ภาพจาก shutterstock.com
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Gaffion สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
วังเวียง (Vang Vieng) เมืองเล็ก ๆ ริมแม่น้ำซองที่มีเสน่ห์ล้นเหลือ ด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ ลักษณะภูมิประเทศเช่นนี้ทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางผู้หลงใหลธรรมชาติ อยากไปสูดอากาศบริสุทธิ์ หรืออยากสัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของทิวเขา หรือคนที่ชอบกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ ที่นี่ก็มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลาย เช่น เดินทางไกลชมป่าไม้ ปีนเขา ชมถ้ำ หรือล่องห่วงยางเล่นบนแม่น้ำซอง ฯลฯ
จึงไม่แปลกเลยที่ทำให้ "วังเวียง" กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสำหรับคนที่กำลังวางแผนไปเที่ยววังเวียงแต่ยังไม่มีข้อมูลที่แน่นมากพอ ก็ตามบันทึกการเดินทางของ คุณ Gaffion สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่นำข้อมูลของการเดินทางไปเที่ยววังเวียงแบบกึ่งสำเร็จรูปมาบอกเล่ากันจ้า
+++++++++++++++++++++++++++
ข้อมูลเที่ยววังเวียง แบบกึ่งสำเร็จรูป (เหมาะกับผู้ที่ไปครั้งแรก) 37 ข้อเป็นสมาชิกเว็บ Pantip มาก็นาน อยากลองรีวิวอะไรสักอย่างที่เป็นประโยชน์ หนนี้ได้ไปเที่ยววังเวียนมา เดือนมกราคม 2557 นี่เองครับ สด ๆ ร้อน ๆ ก่อนจะไปก็มีปัญหาว่าตอนวางแผนการเดินทาง เราไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง หาข้อมูลออนไลน์ส่วนใหญ่ก็เป็นรีวิวเกี่ยวกับความสวยงาม แต่ไม่ค่อยมีใครรีวิวขั้นตอนการเดินทางแบบสมบูรณ์ ต้องดูจากหลาย ๆ รีวิว บางข้อมูลก็เก่ามาก เลยลองรีวิวเองเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่คิดจะไปวังเวียงเป็นครั้งแรก ทุกขั้นตอน พร้อมใช้ประโยชน์ได้ เหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ขั้นที่ 1 เดินทางไปวังเวียง
- 1. สิ่งที่จะต้องเตรียม คือ Passport, เงิน, และปากกา
- 2. ถ้าเดินทางมาเองมีรถส่วนตัว แนะนำให้ฝากรถไปบริเวณด่านตรงสะพานมิตรภาพ ผมเคยใช้กานตนาทัวร์ อยู่ด้านซ้ายมือก่อนถึงด่าน ฝากรถวันละ 70 บาท แล้วค่อยเหมารถเพื่อไป บขส. ราคาคนละ 50 บาท (มีป้ายราคาชัดเจน) https://goo.gl/maps/wvry0
- 3. รถโดยสารจากไทยไปวังเวียง คือ สายอุดรธานี-หนองคาย-วังเวียง ออกจาก บขส.อุดรธานี เวลา 08.30 น. ราคา 320 บาท และจะไปแวะที่ บขส.หนองคาย ก่อน โดยออกจากหนองคาย เวลา 10.00 น. ราคา 270 บาท ไปถึงวังเวียงประมาณ 14.30-15.00 น. ทั้งนี้ ขึ้นกับจำนวนคน เพราะจะเสียเวลาตอนทำเรื่องที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
