สถานที่ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช จังหวัดมากเสน่ห์ สนุกครบรสกับที่เที่ยวหลากหลาย ทั้งวัดวาอาราม ธรรมชาติ รวมถึงวิถีชีวิตผู้คนที่แสนเรียบง่าย แถมยังเที่ยวชิล ๆ ได้ตลอดทั้งปี เริ่มกันที่สักการะ "ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช" ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง บริเวณทิศเหนือของสนามหน้าเมือง ประกอบด้วยอาคาร 5 หลัง หลังกลางเป็นที่ประดิษฐานหลักเมือง ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายศิลปะศรีวิชัย เรียกว่า ทรงเหมราชลีลา วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2532 ส่วนอาคารเล็กทั้งสี่หลังถือเป็นศาลบริวารสี่ทิศ เรียกว่าศาลจตุโลกเทพ ประกอบด้วย พระเสื้อเมือง ศาลพระทรงเมือง ศาลพระพรหมเมือง และศาลพระบันดาลเมือง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชั้นวรมหาวิหาร ที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคใต้ ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ของคนในจังหวัดนครศรีธรรมราชและใกล้เคียง สักการะ “พระพุทธสิหิงค์” ณ หอพระพุทธสิหิงค์ ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง บริเวณศาลากลางจังหวัด ภายในแบ่งเป็นสองตอน ตอนหน้าเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธสิหิงค์ พระลากเงิน และพระลากทอง ส่วนตอนหลังเป็นที่บรรจุอัฐิของสกุล ณ นคร กล่าวกันว่าพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทยมีเพียง 3 องค์ในไทยเท่านั้น โดยองค์หนึ่งประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงเทพมหานคร อีกองค์หนึ่งประดิษฐานที่วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ และอีกองค์หนึ่งประดิษฐานที่หอพระพุทธสิหิงค์ จังหวัดนครศรีธรรมราช นั่นเอง พระพุทธสิหิงค์เมืองนครฯ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร แบบขนมต้ม มีพระพักตร์กลม อมยิ้ม พระอุระอวบอ้วน หล่อด้วยสำริด ปิดทอง หน้าตักกว้าง 14 นิ้ว สูง 16.8 นิ้ว นับเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาแต่ครั้งโบราณ โบราณสถานศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย ตั้งอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน ภายในมีเทวรูปสำริดจำลองประดิษฐานอยู่ และในวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี บริเวณหอพระอิศวรยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมการแสดง แสง สี เสียง โล้ชิงช้า และพิธีแห่นางดานของงานสงกรานต์เมืองนครฯ อีกด้วย และทางด้านใต้เป็นที่ตั้งของเสาชิงช้า เคยใช้ในพิธีตรียัมปวายและตรีปวายของพราหมณ์ ถูกยกเลิกเมื่อปี พ.ศ. 2468 โดยจำลองมาจากเสาชิงช้าในกรุงเทพมหานคร ชวนไปสักการะ “พระลาก” ณ วัดพัทธเสมา พระพุทธรูปเก่าแก่รูปปางยืนอุ้มบาตร เนื้อทอง สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา ชื่อว่า “พระอิศระชัย” มีชื่อเสียงในด้านความศักดิ์สิทธิ์ ใครบนบานขอสิ่งใดมักสมประสงค์ดังใจหวัง เล่ากันว่าเมื่อครั้งที่หล่อองค์พระเกิดเหตุการณ์มืดฟ้ามัวดิน ชาวบ้านในพิธีเห็นเหตุการณ์ต่างก็วิ่งหนีกลับบ้าน จนเมื่อมีแสงสว่างก็พากันมาดู และได้เห็นองค์พระหล่อเสร็จแล้ว ทั้งยังมีความสวยงามมาก จึงเชื่อกันว่าเทวดาได้ลงมาทำการหล่อจนเสร็จ ทั้งนี้เดือนหกและเดือนสิบเอ็ดช่วงออกพรรษาของทุกปีจะมีการจัดพิธีสมโภชพระลาก โดยการสรงน้ำพระและประเพณีชักพระทางบกและทางน้ำ ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ ภายในมีรูปปั้น “แม่เจ้าอยู่หัว” หรือ “พระนางเลือดขาว” พระสนมเอกของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชประดิษฐานอยู่ แม่เจ้าอยู่หัว เป็นผู้ที่มีบารมี คุณธรรม จริยธรรมสูง มีเมตตาจิตที่มั่นคงต่อประชาชนทั่วไป ตั้งแต่สมัยพระนางยังมีชีวิตอยู่ ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากของชาวบ้านทุกเขตแขวงที่พระนางอาศัยและเดินผ่าน ทำให้ประชาชนได้รับความร่มเย็นและเกิดศรัทธาต่อบารมีของพระนาง แม้พระนางจะสิ้นชีวิตแล้วก็ยังมีประชาชนเคารพศรัทธาและเชื่อมั่นในบารมี วัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงมาพำนักและถือศีลในถ้ำแห่งนี้ แต่บางท่านก็ว่าเป็นที่พักผ่อนสำหรับเจ้าหญิงเกศิณี ธิดาของเจ้านราสุริยวงศ์ เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ช่วง พ.