ใครที่อยากไปเที่ยวทะเลสวย ๆ สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านที่ยังคงเรียบง่ายตามมาเลยค่ะ เพราะเราจะพาไปเที่ยว "เกาะยาวน้อย" จังหวัดพังงา เกาะที่มีแนวชายหาดสวยงาม อีกทั้งชาวบ้านยังใช้วิถีชีวิตในชุมชนแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นการออกจับปลา ไดหมึก หรือจับหอยแครง (ดูเพิ่มเติมได้ที่ เกาะยาว) อ๊ะ ๆ แต่ถ้ายังนึกภาพความชิล ณ เกาะยาวน้อย ไม่ออกก็ตามบันทึกการเดินทางของ คุณ check in chill out สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปเที่ยวเกาะยาวน้อยกันเลยค่ะ
มาแล้วค่ะ ... การรอคอยอันยาวนานพอ ๆ กันกับภาพที่เยอะแยะมากมายในรีวิวเรื่องนี้ในที่สุดมันก็จบลง
เรื่องของเรื่องคือเราไปเห็นโปรโมชั่นดี ๆ จากโครงการพังงานอนติดดาวราคาติดดินในเพจท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา ที่ราคามันน่าโดนมากกกกกกกก เลยปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว อะ...ไม่เชื่อลองดู
เกาะยาวน้อย...ที่เขาว่ากันว่าเสียบกุญแจรถคาไว้รถก็ไม่หาย !
เกาะยาวน้อย...ที่เขาพูดกันว่ามีวิวขั้นเทพที่เรียกว่า "วิวป่าเกาะ"
เกาะยาวน้อย...ที่เขาบอกกกันว่าเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์มากมาย
ที่นั่งเรือแป๊บเดียวก็สามารถหลีกความวุ่นวายจากภูเก็ตได้ละ ไอ้เราก็สงสัยว่า "เขา" คือใคร เราไปพิสูจน์กันเลยดีกว่าว่ามันจริงหรือเปล่า
จากโปรโมชั่นมี 3 โรงแรม จากยาวน้อย เราเลือก Glow Elixir แฟนเลือก Paradise Koh Yao ถึงเวลาตัดสินใจ วัน ทู ทรี และแล้วก็ออกมาเป็น พาราไดซ์เกาะยาวค่ะ ราคา 2,199 บาท รวมอาหารเช้าสองคนแถมทริปเที่ยวเกาะใกล้เคียงอีกด้วย
ก่อนมาเราทำการบ้านเรื่องการเดินทางมาและการเดินทางภายในเกาะยาว สอบถามจากทางโรงแรม แจ้งว่าสามารถนั่งเรือได้ 2 ทาง
1. เรือสปีดโบ๊ทของโรงแรม จากท่าเรือยอชเฮเว่นวิ่งประมาณ 45 นาที ตรงมาจอดที่ท่าเรือหน้ารีสอร์ทเลยค่ะ ราคาคนละ 2,600 บาทต่อคนต่อเที่ยว รวมรถรับจากสนามบิน
2. เรือชาวบ้าน จากท่าเรือบางโรงมี 2 แบบ มีเรือสปีดโบ๊ท ค่าโดยสาร 200 บาทต่อคนต่อเที่ยว ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง และเรือไม้ธรรมดาค่าโดยสาร 120 บาท ใช้เวลาสองเท่า เรือจะมีวิ่งทุก ๆ ชั่วโมงค่ะ แต่เรือจะไปจอดที่ท่าเรือมะเนาะ ซึ่งจะต้องต่อรถหรือเรือเพื่อจะเข้าไปที่รีสอร์ท
