1 ปี ผ่านไปเร็วมาก ๆ ใกล้จะถึงปีใหม่อีกครั้งแล้วค่ะ สำหรับใครที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหนักมาตลอดทั้งปี จนไม่มีเวลาออกไปท่องเที่ยวที่ไหน ช่วงปลายปีนี้จึงไม่ควรพลาดที่จะใช้วันลาพักร้อนให้คุ้มค่า ด้วยการออกไปใช้เวลาร่วมกับครอบครัว พากันไปเที่ยวที่เที่ยวใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยไป ซึ่งกระปุกดอทคอมเคยนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในเมืองกรุง 2015 ไปแล้ว คราวนี้ก็ขอจับรวมมาทั่วไทยเลยค่ะ จะมีที่ไหนบ้างไปดูเลย
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
1. ฮาบิโตะ (Habito)
ฮาบิโตะ คอมมูนิตี้มอลล์ รีเทล แห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในปลายปี 2558 ซึ่งตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 77 หรือแหล่งที่อยู่อาศัยในที่เปี่ยมด้วยไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิตที่เรียกว่า ที 77 (T77) มีพื้นที่ทั้งหมด 10,000 ตารางเมตร อยู่บนพื้นที่ 4 ไร่ ของที 77 (T77) ภายในฮาบิโตะจะประกอบไปด้วยร้านค้าจำนวน 32 ร้าน ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ศูนย์เสริมความงาม ร้านขายยา co-working space เป็นต้น ที่นี่จะกลายเป็นสถานที่พบปะ สังสรรค์ อันอบอุ่นแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ รวมทั้งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนที่รักความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ซึ่งสามารถมาใช้เวลาอยู่ที่ฮาบิโตะได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
ที่ตั้ง : สุขุมวิท 77 ในโซนที 77 (T77)
จุดเด่น : อยู่ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วน อยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง ครบครันไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากมาย แต่เงียบสงบ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้
2. ลอนดอน สตรีท (London Street)
เสมือนกับการยกกรุงลอนดอนมาไว้ในกรุงเทพมหานครกับคอมมูนิตี้ ฟู้ด มอลล์ แห่งใหม่ ที่ชื่อว่า ลอนดอน สตรีท (London Street) ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการระหว่างซอย 43 และซอย 45 ตกแต่งทั้งภายในและภายนอกในสไตล์อังกฤษ โดยออกแบบให้อาคารคล้ายกับตึกและอาคารในกรุงลอนดอน มีเอกลักษณ์ที่สำคัญคือหอนาฬิกาบิ๊กเบน ภายในประกอบด้วยร้านอาหารชื่อดังจำนวน 5 ร้าน ได้แก่ MK Restaurant, Yayoi, Miyazaki Teppanyaki, Le Siam และ Le Petit
ที่อยู่ : 2259 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : สถานที่สวยงาม สถานที่จอดรถกว้างขวาง เดินทางสะดวก มีร้านอาหารหลากหลาย
เว็บไซต์ : London Street
3. ท่ามหาราช (Tha Maharaj)
ท่ามหาราช เป็นการพลิกโฉมท่าน้ำเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ให้มาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์สุดชิคริมน้ำเจ้าพระยา โดยยังคงให้มีกลิ่นอายของวิถีชีวิตชุมชนบนเกาะรัตนโกสินทร์ ภายในเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมานั่งเล่นชิล ๆ หรือจะเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจก็ได้ และยังเป็นที่สังสรรค์สุดฮิปให้กับทั้งรุ่นเก๋าและคนสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งยังเดินทางไปท่องเที่ยวยังที่เที่ยวอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย อาทิ วัดพระแก้ว, วัดอรุณราชวราราม, วังหลัง เป็นต้น
ที่อยู่ : 1/11 ตรอกมหาธาตุ ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : บรรยากาศดี เพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีร้านค้าหลากหลาย ทั้งสินค้าและร้านอาหาร อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯ อย่างวัดพระแก้ว อีกทั้งยังเดินทางสะดวก สามารถมาได้ทั้งทางบกและทางน้ำ
เว็บไซต์ : thamaharaj
5. ยอดพิมานริเวอร์ วอล์ค (Yodpiman River Walk)