ศ. 2312-2319 ส่วนด้านหน้าวัดเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำทิพย์โบราณเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ถวายแด่พระเจ้าตากสินไว้ใช้ส่วนพระองค์ ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช ลักษณะของวัดมีตัวกำแพงก่ออิฐถือปูนและใบเสมาเช่นเดียวกับกำแพงเมือง ผนังด้านหน้ามีลายปูนปั้นประดับเครื่องลายครามจีน ส่วนภายในถ้ำซึ่งอยู่ด้านบนและต้องเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 250 ขั้นนั้น มีพระพุทธรูปสำริดประมาณ 30 องค์ และพระพุทธบาทสำริด สถานที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อผุด” พระพุทธรูปหินทรายแดง ศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ทรงคุณค่ายิ่งนัก อีกทั้งภายในวัดยังได้เก็บรักษาศิวลึงค์องค์ใหญ่ที่พบ ณ โบราณสถานเขาคา ซึ่งมีอายุประมาณ 1,200 ปี ในราวศตวรรษที่ 12–14 โดยเป็นศิวลึงค์ที่สลักจากหินปูนและมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่พบในภาคใต้ “ไอ้ไข่” หรือ “ตาไข่” เป็นรูปไม้แกะสลักเด็กชาย ตั้งอยู่ภายในวัดเจดีย์ แห่งอำเภอสิชล เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ในรูปไม้แกะสลักนั้น เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านและคนในจังหวัดใกล้เคียงที่มีความศรัทธา มักเดินทางมาไหว้เพื่อขอโชคลาภ ความศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อรูปไม้แกะสลักนี้มีมากแค่ไหน สังเกตดูได้จากสิ่งของต่าง ๆ ที่ชาวบ้านนำมาแก้บน เช่น รูปไก่ชน ชุดทหาร ของเล่นต่าง ๆ เป็นต้น ในแต่ละวันจะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาขอพรมากหน้าหลายตา และจะได้ยินเสียงประทัดดังขึ้นอยู่ตลอดทั้งวัน แสดงถึงผลสัมฤทธิ์จากผู้ที่มาขอพร วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด คือ ศาลาการเปรียญ หรือที่เรียกกันว่า ศาลาพระหมิด ซึ่งภายในนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่วัดมายาวนาน นามว่า “พระหมิด” อันเป็นพระพุทธรูปสำริดปางประทับยืนที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือมานานร่วม 100 ปี ปกติศาลาการเปรียญจะเปิดให้เข้าชมพร้อมฟังเทศน์ทุกวันพระและตลอดช่วงเข้าพรรษา ชวนไปชมกำแพงเมืองเก่าแก่ของนครศรีธรรมราช ที่สะท้อนถึงความเป็นเมืองโบราณและมีความสำคัญมาตั้งแต่ครั้งอดีต ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน ซ่อมขึ้นใหม่ตามรูปแบบเดิมในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และในปี พ.ศ. 2533 มีลักษณะเป็นแนวขนานไปกับคูเมือง ตั้งแต่ป้อมประตูชัยเหนือหรือประตูชัยศักดิ์ไปทางตะวันออก ยาวประมาณ 100 เมตร และในปี พ.ศ. 2548 ได้มีการบูรณะเพิ่มเติมให้เป็นแนวขนานกับคูเมืองทางทิศตะวันตก ยาวประมาณ 150 เมตร อุทยานที่มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญของโลก ได้รับการรายงานว่ามีการสำรวจพบเฟิร์นมากกว่า 200 ชนิด รวมถึงกล้วยไม้ป่าดงดิบหลายชนิดของเมืองใต้ มียอดเขาหลวงเป็นยอดเขาสูงสุด เป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำลำธารสำคัญ ๆ ที่หล่อเลี้ยงคนในจังหวัดนครศรีธรรมราช บ้านเรือนไทยใต้ถุนสูงทรงปั้นหยา ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ตั้งอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามวัดพระมหาธาตุ สร้างโดยนายเขียน มาลยานนท์ ซึ่งได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็น “ขุนรัฐวุฒิวิจารณ์” นายอำเภอเมืองกลาย ต่อมาได้ใช้บ้านและที่ดินเปิดเป็นโรงเรียนรัฐวุฒิวิทยา และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนนครวิทยา เมื่อปี พ.