- 4. เมื่อรถออกจาก บขส.หนองคาย บนรถเขาจะแจกเอกสารที่ต้องเขียนข้อมูลส่วนตัวเพื่อใช้ยื่นที่ด่านตอนออกจากประเทศไทย (ผมเรียกชื่อไม่ถูกครับ) เมื่อรถไปจอดที่ด่านก็เอาพาสปอร์ต+เอกสารดังกล่าวไปยื่นครับ เมื่อเจ้าหน้าที่ปั๊มตราก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ก็เดินขึ้นรถคันเดิมซึ่งจะวิ่งไปจอดรออยู่ข้างหน้า
- 5. เมื่อถึงด่านฝั่งลาว รถก็จะจอดอีกครั้งเพื่อทำเรื่องเข้าเมือง สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ เดินไปเข้าคิวซื้อ ONE WAY TICKET เป็นบัตรพลาสติก ซึ่งจะเป็นค่าธรรมเนียมเข้าเมือง ราคา 5 บาท (สำหรับวันธรรมดา) บัตรอันนี้สามารถฝากซื้อพร้อม ๆ กันได้นะครับ โดยเอาพาสปอร์ตยื่นไปพร้อมกันเลย ไม่ต้องซื้อทีละคน
- 6. จากนั้นก็ไปขอเอกสารที่ใช้เขียนข้อมูลส่วนตัว (คล้ายใบที่เขียนตอนออกจากไทย) เพื่อแนบพร้อมพาสปอร์ต (ขอได้จากเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองที่มีคนต่อคิว สามารถเดินไปขอช่องซ้ายสุดได้เลย)
พอเขียนเสร็จก็แนบไปพร้อมพาสปอร์ต เพื่อยื่นตรวจเอกสาร แล้วก็เดินต่อไปเพื่อเสียบ ONE WAY TICKET ผ่านประตูเหมือนรถไฟฟ้า BTS เลยครับ
- 7. เมื่อผ่านด่านฝั่งลาวเรียบร้อย จะมีรถคันเดิมจะจอดรออยู่บริเวณนั้นเลย จะมีห้องน้ำและธนาคารอยู่บริเวณนั้นเลย สามารถแลกเงินกีบได้เลยครับ 1 บาท ประมาณ 245 กีบ เสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นรถไปวังเวียงกันเลย
- 8. ระหว่างทางไปวังเวียง รถจะจอด 1 ครั้ง ระยะห่างจากหนองคายประมาณ 100 กิโลเมตร เข้าห้องน้ำราคา 1,000 Kip (4 บาท) มีอาหารด้วยเผื่อหิว เช่น มาม่าคัพ 10,000 Kip (40 บาท)
ตำแหน่งร้าน : https://www.google.com/maps?q=%2B18%C2%B031\'22.56%22,+%2B102%C2%B025\'26.64%22&ie=UTF8&ll=18.523888,102.400646&spn=0.149909,0.264187&t=m&cid=0x0&z=13&iwloc=near
- 9. อีกสิ่งที่มีประโยชน์ในการไปเที่ยววังเวียง ก็คือ แผนที่บน Smartphone ครับ แนะนำให้โหลด app ไปตั้งแต่ตอนอยู่ในไทยเลย
บน iOS แนะนำ app ฟรี ชื่อ Laos travel guide by Triposo ครับ มีแผนที่ offline พร้อมระบบตำแหน่งผ่าน GPS ไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต ข้อเสีย คือ ไม่มี POI ชื่อสถานที่ แต่ก็ช่วยได้มากสำหรับการเดินทางครั้งแรก
https://itunes.apple.com/th/app/laos-travel-guide-by-triposo/id498206934?l=th&mt=8
บน Android แนะนำ app ฟรีชื่อ OsmAnd Maps and Navigation ครับ โหลดมาแล้วตัวนี้ให้เลือกโหลดแผนที่ขอประเทศลาวมาด้วยนำครับ ตัวนี้มี POI และระบุตำแหน่งผ่าน GPS แบบ offline ได้ครับ ไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต
https://play.google.com/store/apps/details?id=net.osmand&hl=th
- 10. ระหว่างนั่งรถ ซึ่งนานมาก ๆ แนะนำให้หาเพลงไว้ฟังบ้าง ยาแก้เมารถก็สำคัญ ลูกอมรถเปรี้ยวก็มีประโยชน์ครับ แต่อ่านหนังสือคงไม่ไหว เพราะถนนไม่ค่อยดี
ขั้นที่ 2 เมื่อถึงวังเวียง