จากตลาดเก่าแก่ของกรุงงเทพมหานครสู่คอมมูนิตี้มอลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแสนสวย ออกแบบให้มีความกลมกลืนกับสิ่งรอบข้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล เนรมิตร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอื่น ๆ มาไว้ที่นี่ที่เดียว พร้อมทั้งอยู่ติดกับตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ และด้วยที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้สุดโรแมนติก นอกจากจะเป็นศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิตของคนในย่านนี้แล้ว ที่นี่ยังอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อาทิ สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์, วัดอรุณราชวราราม, พระบรมมหาราชวัง, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว), วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ (วัดโพธิ์) เป็นต้น
ที่อยู่ : 390/17 ถนนบ้านหม้อ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : เดินทางสะดวกสบายด้วยเรือ สามารถที่จะนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสะพานตากสิน แล้วต่อเรือมาอย่างง่ายดาย รวมทั้งมีรถประจำทางวิ่งผ่านหลายสาย และที่นี่ยังมีร้านค้ามากมาย เงียบสงบ บรรยากาศโรแมนติก
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : yodpimanriverwalk, เฟซบุ๊ก Yodpiman River Walk
6. เวนิส ดี ไอริส (Venice Di Iris)
เนรมิตเมืองเวนิสมาเอาใจคนกรุงเทพฯ ออกแบบให้ทุกตารางนิ้วมีกลิ่นอายของเมืองเวนิส ด้วยอาคารต่าง ๆ ที่มีลักษณะเดียวกับบ้านเรือนในเมืองเวนิส พร้อมทั้งคลองยาวกว่า 800 เมตร บนเนื้อที่กว่า 9,200 ตารางเมตร ที่เพียบพร้อมไปด้วยร้านค้าแฟชั่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ศูนย์ความงาม ธนาคาร สวนสนุก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นการรวมทุกอย่างไว้ที่นี่อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีที่จอดรถที่กว้างขวาง จอดได้มากกว่า 900 คัน ถือได้ว่าเป็นคอมมูนิตี้มอลล์สุดชิคของคนกรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
ที่อยู่ : ซอยวัชรพล 2/7 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : มีบรรยากาศสบาย ๆ เหมาะแก่การไปรับประทานอาหารกับครอบครัวหรือเพื่อน สามารถเดินเล่นได้ตลอดทั้งวัน มีร้านค้าหลากหลาย ครบถ้วน ที่จอดรถกว้างขวาง
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : venicediiris.com, เฟซบุ๊ก venicediiris
7. เซ็นทรัล เวสต์เกต (Central Westgate)
8. เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ (Central Festival East Ville)
อีกหนึ่งศูนย์การค้าที่จะมาเติมเต็มความสุขให้กับคนกรุงอย่างเต็มรูปแบบ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ คือ ศูนย์การค้าแบบเอาท์ดอร์แห่งแรกของเมืองไทย (The First Full-Scale Lifestyle Outdoor Shopping Center) ที่มีการแต่งเติมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ผสมผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ บนเนื้อที่กว่า 51 ไร่ ในย่านที่มีการขยายตัวของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จากย่านเอกมัยและสุขุมวิท ภายในประกอบไปด้วยร้านค้าจากแบรนด์ชั้นนำของโลก พร้อมทั้งร้านอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยจะมีกำหนดเปิดในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558
ที่อยู่ : ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : เป็นศูนย์การค้าที่มีบรรยากาศสบาย ๆ มีสินค้าหลากหลายและครบครัน ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ เดินทางสะดวก
เว็บไซต์ : centralfestival
9. สโนว์ ทาวน์ (Snow Town Bangkok)
