x close

เที่ยวนครวัด ท่องเสียมเรียบ ชมสิ่งมหัศจรรย์ในราคาสบายเป๋า


นครวัด
นครวัด

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ChillJourney สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Chill Journey

            เราเชื่อว่าหากเอ่ยถึงสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชื่อของ "นครวัด" ที่ตั้งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศกัมพูชา คงอยู่ในใจใครหลาย ๆ คน เพราะด้วยความที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงามตระการตาตามแบบสถาปัตยกรรมของเขมรในยุคคลาสสิก จนทำให้ถูกจัดอันดับว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก ดังนั้น วันนี้เราได้นำเอาบันทึกการเดินทางของ คุณ ChillJourney สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้มีโอกาสไปเยือน "นครวัด" 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใกล้บ้าน พร้อมเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในเสียมเรียบ (หรือเสียมราฐ) แล้วแชร์ประสบการณ์ดี ๆ มาให้เราได้ทราบกัน

+++++++++++++++

            สวัสดีครับ ทริปนี้เพิ่งไปมาเมื่อ 9-12 สิงหาคมที่ผ่านมา ทริปนี้การไปเขมรเพื่อไปชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกใกล้บ้านเรา ที่เลือกไปที่นี่เพราะผมไม่สามารถกำหนดวันเที่ยวที่แน่นอนได้ชัวร์ ๆ ทำให้ไม่สามารถจองตั๋วโปรโมชั่นก่อนล่วงหน้านาน ๆ เพื่อไปเที่ยวได้ ประกอบกับงบประมาณที่จำกัด ทำให้มาลงตัวที่ "นครวัด นครธม" ประเทศกัมพูชา ซึ่งสามารถนั่งรถไปได้เลย ไม่ต้องจองล่วงหน้า และใช้เงินในการเที่ยวน้อยมาก ๆ ทั้งทริปนี้รวมทุกสิ่งอย่าง 4 วัน 3 คืน ประมาณคนละ 5,200 บาท เท่านั้นครับ ถือว่ากินดีอยู่ดีพอสมควร ถ้าประหยัดกว่านี้ 4 พันต้น ๆ ยังพอไหว ทริปนี้เป็นทริปท่องเที่ยวที่เน้นไปที่การไปถ่ายรูปในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะฉะนั้น แผนจึงอยู่ที่เดิม ๆ ในเวลานาน ถ้าไม่ใช่คนที่ชอบถ่ายภาพอาจลดเวลาการเที่ยวเป็น 3 วัน 2 คืน ก็น่าจะเพียงพอ เมืองเสียมเรียบไม่ได้ใหญ่ จริง ๆ เที่ยววันเดียวก็ยังไหวเลยครับ ขนาดพวกผมอยู่แต่ละที่นานมาก ๆ ยังไปแทบทุกวัด ทุกปราสาทกันเลยทีเดียว

            ผมได้ทำการบ้านก่อนไปแค่ประมาณ 7 วันเท่านั้น บอกเลยว่าได้ลอกแผนจากกระทู้ของหมอ ๆ ตะลุยโลกมา 80% เลยทีเดียว

            กระทู้นี้ครับ รีวิว ทริปเขมรนครวัด นครธม 3 คน 3 วัน 3 พันปลายๆต่อคน (4-6 ม.ค. 57) เพราะฉะนั้น ถ้าข้อมูลผมตกหล่นอย่างไรลองอ่านในกระทู้คุณหมอได้ น่าจะช่วยเติมเต็มกันได้ดี หรืออยากได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมสอบถามได้ยินดีให้ข้อมูล

            Page ของผมครับถ้าคิดว่าถูกใจก็กด like กันได้ เฟซบุ๊ก Chill Journey เพื่อนตากล้องที่ไปด้วยกัน เฟซบุ๊ก KaitoGallery

            ภาพทั้งหมดถ่ายด้วย Canon 550D + Sigma 17-70 + Canon 55-250 is ครับ

            หากถูกใจรบกวนกดโหวตกระทู้เป็นกำลังใจในการทำรีวิวให้ด้วยนะครับ กระทู้ตกไวเหลือเกิน ไหน ๆ ทำรีวิวแล้วก็อยากให้คนเห็นหลาย ๆ คนหน่อย โหวตได้ที่เครื่องหมาย + มุมซ้ายมือนะครับ