- 11. รถจะไปส่งเราที่คิวรถ ซึ่งอยู่นอกเมือง และจะมีรถมารับไปส่งในเมืองฟรี โดยรถไปส่งที่ MALANY VILLA ครับ แต่ถ้าโชคร้ายไม่มีรถมารับก็ไม่ต้องกลัวครับ เดินเข้าเมืองไม่ไกลมาก แค่เดินข้ามถนนไปจะผ่านพื้นที่โล่ง ๆ ก็จะเข้าเมืองได้เหมือนกัน ระยะทางประมาณ 500 เมตรครับ
- 12. ถ้าหลงก็หยิบ Smartphone มาเปิดแผนที่เลยครับ
- 13. ที่วังเวียงใช้เงินได้ทั้งกีบและเงินบาทไทยครับ แต่ว่าอัตราแลกเปลี่ยนแต่ละร้านจะไม่เท่ากัน ประมาณว่าตามใจฉัน เช่น ซื้อของราคา 20,000 กีบ (80 กว่าบาท) พอถามว่าจ่ายเงินไทยเท่าไหร่ แม่ค้าก็บอกว่า 100 บาท จึงแนะนำให้ใช้เงินกีบมากกว่า อีกอย่าง คือ เขาไม่รับเงินเหรียญครับ ต่ำสุดที่รับ คือ แบงก์ 20 บาท แต่ก็ไม่ต้องแลกเงินกีบมาเยอะเกินนะครับ ขาดดีกว่าเหลือครับ เพราะแลกคืนยากกว่า
- 14. ที่พักในวังเวียงมากมาย มากจริง ๆ จองผ่านเว็บก็มีถูกกว่า แพงกว่าบ้าง แต่ถ้าอยากได้ติดริมแม่น้ำ หรือไปกันหลาย ๆ คนอาจต้องจองไปก่อน ไม่งั้นไป Walk In ก็ไม่ยากครับ จะหาตามรีวิวของเพื่อน ๆ คนไทยที่เคยไปก็ได้ครับ
- 15. ประชากรหลัก ๆ ที่นี่ คือ ชาวต่างชาติครับ คิดว่าอยู่เมืองนอกซะอีก
- 16. ที่วังเวียงมี Free Wi-fi บริการแทบทุกร้านครับ แต่ถือว่าช้า เหมาะกับการแชท เช็กอีเมล ชาวโซเชียลไม่ต้องห่วง
- 17. ระบบไฟฟ้าที่วังเวียงเหมือนไทยครับ แต่เขายังไม่มีสายดินมั้ง เต้ารับจึงมีแค่ 2 รู อาจต้องเตรียมไปเองสำหรับอุปกรณ์ที่เป็นปลั๊ก 3 ขา แต่ถ้าไม่มีที่นี่ก็มีขายครับ
- 18. เมืองวังเวียงมีถนน 2 เส้นหลักครับ คล้ายเชียงคาน คือ เส้นกลางเมือง และเส้นติดแม่น้ำ ระยะทาง 1 กิโลเมตรกว่า ๆ
- 19. ภาษาที่ใช้สื่อสารก็ใช้ภาษาไทยครับ คุยกับคนลาวเข้าใจกันไม่ยาก
- 20. สินค้าส่วนใหญ่โดยเฉพาะอาหาร นำเข้าจากประเทศไทย เช่น เลย์, มาม่าคัพ เป็นต้น แต่ราคาแพงกว่ามาก
- 21. กิจกรรมหลัก ๆ คือ เที่ยวถ้ำ ล่องห่วงยาง (Tubing) ขี่รถชมเมือง พายเรือคายัก และนั่งเรือชมริมน้ำ
- 22. ถ้ำที่มีคนไปเยอะ คือ ถ้ำจัง ที่มีสะพานสีส้ม ทางเข้าอยู่ในพื้นที่ของวังเวียงรีสอร์ท เสียค่าเข้ารีสอร์ท 2,000 กีบ/คน (8 บาท) และเสียค่าเข้าถ้ำในราคาชาวต่างชาติราคา 15,000 กีบ (60 บาท) การเดินทางสามารถเดินเท้า ปั่นจักรยาน ขี่จักรยานยนต์ หรือเหมารถเข้าไปก็ได้ https://goo.gl/maps/FZjir
- 23. ค่าเช่ารถจักรยาน 15,000 กีบ/คัน และค่าเช่าจักรยานยนต์ ราคา 40,000 กีบ/คัน ไม่รวมค่าน้ำมัน
- 24. แปลงเงินกีบเป็นเงินไทยง่าย ๆ โดย ตัดเลข 0 สามตัวท้าย แล้วคูณด้วย 4
- 25. เวลาใช้เงินกีบให้ดูเลขอารบิก เพราะอีกฝั่งเหมือนจะเป็นเลขไทย แต่นั่นไม่ใช่เลขไทย และเขียนไม่เหมือนเลขไทยด้วย