นอกจากข้อมูลจากทางรีสอร์ท เราก็หาเพิ่มเติมจากอากู๋ รู้สึกได้ว่าข้อมูลน้อยมาก เราจึงคิดว่าอยากจะรีวิวเรื่องนี้ให้ละเอียดนิดหนึ่ง เผื่อไว้เป็นแนวทางให้หลาย ๆ คนที่อยากมาสัมผัสธรรมชาติที่นี่กันค่ะ
ตารางเรือโดยสารด้านล่าง เอามาฝากไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่จะไปเกาะยาวน้อยค่ะ
เอาล่ะ...ออกเดินทางกันนนนนน บรึ้น ๆ
เราเอารถมาจอดไว้ท่าเรือบางโรง ค่าจอดรถวันละ 50 บาท สำหรับคนที่ไม่ได้ขับรถมาจะหาแท็กซี่จากที่พัก หรือนั่งรถสองแถวแบบนี้มาก็ได้นะคะ พี่สองแถวมีต้นทางอยู่ในเมือง แถวตลาดสดค่ะ หาไม่ยาก รอบสุดท้ายออกจากในเมืองบ่ายสามครึ่งนะ พี่เขาว่างั้น (ลืมถามค่ารถ $_$) เพิ่มเติมสำหรับคนที่นั่งเครื่องมา หาแท็กซี่จากสนามบินมาได้ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีค่ะ
วันที่ไปอากาศดีมากกกกกกก วัยรุ่นอย่างเราต้องสปีดโบ๊ทเท่านั้นค่ะ อย่าไปเสียเวลากันเลย
นั่งเรือไปแป๊บ ๆ ก็ถึงแล้ว เรือจะมาจอดส่งผู้โดยสารที่เกาะยาวใหญ่กันก่อน แล้ววิ่งต่อไปท่าเรือเกาะยาวน้อย ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน อยู่ตรงข้ามกันเลยค่ะ หันหัวเรือมาก็เจอเลย
ใครที่ชอบแอดเวนเจอร์ มาเกาะยาวน้อยรับรองไม่ผิดหวัง แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบอาจจะทุลักทุเลนิดหนึ่งแต่ชาวบ้านน่ารักมาก คอยช่วยและคอยอำนวยความสะดวกตลอด
ถึงแล้วท่าเรือมะเนาะ ณ เกาะยาวน้อย
ที่ท่าเรือจะมีรถกระบะสองแถวให้บริการ ถามราคาที่จะไปรีสอร์ทต่อรองกันประสาชาวใต้ ได้มาที่ 800 บาทต่อเที่ยวเหมาลำกันเลย แอบเห็นว่ากุญแจเสียบคารถไว้จริง ๆ นะ อิอิ
เห็นวิวนี้ก่อนออกจากท่าเรือระหว่างนั่งในรถ รีบคว้ากล้องอย่างด่วน ที่นี่มีมุมให้ถ่ายรูปมากมายตั้งแต่มาถึงจริง ๆ เพื่อนขาแลนด์ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้
ก่อนมาทางรีสอร์ทแจ้งว่าการนั่งรถเข้ามาจะลำบากนิดหนึ่งค่ะ เนื่องจากทางแบบปกติ ถนนดี ๆ จะสิ้นสุดบริเวณหมู่บ้าน หลังจากนั้นจะเป็นทางลูกรัง คงไม่ต้องอธิบายมาก ตามรูปเลยค่ะ
นั่งรถผ่านตัวหมู่บ้าน ถ่ายรูปกันสนุกสนาน เข้าเขตป่าฝ่าดงพงไพรชมนกชมไม้ชมสวน (ยาง) และกินฝุ่นกันมาพักหนึ่ง สักประมาณ 30 นาที ก็จะเห็นรั้วขาว ๆ เป็นสัญญาณแบบนี้ให้เรารู้ว่าจุดหมายอยู่ข้างหน้าเราแล้วค่ะ
ถึงที่หมายกันแล้ว อำลาและขอบคุณพี่คนขับรถกันเรียบร้อย เราก็เดินดุ่ม ๆ มาเช็กอินกันค่ะ
อ้อ ๆ มีเรื่องน่ารักจะเล่าให้ฟัง จากภาพด้านบนในรถเราเลือกนั่งด้านหลังเพราะอยากชมวิวไปเรื่อย ๆ พี่คนขับจะหยุดรถแล้วเปิดประตูถามเราเป็นระยะ ๆ ว่าไหวไหม ฝุ่นเยอะ ทางขรุขระ อยากมานั่งด้านหน้าหรือเปล่า ไอ้เราก็บอกสบายมากค่ะ แค่ไปถึงรีสอร์ทแล้วคงไม่ต้องทาแป้งกันแล้ว หน้าตาหัวเหอจะเต็มไปด้วยฝุ่นสีเดียวกับสีผิวพอดีเป๊ะ ฮ่า ๆ