ศ. 2482 และปิดตัวลงเมื่อปี พ.ศ. 2529 ภายหลังนายสำราญ ตรีสัตยพันธุ์ ทายาทของขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ ได้ดำเนินการบูรณะปรับปรุงบ้านให้มีสภาพสวยงามดังเช่นปัจจุบัน มาถึงแดนใต้ทั้งทีไม่ได้เห็นหนังตะลุงก็ดูเหมือนว่าจะมาไม่ถึง “บ้านหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สิน” แหล่งเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญของประเทศ เป็นสถานที่จัดแสดงรูปหนังตะลุงโบราณที่มีอายุกว่า 100 ปี โดยลุงสุชาติ ทรัพย์สิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง เป็นผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา ด้วยหวังจะสืบทอดสมบัติของแผ่นดินไว้ให้ลูกให้หลานได้ชมสืบต่อไป ทั้งยังมีการแสดงในลักษณะสาธิต รวมถึงยังแบ่งพื้นที่ในพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้านอีกด้วย ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) แหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ สังคมและวัฒนธรรมของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีอาคารทั้งหมด 4 หลัง เชื่อมต่อถึงกัน ได้แก่ “อาคารรวมใจภักดิ์” อาคารที่เป็นโถงต้อนรับนักท่องเที่ยวที่นำไปสู่การชมพิพิธภัณฑ์ในอาคารถัดไป “อาคารวีรไทย” เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับศาสนาโดยเน้นวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร “อาคารเทิดไท้ราชินี” การจัดแสดงเน้นการเรียนรู้และสัมผัสจากหุ่นจำลองที่บอกเล่าเรื่องต่าง ๆ “อาคารนานัครรส” โถงชั้นเดียวที่นั่งเล่นได้ในบรรยากาศสวนสาธารณะ ทุกเรื่องราวที่บอกเล่าอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่มรวยทางอารยธรรมของจังหวัดนครศรีธรรมราชได้เป็นอย่างดี ตั้งอยู่ในอำเภอสิชล เป็นพื้นที่ป่าที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามมากมาย เช่น น้ำตก แอ่งน้ำ พรรณไม้ต่าง ๆ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น “น้ำตกสี่ขีด” น้ำตกหินปูนไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ มีแอ่งน้ำที่นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ หรือ “ถ้ำเขาพับผ้า” ถ้ำหินปูนขนาดเล็ก ภายในมีหินงอก หินย้อยสวยงาม เป็นต้น รวมถึงเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าระยะสั้น ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลิน เรียนรู้ และสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หนึ่งในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตั้งอยู่ที่ตำบลกะทูน อำเภอพิปูน อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยทิวทัศน์ของทะเลสาบและขุนเขา เป็นแหล่งท่องเที่ยวไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ รับลมเย็น ๆ ทั้งนี้บริเวณริมอ่างเก็บน้ำ มีร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวมากมาย มีที่พักบริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนค้างคืน เพื่อเก็บเกี่ยวอากาศบริสุทธิ์ ตลอดจนมีกิจกรรมท่องเที่ยวมากมาย เช่น ล่องเรือชมภูมิทัศน์รอบอ่างเก็บน้ำ พร้อมกับฟังประวัติของชุมชนโดยรอบ เป็นต้น ขนอมเป็นอำเภอที่มีชายหาดที่สวยงาม โดยเฉพาะ “หาดขนอม” เป็นหาดที่มีความยาวติดต่อกัน 2-3 หาด คือ หาดในแปร็ด หาดในเพลา และหาดปากน้ำ เป็นหาดทรายยาวสลับโขดหินตั้งอยู่ระหว่างเขาที่ยื่นไปในทะเลทั้งด้านเหนือ และด้านใต้ ริมฝั่งขนอมมีชายหาดน้อยใหญ่เรียงรายอยู่หลายแห่ง ซึ่งมีชายหาดที่มีทรายขาว สะอาด น้ำทะเลใส เหมาะสำหรับการเล่นน้ำทะเล ล่องแพบ้านวังหอน