            การเดินทางในเสียมเรียบ

            คนขับตุ๊กตุ๊กผมได้ติดต่อผ่าน Sok Paul ตุ๊กตุ๊กเจ้าดังผ่าน Facebook  แต่ในวันจริงเขาได้ส่งคนอื่นมา ชื่อ "เป่ย" (ออกเสียงเปยแบบห้วน ๆ) เป่ยเป็นคนขับตุ๊กตุ๊กที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีและไม่เรื่องเยอะ พาไปเกินแผนที่ผมวางไว้ซะอีก และไม่เรียกเก็บเงินเพิ่มแบบตุ๊กตุ๊กที่ไปหาเอาดาบหน้า ถ้าไปหาเอาที่เอาเสียมเรียบมักจะเจอตุ๊กตุ๊กที่พยายามเอาเปรียบตลอดเวลา เช่น ถ้าไปที่นี่เพิ่มคิดอีกนะ ถ้าต้องมารับเช้าคิดเพิ่ม ประมาณนี้ครับ ผมแนะนำให้จ้าง "เป่ย" ครับ อันนี้ Facebook ของเป่ยนะครับ kaitogallery : เฟซบุ๊ก Alex Pov

            อ้อ...เป่ยมีน้ำขวด (Safe Water) เย็น ๆ ให้ด้วย คนละประมาณ 2 ขวดเล็ก/วัน เวลาออกจากเที่ยวมาร้อน ๆ ดีมาก ๆ ครับ ผมไม่ได้ค่าโฆษณาจากเขานะ แต่คนทำดีเราก็ต้องแนะนำต่อใช่ไหมครับ

            แผนการเที่ยว

            แผนการเที่ยวที่เราวางกันไว้ตามนี้ครับ ขอบอกว่ามัน "หลวม" ไปมาก เผื่อเวลาเยอะเกินไป ยังไงลองอ่านที่บรรยายในกระทู้ประกอบการวางแผนของท่านอีกทีนะครับ ราคาที่ใส่ไว้เป็นราคาตามแผน ของจริงเกินกว่านั้นเล็กน้อยครับ



            คำแนะนำ

            1. ถ้าไม่อยากนั่งรถนานและมีงบ ให้ใช้วิธีนั่งเครื่องไปลงเสียมเรียบเลยครับ ไป-กลับประมาณ 4-5,000 บาท เพราะนั่งรถเหนื่อยมาก ถ้าไม่ใช่ขาเที่ยวสายลุยประเภทไปประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ลาว มาแล้วอาจจะเบื่อได้

            2. ตั๋วในการเที่ยววัดในเสียมเรียบมีแบบ 1 วัน 20$ และแบบ 3 วัน 40$ แนะนำว่าควรซื้อแบบ 3 วัน ครับคุ้มกว่า

            3. ไม่ต้องใช้ Visa แต่ยังต้องใช้ Passport นะครับ

            4. แดดร้อนมาก ควรพกกันแดด หมวก และร่มไปด้วย

วันที่ 1

            ผมกับเพื่อนนัดกันที่บิ๊กซี สาขาบางนา โดยเราได้โทรจองที่นั่งกับคนขับรถบ่อนไว้แล้ว เมื่อไปถึง 7 โมงเช้า รถบัสอย่างดีก็จอดรออยู่แล้ว โดยจะมีเหล่า ๆ คุณน้า คุณป้า คุณลุงขาประจำที่ไปบ่อนปอยเปตรออยู่เกือบเต็มคันรถ พอเรา 3 คนขึ้นปุ๊บรถก็ออกทันที

            กรุงเทพฯ ไปชายแดน

            สำหรับการไปรถบ่อนแต่ละทัวร์ไม่เหมือนกัน ของผมไปริชชี่ทัวร์ รถดีมาก ๆ บนรถเขาจะมีให้เลือกว่าจะเข้าบ่อนไป 2 ชั่วโมง จะจ่ายเงิน 300 บาท แล้วเขาจะคืนเงิน 200 บาท ทีหลัง หรือจ่าย 200 บาท เลยไม่ต้องเข้าบ่อน ที่อ่านมา คือ พอเข้าบ่อนจะมีข้าวแบบบุฟเฟ่ต์กินฟรีด้วย 1 มื้อ และเมื่อรวมได้เงินคืน หมายถึงจ่าย 100 บาท ได้กินข้าวอย่างดีฟรี 1 มื้ออีกด้วย มีหรือนักเดินทางยาจกแบบเราจะไม่เลือกเข้าบ่อน

            ตารางรถบ่อนดูได้จากเว็บนี้ครับ ข้อมูลไม่อัพเดท 100% แต่พออ้างอิงได้ เวลาการเดินรถโทรศัพท์ถามคนขับอีกทีครับ poipetresort.grandexclusive.net

