าหน้าที่มีเพียงหยิบมือ แต่ผืนป่ามันกว้าง" บังเล่าพลางเหม่อมองทุ่งหญ้า
"สมัยรุ่นปู่เคยมีกระซู่อยู่ในป่านี้ด้วย มีปลักที่พวกเขาลงมาใช้ประจำ ช้าง เสือก็เคยมี ปู่เล่าว่าวันหนึ่งมันลงมาจากภูเขา วันนั้นคนในหมู่บ้านไม่เป็นอันทำอะไร ผู้ชายทุกคนในมือถือปืน"
ห่างจากที่นี่ไปแสนไกล ข้างกองไฟในยามค่ำคืนเรื่องเล่าเช่นนี้ผมเคยได้ฟังมาบ้าง ดูเหมือนระยะทางจะไม่ทำให้คำว่าบ้านนั้นแตกต่าง อีกทั้งความเปลี่ยนแปลงก็ดูคล้ายจะหลีกเลี่ยงไม่พ้น

4. จากผืนแผ่นดินใหญ่ เราเดินทางตามทิวเขาสันกาลาคีรีไปยังทิศตะวันตก ที่ซึ่งป่าดิบค่อย ๆ แผ่เรือนยอดหนาแน่นลงไปจดป่าชายเลน บรรจบท้องทะเลอันดามัน
ที่ท่าเรือตำมะลัง เรือตรวจการณ์ลำเล็กพาเราบ่ายหน้าออกทะเลผ่านเกาะปูยู ซึ่งเป็นที่ตั้งหมู่บ้านปูยู ตามเรือนที่ปลูกยื่นลงมามีเรือจอดเรียงรายใกล้ ๆ กันเป็นกระชังเลี้ยงปลา รายได้ซึ่งช่วยจุนเจือในฤดูมรสุมยามไม่สามารถออกเรือได้ คล้อยจากเกาะปูยูเรือบ่ายหน้าเข้าไปในป่าโกงกาง ปรากฏคลองสายเล็กสายน้อย คล้ายรากไม้ซอกซอนลึกเข้าไปในผืนแผ่นดิน ฝูงลิงแสมโจนได้ไปตามยอดไม้ บ้างเพลินกับลูกลำแพนโดยไม่ใส่ใจสิ่งใด ขณะบนหาดทรายฝูงนากทะเลนอนเกลือกกลิ้งผึ่งแดดสบายใจ
"สมบูรณ์เหลือเกิน" ในบางคนเอ่ย ผมพยักหน้าเห็นคล้อย ก่อนลงเรือเราก็ได้รู้ว่าป่าโกงกางที่นี่สมบูรณ์เพียงใด

"ลองชิมดูค่ะ โกงกางใบใหญ่ใส่กุ้งชุบแป้งทอด" หญิงสาวประจำศูนย์วิจัยป่าชายเลนสตูลเอ่ยเชื้อเชิญ นอกจากกุ้งรสมันหอม เธอยังช่วยอธิบายพรรณไม้ต่าง ๆ ในป่าชายเลน เช่น เป้งทะเล เหมือนยอดมะพร้าวอ่อน แกงส้มกุ้งอร่อย ลูกจากทำขนมหวานได้ แกงคั่วก็ได้ เหงือกปลาหมอเป็นยาสมุนไพร แก้ปวดฟัน ปวดเมื่อย แก้ไอ ลูกลำแพนที่ลิงชอบกินนั้นจิ้มน้ำพริกอร่อยนัก
ยิ่งแล่นเรือลึกเข้าไป ต้นโกงกางยิ่งดูแน่นทึบ สูงใหญ่ แผ่เรือนยอดกว้างไกลไม่ต่างจากป่าดิบรอบ ๆ ทะเลบัน นายท้ายบ่ายหัวเรือเข้าคลองสายย่อย ราวกับเราค่อย ๆ หลุดเข้าไปในหุบเขาหลงสำรวจ รอบตัวโอบล้อมด้วยทิวเขาหินปูนสูงตระหง่าน บ้างตัดชันเป็นหน้าผา บ้างผุดโผล่ยืนทะมึนราวผู้พิทักษ์ เหยี่ยวแดงแผ่ปีกกว้างปืนร่อนอย่างอิสรเสรี ใต้ทิวเขาซึ่งดูราวกำแพงโบราณกั้นขวาง ถ้ำลอดปูยูปรากฏอย่างตรงนั้น มองเห็นป่าโกงกางราง ๆ ผ่านโพรงถ้ำไปยังอีกฟาก
ตรงหน้ากำแพงโบราณ ผมเปลี่ยนจากเรือไฟเบอร์กลาสเป็นเรือคายัก ค่อย ๆ พายลอดเข้าไปราวกับหลุดเข้าไปในโลกอีกใบ โลกซึ่งน้ำเป็นสีเขียวใส สรรพสิ่งเงียบสงัด ป่าโกงกางแผ่นเรือนยอดออกไปจดโค้งขอบฟ้า

