เที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์สุดมัน ณ ลำคลองงู กาญจนบุรี

          ชื่อของ "ลำคลองงู" หรือ "อุทยานแห่งชาติลำคลองงู" จังหวัดกาญจนบุรี อาจจะคุ้นหูนักผจญภัยหลาย ๆ คน พร้อมกับตั้งใจว่าต้องไปเยือนให้ได้ เพราะที่นี่ถือเป็น Unseen in Thailand สนุก ๆ มัน ๆ ที่ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง มีทั้งเดินป่า ปีนเขา ว่ายน้ำ กระโดดน้ำ O_O วันนี้เราเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวลำคลองงูเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยจากบันทึกการเดินทางของ คุณศรายุธ พวงดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวแล้วเก็บเอาภาพบรรยากาศต่าง ๆ มาแชร์ให้เราได้ชมกันค่ะ
           เพิ่งกลับมาจาก อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เอาภาพมาฝากกันครับ หลังจากใช้ความพยายามในการจองอยู่นาน กว่าจะได้ไปเนื่องจากที่นี่จำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวและเปิดให้เที่ยวแค่ 2 เดือน คือ มีนาคม-เมษายน จริง ๆ จองไม่ได้ด้วยซ้ำ ด้วยความที่อยากไปมากก็เลยโทร. ไปสอบถามทุกต้นสัปดาห์ว่ามีกรุ๊ปไหนยกเลิกบ้าง ปรากฏว่ามีช่วงวันที่ 14-15 มีนาคม 2558 ก็เลยจัดไปตามนั้น สมาชิกน้อยหน่อยเพราะว่ากะทันหัน ไปด้วยกัน 5 คน

          เริ่มต้นนัดหมายกันออกเดินทางตอนหนึ่งทุ่ม กะว่าไปให้ถึงอุทยานแห่งชาติลำคลองงู (หน่วยฯ เขาพระอินทร์) ไม่ให้เกินเที่ยงคืน จะได้มีเวลานอนเอาแรงสำหรับเดินเที่ยววันรุ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงรอกันไปรอกันมากว่าจะได้ออกก็ 4 ทุ่มแล้ว ถึงที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู (หน่วยฯ เขาพระอินทร์) ประมาณตี 3 ครึ่ง กว่าจะกางเต็นท์และได้นอนก็ตอนตี 4 คำเตือนการมาเที่ยวลำคลองงูต้องมาที่หน่วยฯ เขาพระอินทร์นะครับ อย่าหลงไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองู...คนละที่กัน


          เช้า ๆ อากาศที่นี่หนาวเหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นเดือนมีนาคมก็ตาม


          มาถึงดึกแล้วเจ้าหน้าที่ก็เลยให้กางเต็นท์แถว ๆ ป้อมยามนั่นแหละ จริง ๆ จุดกางเต็นท์ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกนิด


          วันนี้จะไปเที่ยวถ้ำเสาหินกัน โดยรถของเจ้าหน้าที่มาส่งที่จุดเดินเท้า ซึ่งตรงนี้จะมีป้ายให้ถ่ายรูปกันสนุกสนาน แบบว่าหลอกให้ตายใจ หลังจากนั้นก็จะเดินตามป่าไผ่เข้าไป มีขึ้นบ้าง ลงบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินลง ช่วงป่าไผ่ระยะทางน่าจะประมาณ 1 กิโลเมตรกว่า ๆ หลังจากนั้นก็จะต้องเดินไต่ลงไปตามก้อนหิน ช่วงนี้แหละที่ต้องใช้กล้ามเนื้อต้นขาในการเดินเป็นอย่างมาก ยิ่งกลุ่มนี้เป็นพวก ส.ว. ด้วย เรี่ยวแรงก็ถดถอยไปตามวัยอะครับ


          เป็นครั้งแรกที่เดินป่าแล้วต้องใส่ชูชีพ ก็ดูแปลก ๆ ดีเหมือนกัน มีล้มบ้างลื่นบ้างเป็นอาจิณ เอ๊ะยังไง

          หลังจากฉุดกระชากลากถูกันมา พวกเราก็มาถึงปากทางเข้าถ้ำเสาหินจนได้ ซึ่งตรงปากถ้ำจะมีน้ำตกให้โดดน้ำเล่นกันด้วย