ให้ชาวกรุงได้สัมผัสกับหิมะและบรรยากาศของเมืองหนาวด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมผสานกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อได้ย่างก้าวเข้ามาในดินแดนหิมะนี้ ก็คือการเล่นหิมะ บริเวณ Snow Playground และการนั่งรับประทานอาหารญี่ปุ่นท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บและหิมะขาวโพลน พร้อมทั้งเลือกซื้อของที่ระลึกอีกมากมาย
ที่อยู่ : ชั้น 5 ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย
จุดเด่น : มีหิมะที่เหมือนจริง พร้อมทั้งบรรยากาศของเมืองในสไตล์ยุโรปและญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกสุดโรแมนติก
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : snowtown, เฟซบุ๊ก snowtownbangkok
10. สวนลอยฟ้าสยามกรีนสกาย (Siam Green Sky)
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าในย่านการค้าและแหล่งศูนย์รวมของวัยรุ่นสุดฮิปที่สุดของเมืองไทย จะมีสวนสวย ๆ อยู่บนดาดฟ้าด้วย โดยศูนย์เรียนรู้เกษตรกรรมเมือง สยามกรีนสกาย ตั้งอยู่ ณ ชั้นบนสุดของ สยามสแควร์ วัน (ชั้น 7) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทยเลยทีเดียว ภายในสวนแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ แปลงเกษตรก้าวหน้า แปลงพืชนานาชนิด และแปลงสวนสวยปลูกง่าย ซึ่งเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้เข้าเที่ยวชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย โดยจะต้องลงทะเบียนก่อนการเที่ยวชม 1 วัน ที่ siamgreensky@gmail.com แจ้งชื่อและข้อมูลติดต่อ หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ 09 9001 8514
ที่อยู่ : ชั้นบนสุดของสยามสแควร์ วัน (ชั้น 7)
จุดเด่น : เป็นสวนสีเขียวใจกลางเมือง อีกทั้งยังเป็นสวนลอยฟ้า พร้อมทั้งยังเดินทางสะดวกสบาย ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าเที่ยวชม
เฟซบุ๊ก : siamgreensky
จังหวัดอื่น ๆ
1. สวนน้ำ Scenical World โคราช
สวนน้ำ Scenical World สวนน้ำแห่งใหม่ที่เพิ่งทำการเปิดตัวไปหมาด ๆ ถือได้ว่าเป็นสวนน้ำน้องใหม่สุดของเมืองไทย แต่ไม่ใช่น้องเล็กสุด เพราะที่นี่มีขนาดพื้นที่กว้างขวาง ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอีสานเลยทีเดียว ซึ่งภายในแบ่งออกเป็นโซนสวนน้ำ สวนสนุก ร้านอาหาร ศูนย์การค้า และที่พัก ในส่วนของสวนน้ำและสวนสนุกมีเครื่องเล่นหลากหลายและแปลกใหม่ จึงทำให้สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตอบโจทย์ทุกความสนุกสนานของทุกวัย
ที่อยู่ :188/1 ถนนธนะรัชต์ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
จุดเด่น : มีพื้นที่กว้างขวาง เป็นธีมปาร์คที่ใหญ่ที่สุดในอีสาน มีเครื่องเล่นหลากหลาย สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกเพศทุกวัย
เว็บไซต์ : scenicalworld, เฟซบุ๊ก scenicalworld
2. สวนน้ำไดโนวอเตอร์พาร์ค (Dino Water Park)
อีกหนึ่งสวนน้ำขนาดใหญ่ในเขตภูมิภาคอีสาน กับสวนน้ำไดโนวอเตอร์พาร์ค บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ มีการออกแบบและสร้างในรูปแบบสแปลช แอดเวนเจอร์ แบ่งออกเป็น 9 โซนอย่างชัดเจน โดยภายในสวนน้ำมีเครื่องเล่นที่พร้อมมาระเบิดความมันส์อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Wave Pool, Windigo, Space Boat, Family Rafting, และ Lazy River ซึ่งสามารถเข้าเที่ยวชมได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ที่อยู่ : 456 หมู่ 12 ถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
จุดเด่น : เป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ มีเครื่องเล่นที่สามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งความสนุกของภาคอีสาน
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : dinowaterpark, เฟซบุ๊ก dinowaterpark
อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ จงใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ด้วยการไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่เหล่านี้ รับรองได้เลยว่าชีวิตคุณจะมีสีสันมากยิ่งขึ้น
หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 เวลา 10.00 น.