5. ตะวันค่อย ๆ คล้อยลงต่ำ ฝูงนกแอ่นบ้านบ่ายหน้าไปทางทิศใต้ ระหว่างทางกลับทำเรือตำมะลัง ผมหันไปมองข้างหลัง ทิวเขาสันกาลาคีรีทอดยาวเป็นเส้นสีครามสุดสายตา ขณะเบื้องหน้าเกาะน้อยใหญ่ผุดอยู่ในทะเลอันดามัน นั่นเกาะยาว ถัดไปราง ๆ คือเกาะลังกาวี เขตประเทศมาเลเซีย
เราสวนกับเรือหางยาวหลายลำ มีทั้งบ่ายหน้าออกทะเลและกลับคืนฝั่ง ในเรือมีผู้คนเต็มลำ พวกเขาแต่งกายอย่างชาวมุสลิมผู้เคร่งครัดหญิงสาวคลุมฮิญาบมิดชิด ชายหนุ่มนุ่งโสร่ง สวมเสื้อแขนยาวขาวสะอาดรอยยิ้มระบายใบหน้าเมื่อเรายิ้มทักทาย
ผมจากบ้านมาไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร ทว่าความแปลกแยกเปลี่ยวเหงาไม่เคยผุดเข้ามารบกวนจิตใจ ทั้งรอยยิ้ม เรื่องเล่าบางเรื่องช่างคล้ายเคยฟังข้าง ๆ กองไฟในวัยเด็ก อาจเป็นเพราะคำว่าบ้านนั้นมีความหมายดุจเดียวกัน กระทั่งระยะทาง ความห่างไกล หรือแม้แต่เส้นพรมแดนทางเชื้อชาติก็ไม่อาจแบ่งกั้น
ขอขอบคุณ
อุทยานแห่งชาติทะเลบัน ศูนย์วิจัยป่าชายเลนสตูล สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 34 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ซึ่งช่วยเหลือด้วยน้ำใจ
คู่มือนักเดินทาง



การเดินทาง




ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก
อุทยานแห่งชาติทะเลบันมีบ้านพัก 7 หลัง จุได้ราว 70 คน (จองผ่านออนไลน์) และมีลานกางเต็นท์ให้บริการ

แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง
ด่านพรมแดนวังประจัน อยู่ห่างที่ทำการอุทยานฯ 2 กิโลเมตร มีตลาดขายสินค้า สามารถข้ามไปซื้อของปลอดภาษีและชมตลาดในเขตรัฐเปอร์ลิส (Peris) ของมาเลเซียได้โดยไม่ต้องทำบัตรผ่านแดน ไม่ต้องยื่นหนังสือเดินทาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
อุทยานแห่งชาติทะเลบัน หมู่ที่ 4 ถนนสมันกรัฐบุรินทร์ ตำบลวังประจัน อำเภอควนโคน จังหวัดสตูล 91160 โทรศัพท์ 08 3533 1710
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

ปีที่ 55 ฉบับที่ 2 กันยายน 2557