ล็อบบี้ระหว่างรอกุญแจห้องค่ะ
ธีมสีที่นี่ดูสบายตาดี พาราไดซ์เกาะยาวเปิดมาได้สิบปีแล้วค่ะ สีของเฟอร์นิเจอร์พวกนี้เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่เน้นสีฟ้าน้ำทะเลและขาวครีม น้องที่เช็กอินเขาว่าอย่างนั้นนะ
ได้กุญแจห้องมาเรียบร้อยไปกระโดดลงเตียงกันเลย
First Impression ที่นี่ดีกว่าที่เราคิดไว้มากนะ บรรยากาศร่มรื่น ต้นไม้เยอะ เป็นระเบียบสวยงามดี
ทางเดินหลังล็อบบี้จะเป็นพื้นที่ว่างที่จะมีการปลูกข้าวตามฤดูกาลค่ะ แต่ช่วงต้นเดือนนี้ที่เรามายังไม่ถึงเวลาปลูกข้าว เราก็แอบคิดนะว่าถ้าหาอย่างอื่นมาปลูกแทนข้าว แล้วทำให้เป็นกิจกรรมของแขกที่มาพักในรีสอร์ทไปด้วยเลยได้ ก็น่าจะดี
ห้องพักที่นี่จะลาดชันตามไหล่เขาค่ะ ยกเว้นพูลวิลล่าที่ตั้งอยู่หน้าหาดแยกเป็นหลัง ๆ
นี่คือตึกที่เราพักค่ะ 1 ตึกจะมีห้อง 4 ห้อง บนล่างอย่างละสองห้อง ของเราเป็นห้องชั้นบน วันนี้ได้อัพเกรดมา 1 สเต็ป เป็น Jacuzzi Studio (ที่จองไว้ตามโปรโมชั่นจะเป็นแบบ Superior Studio ค่ะ) ซึ่งที่เพิ่มมาคืออ่างจากุซซี่ อิอิ
เปิดประตูเข้ามาในห้อง มีตู้เสื้อผ้าและมุมแต่งตัวอยู่ขวามือค่ะ อุปกรณ์ต่าง ๆ มีพร้อม แถมไบกอนด้วย อืม...
มีมุ้งฟรุ้งฟริ้งด้วยยยยยยยยย
ทุกห้องมีระเบียง
ที่นี่มีการแบ่งพื้นที่ในห้องน้ำไว้ได้อย่างเป็นสัดส่วนและกว้างขวางมากกกกกกกก
เก็บภาพห้องไว้พอหอมปากหอมคอ ลงไปหาอะไรรองท้องกันเถอะ ที่นี่มี 2 Outlets, 2 Bars ค่ะ ในรูปคือ Seafood Terrace จะเป็น All Day Dining ที่พุ่งเข้ามาหาได้ทุกมื้อ
ตอนนั้นเป็นช่วงบ่ายแก่ ๆ แล้วค่ะ แต่ความหิวก็ไม่ปราณีใคร เราเลยลองสั่งพิซซ่ามาทานเล่น ๆ กันดู ระหว่างรอ สำรวจพื้นที่ไปด้วยค่ะ มุมนี้โต๊ะอาหารกลางแจ้ง เกือบทุกพื้นที่ของที่นี่เห็นวิวทะเลทั้งนั้นเลยอะ ชิลเว่อร์
เลยไปจากที่ที่เรานั่งมีบาร์เล็ก ๆ แบบนี้ด้วยนะ เดี๋ยวคืนนี้เจอกัน
มาแล้วพิซซ่าฮาวายเอี้ยน อืม...แป้งบางกรอบแบบที่ชอบเลย (Topping ก็บางเช่นกัน T_T)
ละเลียดพิซซ่าพาเพลินกันเสร็จ กลับไปพักผ่อนที่ห้อง รอแดดร่มลมตกแล้วค่อยมาเดินเล่นดีกว่านะ
โต๊ะที่เซตไว้กลางแจ้งเมื่อตอนบ่ายตอนนี้คนเยอะเลยค่ะ คืนนี้มีบุฟเฟ่ต์ แต่เราต้องขอบายค่ะ พิซซ่ายังอืดเต็มท้องอยู่เลย
เดินเลยไปหาอะไรคล่องคอมาจิบกันดีกว่าค่ะ ในภาพอย่าถามนะว่ามันคืออะไร จำไม่ได้แล้วววววววว..