            เมื่อไปถึง "โรงเกลือ" จะติดกับชายแดนพอดี พอลงรถแล้วให้เดินตามคุณน้าขาประจำไป เมื่อผ่านตรวจคนออกเมืองของไทยแล้วก็จะเป็นพื้นที่บ่อน เดินเข้าไปในบ่อนตามที่เขาบอกไว้เลยครับ (โซนบ่อน คือ พื้นที่ระหว่างชายแดนไทยกับชายแดนเขมร) เข้าไปห้ามถ่ายภาพ จากนั้นเราก็ไปแสดงตัวให้เค้าเช็กชื่อและรับคูปองอาหาร เราก็ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง ที่ต้องอยู่ในบ่อนนี้เพื่อกินข้าว เรากินกันจนอิ่มมาก บอกกันว่านี่อาจเป็นมื้อดี ๆ มื้อสุดท้ายของเรา ยังกับ The last supper ก็ไม่ปาน ไม่รู้อาหารเขมรจะกินได้หรือเปล่า และอ่านมาว่าแพงมาก เราคงต้องประหยัด นั่งกินนั่งเม้าท์มอยจนถึงเวลาก็มารับชิพจากคนขับรถไปแลกคืน ได้เงินมา 200 บาท

            ชายแดนไปเสียมเรียบ

            เมื่อออกจากบ่อนเราก็ไปที่ ตม. ฝั่งเขมรครับ เขียนใบ Arrival ผ่านพิธีตรวจเข้าเมืองเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบบ้าน ๆ เราก็ผ่านไปฝั่งกัมพูชา จากนั้นที่อ่านมา คือ ให้เหมาแท็กซี่ไปเลยประมาณ 30$ เปิดราคามา 45$ พวกผมต่อรองจนได้ 35 $ แต่ก็ยังงง ๆ กล้า ๆ กลัว ๆ เจ้าหน้าที่เขมรบอกว่านั่งรถ Shuttle Bus นี้ไปขนส่งฟรี ตรงนั้นมีแท็กซี่เหมือนกันถูกกฎหมายด้วย หรือจะนั่งบัสก็ได้ แท็กซี่ตรงนี้อาจโกงได้ ไม่มีรัฐบาลรับรองนะ ผมพยายามมองก็ไม่เห็นมีแท็กซี่ตรงไหน สรุปเราเลยขึ้นรถ Shuttle Bus ไปขนส่ง...มันไม่เวิร์กครับ ตรงขนส่งนี้จะมี 2 อย่าง คือ

            1. รถบัสคนละ 9$ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
            2. แท็กซี่คนละ 12$ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

            เราตัดสินใจขึ้นแท็กซี่ เพราะไม่เสียเวลานั่งสบายกว่า แต่สามคนก็ 36$ แถมยังต้องนั่งร่วมกับคนอื่นอีกต่างหาก แต่โชคดีที่เราเจอคนไทยเหมือนกัน ก็ดีครับได้เพื่อนเพิ่มมาอีกคน ซึ่งเราได้นัดกันกลับแท็กซี่เหมาด้วยกันขากลับ 30$ หาร 4

            แนะนำ

            - ถ้ามาคนเดียวให้ไปแบบนี้ดีแล้ว ไม่ต้องเหมาคนเดียว 30-40$
            - ถ้ามาหลายคนให้เดินเลยตรงจุด Shuttle Bus มาอีกหน่อยแท็กซี่เยอะแยะ อย่าไปหลงคารมเจ้าหน้าที่

            อันนี้คือแท็กซี่ Camry รุ่นเก่าจะพาเราไปเมืองเสียมเรียบ เหมือนทุกคันจะขอแวะเติมแก๊ส...

แท็กซี่

            ระวังถูกต้ม

            แท็กซี่จะไม่ได้ไปส่งเราถึงโรงแรมเขาจะพาไปส่งเหมือนขนส่งเล็ก ๆ ของเสียมเรียบ ซึ่งจะมีรถ Camry อย่างดีพาเราไปส่งโรงแรมฟรี ผมถามว่าไปฟรีใช่ไหม เขาบอกว่าฟรี แต่เขาอยากให้เราซื้อทัวร์ในเสียมเรียบกับเขา ตึ่ง ! ใครเจอก็หาวิธีปฏิเสธกันเองละกันนะครับ คือ พี่คนขับนี่ขายของเก่งมากกกกกกก ขายแพ็กเกจทัวร์ ขายชมรำนางอัปสร ขาย.... พูดน้ำไหลไฟดับ เราไปถึง 4 โมงแล้ว เขาก็บอกว่าปิดขายตั๋ว 05.30 PM นะ ถ้ากลับโรงแรมเราอาจจะมาซื้อตั๋วไม่ทันเพราะจะปิด เราเลยต่อรองรถคันนี้ให้ไปส่งซื้อตั๋วและไปส่งโรงแรม ทั้งหมด 10$ พอขึ้นรถเค้าก็ขายของไปเรื่อยเราทำไม่สนใจ พอไปถึงที่ขายตั๋ว 04.20 PM ผมก็เดินไปซื้อตั๋วกันเนื่องจากรำคาญแท็กซี่ขายของ พนักงานบอกว่าขาย 04.45 PM คือเราต้องรออีก 25 นาที ผมอ่านป้ายก็เขียนว่าขายทั้งวันนี่นา เลยถามพนักงานว่า "Why" พนักงานอึ้งแล้วถามว่าเที่ยวพรุ่งนี้ใช่ไหม ก็เลยให้เราซื้อ อ้าวง่าย ๆ แบบนี้เลย

