วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา ไปสักการะพระเจดีย์ชัยมงคล เชื่อกันว่าจะมีแต่ความยิ่งใหญ่ เสริมอำนาจบารมี และเป็นมงคลแก่ชีวิต วัดใหญ่ชัยมงคล พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนต้น ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยา ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำป่าสัก เป็นวัดยอดนิยมที่อยู่ในโปรแกรมไหว้พระอยุธยา เพราะเป็นสถานที่ประดิษฐาน พระเจดีย์ชัยมงคล อนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ ว่ากันว่าหากได้ไปสักการบูชาจะช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ความน่าสนใจของวัดแห่งนี้ยังมีอีกมาก ตามเราไปทำความรู้จักให้มากขึ้นกันดีกว่า วัดใหญ่ชัยมงคล (Wat Yai Chaimongkhon) ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา ใกล้กับสนามกีฬาอยุธยา และไม่ไกลจากวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม วัดพระนอน 600 ปี (พระพุทธศรีอยุธยาประชาพิทักษ์) สามารถคลิกดู Google Map วัดใหญ่ชัยมงคล ได้ที่ goo.gl/maps/T7GofkuS9Uoy9jMM9 วัดนี้เดิมพระเจ้าอู่ทอง (สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1) พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา ทรงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1900 สำหรับเป็นสำนักของพระสงฆ์ ซึ่งไปบวชเรียนมาตั้งแต่สำนักพระวันรัตมหาเถรในลังกาทวีป เรียกนามนิกายนี้ว่า "คณะป่าแก้ว" จึงได้นามว่า "วัดป่าแก้ว" ต่อมาผู้คนเลื่อมใสบวชเรียนพระสงฆ์นิกายนี้จนเจริญแพร่หลาย พระเจ้าอู่ทองจึงตั้งอธิบดีสงฆ์นิกายนี้ขึ้นเป็นสมเด็จพระวันรัต มีตำแหน่งเป็นสังฆราชฝ่ายขวา คู่กับพระพุทธโฆษาจารย์เป็นอธิบดีสงฆ์ฝ่ายคันถธุระ คือสังฆราชฝ่ายซ้าย โดยวัดนี้เป็นที่สถิตของสมเด็จพระสังฆราช สมัยโบราณเรียกพระสงฆ์ว่า "เจ้าไท" ฉะนั้นเจ้าพญาไทจึงหมายถึงตำแหน่งพระสังฆราช จึงได้ชื่อว่า "วัดเจ้าพญาไท" ในแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อ พ.ศ. 2135 พระมหาอุปราชแห่งพม่าได้ยกกองทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยา หมายจะปราบปรามเมืองไทยไว้ในอำนาจ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงยกทัพออกไปต่อสู้ข้าศึก จนได้ทำศึกชนช้างกับพระมหาอุปราชที่ตำบลหนองสาหร่าย แขวงเมืองสุพรรณบุรี สมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีชัยชนะในศึกยุทธหัตถีครั้งนี้ ทรงฟันพระมหาอุปราชสิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง แต่ครั้งนั้นไม่สามารถที่จะตีกองทัพของข้าศึกให้แตกยับเยินไปได้ เนื่องจากกองทัพต่าง ๆ ติดตามไม่ทันพระองค์ เมื่อเสร็จการสงครามแล้ว สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงทรงพิโรธแม่ทัพนายกองเหล่านั้น จะให้ประหารชีวิตเสียให้หมด สมเด็จพระวันรัตวัดป่าแก้วได้ขอบิณฑบาตชีวิตทหารเหล่านั้นเอาไว้ แล้วทูลแนะนำให้ทรงสร้างเจดีย์ไว้เป็นที่ระลึกเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศที่ได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในครั้งนั้น โดยให้เหตุผลว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเปรียบดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แวดล้อมด้วยหมู่มารก่อนที่จะตรัสรู้ ทั้งยังเป็นการประกาศเกียรติและบารมีความกล้าหาญและเก่งกาจของพระองค์ให้กระจายไปทั่วแผ่นดิน สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและความมีน้ำพระทัยของพระองค์ที่มีต่อเหล่าทหารเหล่านั้น และถูกขนานนามว่า "พระเจดีย์ชัยมงคล" ต่อมาเรียกกันว่า "วัดใหญ่ชัยมงคล" ทว่าเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 บ้านเมืองถูกกองทัพพม่าเผาทำลาย วัดใหญ่ชัยมงคลจึงถูกทิ้งร้างไปในที่สุด ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์จึงมีการบูรณปฏิสังขรณ์และมีภิกษุสงฆ์จำพรรษาดังเช่นในปัจจุบัน ภายในวัดใหญ่ชัยมงคลมีสิ่งที่น่าสนใจ ทั้งยังได้รับการประกาศให้อยู่ในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2540 เมื่อคราวที่มีการประกาศเพิ่มเติมขยายเขตอุทยาน ไม่ว่าจะเป็น อนุสรณ์แห่งชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเหนือมังกยอชวา พระมหาอุปราชของหงสาวดี เป็นเจดีย์ทรงระฆังขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนฐานทักษิณสี่เหลี่ยม ความสูง 15 เมตร ความกว้างด้านละ 32.40 เมตร ซึ่งรวมความสูงองค์เจดีย์จากฐานถึงยอดได้ 62.10 เมตร ภายในพระเจดีย์บรรจุชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา) เป็นบทสรรเสริญชัยชนะของพระพุทธองค์ 8 ประการ และบริเวณรอบพระเจดีย์มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยตั้งเรียงรายอยู่ด้วย สามารถเดินขึ้นไปไหว้พระด้านบนพระเจดีย์ได้ รวมถึงมีห้องขนาดเล็กที่ตรงกลางมีบ่อลึกลงไปด้านล่างใจกลางเจดีย์ ทั้งนี้ ควรระมัดระวังเพราะบันไดค่อนข้างชัน ตั้งอยู่ด้านหน้าพระเจดีย์ชัยมงคล พ.ศ. 2522 พระครูภาวนารังสี เจ้าอาวาสในสมัยนั้น ได้สร้างพระอุโบสถใหม่บนซากเดิม โดยย่อส่วนให้เล็กลงเพื่อรักษาโบราณสถานไว้ ซึ่งกรมศิลปากรได้ออกแบบแปลนให้บริเวณด้านหน้าประดิษฐาน “พระพุทธชินราช” ไว้สักการบูชา สามารถจุดธูป เทียน และปิดทององค์พระได้ ส่วนภายในประดิษฐาน “พระพุทธชัยมงคล” พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ปั้นด้วยหินทรายทั้งองค์ จีวรลงรักปิดทองประดับแก้ว หน้าตักมีความกว้างเกือบ 2 เมตร เล่ากันว่าพระเทียรราชาเคยไปเสี่ยงเทียนอธิษฐานแข่งบารมีกับขุนวรวงศาธิราช ก่อนที่จะได้ราชสมบัติในแผ่นดิน คาถาบูชาพระพุทธชินราช ตั้งนะโม 3 จบ อิเมหิ นานาสักกาเรหิ อภิปูชิเตหิ ทีฆายุโก โหมิ อะโรโค สุขิโต สิทธิกัจจัง สิทธิกัมมัง ปิยังมะมะ ประสิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพัททา พุทธชินะราชา อภิปะเลนตุมัง นะโมพุทธายะ ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์สีขาว ห่มคลุมด้วยจีวรตลอดทั้งองค์ สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นที่ถวายสักการบูชาและปฏิบัติพระกรรมฐาน ในอดีตเป็นวิหารขนาดใหญ่สร้างคลุมองค์พระไว้ แต่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงเสา 2 ต้น และกำแพงบางส่วน หลังจากองค์พระพุทธไสยาสน์ซึ่งได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่ ผู้คนนิยมไปห่มผ้าองค์พระพุทธไสยาสน์ เพราะเชื่อกันว่าจะได้เรื่องเมตตามหานิยม ปรารถนาความสำเร็จ และแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงคาถาบูชา พระปางไสยาสน์ (พระพุทธรูปประจำวันอังคาร) ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า ยัสสานุภาวะโต ยักขา เนวะ ทัสเสนติ ภิงสะนัง ยัมหิ เจวานุยุญชันโต รัตตินทิวะ มะตันทิโต สุขัง สุปะติ สุตโต จะ ปาปัง กิญจิ นะ ปัสสะติ เอวะมาทิคุณู เปตัง ปะริตตันตัมภะณามะเหฯ (สวดวันละ 1 จบ หรือ 8 จบ) สร้างปี พ.