มี Solo Live Music ด้วยนะเออ
เช้าอีกวันตื่นสบาย ๆ เลยเดินเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ลงมาจากห้อง วกไปทางจุดชมวิวชั้นบน ๆ ของทางรีสอร์ท ระหว่างทางเดินไปห้องที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ น้องรีเซฟชั่นบอกว่าตรงนี้มีวิวสวย ๆ ตอนพระอาทิตย์ขึ้น แต่พี่ไม่รีบนะ ให้พระอาทิตย์ขึ้นไปก่อนได้เลย ฮ่า ๆ
วันนี้เรามีนัดเรือของโรงแรมที่จะพาไปทัวร์เกาะผักเบี้ย ที่รวมอยู่ในแพ็กเกจนี้ด้วยตอน 11 โมง
ฟ้าใสมากและแดดก็ร้อนมากนะ กลับมาผิวเกรียมกำลังดี
เดินเลาะมาทางหน้าหาด จะเห็นทางเดินเข้าไปยังพูลวิลล่าแต่ละหลัง ที่มีบริเวณอาณาเขตกว้างมาก
ที่นี่เป็นอีกโรงแรมที่มีสระว่ายน้ำ Sea View เจ๋งนะ
อาหารเช้าสำคัญนะ
สองสิ่งสำคัญตอนเช้า ขาดเธอเหมือนขาดใจ
มุมเบเกอรี่ที่นี่มีแยมหลายแบบให้เลือกค่ะ แต่อันนี้ชอบที่สุด
และตัวจริงอยู่นี่ จานที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เรียกน้ำย่อยเท่านั้น สังเกตว่าเมนูอาหารที่นี่จะไม่มีหมู ยกเว้นเบคอน เนื่องจากเกาะยาวน้อยมีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมค่ะ
ทัวร์เกาะผักเบี้ยต้องไปลงเรือของโรงแรมที่ท่าเรือค่ะ เดินเลียบ ๆ หาดไปอีกนิดหนึ่งถือว่าเดินย่อยไปด้วยในตัว
ประชากรครบแล้ว ไปกันเลยยยยยยย
เกาะผักเบี้ยห่างจากเกาะยาวน้อยแค่ไม่เกิน 15 นาทีค่ะ เรามุ่งตรงไปยังป่าเกาะที่เราเห็นจากหน้าหาดโรงแรมนั่นแหละ
ช่วงที่ไปเป็นวันหยุดค่ะ นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะเลยอะ ไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่นครบ !
ที่นี่ตรงที่เรือเราจอดจะไม่มีอะไรให้ทำกันสักเท่าไร แนะนำว่าให้เอาไอแพดมา หากใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศนั่งตอบเมลชิล ๆ ที่นี่สัญญาณโทรศัพท์ชัดแจ่มนะ
นั่ง ๆ ดูนักท่องเที่ยวทยอยเดินไปทางชายหาดฝั่งซ้าย เรารอจนน้ำลดลงอีกสักพัก แล้วเดินเลาะ ๆ มาดู ก็เจอชายหาดแบบนี้ค่ะ หลังป้ายด้านซ้ายมีห้องน้ำให้บริการด้วยนะ
เลยป้ายมา ชายหาดตรงนี้เป็นเหมือนทะเลแหวกขนาดย่อม ๆ เลยค่ะ
เรามีเวลาอยู่ที่นี่สองชั่วโมงค่ะ กำลังดีนะ ไม่มากไม่น้อยไป พอให้มีเวลาชิล ๆ กันไป ถ่ายรูปกันไป
เรานั่งเรืออีกแป๊บ กลับมาที่โรงแรมพักผ่อนดื่มน้ำกันสักพัก เดี๋ยวช่วงบ่ายแก่ ๆ กะว่าจะไปปั่นจักรยานในหมู่บ้านกันค่ะ
อากาศร้อนเติมน้ำเย็น ๆ ชื่นใจกันก่อนนะ
จักรยานมีให้เช่าโดยแบ่งเป็นสองแบบคือครึ่งวันราคา 250 บาทต่อคัน กับเต็มวัน 500 บาท ค่ะ แขกที่เช่าจักรยานไปปั่นในเมืองยาวน้อยจะปั่นไปเองหรือจะลงเรือหางยาวของทางโรงแรมไปก็ได้ค่ะ ซึ่งแน่นอนเราเลือกอย่างหลัง ฮ่า ๆ