            คือแบบนี้ครับ เขาจะแบ่งรอบวันเป็น 05.30 AM ถึง 05.30 PM ครับ สำหรับคนที่ซื้อตั๋ววันเดียวมาซื้อก่อนล่วงหน้า แล้วก็เที่ยวดูพระอาทิตย์ตกได้ทันทีในวันนั้น แต่ถ้าจะซื้อแบบนี้ต้องรอ 04.45 PM นะครับ จากนั้นรถก็ไปส่งเราที่โรงแรมและผมก็เสร็จคนขายจนได้ แต่เราได้รถแท็กซี่กลับในราคา 30$ ก็ถือว่าโอเคไม่แพงเกินงบ ยอม ๆ ไปก็ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะหาได้ถูกกว่านี้ครับ ลองติดต่อเป่ยดูก็ได้

            โรงแรม

            พวกผมพักกันที่ Banyan leaf เป็นโรงแรม 2-3 ดาว ที่ดีทีเดียวครับ พนักงานดีมาก ๆ ทำเลดี เดินไปเที่ยว Pub Street, Night Market ได้ไม่ไกลประมาณ 600 เมตร และใกล้ห้าง Lucky Mall ห้างอันเดียวของเสียมเรียบมาก ๆ เดินประมาณ 5 นาที ก็ถึง เว็บโรงแรมครับ banyanleafhotel.com ผมจองผ่าน Agoda ได้คืนละประมาณ 660 บาท หารกับเพื่อนก็คืนละ 330 บาท มีแอร์ ทำเลดี มีอาหารเช้า ก็ถือว่ารับได้ ถ้าใครอยากประหยัดงบตรงนี้ก็ลดได้อีกครับ

            ผมก๊อบปี้ภาพมาจากเว็บโรงแรมนะครับ ห้อง Twin ก็จะประมาณนี้ครับไม่เล็กไม่ใหญ่ ไม่หรูหราอะไร เหมาะสมกับราคา



            เรื่องของซิม

            สำหรับคนยุคใหม่ติด Smart Phone แบบพวกเรา ซิม 3G เป็นเรื่องยอมลงทุนได้ พวกเราเลือกใช้ของ Cell card 5$ ใช้โปรฯ Tourism จะได้โทรด้วยและใช้เน็ตได้ 1.5 GB  ซื้อได้จากร้านโทรศัพท์ในเมืองเลยครับ มีหลายร้าน ให้เขาตั้งค่าให้เรียบร้อยได้เลย



            เมื่อจัดการเรื่องซิมแล้วก็ไปเดินเล่นย่าน Pub Street, Night Market, Old Market มันไม่ไกลกันครับเดินถึงกันหมด ในเมืองจะมีวัดอันหนึ่งอยู่ใกล้ Pub Street ก็สวยดีครับลองแวะไปได้

            Wat Preah Prom Rath

            ความสวยงาม 3/5
            ความคุ้มค่าที่จะมา 5/5



วันที่ 2

            เรานัดตุ๊กตุ๊กไว้ตอนตี 5 ให้มารับเราที่โรงแรม อ้อ...อย่าลืมขอ Breakfast Box จากโรงแรมไปด้วยนะครับ ทุกโรงแรมที่รวมอาหารเช้าน่าจะมีบริการนี้หมด เอาไว้กินหลังดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัดครับ ประมาณ  05.30 AM เราก็ไปถึงนครวัด นัดแนะกับคนขับว่าประมาณเที่ยงเราจะออกมานะ

            ตุ๊กตุ๊ก : นับตั้งแต่เวลานี้ถึงเที่ยงแล้วตกใจ "ยูใช้เวลาที่นี่ 5 ชั่วโมง เลยเหรอ !!"
            ผม : ใช่ ... (พวกเรากะจะดื่มดำบรรยากาศ)
            ตุ๊กตุ๊ก : โอเค ไอจะรอแถวนี้นะ ยังไงก็โทรมาแล้วกัน คนขับคงรู้แกวอยู่ได้ไม่นานนักหรอก

            จากนั้นเราก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปถึงสระน้ำหน้านครวัดที่ถ่ายภาพสะท้อนน้ำ ก็พบว่าเรามาช้าไปซะแล้ว ช่างกล้องแลนักท่องเที่ยวจับจองพื้นที่กันหมด ไม่สามารถวางขาตั้งกล้องได้ พระอาทิตย์ก็ขึ้นมาบ้างแล้วด้วย ถึงแม้เราจะไม่ได้ตั้งขาตั้งแต่ภาพที่มองเห็นด้วยตาก็ยังสวยมาก