          ถ้ำเสาหินเป็นถ้ำที่มืดมาก ทุกคนต้องเตรียมไฟฉายคาดหัวมาด้วย ชูชีพที่เตรียมกันมาได้ใช้งานแล้ว จุดหมายภายในถ้ำ ก็คือ เสาหินที่อยู่ด้านในสุด มีระยะทางประมาณ 400 เมตร ซึ่งจะต้องว่ายน้ำเข้าไป เป็นการว่ายทวนน้ำ สลับกับการปีนหินขึ้นไปเพื่อไปลงน้ำอีกที เป็นอย่างนี้อยู่ประมาณ 3-4 ช่วง เราก็จะมาถึงเสาหิน ได้มาเห็นกับตาจริง ๆ แล้วอดทึ่งในความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติไม่ได้ เป็นเสาหินที่ใหญ่และสูงตั้งแต่เพดานถ้ำจรดพื้นถ้ำ น่าเสียดายที่เอาขาตั้งกล้องมาไม่ถึง เพราะช่วงสุดท้ายน้ำแรงมาก ๆ ก็เลยไม่มีรูปเสาหินให้ชม มีแต่รูปที่ถ่ายในถ้ำได้รูปเดียว




          เสร็จแล้วก็เดินทางกลับ ขามาว่าเหนื่อยแล้ว ขากลับเหนื่อยกว่า 2 เท่า ใช้ทางเดียวกันกับขามา แต่ขากลับเป็นการเดินขึ้นเขาเหนื่อยโฮกขอบอก ถึงที่กางเต็นท์ อาบน้ำ กินข้าว แล้วหลับเป็นตายเลย


          หลังจากเมื่อคืนนอนหลับเป็นตายวันนี้ตื่นมาด้วยความสดชื่นพร้อมลุยต่อ ระหว่างรอเพื่อนอีกกรุ๊ปหนึ่งที่ไปรถคันเดียวกัน วันนี้จะไปเที่ยวถ้ำนกนางแอ่นกันครับ


          ก่อนจะถึงถ้ำนกนางแอ่นจะต้องผ่านประตูทะลุมิติก่อน ซึ่งจะต้องมุดซอกหินออกมา เมื่อผ่านไปได้ก็จะพบกับปากถ้ำนกนางแอ่นอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเที่ยวถ้ำแห่งนี้



          เลยจากปากถ้ำนกนางแอ่นมาหน่อยมีจุดให้กระโดดน้ำด้วยครับ จุดนี้ยังถือว่าไม่สูงมาก ประมาณ 3-4 เมตร สำหรับคนไม่เคยก็มีเสียวอยู่นะ


          หลังจากจุดโดดน้ำก็ลอยตามน้ำมาเรื่อย ๆ มีตื้นบ้าง ลึกบ้าง สลับกันไป มีโตรกผาสวยให้ชมกันตลอด
          หลังจากผ่านกระแสน้ำเชี่ยวมาได้ ก็จะได้พบกับหินงอกหินย้อย ที่นี่อลังการมาก ๆ

          ถัดจากหินงอกหินย้อยก็จะมาถึงจุดกระโดดน้ำที่สูงที่สุดของลำคลองงู ซึ่งจุดนี้จะมีหินรูปเอเลี่ยนอยู่ ที่เห็นไกล ๆ ด้านขวามือคือจุดกระโดดน้ำ สูงราว ๆ 6-7 เมตร


          จุดกระโดดน้ำจุดสุดท้ายเป็นจุดที่สูงที่สุด กล้า ๆ กลัว ๆ กว่าจะโดดครบทุกคน ใช้เวลาทำใจนานเหมือนกัน