ทริปนี้รู้สึกว่าได้ใช้ยานพาหนะเกือบครบทุกแบบ (ยกเว้นเครื่องบิน) จักรยานที่จองไว้ จะต้องเอามาลงเรือโดยสารพร้อมกับพนักงานรอบที่เลิกงานจากรอบเช้า เพื่อที่จะไปยังท่าเรือท่าเขา ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะปั่นกันค่ะ
แลดูชิลไหมล่ะ
นั่งเรือหางยาวมาประมาณ 15 นาที ก็ถึงท่าเรือท่าเขาแล้ว
ปั่นไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็ต้องอดทน บังแทนที่แผนก Recreation ที่จองจักรยานให้เรา บอกไว้ T_T
ขึ้นเขาลงห้วยกันไป...ดูวิถีชีวิตชาวบ้านเกาะยาวน้อยกันไป
ลุงกับป้ากำลังช่วยกันทำไซใหญ่ค่ะ อันนี้เอาไว้ดักปลาในทะเล
สังเกตว่ามีคนกระโดดลง แล้วเข็นรถขึ้นภูเขา อิอิ
สังเกตว่ามีคนกระโดดลง แล้วเข็นรถขึ้นภูเขา อิอิ
ปั่นกันมาสักพักเราก็ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดว่าจะไม่ไปต่อ (ฮ่ าๆ) เพราะเหนื่อย เพลีย ร้อน หิว และบังเอิญซัดสายตาไปเห็นร้านนี้บรรยากาศชิลดี ขอนั่งพักหาอะไรเย็น ๆ จิบกันสักแป๊บแล้วที่เหลือค่อยว่ากัน
ถ้าจำไม่ผิดร้านนี้ชื่อป่าทรายซีฟู้ด ตั้งอยู่ซ้ายมือระหว่างทางเป็นร้านอาหารหน้าหาดทั่ว ๆ ไป
แต่แก้วนี้ที่ไม่ใช่แบบที่เราเจอทั่ว ๆ ไป มันเริดเลอเพอร์เฟคท์จนต้องบอกต่อ มันคือมะม่วงปั่นที่รสชาติ หวานสด เนื้อมะม่วงงอมเต็มที่ ปั่นมาได้นุ่มละมุนลิ้นที่สุด แก้วนี้พี่ปลื้มนะ บอกเลย
จริง ๆ แล้วไอ้เราก็แค่อยากจะนั่งจิบน้ำเย็น ๆ แต่เหลือบไปเห็นโต๊ะข้าง ๆ สั่งเมนูส้มตำไก่ย่าง มันช่างยั่วยวนมาก และแล้วพี่ก็ไม่ทน จัดไปรัว ๆ ส้มตำปูปลาร้า ข้าวเหนียวไก่ย่าง แซ่บบบบบบ & Juicy มาก
ค่าเสียหายมื้อนี้
ปั่นมาเรื่อย ๆ จะเจอเพื่อนนักปั่นที่แต่งตัวกันแบบถูกต้องตามกติกาสวนทางกันมาเป็นระยะ ๆ เราเป็นมือสมัครเล่น คอสตูมเบา ๆ ไปก่อนละกันนะ
ก่อนออกมาพี่ที่โรงแรมบอกว่า ถ้าเข้าไปในหมู่บ้านต้องเข้าไปชมพระอาทิตย์ตกที่จุด ๆ หนึ่ง พี่เขาบอกว่ามันสวยมาก หากมาจากท่าเรือท่าเขาถึงร้านโรตีชาวเกาะจะมีสามแยกให้เลี้ยวขวาค่ะ
เอาจริง ๆ มาถึงตรงนี้เกือบจะถอดใจแล้วนะ มันเหนื่อยมาก ปวดก้น ร้อน เพลีย แขนไหม้ วุ่นวายไปหมด กลายร่างเป็นหมา-หอบ-แดด อยู่ข้างทางหน้าร้านโรตี ฮ่า ๆ แต่คิดอีกที มาถึงนี่แล้วอยากไปเห็นที่ที่เขาว่ามันสวยมาก อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาแล้ว ปั่นต่ออีกนิดเหอะ
เลี้ยวขวาจากสามแยกมา จะเจอมัสยิดหลังนี้ยืนตระหง่าน
ปั่นกันต่อมาไม่เกิน 5 นาที จะเจอสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาค่ะ
มัวแต่ตื่นเต้นกับสิ่งรอบตัว ลืมถ่ายภาพทางเข้า @_@
จากสนามบาสเกตบอลเดินต่อไปที่รั้วอีกนิด เราจะเจอสิ่งนี้.....
