ถ้าพูดถึงประเทศอินโดนีเซีย สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตคงหนีไม่พ้น "บาหลี" ดินแดนที่งดงามทั้งโบราณสถาน สถาปัตยกรรม และชายหาด จึงมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่นที่ตรงกับวันหยุดในฝั่งยุโรปและอเมริกา อย่างเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่
เนื่องจากบาหลีเป็นเกาะเขตร้อน จึงมีสภาพอากาศแบ่งออกเป็นสองฤดูกาล คือ ฤดูฝนและฤดูแล้ง โดยฤดูฝนจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน และจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 26-35 องศาเซลเซียส และส่วนมากจะมีฝนตกทุกวัน ส่วนในฤดูแล้งจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม และมีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 23-31 องศาเซลเซียส ซึ่งหากคุณรักในการปีนเขา ดำน้ำชมปะการัง หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ในฤดูแล้งจะเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดค่ะ
นอกจากจะพิจารณาในเรื่องสภาพอากาศแล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงในการมาเที่ยวบาหลี คือ ความนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยในช่วงเดือนกรกฎาคม, สิงหาคม และกันยายน จะเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดพอ ๆ กับช่วงปลายเดือนธันวาคมจนถึงต้นเดือนมกราคม เนื่องจากบาหลีเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยแหล่งธรรมชาติและบรรยากาศโรแมนติก
นักท่องเที่ยวไม่น้อยจึงนิยมมาเที่ยวพร้อมกินลมชมวิวและดื่มด่ำกับชายหาดอันสวยงาม ซึ่งในช่วงนี้เองราคาของที่พักและแพ็กเกจท่องเที่ยวอาจจะสูงตามไปด้วย และหากคุณต้องการจะพักผ่อนอย่างสงบละก็ ควรจะหลีกเลี่ยงในช่วงเดือนเหล่านี้ค่ะ
สำหรับใครที่รักในกิจกรรมทางน้ำอย่างการเล่นกระดานโต้คลื่น ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน ทางชายฝั่งตะวันออกของบาหลีจะมีคลื่นขนาดใหญ่ให้คุณได้เล่นกีฬาทางน้ำแบบมันส์หยด แถมยังท้าทายที่ต้องจัดการกับคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้ามาด้วย
และในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ทางชายฝั่งตะวันตกของบาหลีจะมีลมแรงและคลื่นทะเลปานกลางถึงใหญ่มาก ซึ่งจะเหมาะแก่นักเล่นกระดานโต้คลื่นมืออาชีพ ที่จะทำให้คุณสนุกและเพลิดเพลินกับการเล่นกระดานโต้คลื่นแน่นอน
ส่วนใครที่เป็นมือใหม่ละก็ เราขอแนะนำในช่วงเดือนมีนาคม ทางด้านชายหาดฝั่งใต้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะเรียนรู้การเล่นกระดานโต้คลื่นแบบค่อยเป็นค่อยไปค่ะ
เรียกว่าบาหลีนั้นมีอากาศดีและเหมาะแก่การท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากไปพักผ่อนแนว ไหน แต่ถ้าหากอยากเที่ยวแบบชิล ๆ พร้อมหลีกเลี่ยงจากฝูงชนละก็ ช่วงเดือนพฤษภาคม, มิถุนายน และเดือนตุลาคม จะเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่สำคัญราคาที่พักยังถูกกว่าช่วงไฮซีซั่นอีกด้วยค่ะ