          หลังจากกระโดดน้ำที่จุดนี้แล้วล่องตามน้ำไปอีกนิดก็ขึ้นฝั่งเดินไปยังที่จอดรถ...เป็นอันเสร็จภารกิจ สำหรับทริปนี้ด้วยความสนุกสนานปนกับอาการปวดเนื้อปวดตัว โดยรวมแล้วประทับใจมากครับที่นี่ เริ่มตั้งแต่สถานที่ที่สวยงามมาก ๆ ความสนุกสนานของการกระโดดน้ำและการล่องตามลำน้ำ การที่ต้องว่ายน้ำเข้าไปในถ้ำมืด ๆ ในใจอดคิดไม่ได้ว่าข้างล่างมีอะไรหรือเปล่า เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือดีมาก ๆ ในใจคิดไว้แล้วปีหน้าต้องมาอีกแน่นอน

          ราตรีสวัสดิ์พี่น้องชาวไทย

รายละเอียดเพิ่มเติม

          - ระยะทาง : จากปิ่นเกล้าจับไมล์ไป-กลับได้ 640 กิโลเมตร ช่วงก่อนถึงหน่วยพระอินทร์เป็นทางลูกรังประมาณ 7-8 กิโลเมตร รถเก๋งเข้าได้

          - สภาพอากาศ : เจ้าหน้าที่บอกช่วงกลางคืนหนาวทั้งปี เราไปเดือนมีนาคมยังหนาวมากเลย

          - สัญญาณโทรศัพท์ : ที่หน่วยเขาพระอินทร์สัญญาณของ AIS DTAC ไม่มี ส่วน True ไม่ทราบเหมือนกัน

          - ค่ากางเต็นท์ : คนละ 30 บาท

          - ค่าเข้า : คนละ 40 บาท

          - ค่ารถเข้า : คันละ 30 บาท

          - ค่าเช่ารถ : เที่ยวถ้ำเสาหิน 1,500 บาท เที่ยวถ้ำนกนางแอ่น 1,000 บาท

          - ค่าชูชีพ :  50 บาท/วัน

          - ค่าอาหาร : ให้เจ้าหน้าที่ทำให้ 5 มื้อ คิดราคา 450 บาท มื้อเช้ามีข้าวผัดหรือข้าวต้มและกาแฟ โอวัลติน มื้อเที่ยงผัดกะเพรา+ไข่ต้ม หรือผัดพริกถั่ว+ไข่ต้ม มื้อเย็นมีแกงส้ม+ผัดผัก ส่วนรสชาติค่อนข้างโอเคนะ

          - ค่าเจ้าหน้าที่ : วันละ 300 บาท/คน เจ้าหน้าที่ 1 คน ต่อนักท่องเที่ยว 3-4 คน

          ป.ล. ภาพทั้งหมดใช้กล้อง X-E1+18-55 และ samyang 8 mm fisheye ไม่ต้องถามนะว่าทำไมถึงใช้ฟูจิ เพราะสาว ๆ ในห้องนั้นสวย ๆ กันทุกคน อิอิ

ทริคแนะนำ

          - ถ้าว่ายน้ำไม่เป็นไม่แนะนำให้เที่ยวถ้ำเสาหิน เพราะว่าต้องว่ายทวนน้ำเข้าไป ส่วนถ้ำนกนางแอ่นคิดว่าไปได้นะ ลอยตามน้ำไปเรื่อย ๆ จะมีปัญหาอีกนิดตรงที่ต้องโดดน้ำเนี่ยแหละ

          - ข้อแนะนำเพิ่มเติมก่อนเข้าถ้ำเสาหิน อยากให้ปรับสภาพร่างกายให้ชินกับน้ำเย็นก่อน ของผมมาถึงพักแป๊บเดียวก็เดินเข้าถ้ำเลย กระโดดไปเจอน้ำเย็นตะคริวแทบกิน

          - ใครจะเอากล้องเข้าไปก็หาถุงกันน้ำมาใส่แล้วพันให้ดี ๆ ช่วงที่ว่ายน้ำอย่าให้ปากถุงจมน้ำ น้ำมีโอกาสเข้าเหมือนกัน

          - ขาตั้งกล้องอันเล็กก็หาถุงกันน้ำใส่แล้วสะพายเข้าไป ของผมพลาดตรงที่ถือขาตั้งกล้องไป แต่เข้าไปไม่ถึงเสาหินเพราะช่วงสุดท้ายน้ำแรงมาก ต้องวางไว้แถวนั้นแล้วว่ายตัวเปล่าเข้าไป เลยอดได้ภาพเสาหินเลย