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2558
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
sansiri.com, londonstreetpattanakarn.com, thamaharaj.com, thepaseopark.com, yodpimanriverwalk.com, venicediiris.com, pickadailybkk.com, centralplaza.co.th, centralfestival.co.th, snowtown.co.th, property.chula.ac.th
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
1. ฮาบิโตะ (Habito)
ภาพจาก sansiri
ภาพจาก sansiri
ภาพจาก sansiri
ฮาบิโตะ คอมมูนิตี้มอลล์ รีเทล แห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในปลายปี 2558 ซึ่งตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 77 หรือแหล่งที่อยู่อาศัยในที่เปี่ยมด้วยไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิตที่เรียกว่า ที 77 (T77) มีพื้นที่ทั้งหมด 10,000 ตารางเมตร อยู่บนพื้นที่ 4 ไร่ ของที 77 (T77) ภายในฮาบิโตะจะประกอบไปด้วยร้านค้าจำนวน 32 ร้าน ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ศูนย์เสริมความงาม ร้านขายยา co-working space เป็นต้น ที่นี่จะกลายเป็นสถานที่พบปะ สังสรรค์ อันอบอุ่นแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ รวมทั้งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนที่รักความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ซึ่งสามารถมาใช้เวลาอยู่ที่ฮาบิโตะได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
ที่ตั้ง : สุขุมวิท 77 ในโซนที 77 (T77)
จุดเด่น : อยู่ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วน อยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง ครบครันไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากมาย แต่เงียบสงบ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้
2. ลอนดอน สตรีท (London Street)
ภาพจาก London Street
เสมือนกับการยกกรุงลอนดอนมาไว้ในกรุงเทพมหานครกับคอมมูนิตี้ ฟู้ด มอลล์ แห่งใหม่ ที่ชื่อว่า ลอนดอน สตรีท (London Street) ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการระหว่างซอย 43 และซอย 45 ตกแต่งทั้งภายในและภายนอกในสไตล์อังกฤษ โดยออกแบบให้อาคารคล้ายกับตึกและอาคารในกรุงลอนดอน มีเอกลักษณ์ที่สำคัญคือหอนาฬิกาบิ๊กเบน ภายในประกอบด้วยร้านอาหารชื่อดังจำนวน 5 ร้าน ได้แก่ MK Restaurant, Yayoi, Miyazaki Teppanyaki, Le Siam และ Le Petit
ที่อยู่ : 2259 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : สถานที่สวยงาม สถานที่จอดรถกว้างขวาง เดินทางสะดวก มีร้านอาหารหลากหลาย
เว็บไซต์ : London Street
3. ท่ามหาราช (Tha Maharaj)
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Tha Maharaj
ท่ามหาราช เป็นการพลิกโฉมท่าน้ำเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ให้มาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์สุดชิคริมน้ำเจ้าพระยา โดยยังคงให้มีกลิ่นอายของวิถีชีวิตชุมชนบนเกาะรัตนโกสินทร์ ภายในเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมานั่งเล่นชิล ๆ หรือจะเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจก็ได้ และยังเป็นที่สังสรรค์สุดฮิปให้กับทั้งรุ่นเก๋าและคนสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งยังเดินทางไปท่องเที่ยวยังที่เที่ยวอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย อาทิ วัดพระแก้ว, วัดอรุณราชวราราม, วังหลัง เป็นต้น
ที่อยู่ : 1/11 ตรอกมหาธาตุ ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : บรรยากาศดี เพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีร้านค้าหลากหลาย ทั้งสินค้าและร้านอาหาร อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯ อย่างวัดพระแก้ว อีกทั้งยังเดินทางสะดวก สามารถมาได้ทั้งทางบกและทางน้ำ
เว็บไซต์ : thamaharaj
4. เดอะ พาซิโอ พาร์ค (The Paseo Park)