ช่วงที่เราไปมีพระอาทิตย์ตกสวย ๆ อยู่หลายวัน
ที่นี่ชาวบ้านจะเรียกกันติดปากว่าสะพานยาวค่ะ เป็นสะพานคอนกรีตทอดยาวลงไปในทะเล ที่ตรงกับทิศตะวันตกพอดี วิวอย่างเทพ เลือกมุมถ่ายกันไม่ถูกเลย !
ตรงปลายสะพานมีบันไดให้เดินลงไปด้านล่างด้วยนะ แต่ดินโคลนแบบนี้พี่ว่าคงไม่ดีแน่ ๆ ขอยืนถ่ายบนสะพานแหละดีแล้ว
กลับหลังหันมาอีกด้านเจอฟ้าระเบิดแบบนี้
ถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้วก็ต้องรีบกลับออกไปก่อนที่จะมืดไปมากกว่านี้ค่ะ เกือบลืมตัวว่าเราเอาจักรยานมา ไม่ใช่รถยนต์ ฮ่า ๆ
ปั่นย้อนกลับมาทางเดิมตรงสามแยก ร้านนี้เป็นจุดแวะที่ปักหมุดเอาไว้แล้วเหมือนกัน "โรตีชาวเกาะ"
ที่นี่มีโรตีมากมายหลายหน้าให้เลือก ชาวบ้านเรียกอีกชื่อว่า ร้านโรตีห้าสิบหน้า
มื้อนี้ราคา 205 บาท ก๊ะบอกคิด 200 บาทพอ เสร็จจากโรตีแล้วเราเรียกรถกระบะเจ้าเดิมให้ไปส่งที่ท่าเรือท่าเขา เพื่อต่อเรือกลับไปโรงแรมค่ะ ไม่สามารถปั่นต่อไปได้อีกแล้ว ฮือ…
กลับมาถึงห้องก็หลับแบบถอดวิญญาณกันเลยค่ะ ด้วยความเหนื่อยของการปั่นจักรยาน อากาศที่ร้อนมาก ๆ ประกอบกับโรตีที่มีอยู่ในท้อง ทริปนี้เหนื่อย ร้อน ฟิน อิ่มจริง ๆ ค่ะ ตื่นมาเช้าอีกวันแบบไม่มีการตั้งนาฬิกาปลุก เจอวิวแบบนี้ ต้องรีบเด้งขึ้นมาคว้ากล้องกันเลย
มันแจ่มมากกกกกกก อัพรูปรัว ๆ
ปล่อยไว้ทำไมล่ะ วิวแบบนี้มันต้องคู่กับกาแฟเท่านั้น
วันนี้ชิล ๆ สบาย ๆ ไม่รีบร้อนค่ะ (เหมือนจะชิลทุกวันนะ)
เดินชมนกชมไม้มาเรื่อย ๆ ที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่มากมายจริง ๆ
อย่างเจ้าตัวนี้เขาเป็นเจ้าถิ่นค่ะ ตอนเช้า ๆ จะได้ยินเสียงเขาร้องปลุกกันชัดเจน ในบริเวณรีสอร์ทจะเห็นนกเงือกพวกนี้บินไปบินมาอยู่ทั่วบริเวณเลยค่ะ
ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะไม่ใช่ฤดูกาลปลูกข้าวของที่นี่ แต่รอบ ๆ รีสอร์ท มีต้นไม้และดอกไม้เยอะแยะมากมายให้ได้สดชื่นกันนะ
ระหว่างทางไปทานอาหารเช้าจะเห็น Spa Cabana สำหรับนวดริมหาด แต่ถ้าอยากจะได้บรรยากาศสป๊า สปา ก็ไปลองที่สปาเขาได้นะ
โปรโมชั่นช่วงนี้
แล้วนี่โปรฯ ช่วงไหนกันนะ ฮ่า ๆ
อยากลองเปลี่ยนมุมทานอาหารเช้าบ้าง ชอบมุมนี้เป็นพิเศษค่ะ ชิลเกิ๊นนนนนนน
อาหารเช้า (จัดหนัก) ของเราเหมือนเคย
กินก็แล้ว นอนแล้ว เดินเล่นแล้ว รอเวลาลงเรือหางยาวไปท่าเรือมะเนาะ บ๊ายบายเกาะยาวกันแล้ว เวลาแห่งความสุขมันสั้น ๆ ซะจริง ๆ นะ