            แต่สำหรับผมคำว่า "See Angkor and Die" มันก็ยังเกินไปอยู่ดี



            credit : kaito

            เมื่อฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเรื่อย ๆ



            ถ้าดูจากเว็บจะทราบว่าวันที่เราไป 10 Aug 2014 พระอาทิตย์ขึ้นเวลา 05.15 AM ครับ สำหรับตากล้องให้ไปเช้ากว่านั้น ไม่อย่างนั้นท่านจะพลาดเหมือนพวกผม แต่...พวกผมยังมีโปรแกรมวันสุดท้ายกลับมาที่นี่อีกรอบ ตั้งใจกันว่าต้องมาให้ทันให้ได้ ไปชมด้านในบ้าง ยิ่งใหญ่อลังการ



            credit : kaitogallery

            ลวดลายบนผนังนครวัดเยอะมาก ซึ่งถ้าย้อนกลับไปตอนเสร็จใหม่ ๆ คงต้องสวยมาก ๆ แน่ ๆ



            ประมาณ 8 โมงครึ่งเราก็เบื่อซะแล้ว เดินออกมาหาเป่ยคนขับตุ๊กตุ๊กของเรา โทรหาสักพักเขาก็มารับ และผมได้แผนที่มาจากโรงแรมก็เลยบอกเปยว่าไปโซนทางขวาแล้วกันนะ เวลาเหลือเยอะมาก เป่ยไม่ว่าอะไรขับพาไป นั่งไปสักพักก็เจอ Prasat Kravan ที่นี่ไม่ค่อยมีอะไร

            ความสวยงาม 2/5
            ความคุ้มค่าที่จะมา 3/5



            Banteay Kdei

            วัดนี้ผมค่อนข้างชอบนะ บรรยากาศดี ดูขลังดี

            ความสวยงาม 4/5
            ความคุ้มค่า 5/5



            Srah Srang

            อันนี้อยู่ตรงข้าม Banteay Kdei เลยครับ เป็นฐานขึ้นไปมองไปจะเจอทะเลสาบ ก็สวยดีนะครับ

            ความสวยงาม 3/5
            ความคุ้มค่า 5/5



            เมื่อจบ 3 รายการ ด้านบนประมาณ 10 โมงครึ่ง อากาศร้อนมากเราตัดสินใจกลับโรงแรมตามคำแนะนำของเป่ย กลับไปโรงแรมล้างหน้า ล้างฝุ่นสักหน่อย เราก็ไปกินสุกี้ชาบูที่ห้าง Lucky Mall คนละ 6.7$  ตึ่ง ! มาเขมรกินชาบูซะงั้น รสชาติก็ไทย ๆ ดีนะ คุณภาพก็ใช้ได้ ถ้าไม่มีอะไรทำไม่รู้จะกินอะไรผมว่ามากินก็ดีนะครับ กินแล้วก็กลับไปนอนพักผ่อน ตากแอร์รอ 4 โมง ให้เป่ยมารับไปพนมบาเค็ง เที่ยวแบบชิลไปไหม ยังกับฝรั่งมีเวลาเป็นเดือน ฮ่า ๆๆ 4 โมงเป๊ะ เป่ยมารับหน้าโรงแรมเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกที่พนมบาเค็ง (Phnom Bakheng) ใช้เวลาไม่นานประมาณ 20 นาที ก็มาถึง เดินขึ้นไปที่พนมบาเค็ง เดินขึ้นเขาทางค่อนข้างดี เดินประมาณ 600 เมตร ก็ถึงไม่เหนื่อยเท่าไรครับ เราก็จับจองพื้นที่รอถ่ายภาพกัน บนพนมบาเค็งจะสามารถมองกลับไปที่นครวัดได้ แต่พระอาทิตย์ตกจะอยู่อีกฝั่ง คือ คนละด้านกับนครวัด เพราะฉะนั้น หากใครคาดว่าจะถ่ายนครวัดคู่กับพระอาทิตย์ตกนั้นคุณคิดผิด เพราะมันอยู่คนละฝั่งกันครับ แต่ยังไงก็คุ้มค่าในการมาอยู่ดี

            คำแนะนำ : ที่นี่เคร่งกับการแต่งตัว แขนกุด กางเกงสั้น ไม่สามารถขึ้นได้ ให้เตรียมการแต่งตัวสุภาพมาที่นี่ด้วยครับ

            ความสวยงาม 5/5
            ความคุ้มค่า 5/5



            บนนี้สามารถมองย้อนกลับไปหานครวัดได้ครับ แต่ถ้าใครอยากได้ภาพนี้ต้องใช้เลนส์ซูมนะครับ ถ้าใช้ iPhone ถ่ายจะมองเห็นนครวัดอันจิ๊ดเดียวเอง



            ซูมไปที่พื้นนาบ้างครับ



            และแล้วเราก็รอจนพระอาทิตย์ตก คนเยอะมากกกกกกกก อาศัยยกกล้องขึ้นถ่ายรัว ๆ เอาครับ ฮ่า ๆๆ