เดอะ พาซิโอ พาร์ค เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นด้วยสไตล์ญี่ปุ่น มีการตกแต่งโดยรอบให้มีบรรยากาศเหมือนในประเทศญี่ปุ่น ทั้งร้านค้า ทางเดิน อาคาร ฯลฯ ประกอบไปด้วยร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านขายเครื่องประดับ ร้านรองเท้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ รวมมากกว่า 50 ร้านค้า พร้อมทั้งมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกตลอดทั้งปี
ที่อยู่ : 8/15 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : มีบรรยากาศผ่อนคลาย ได้สัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นใกล้กรุง พร้อมทั้งมีร้านค้าหลากหลาย ได้รับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ และที่จอดรถกว้างขวาง
เว็บไซต์ : thepaseopark
ภาพจาก thepaseopark
เดอะ พาซิโอ พาร์ค เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นด้วยสไตล์ญี่ปุ่น มีการตกแต่งโดยรอบให้มีบรรยากาศเหมือนในประเทศญี่ปุ่น ทั้งร้านค้า ทางเดิน อาคาร ฯลฯ ประกอบไปด้วยร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านขายเครื่องประดับ ร้านรองเท้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ รวมมากกว่า 50 ร้านค้า พร้อมทั้งมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกตลอดทั้งปี
ที่อยู่ : 8/15 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : มีบรรยากาศผ่อนคลาย ได้สัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นใกล้กรุง พร้อมทั้งมีร้านค้าหลากหลาย ได้รับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ และที่จอดรถกว้างขวาง
เว็บไซต์ : thepaseopark
5. ยอดพิมานริเวอร์ วอล์ค (Yodpiman River Walk)
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Yodpiman River Walk
จากตลาดเก่าแก่ของกรุงงเทพมหานครสู่คอมมูนิตี้มอลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแสนสวย ออกแบบให้มีความกลมกลืนกับสิ่งรอบข้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล เนรมิตร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอื่น ๆ มาไว้ที่นี่ที่เดียว พร้อมทั้งอยู่ติดกับตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ และด้วยที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้สุดโรแมนติก นอกจากจะเป็นศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิตของคนในย่านนี้แล้ว ที่นี่ยังอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อาทิ สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์, วัดอรุณราชวราราม, พระบรมมหาราชวัง, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว), วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ (วัดโพธิ์) เป็นต้น
ที่อยู่ : 390/17 ถนนบ้านหม้อ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : เดินทางสะดวกสบายด้วยเรือ สามารถที่จะนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสะพานตากสิน แล้วต่อเรือมาอย่างง่ายดาย รวมทั้งมีรถประจำทางวิ่งผ่านหลายสาย และที่นี่ยังมีร้านค้ามากมาย เงียบสงบ บรรยากาศโรแมนติก
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : yodpimanriverwalk, เฟซบุ๊ก Yodpiman River Walk
6. เวนิส ดี ไอริส (Venice Di Iris)
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Venice Di Iris
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Venice Di Iris
เนรมิตเมืองเวนิสมาเอาใจคนกรุงเทพฯ ออกแบบให้ทุกตารางนิ้วมีกลิ่นอายของเมืองเวนิส ด้วยอาคารต่าง ๆ ที่มีลักษณะเดียวกับบ้านเรือนในเมืองเวนิส พร้อมทั้งคลองยาวกว่า 800 เมตร บนเนื้อที่กว่า 9,200 ตารางเมตร ที่เพียบพร้อมไปด้วยร้านค้าแฟชั่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ศูนย์ความงาม ธนาคาร สวนสนุก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นการรวมทุกอย่างไว้ที่นี่อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีที่จอดรถที่กว้างขวาง จอดได้มากกว่า 900 คัน ถือได้ว่าเป็นคอมมูนิตี้มอลล์สุดชิคของคนกรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
ที่อยู่ : ซอยวัชรพล 2/7 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : มีบรรยากาศสบาย ๆ เหมาะแก่การไปรับประทานอาหารกับครอบครัวหรือเพื่อน สามารถเดินเล่นได้ตลอดทั้งวัน มีร้านค้าหลากหลาย ครบถ้วน ที่จอดรถกว้างขวาง
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : venicediiris.com, เฟซบุ๊ก venicediiris
7. เซ็นทรัล เวสต์เกต (Central Westgate)
เซ็นทรัล เวสต์เกต ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย รวมทั้งยังเป็นซูเปอร์รีจินัล มอลล์ แห่งเซาท์อีสต์เอเชีย บนเนื้อที่มากกว่า 100 ไร่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมแห่งไลฟ์สไตล์ในอนาคต โดยมีร้านค้าจากแบรนด์ดังระดับโลกมากมายรวมไว้ที่นี่ที่เดียว พร้อมทั้งร้านอาหารชื่อดังของเมืองไทย และร้านอาหารนานาชาติสุดหลากหลาย อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง การเดินทางสะดวกสบายด้วยรถโดยสารประจำทางมากมาย และในอนาคตอันใกล้ยังสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอีกด้วย
ที่อยู่ : อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
จุดเด่น : มีทุกอย่างรวมอยู่ในที่เดียวครบ จะมารับประทานอาหาร เลือกซื้อสินค้า ทำธุรกรรมทางการเงิน หรืออื่น ๆ ก็สะดวกสบาย มีทั้งรถโดยสารประจำทางและรถตู้โดยสารวิ่งผ่าน
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : centralplaza
ที่อยู่ : อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
จุดเด่น : มีทุกอย่างรวมอยู่ในที่เดียวครบ จะมารับประทานอาหาร เลือกซื้อสินค้า ทำธุรกรรมทางการเงิน หรืออื่น ๆ ก็สะดวกสบาย มีทั้งรถโดยสารประจำทางและรถตู้โดยสารวิ่งผ่าน
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : centralplaza
8. เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ (Central Festival East Ville)
อีกหนึ่งศูนย์การค้าที่จะมาเติมเต็มความสุขให้กับคนกรุงอย่างเต็มรูปแบบ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ คือ ศูนย์การค้าแบบเอาท์ดอร์แห่งแรกของเมืองไทย (The First Full-Scale Lifestyle Outdoor Shopping Center) ที่มีการแต่งเติมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ผสมผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ บนเนื้อที่กว่า 51 ไร่ ในย่านที่มีการขยายตัวของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จากย่านเอกมัยและสุขุมวิท ภายในประกอบไปด้วยร้านค้าจากแบรนด์ชั้นนำของโลก พร้อมทั้งร้านอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยจะมีกำหนดเปิดในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558
ที่อยู่ : ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
จุดเด่น : เป็นศูนย์การค้าที่มีบรรยากาศสบาย ๆ มีสินค้าหลากหลายและครบครัน ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ เดินทางสะดวก
เว็บไซต์ : centralfestival
9. สโนว์ ทาวน์ (Snow Town Bangkok)
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Snow Town Bangkok
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Snow Town Bangkok
ให้ชาวกรุงได้สัมผัสกับหิมะและบรรยากาศของเมืองหนาวด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมผสานกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อได้ย่างก้าวเข้ามาในดินแดนหิมะนี้ ก็คือการเล่นหิมะ บริเวณ Snow Playground และการนั่งรับประทานอาหารญี่ปุ่นท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บและหิมะขาวโพลน พร้อมทั้งเลือกซื้อของที่ระลึกอีกมากมาย
ที่อยู่ : ชั้น 5 ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย
จุดเด่น : มีหิมะที่เหมือนจริง พร้อมทั้งบรรยากาศของเมืองในสไตล์ยุโรปและญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกสุดโรแมนติก
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : snowtown, เฟซบุ๊ก snowtownbangkok
10. สวนลอยฟ้าสยามกรีนสกาย (Siam Green Sky)
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Siam Green Sky
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Siam Green Sky