ศ. 2535 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2544 ภายในประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในพระอิริยาบถทรงหลั่งน้ำทักษิโณทกเพื่อประกาศอิสรภาพ ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพร หากสมปรารถนามักนำเครื่องสักการะมาถวาย เช่น พานพุ่ม รูปปั้นไก่ชน ชุดทหาร หรือชุดมวยไทย เป็นต้นคาถาบูชาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งนะโม 3 จบ อิติจิตตัง เอหิ เทวะตาหิ จะมหาเตโช นะระปูชิโต โสระโส ปัจจะยา ทิปปะติ นะเรโส จะ มหาราชา เมตตา จะ กะโรยัง มหาลาภัง จะ ทาโสตถี ภะวันตุเม ตั้งอยู่ใกล้พระอุโบสถ เป็นศาลไม้สักทองทั้งหลัง เชื่อกันว่าดวงพระวิญญาณของพระราชโอรสในพระครรภ์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (พระนางเรือร่ม) พระมเหสีในรัชกาลที่ 5 สถิตอยู่ที่นี่ ชาวบ้านมักมาขอพรเรื่องลูกและเรื่องต่าง ๆ เชื่อกันว่าขออะไรมักสมประสงค์ มีความเชื่อกันว่าสักครั้งในชีวิตให้ไปกราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นมงคลอันยิ่งใหญ่ จะมีชัยชนะเหนืออุปสรรคทั้งปวง เสริมอำนาจบารมี และเป็นมงคลแก่ชีวิต พร้อมกับแนะนำให้คนที่มีเคราะห์ภัยไปห่มผ้าพระพุทธไสยาสน์และองค์พระเจดีย์ชัยมงคล สะเดาะเคราะห์แก้ดวงตก ในทุกปีทางวัดจะจัดงานพิธีห่มผ้าพระเจดีย์ชัยมงคลในวันวิสาขบูชา ซึ่ง 1 ปี จัดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในวันวิสาขบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมกับบูรพกษัตริยาธิราช และเหล่าทหารของกรุงศรีอยุธยา ทำให้มีผู้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. พิธีทำบุญตักบาตรตามประเพณีของไทย ต่อมาจะเริ่มขบวนแห่ผ้าห่มพระเจดีย์ชัยมงคลและเชิญผ้าขึ้นห่มองค์พระเจดีย์ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ชาวไทยเข้าชมฟรี ส่วนชาวต่างชาติเสียค่าบริการ 20 บาท จากกรุงเทพฯ เข้าตัวเมืองอยุธยา จะเห็นเจดีย์วัดสามปลื้ม (เจดีย์กลางถนน) ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวเรือวัดใหญ่ วัดใหญ่ชัยมงคล อยู่ทางซ้ายมือ พื้นที่จอดรถกว้างขวาง รวมถึงมีพื้นที่ภายในห้องน้ำสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่ใช้รถเข็น ที่ตั้ง : 40/3 หมู่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. เฟซบุ๊ก : วัดใหญ่ชัยมงคล Google Map : วัดใหญ่ชัยมงคล หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง +++ ไหว้พระ 9 วัด อยุธยา เสริมมงคลให้ชีวิต +++ ไหว้พระ 9 วัด อยุธยา อิ่มบุญ สุขใจ ไปได้ทั้งครอบครัว +++ สถานที่ท่องเที่ยวอยุธยา ราชธานีเก่าน่าเที่ยว เมืองแห่งมรดกโลก +++ ชี้พิกัดของกินตลาดหัวรอ อยุธยา ชุมทางของอร่อยในราคาไม่แพง +++ 10 ที่เที่ยวอยุธยาแนะนำ ถึงไม่ใช่วัดก็เที่ยวได้แบบเพลิน ๆ ขอบคุณข้อมูลจาก : thai.tourismthailand.org, เฟซบุ๊ก วัดใหญ่ชัยมงคล, ayutthaya.go.th, ww2.ayutthaya.go.th, thailandtourismdirectory.go.th, go.ayutthaya.go.th
แสดงความคิดเห็น