ตั้งอยู่ที่อำเภอชะอวด เป็นชุมชนเก่าที่ยังคงดำเนินวิถีชีวิตอย่างเรียบง่าย ที่นี่นักท่องเที่ยวจะสนุกไปกับแหล่งท่องเที่ยวภายในชุมชนอย่างกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ ซึ่งเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่นักท่องเที่ยวสามารถกระโดดน้ำ เล่นน้ำ และล่องแพได้แบบชิล ๆ ท่ามกลางต้นไม้ที่ร่มรื่นตลอดสองข้างทาง และฟินไปกับสายน้ำเย็น ๆ ลำธารใส ๆ ใครแวะไปเที่ยวปากพนังต้องไม่พลาด “ตลาดย้อนยุคปากพนัง” ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองบางฉลาก เป็นอีกหนึ่งตลาดที่สะท้อนภาพบรรยากาศในอดีตของวิถีชีวิตชาวใต้ สนุกสนานและครื้นเครงกับดนตรีที่คอยขับกล่อม เหล่าพ่อค้าแม่ขายต่างแต่งกายย้อนยุค ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับการเดินเที่ยวตลาดอยู่ไม่น้อย พลาดไม่ได้กับการหาของอร่อย ๆ ทั้งของคาวและอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ อย่างหมี่ผัดปากพนัง ข้าวยำ ลูกชุบ ขนมหวานต่าง ๆ รสชาติอร่อยเกือบทุกร้าน ลองใครได้มาเที่ยว เป็นต้องหอบหิ้วของกินไปเต็มมือและเต็มพุง เปิดทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00-20.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดย้อนยุค @ ปากพนัง ตลาดริมน้ำที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำปากพนัง (คลองเชียรใหญ่) เพลิดเพลินไปกับการชิมขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง สินค้า OTOP ของดีเชียรใหญ่มากมาย พร้อมชมธรรมชาติและทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำ อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือพาย เรือหางยาวเที่ยวชมธรรมชาติ ทัศนียภาพและวิถีชีวิตดั้งเดิมสองฝั่งคลองได้อีกด้วย โดยตลาดริมน้ำเชียรใหญ่ เปิดทุกวันเสาร์ เวลา 15.00-21.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดริมน้ำเชียรใหญ่ ทะเลหมอกกรุงชิง หรือจุดชมวิวเขาเหล็ก ตั้งอยู่ที่อำเภอนบพิตำ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงรักในธรรมชาติ เพราะคุณจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกยามเช้า ซึ่งสามารถชมได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าเป็นช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงเวลาเหมาะสมในการชมทะเลหมอกมากที่สุด หรือถ้าวันไหนที่ฟ้าไม่เป็นใจก็อาจเห็นเพียงแค่ทิวทัศน์มุมกว้างบนยอดเขาเหล็กปลอบใจไปแทน คลองกลายเป็นคลองธรรมชาติที่มีต้นน้ำมาจากป่ากรุงชิงซึ่งอยู่บนเทือกเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวงและอุทยานแห่งชาติเขานัน โดยนักท่องเที่ยวจะสนุกไปกับกิจกรรมล่องแก่งคลองกลาย โดยช่วงที่ดีที่สุดคือเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เพราะน้ำจะใสและอากาศดีมาก และทำให้การล่องแก่งเป็นไปด้วยความสนุกและความตื่นเต้น โดยเส้นทางจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ระยะ คือ ช่วงแรกระยะทาง 2.5 กิโลเมตร จากปากคลองพิตำถึงลานหินดาน ใช้เวลาล่องแก่งประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และช่วงที่สองระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร จากปากคลองพิตำถึงบ้านทุ่งใน ใช้เวลาล่องแก่งประมาณ 3 ชั่วโมง โดยทั้ง 2 ระยะ สภาพของแก่งและสายน้ำจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ krungching.go.th อุทยานแห่งชาติที่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอทุ่งสง อำเภอฉวาง อำเภอนาบอน มีสภาพป่าและทิวทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์ และมีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี โดยช่วงที่เหมาะสมในการเดินทางมาเที่ยวจะอยู่ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม พลาดไม่ได้กับการชื่นชมความสวยงามของ “น้ำตกโยง” อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานเพียง 300 เมตร ประกอบด้วยทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีลักษณะเด่นอยู่ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ลำธารกว้าง และสามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งลำธาร แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทะเลใต้ มีลักษณะเป็นภูเขาติดทะเลแนวรอยต่อของเขตอำเภอขนอมและอำเภอสิชล ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวต่างติดใจในบรรยากาศที่แสนสงบ รวมถึงได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์สวย ๆ ที่มองเห็นอ่าวท้องยางในมุมกว้าง น้ำตกที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง มีทั้งหมด 10 ชั้น แต่เปิดให้ท่องเที่ยว 3 ชั้น ได้แก่ หนานแพน้อย หนานนางครวญ และหนานเตย บริเวณน้ำตกมีบรรยากาศเป็นธรรมชาติ แวดล้อมด้วยป่าเขาบริสุทธิ์ จึงเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ส่วนใครที่อยากเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทอดยาวไปจนถึงน้ำตกชั้นที่ 7 หากต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าสำหรับกิจกรรมนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาหลวง โทรศัพท์ 0 7530 0494 น้ำตกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ขล.1 (น้ำตกพรหมโลก) อำเภอพรหมคีรี มีลานหินกว้างและแอ่งน้ำคล้ายสระน้ำธรรมชาติ แม้น้ำตกสายนี้มีทั้งหมด 50 ชั้นก็จริง ทว่าได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียง 4 ชั้นเท่านั้น ได้แก่ หนานวังน้ำวน หนานวังไม้ปัก หนานวังหัวบัว และหนานวังอ้ายแล ในปี พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จประพาสชมความงดงาม และได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ “ภ.ป.ร” และ “ส.ก.” ไว้ที่หน้าผาน้ำตกชั้นที่ 1 หรือ “หนานวังน้ำวน” อีกด้วย หาดคอเขา ตั้งอยู่ที่ตำบลขนอม อำเภอสิชล เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในวันสุดสัปดาห์ เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องมาจากหาดหินงาม และบริเวณโดยรอบได้รับการพัฒนาให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านที่พัก ตลอดจนร้านอาหารสำหรับบริการนักท่องเที่ยว ชายหาดที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของอ่าวขนอม ลักษณะหาดเป็นแนวยาวโค้งขนานกับภูเขา ตอนปลายยื่นไปในทะเล หาดทรายขาวสะอาด สลับกับหาดหินและโขดหินเป็นช่วง ๆ สามารถเล่นน้ำได้ มีที่พักและร้านอาหารให้บริการ หาดทรายขาวละเอียด ตั้งอยู่ที่ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม สามารถมองเห็นเกาะต่าง ๆ เช่น เกาะวังนอก เกาะวังใน และเกาะสมุย เหนือหาดเป็นสวนมะพร้าว และมีบริเวณเป็นสวนสาธารณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลท้องเนียนสร้างขึ้นไว้สำหรับพักผ่อน อดีตเคยเป็นท่าเรือเฟอร์รี่ขนอม-เกาะสมุย อ่าวท้องหยีที่ตั้งอยู่กลางวงล้อมของเขาเพลาและเขากลาง ที่นี่เป็นชายหาดสงบเงียบ เป็นส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติบริสุทธิ์ ตัวชายหาดเป็นหาดทรายสลับกับแนวโขดหิน และทางตอนใต้ของอ่าวมีแนวปะการัง ฝูงปลาบริเวณนี้จึงชุกชุม เหมาะสำหรับการเล่นน้ำหรือดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น นอกจากนี้บริเวณอ่าวท้องหยียังมีที่พักบริการนักท่องเที่ยว เกาะเล็ก ๆ ในทะเลขนอม มีบ่อน้ำจืดคล้ายรอยเท้าคน ตามตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สามารถมองเห็นบ่อน้ำเมื่อน้ำทะเลลดลง บนเกาะมีรูปปั้นหลวงปู่ทวดสามารถเดินขึ้นไปสักการะได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก ททท., park.dnp.go.th, nakhonsithammarat.go.th, เฟซบุ๊ก TAT : Nakhon Si Thammarat + Phatthalung และ nakhonsi.mots.go.th
แสดงความคิดเห็น