            ป.ล. จุด ๆ นั้นเป็นนกนะครับ ^__^



            อยู่จนพระอาทิตย์ตกกันเลย ซึ่งตากล้องส่วนใหญ่ก็รอจนพนักงานมาไล่ทั้งนั้น พอพระอาทิตย์ตกได้แป๊บเดียวพนักงานก็จะมาไล่ลงทุกคนครับ



            หลังจากจบพนมบาเค็งแล้วเราก็กลับไปแหล่งเดิม คือ Pub Street, Night Market ไปมันทุกวัน หาอะไรดู หาอะไรกิน บรรยากาศเทียบบ้านเราก็แบบนี้ครับ Pub Street = ถนนข้าวสาร, Night Market = ถนนคนเดินเชียงใหม่



            credit : kaitogalley

            ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่อยู่ตรงข้าม Night Market เลย เรากินข้าวร้านนี้สองวันติดเลยครับ ข้าวผัดหมู 1.5$ อร่อยดีใช้ได้



วันที่ 3

            07.30 AM รถมารับที่โรงแรม แผนวันนี้คือไปพระขรรค์ก่อน ทางไปพระขรรค์นั้นจะนั่งผ่านนครธม เมื่อถึงหน้าทางเข้านครธมเป่ยก็รู้งานถามว่าแวะถ่ายรูปไหม…แน่นอนว่าเราลง



            ถ่ายรูปเสร็จก็ขึ้นรถไปพระขรรค์กันครับ บรรยากาศหลังจากออกนครธมไปค่อนข้างร่มรื่นเลยครับ แผนที่ก็ตามนี้ครับ จะเห็นได้ว่าเป็นเส้นทางท่องเที่ยวอยู่แล้วแหละ ระหว่างทางก็เจอฝรั่งมาเส้นเดียวกับเราเยอะ



            พระขรรค์ (Preah Khan)

            ความสวยงาม 5/5
            ความคุ้มค่าที่จะมา 4/5

            ทางเข้าพระขรรค์สังเกตอะไรไหมครับ นี่ 8 โมง แต่แดดแรงมาก ทุกคนกางร่มและใส่หมวก



            ในแต่ละวัดก็มักจะมีคนมาวาดรูปขายนักท่องเที่ยว บรรยากาศดูขลังดี



            พระขรรค์อีกภาพครับ อันนี้ถ่ายด้านหลัง

            อ้อ...พระขรรค์นี่เราเดินทะลุไปเรื่อย ๆ จะเจอทางออกด้านหลัง ซึ่งเป่ยบอกเราว่าให้ไปเจอด้านหลังเลย



            จากนั้นเป่ยพาเราไปที่ Neak Pean นอกแผนแต่เวลาเยอะ แถม ๆ ไปนะ

            ความสวยงาม 5/5 (ทางเข้าสวย)
            ความคุ้มค่าที่จะมา 3/5






            credit : kaitogallery

            วัดตาสม (Ta som) นอกแผนอีกแล้วแต่เวลาเยอะแถม ๆ ไป เราไปหน้าฝน เพราะฉะนั้น ในแต่ละวัดจะมี ต้นมอสขึ้น ซึ่งผมชอบมาก ดูลึกลับดี

            ความสวยงาม 5/5
            ความคุ้มค่าที่จะมา 5/5



            เดินไปหลังสุดของตาสมก็จะเจอแบบนี้ครับ



            credit : kaitogalley

            เป่ยยังแถมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพาไป Eastern Mebon และ Prae Roup Temple (วัดแปรรูป) ภาพนี้น่าจะถ่ายจากวัดแปรรูปครับ Eastern Mebon นั้นมีสถาปัตยกรรมเหมือนกันกับแปรรูป



            ผมบอกเป่ยว่า Lunch แต่เป่ยบอกว่าเดียวเราไปอีกที่ก่อนแล้วค่อย Lunch นะจ๊ะ เที่ยวคุ้มจริงอะไรจริง อันนี้ชื่ออะไรไม่มั่นใจ จำไม่ได้ครับ ดูปราสาทจนเอียนกันเลยทีเดียว...มีคนบอกว่าอันนี้ "ตาแก้ว" นะครับ ขอบคุณ User Champoo Extra Care



            ได้เวลากินข้าวกันแล้ว อ่านจากกระทู้หมอ ๆ มาว่าราคากลางวันแถวนครธมแพงมาก เลยถามเป่ยว่ามีร้านถูกๆ  ไหม เป่ยทำหน้าเพลียพวกยาจกพวกนี้ บอกว่าไปก่อนเดียวเขาขอลดราคาให้ เป่ยก็พาไปร้านไฮโซ พอสมควร โดยช่วยต่อร้านให้ลด 1$ ต่อจาน ไปสามคนก็ลด 3$ ก็ยังดี