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าในย่านการค้าและแหล่งศูนย์รวมของวัยรุ่นสุดฮิปที่สุดของเมืองไทย จะมีสวนสวย ๆ อยู่บนดาดฟ้าด้วย โดยศูนย์เรียนรู้เกษตรกรรมเมือง สยามกรีนสกาย ตั้งอยู่ ณ ชั้นบนสุดของ สยามสแควร์ วัน (ชั้น 7) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทยเลยทีเดียว ภายในสวนแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ แปลงเกษตรก้าวหน้า แปลงพืชนานาชนิด และแปลงสวนสวยปลูกง่าย ซึ่งเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้เข้าเที่ยวชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย โดยจะต้องลงทะเบียนก่อนการเที่ยวชม 1 วัน ที่ siamgreensky@gmail.com แจ้งชื่อและข้อมูลติดต่อ หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ 09 9001 8514
ที่อยู่ : ชั้นบนสุดของสยามสแควร์ วัน (ชั้น 7)
จุดเด่น : เป็นสวนสีเขียวใจกลางเมือง อีกทั้งยังเป็นสวนลอยฟ้า พร้อมทั้งยังเดินทางสะดวกสบาย ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าเที่ยวชม
เฟซบุ๊ก : siamgreensky
จังหวัดอื่น ๆ
1. สวนน้ำ Scenical World โคราช
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Scenical World
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Scenical World
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Scenical World
สวนน้ำ Scenical World สวนน้ำแห่งใหม่ที่เพิ่งทำการเปิดตัวไปหมาด ๆ ถือได้ว่าเป็นสวนน้ำน้องใหม่สุดของเมืองไทย แต่ไม่ใช่น้องเล็กสุด เพราะที่นี่มีขนาดพื้นที่กว้างขวาง ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอีสานเลยทีเดียว ซึ่งภายในแบ่งออกเป็นโซนสวนน้ำ สวนสนุก ร้านอาหาร ศูนย์การค้า และที่พัก ในส่วนของสวนน้ำและสวนสนุกมีเครื่องเล่นหลากหลายและแปลกใหม่ จึงทำให้สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตอบโจทย์ทุกความสนุกสนานของทุกวัย
ที่อยู่ :188/1 ถนนธนะรัชต์ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
จุดเด่น : มีพื้นที่กว้างขวาง เป็นธีมปาร์คที่ใหญ่ที่สุดในอีสาน มีเครื่องเล่นหลากหลาย สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกเพศทุกวัย
เว็บไซต์ : scenicalworld, เฟซบุ๊ก scenicalworld
2. สวนน้ำไดโนวอเตอร์พาร์ค (Dino Water Park)
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Dino Water Park
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Dino Water Park
อีกหนึ่งสวนน้ำขนาดใหญ่ในเขตภูมิภาคอีสาน กับสวนน้ำไดโนวอเตอร์พาร์ค บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ มีการออกแบบและสร้างในรูปแบบสแปลช แอดเวนเจอร์ แบ่งออกเป็น 9 โซนอย่างชัดเจน โดยภายในสวนน้ำมีเครื่องเล่นที่พร้อมมาระเบิดความมันส์อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Wave Pool, Windigo, Space Boat, Family Rafting, และ Lazy River ซึ่งสามารถเข้าเที่ยวชมได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ที่อยู่ : 456 หมู่ 12 ถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
จุดเด่น : เป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ มีเครื่องเล่นที่สามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งความสนุกของภาคอีสาน
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : dinowaterpark, เฟซบุ๊ก dinowaterpark
อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ จงใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ด้วยการไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่เหล่านี้ รับรองได้เลยว่าชีวิตคุณจะมีสีสันมากยิ่งขึ้น
หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 เวลา 10.00 น.
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2558
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
sansiri.com, londonstreetpattanakarn.com, thamaharaj.com, thepaseopark.com, yodpimanriverwalk.com, venicediiris.com, pickadailybkk.com, centralplaza.co.th, centralfestival.co.th, snowtown.co.th, property.chula.ac.th