- 26. Tubing หรือ ล่องห่วงยาง ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่เล่น คนไทยไม่ค่อยเล่นกัน จะมีจุดที่ให้เช่าห่วงยางแค่จุดเดียว จากนั้นก็เหมารถมาขึ้นไปยังจุดปล่อย แล้วก็ล่องมาตามแม่น้ำซอง จะมีจุดขึ้นหลายจุด จะมีป้ายบอกอยู่ริมฝั่ง อยากเลิกเมื่อไหร่ก็เลิก แล้วเหมารถเข้าเมือง แต่จุดขึ้นจุดสุดท้าย (END TUBING) คือ เมืองวังเวียง ใช้เวลาตั้งแต่ต้นจนจบประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระยะทาง 5 กิโลเมตร
จุดเช่าห่วงยาง https://goo.gl/maps/fAHd8
- 27. ที่เห็นตามรีวิวเก่า ๆ ว่ามีบาร์อยู่ตลอดเส้นทาง Tubing ตอนนี้ไม่มีแล้วนะครับ เหลืออยู่ 3 แห่งเท่านั้น และห้ามเปิดเพลงเสียงดังแล้วด้วย ไกด์เล่าให้ฟังว่าเคยมีฝั่งเมาแล้วจมน้ำตาย บาร์ก็เลยปิดไปหลายแห่ง
- 28. กิจกรรมเที่ยวถ้ำอื่น ๆ ได้แก่ ถ้ำช้าง ถ้ำน้ำ และ พายเรือคายัก ต้องติดต่อซื้อทัวร์ในเมืองครับ เดินหาได้สบาย ต่อราคาได้ มีแบบ 1 Day Trip และ Half Day Trip กำหนดเวลาเริ่มได้ ถ้าไปหลาย ๆ คนจะได้ราคาถูกกว่า และไปกรุ๊ปส่วนตัวได้ ถ้าไป 1-2 คน อาจต้องไปรวมกับกรุ๊ปอื่น ๆ
- 29. ถ้ำปูคำ และบลูลากูน อยู่ห่างจากเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร ถนนฝุ่นเยอะมากตลอดทาง ควรเหมารถมาจากในเมือง หรืออาจต่อรองให้รวมอยู่ในทัวร์ด้วยก็ได้ ไม่เหมาะกับจักรยานและจักรยานยนต์อย่างยิ่ง ที่นั่นจะเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ 80% เหมือนกับไปเที่ยวสวนน้ำ
ตำแหน่ง : https://goo.gl/maps/PjmB4
- 30. ร้านอาหารในวังเวียงส่วนใหญ่ขายอาหารทุกเชื้อชาติ พวกพิซซ่า ผัดกระเพรา ข้าวผัด มีหมดครับ ราคาทั่วไป คือ 15,000-40,000 กีบ
ขั้นที่ 3 กลับเมืองไทย
- 31. การเดินทางกลับก็เหมือนขามา สามารถนั่งรถมาลงเวียงจันทน์แล้วค่อยต่อรถกลับหนองคายก็ได้ หรือจะนั่งจากวังเวียง-หนองคาย-อุดรธานี ก็ได้
- 32. สามารถซื้อตั๋วรถได้จากจุดจำหน่ายซึ่งมีอยู่มากมาย จะมีป้ายบอกอยู่ และสามารถซื้อได้ตามรีสอร์ทครับ พอซื้อแล้ว ตอนเช้าก็ให้เขาไปรอตรงจุดที่เราซื้อ จะมีรถมารับเราเพื่อไปส่งที่คิวรถอีกที แนะนำให้ซื้อใกล้ ๆ ที่พัก จะได้ Check Out ได้สะดวก
- 33. ขากลับรถก็จะแวะพัก 1 ครั้ง ที่ร้านเดิมกับตอนขามา เข้าห้องน้ำหรือซื้ออาหารเผื่อหิว
- 34. แนะนำว่าให้เก็บพาสสปอร์ตไว้กับตัวตลอด เพราะต้องใช้ตอนตรวจขาออกที่เวียงจันทน์
- 35. เมื่อถึงด่าน สิ่งแรก คือ ซื้อบัตร ONE WAY TICKET เหมือนเดิมครับ ผมกลับวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุด เขาคิด 10,000 กีบ หรือ 45 บาท/คน
- 36. จากนั้นก็เอาใบเอกสารขาออก (ใบยาว ๆ ที่เจ้าหน้าที่ฉีกคืนให้เรา) แนบกับพาสปอร์ตเพื่อยื่นที่ด่าน จากนั้นก็ผ่านด่าน ONE WAY TICKET ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ ขึ้นรถรอได้เลย
- 37. ถ้าฝากรถไปตรงด่านฝั่งไทย ก็สามารถลงตรงด่านได้เลยครับ อย่างกานตนาทัวร์ที่ผมฝากรถ เขาจะมีรถรอบริการรับส่งจากด่านไปที่ฝากรถฟรี แต่ที่ฝากรถเจ้าอื่นเขาก็มีบริการนะครับ