            อาหารกลางวันเราเลือกที่จะทานอาหารเขมรครับ

            1. Curry Chicken แกงกะหรี่ไก่ รสบอกไม่ถูกแต่ไม่เหมือนบ้านเรากิน รสทานได้
            2. Amok fish แกงสีเขียว ๆ คล้ายห่อหมกผสมกับแกงเขียวหวาน ผมชอบอันนี้ที่สุด
            3. Chicken with Basil เป็นไก่ผัดใบกระเพรา เขาจะใส่เครื่องสมุนไพรอย่างอื่น ๆ ด้วย พอทานได้เช่นกัน

            สรุปมื้อนี้โดนไปประมาณ 20$ ต่อสามคนครับ

            ป.ล. ร้านแถวนี้มีอาหารให้คนขับด้วย เพราะฉะนั้น คนขับเขาก็อยากจะพาเรามากินร้านแถวนี้นะครับ

            เมื่ออิ่มแล้วเราก็ไปต่อที่โซนนครธม ต้องบอกก่อนว่านครธมนั้นเป็นเหมือนเมืองหลวงทำนองนี้ครับ เป็นพื้นที่ไม่ใช่ชื่อสถานที่นะครับ ด้านในนครธมก็จะประกอบด้วยหลาย ๆ สถานที่เที่ยว เช่น Bayon, Baphuon, Phimeanakas, Terrace of Elephants และ Terrace of the Leper King



            ปราสาทบายน

            เป็นที่ที่มีลักษณะพิเศษ เนื่องจากส่วนของหอเป็นรูปหน้าหันสี่ทิศ จำนวน 49 หอ ลักษณะโดยทั่วไปจะมี 4 หน้า 4 ทิศ แต่บางหออาจมี 3 หรือ 2 แต่บริเวณศูนย์กลางของกลุ่มอาคารจะมีหลายหน้า ถือเป็นไฮไลท์ของนครธมเลยครับที่นี่

            ความสวยงาม 5/5
            ความคุ้มค่าที่จะมา 5/5



            credit : kaitogallery

            บายนอีกภาพ



            ตาพรหม (Ta Phom)

            ปราสาทตาพรหม มีชื่อเสียงจากหนังเรื่อง Tomb Ridar วัดที่มีรากไม้ชอนไชปราสาท ผมชอบที่นี่ที่สุดในทริปครับ

            ความสวยงาม 5/5
            ความคุ้มค่าที่จะมา 5/5



            ตาพรหม (Ta Phom)



            ชอบมุมนี้ครับ



            ต้นที่ถ่ายหนังครับ ต้นใหญ่มากกกกกกกก



            เหลือเวลาอีกแล้ว...ทำอะไรดี เลยให้เป่ยไปส่งนครวัดแล้วกัน จะรอพระอาทิตย์ตกที่นี่ดู นครวัดตอนกลางวันที่ฟ้าสีฟ้ามาก



            พระอาทิตย์ตกด้านหลังนครวัด เราเล็งไว้ว่ามุมนี้จะต้องสวยเพราะพระอาทิตย์จะตกด้านหน้านครวัด



            credit : kaitogallery

            หลังจากได้ภาพนี้แป๊บเดียวเจ้าหน้าที่ก็มาไล่ เราเลยขอติดรถเจ้าที่หน้าที่ไปด้านหน้านครวัดที่นัดตุ๊กตุ๊กไว้ด้วยเลย  ^^

            มุมด้านหน้าตอนเย็นครับ



            credit : kaitogallery

            หลังจากภาพด้านบนก็มืดสนิทแล้วพระจันทร์ดวงโต Super Moon ก็ขึ้นมาด้านหลังนครวัดพอดี แสงสว่างของพระจันทร์กระทบกับนครวัดสวยมาก ๆ  " See Angkor and Die" ณ ชอตนั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริง เสียดายที่ไม่สามารถเก็บภาพมาได้เพราะกล้องแบตหมดไปเรียบร้อยแล้ว

            ก่อนกลับโรงแรม

            ผม : พรุ่งนี้มารับตี 4 ได้ไหมเพื่อน ไออยากถ่ายรูปกับดาว
            เป่ย : มันเช้าไปนะนาย ขอเป็นตี 5 อืม...04.40 AM ก็แล้วกัน
            ผม : ขอตี 4 ครึ่งแล้วกันนะ ตี 5 Too Late นะ เป่ยโอเค เย้ !