ขากลับเรามาทันเวลาเรือสปีดโบ๊ทพอดีค่ะ ไม่ต้องเสียเวลากับเรือไม้ ยอมจ่ายเพิ่มอีกหน่อย
สิ่งที่เจอตลอดตั้งแต่ขามาและขากลับ คือ เวลาลงเรือผู้คนที่นี่จะมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือคนอื่น ๆ เสมอ ใครหอบหิ้วของกันมาพะรุงพะรังก็จะมีมือดี ๆ หยิบยื่นน้ำใจมาให้ตลอดค่ะ
ชักจะหลงเสน่ห์เกาะยาวน้อยซะแล้ว
ขับรถออกมาจากท่าเรือบางโรง ตรงปากทางวันนั้นมีตลาดนัดพอดี มีหรือเราจะพลาด ต้องจอดรถแวะดูสักหน่อยค่ะ เผื่อจะมีอะไรดี ๆ ติดมือแก้หิวไปได้บ้าง
มีหรือที่เราจะปล่อยให้ดอกโดนที่สดใหม่ขนาดนี้หลุดมือไป ชิ้นนี้แค่ 15 บาท ซื้อมาแล้ว รู้สึกเสียใจอย่างแรง อยากจะเลี้ยวรถกลับไปอีกรอบ...ไปซื้อเพิ่ม !!
ขอย้ำว่า "มันอร่อยมาก" เนื้อแป้งสดนุ่ม ชุ่มฉ่ำไปด้วยไส้มะพร้าวไม่หวานเกินไป ยิ่งห่อด้วยใบตองแบบนี้ พี่ยิ่งฟินนะ
จบทริปนี้พี่ตัวแตก ตัวไหม้ไปเลยนะขอบอก !!
Tips & Tricks
- ใครที่กลัวจะแพ้ยุงและริ้นทะเล พกยากันยุงกลิ่นที่ชอบติดตัวไปด้วย
- Costume ที่พร้อมเปียกและพร้อมปั่น (อย่าเอาอย่างพี่ พี่พลาด T_T)
- Beach bag, Ocean pack, Sunscreen อย่าลืมนะจ๊ะ
- Seafood สดมาก งดเนื้อหมูบ้างอะไรบ้าง โดยเฉพาะที่นี่ซึ่งประชากรส่วนมากเป็นมุสลิม
อยากจะขอบคุณใครก็ตามที่คิดโครงการพังงานอนติดดาวราคาติดดินขึ้นมานะ ราคาน่ารักน่าโดนมากมาย เกาะยาวน้อยเป็นอะไรที่ต้องมาซ้ำค่ะ ที่นี่ยังเป็นพื้นที่ที่ยังมีเสน่ห์ในตัวเองอีกเยอะมาก ยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ที่เรายังไม่ได้ไป หลายเมนูที่ยังไม่ได้ลอง (ฮ่า ๆ)
ทริปฟิน ๆ ทริปนี้ ตามรอยกันไปได้ตามลิงก์ด้านล่างเลยจ้า ส่วนทริปอื่น ๆ ของเราตามไปตรงนี้เลยค่ะ
www.facebook.com/checkinnchillout
check in :: ท่าเรือบางโรง
chill out :: อย่าชิลมากนะ น้องลิงตรงทางเข้าจะพุ่งมาแย่งขนม
GPS :: 8.049500, 98.416139
facebook :: ไม่มีค่ะ
check in :: Paradise @ Koh Yao
chill out :: Beach Club และเกาะผักเบี้ย
GPS :: หาไม่ยากเลยจ้ะ ไม่ต้องใช้หรอก
facebook :: www.facebook.com/ParadiseKohYao
check in :: ป่าทรายซีฟู้ด
chill out :: น้ำมะม่วงปั่น, ส้มตำปูปลาร้า, ไก่ย่าง ข้าวเหนียว
GPS :: ลืมเช็ก.....แง ๆๆๆ
facebook :: หาไม่เจอะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ check in chill out สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Check in Chill out