            *แต่ละฤดูกาลเวลาพระอาทิตย์ขึ้นเวลาไม่ตรงกันนะครับ ก่อนไปถามกูเกิลก่อนนะว่าขึ้นประมาณกี่โมง

วันที่ 4

            04.30 AM เราได้ออกจากโรงแรม เป่ยมารับตรงเวลาเป๊ะ พอไปถึงประมาณเกือบ ๆ ตี 5 เราก็รีบเข้าไปด้านใน เราเป็นกลุ่มที่สองที่มาถึงนครวัดแห่งนี้ ฟ้ายังมืด เราได้จับจองพื้นที่ตั้งขาตั้งกล้องสมใจ

            Kaitogallery ใช้กำลังภายในของกล้อง Full frame ถ่ายดาวมาได้ ตามรูปครับ



            credit : kaitogallery

            นครวัดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น รางวัลของคนตื่นเช้า



            แสงแรกมาแล้วครับ คุ้มค่ากับการตื่นเช้าไหมครับ ?



            เมื่อสว่างแล้วเราก็เดินไปชมปราสาท โดยเลือกมุมทางซ้ายเพื่อชมแสงอุ่น ๆ กระทบกับปราสาทนครวัด



            Banteay srei

            ที่นี่เป็นปราสาทสีชมพูขนาดเล็กที่สมบูรณ์ที่สุด เขาว่าอย่างนั้น...แต่ต้องนั่งรถออกไป 30 กิโลเมตร ซึ่งถ้าไปแยกกับที่อื่น ๆ ตุ๊กตุ๊กจะคิดเพิ่ม 20-25$ เลยทีเดียว ลองชั่งใจดูนะครับว่าคุ้มค่าหรือเปล่า ส่วนตัวคิดว่าถ้าไม่ได้เหมาตั้งแต่แรกไม่คุ้มที่จะไป

            ความสวยงาม 5/5
            ความคุ้มค่าที่จะมา 4/5



            หน้าบันสีชมพูสวยงามและสมบูรณ์



            และที่สุดท้ายของเราในทริปนี้ คือ Kbal Spean กบาลเสบียงเป็นทางของน้ำตกที่ไหลมาจากพนมกุเลน อยู่ห่างออกไปจาก Banteay srei อีกประมาณ 15 กิโลเมตร ส่วนตัวคิดว่าไม่คุ้มค่ากับการไปดูครับ เพราะทางขึ้นต้องเดินขึ้นเขาทางแบบลุย ๆ 1.5 กิโลเมตร เลยทีเดียว แล้วขึ้นไปก็ไม่รู้สึกว้าวเท่ากับที่เสียแรง เสียเวลามา แต่ก็มีดี คือ แปลกดี ไม่น่าเชื่อว่าคนสมัยโบราณจะมาแกะสลักศิวลึงค์ใต้น้ำได้เยอะขนาดนี้



            เมื่อเราเดินขึ้นเขาทางลำบากมา 1.5 กิโลเมตร สิ่งแรกที่เราเจอ คือ ตึ่ง ! มีแค่นี้ (เพื่อนผมถ่ายสวยเกินจริง)



            credit : kaitogalley

            เมื่อจบจาก Kbal Spean เราก็เก็บกล้องเดินลงเขา 1.5 กิโลเมตร เป่ยขับกลับไปส่งเราที่โรงแรม (จากน้ำตก กลับโรงแรมประมาณ 50 กิโลเมตร) จากนั้นเราให้โรงแรมช่วยโทรหาแท็กซี่ที่ติดต่อไว้วันแรกมารับ เพื่อไปส่งที่ด่านปอยเปตตอนประมาณบ่ายโมงครึ่ง จากด่านปอตเปตเราก็นั่งรถบ่อนกลับเหมือนเดิม แต่รอบนี้ฉุกละหุกนิดหน่อย เพราะตรงกับเทศกาลพอดีเลยหารถยาก แต่เราก็ถาม ๆ จนกลับได้ ถึงบางนาประมาณ 21.30 PM ครับ ใช้เวลาเดินทางนานทีเดียว เลยแนะนำว่าถ้าอยากสบายนั่งเครื่องก็เป็นทางเลือกที่ดี

            จบแล้วครับทริป 4 วัน 3 คืนของผม จากกันไปด้วยภาพนี้แล้วกัน ถือว่าโชคดีเจอพระเดินที่นครวัดพอดีครับ ถูกใจอย่าลืมกด Vote หรือ Share ไปยัง Facebook ของท่านได้จะเป็นพระคุณครับ หากต้องการข้อมูล สอบถามอะไรเพิ่มเติมยินดีตอบ ขอบคุณที่รับชมครับ




            Page ของผมครับถ้าคิดว่าถูกใจก็กด like กันได้ https://www.facebook.com/ChillJourney
            เพื่อนตากล้องที่ไปด้วยกัน kaitogallery : https://www.facebook.com/kaitogallery
            Facebook ของเป่ยช่วยอุดหนุนเขาด้วยครับ https://www.facebook.com/alex.pov.9




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวนครวัด ท่องเสียมเรียบ ชมสิ่งมหัศจรรย์ในราคาสบายเป๋า อัปเดตล่าสุด 18 มีนาคม 2567 เวลา 18:53:19 40,215 อ่าน
TOP